สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะ ครอบครัวเราตอนนี้มี 4 คน รวมเราแล้วค่ะ ก่อนที่จะมีเรา แม่เรามีลูกติดคือพี่ชายเราค่ะ แล้วก็มาเจอกับพ่อ ตอนนั้นพี่ชายอายุประมาณ 3 ขวบค่ะ พ่อบอกกับแม่ว่ารับได้ที่แม่มีลูกติด หลังจากนั้น 2-3 ปี ก็มีเราค่ะ เรารักพี่ ไม่ได้คิดแบ่งว่าคนละพ่อเลย แต่ตัวพ่อเราเวลาทะเลาะกันกับแม่ จะชอบพูดขึ้นมาเรื่องลูก ลูกกู แบ่งแบบนี้ตลอด ตอนประถมพ่อเราจะเป็นคนขับรถไปส่งเราที่ร.ร.ตลอด ชอบพูดว่าแม่เราชอบปกป้องลูกตัวเอง แล้วก็ชอบพูดแบ่งลูกใครเป็นลูกใครอีก ด้วยความที่เป็นเด็ก เราก็ไปเล่าให้แม่กับพี่ฟังค่ะ ตอนนั้นพี่เราเรียนมัธยมอยู่ พ่อเราให้พี่เรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านฝั่งธน ซึ่งขึ้นชื่อว่าไม่ค่อยโอเค ทั้งที่สามารถเข้าร.ร.ชายล้วนชื่อดังกลางเมืองได้ แต่ด้วยการเดินทางที่สะดวกเพราะมีรถสองแถวมาจอดที่หน้าบ้านไปส่งร.ร.ได้พ่อจึงให้เรียนที่นี่ ด้วยความที่พ่อแม่เราไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่พี่มาก ทำให้ไม่รู้เลยว่าพี่ไปเรียนจริงไหม พี่เราเจอกลุ่มเพื่อนที่ไม่ดี พากันโดดเรียน กินเหล้า สูบบุหรี่ ไปร้านเกม ช่วงม.2 พี่เราเกิดอุบัติเหตุรถชนเลยดรอปเรียนไป หลังจากนั้นแม่เราก็ส่งให้เรียนกศน.จนจบ ม.3 และไม่ได้เรียนต่อ
มีวันนึงแม่เรานั่งดื่มเหล้า และพี่เราก็ดื่มด้วย พี่เราเวลาเมาจะชอบพูดเยอะ ชอบระบาย พี่เราได้เล่าเรื่องที่แม่ไม่เคยรู้มาก่อน คือ ตอนเรียนมัธยม เพื่อนของพี่เราไปมีเรื่องกับรุ่นพี่ ทำให้พี่เราต้องโดนลูกหลง โดนตามกระทืบไปด้วย พี่เราเลยไม่เข้าโรงเรียน เพราะกลัวจะโดนตามกระทืบ ไม่กล้าบอกพ่อแม่ เพราะกลัวจะมีปัญหา พ่อเราตอนนั้นเป็นประธานเครือข่ายผู้ปกครอง หลังจากนั้นชีวิตพี่เราก็เปลี่ยนไป ไม่ได้เรียนต่อ
ตัดมาที่ชีวิตเรา เราได้เรียนพิเศษตั้งแต่ประถม พ่อรับส่งที่เรียนพิเศษตลอด อาจจะเพราะตอนนั้นที่บ้านเรายังฐานะไม่ดีเท่าไหร่จึงมีส่งเรียนพิเศษแค่เรา แต่เราก็รู้สึกว่าไม่เท่าเทียมอยู่ดี เราสอบเข้าร.ร.มัธยมหญิงล้วนในเมือง พ่อก็ยังรับส่งเราอยู่เพราะที่ทำงานพ่อใกล้ร.ร.เรา ส่งเรียนพิเศษ สถาบันชื่อดังหลายๆที่ หมดค่าเรียนพิเศษไปเป็นแสน แต่พี่เรากลับไม่เคยได้รับอะไรแบบนี้เลย พี่เราชอบคอมแต่พี่เราขี้เกียจพ่อแม่ก็น่าจะส่งไปเรียนเกี่ยวกับคอม เพื่อที่จะต่อยอดทำอาชีพได้ และทุกครั้งที่ทะเลาะกันกับแม่เรื่องพี่ก็จะชอบพูดถึงพ่อพี่หรือไม่ว่าจะพูดอะไร เราก็รู้สึกได้ว่าพ่ออวยเรา และชอบเปรียบเทียบกับพี่ ทีนี้ปัญหามันหนักขึ้นตอนเราเข้ามหาวิทยาลัย เราได้อะไรหลายๆอย่าง ทั้งคอนโด ทั้งรถป้ายแดง แม่เราสร้างบ้านใหม่ ในแปลนบ้านมี 2 ห้องนอน คือ 1 ห้องใหญ่ กับ 1 ห้องเล็ก เราไปเรียนม.ต่างจังหวัด ตอนที่เราไม่อยู่พี่ก็จะนอนห้องเล็ก ในห้องมีแอร์และฟูกนอนพื้น พ่อไม่ให้พี่ล็อกห้องเพราะกลัวพี่ทำอะไรไม่ดี ระหว่างที่เราไม่อยู่ พ่อบอกกับพี่ต่อหน้าแม่ว่าพ่อกลัวพี่ข่มขืนเรา(ซึ่งอันนี้พ่อก็เคยพูดเตือนๆเรา ตอนนั่งรถไปร.ร.ว่า ถ้าพี่ทำอะไรเราพ่อจะยิงทิ้ง) พี่เราเสียใจมาก แอบไปร้องไห้ที่หลังบ้าน ไม่คิดว่าพ่อจะคิดได้ยังไงเรื่องพวกนี้(พี่เราเล่าให้เราฟังวันนี้) หลังจากนั้นเราปิดเทอมพอดี ก็กลับมาที่บ้าน เราก็ไปเรียนขับรถยนต์กับพี่ พี่เราขับเกียร์ธรรมดา เราขับเกียร์ออโต้ ใจจริงพี่เราอยากเรียนเกียร์ออโต้มากกว่าเพราะมันขับง่าย แต่พ่อจะให้พี่ขับกระบะคัน 10 กว่าปีเลยต้องขับเกียร์ธรรมดา พอเรียนเสร็จถึงวันรับรถของเรา พ่อเราเดินไปบอกกับพี่เราต่อหน้าแฟนพี่กับเซลล์ขายรถว่า ไม่ต้องน้อยใจไปนะที่พ่อซื้อรถป้ายแดงให้เรา เดี๋ยวพ่อให้กระบะ หลังจากนั้นแฟนพี่ก็พูดกับพี่ว่าทำไมพ่อต้องพูดแบบนี้ด้วย(เรื่องนี้เราพึ่งรู้วันนี้เพราะพี่เมาละเล่า) เราก็อึ้งมาก หลังจากนั้นเราก็กลับบ้าน เราได้นอนห้องเล็ก ส่วนพี่ก็ย้ายไปนอนห้องโถงซึ่งไม่มีแอร์มีแต่พัดลม พี่กับพ่อทะเลาะกันเรื่องเปิดพัดลมจ่อ จากนั้นก็เข้าประเด็นว่า พี่เราอยากเรียกร้องแอร์หรอ ทั้งๆที่พี่เราไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย ตั้งแต่บ้านอีกหลังแล้ว บ้านอีกหลังพี่เราก็นอนไม่มีแอร์เป็น 10 ปี ไม่เคยเรียกร้อง แต่พ่อก็มาพูดแบบนี้ใส่ เรากลับมาอยู่บ้านได้ไม่นาน แม่ก็ซื้อเซ็ตเตียงให้ ซึ่งตอนนั้นเราคิดถึงความรู้สึกพี่อย่างแรกเลย ว่าพี่จะคิดมากหรือเปล่า ซึ่งก็จริงอย่างที่เราคิด แฟนพี่เห็นสตอรี่เราลงแล้วติดตู้เสื้อผ้าใหม่ เลยถามพี่เราว่าน้องได้เตียงตู้เสื้อผ้าแล้วหรอ ทำไมน้องได้ทุกอย่างเลย ซึ่งพี่เราก็สงสัยเหมือนกัน แต่ไม่ได้อิจฉาเลย แค่น้อยใจตั้งแต่แปลนบ้านมีแค่ 2 ห้องนอนแล้ว พี่นึกว่าพ่อเขียนแปลนซะอีก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นวันเกิดพี่เรา พ่อเรายังตามมาบ่นได้แม่กระทั่งตอนนั่งกินข้าววันเกิด เราสงสารพี่เรามากเลย ทำอะไรก็โดนเปรียบเทียบ โดนด่า โดนจ้องจับผิด แทบไม่เคยชมพี่เราเลย ที่เราได้ยินล่าสุดคือชมว่าพี่หุงข้าวดี แค่นั้น วันนี้ทะเลาะกันหนักมากเพราะพี่เราก็เมาด้วย ส่วนพ่อเราก็กินเหล้าทุกวัน ละก็บ่นทุกวันอยู่แล้ว มันเลยยิ่งแรง เราฟังตอนพี่ระบายเราร้องไห้เลย น่าสงสารมาก ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด พี่ยังจำที่เราเล่าให้ฟังตอนประถมได้อยู่เลย ว่าพ่อแบ่งแยกตั้งแต่เด็กแล้ว เหมือนไม่เคยเป็นครอบครัวเดียวกันเลย พี่เรารักพ่อนะ แต่โดนพ่อพูดและหาเรื่องทุกวันแบบนี้ก็รักไม่ลงแล้ว เราไม่รู้จะจบเรื่องพวกนี้ยังไงดี เมื่อไหร่ครอบครัวจะมีความสุข
พ่อรักเรามากกว่าพี่ชาย เพราะพี่ชายเป็นลูกเลี้ยง
มีวันนึงแม่เรานั่งดื่มเหล้า และพี่เราก็ดื่มด้วย พี่เราเวลาเมาจะชอบพูดเยอะ ชอบระบาย พี่เราได้เล่าเรื่องที่แม่ไม่เคยรู้มาก่อน คือ ตอนเรียนมัธยม เพื่อนของพี่เราไปมีเรื่องกับรุ่นพี่ ทำให้พี่เราต้องโดนลูกหลง โดนตามกระทืบไปด้วย พี่เราเลยไม่เข้าโรงเรียน เพราะกลัวจะโดนตามกระทืบ ไม่กล้าบอกพ่อแม่ เพราะกลัวจะมีปัญหา พ่อเราตอนนั้นเป็นประธานเครือข่ายผู้ปกครอง หลังจากนั้นชีวิตพี่เราก็เปลี่ยนไป ไม่ได้เรียนต่อ
ตัดมาที่ชีวิตเรา เราได้เรียนพิเศษตั้งแต่ประถม พ่อรับส่งที่เรียนพิเศษตลอด อาจจะเพราะตอนนั้นที่บ้านเรายังฐานะไม่ดีเท่าไหร่จึงมีส่งเรียนพิเศษแค่เรา แต่เราก็รู้สึกว่าไม่เท่าเทียมอยู่ดี เราสอบเข้าร.ร.มัธยมหญิงล้วนในเมือง พ่อก็ยังรับส่งเราอยู่เพราะที่ทำงานพ่อใกล้ร.ร.เรา ส่งเรียนพิเศษ สถาบันชื่อดังหลายๆที่ หมดค่าเรียนพิเศษไปเป็นแสน แต่พี่เรากลับไม่เคยได้รับอะไรแบบนี้เลย พี่เราชอบคอมแต่พี่เราขี้เกียจพ่อแม่ก็น่าจะส่งไปเรียนเกี่ยวกับคอม เพื่อที่จะต่อยอดทำอาชีพได้ และทุกครั้งที่ทะเลาะกันกับแม่เรื่องพี่ก็จะชอบพูดถึงพ่อพี่หรือไม่ว่าจะพูดอะไร เราก็รู้สึกได้ว่าพ่ออวยเรา และชอบเปรียบเทียบกับพี่ ทีนี้ปัญหามันหนักขึ้นตอนเราเข้ามหาวิทยาลัย เราได้อะไรหลายๆอย่าง ทั้งคอนโด ทั้งรถป้ายแดง แม่เราสร้างบ้านใหม่ ในแปลนบ้านมี 2 ห้องนอน คือ 1 ห้องใหญ่ กับ 1 ห้องเล็ก เราไปเรียนม.ต่างจังหวัด ตอนที่เราไม่อยู่พี่ก็จะนอนห้องเล็ก ในห้องมีแอร์และฟูกนอนพื้น พ่อไม่ให้พี่ล็อกห้องเพราะกลัวพี่ทำอะไรไม่ดี ระหว่างที่เราไม่อยู่ พ่อบอกกับพี่ต่อหน้าแม่ว่าพ่อกลัวพี่ข่มขืนเรา(ซึ่งอันนี้พ่อก็เคยพูดเตือนๆเรา ตอนนั่งรถไปร.ร.ว่า ถ้าพี่ทำอะไรเราพ่อจะยิงทิ้ง) พี่เราเสียใจมาก แอบไปร้องไห้ที่หลังบ้าน ไม่คิดว่าพ่อจะคิดได้ยังไงเรื่องพวกนี้(พี่เราเล่าให้เราฟังวันนี้) หลังจากนั้นเราปิดเทอมพอดี ก็กลับมาที่บ้าน เราก็ไปเรียนขับรถยนต์กับพี่ พี่เราขับเกียร์ธรรมดา เราขับเกียร์ออโต้ ใจจริงพี่เราอยากเรียนเกียร์ออโต้มากกว่าเพราะมันขับง่าย แต่พ่อจะให้พี่ขับกระบะคัน 10 กว่าปีเลยต้องขับเกียร์ธรรมดา พอเรียนเสร็จถึงวันรับรถของเรา พ่อเราเดินไปบอกกับพี่เราต่อหน้าแฟนพี่กับเซลล์ขายรถว่า ไม่ต้องน้อยใจไปนะที่พ่อซื้อรถป้ายแดงให้เรา เดี๋ยวพ่อให้กระบะ หลังจากนั้นแฟนพี่ก็พูดกับพี่ว่าทำไมพ่อต้องพูดแบบนี้ด้วย(เรื่องนี้เราพึ่งรู้วันนี้เพราะพี่เมาละเล่า) เราก็อึ้งมาก หลังจากนั้นเราก็กลับบ้าน เราได้นอนห้องเล็ก ส่วนพี่ก็ย้ายไปนอนห้องโถงซึ่งไม่มีแอร์มีแต่พัดลม พี่กับพ่อทะเลาะกันเรื่องเปิดพัดลมจ่อ จากนั้นก็เข้าประเด็นว่า พี่เราอยากเรียกร้องแอร์หรอ ทั้งๆที่พี่เราไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย ตั้งแต่บ้านอีกหลังแล้ว บ้านอีกหลังพี่เราก็นอนไม่มีแอร์เป็น 10 ปี ไม่เคยเรียกร้อง แต่พ่อก็มาพูดแบบนี้ใส่ เรากลับมาอยู่บ้านได้ไม่นาน แม่ก็ซื้อเซ็ตเตียงให้ ซึ่งตอนนั้นเราคิดถึงความรู้สึกพี่อย่างแรกเลย ว่าพี่จะคิดมากหรือเปล่า ซึ่งก็จริงอย่างที่เราคิด แฟนพี่เห็นสตอรี่เราลงแล้วติดตู้เสื้อผ้าใหม่ เลยถามพี่เราว่าน้องได้เตียงตู้เสื้อผ้าแล้วหรอ ทำไมน้องได้ทุกอย่างเลย ซึ่งพี่เราก็สงสัยเหมือนกัน แต่ไม่ได้อิจฉาเลย แค่น้อยใจตั้งแต่แปลนบ้านมีแค่ 2 ห้องนอนแล้ว พี่นึกว่าพ่อเขียนแปลนซะอีก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นวันเกิดพี่เรา พ่อเรายังตามมาบ่นได้แม่กระทั่งตอนนั่งกินข้าววันเกิด เราสงสารพี่เรามากเลย ทำอะไรก็โดนเปรียบเทียบ โดนด่า โดนจ้องจับผิด แทบไม่เคยชมพี่เราเลย ที่เราได้ยินล่าสุดคือชมว่าพี่หุงข้าวดี แค่นั้น วันนี้ทะเลาะกันหนักมากเพราะพี่เราก็เมาด้วย ส่วนพ่อเราก็กินเหล้าทุกวัน ละก็บ่นทุกวันอยู่แล้ว มันเลยยิ่งแรง เราฟังตอนพี่ระบายเราร้องไห้เลย น่าสงสารมาก ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด พี่ยังจำที่เราเล่าให้ฟังตอนประถมได้อยู่เลย ว่าพ่อแบ่งแยกตั้งแต่เด็กแล้ว เหมือนไม่เคยเป็นครอบครัวเดียวกันเลย พี่เรารักพ่อนะ แต่โดนพ่อพูดและหาเรื่องทุกวันแบบนี้ก็รักไม่ลงแล้ว เราไม่รู้จะจบเรื่องพวกนี้ยังไงดี เมื่อไหร่ครอบครัวจะมีความสุข