มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร นักแสดงหนุ่มที่อินกับทุกบทบาท



“ในบรรดาตัวละครทั้งหมดถ้าถามว่าผมอยากใช้ชีวิตเป็นใครในชีวิตจริง อาจจะเป็นติณณ์ครับ แต่ผมคงไม่เป็นคนแบบนั้น จะพยายามเคลียร์ปมในใจอย่างที่ติณณ์มี และทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ดีมากขึ้น” มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร ตอบคำถามที่อ้างอิงถึงตัวละครชื่อติณณ์ บทบาทที่ส่งให้เขาโด่งดังจากเรื่องบังเอิญรัก 1-2 (ซีรีส์วายที่เกือบจะไม่ได้ออนแอร์ตั้งแต่ซีซั่นแรก ปี 2561) มีนเป็นนักแสดงที่มีพัฒนาการ เพราะด้วยความสามารถที่เข้าถึงแก่นแท้ของบุคลิกตัวละคร

ภาพยนตร์เรื่อง ‘วอน(เธอ)’ ที่เพิ่งลาโรงไปไม่นาน มีนรับบทเป็นเดี่ยว ตัวละครที่มีคาแร็กเตอร์ห่างไกลจากตัวเขามาก มีนถึงกับลงทุนเปลี่ยนแปลงตัวเอง “ผมแอบไปเพิ่มน้ำหนักมา 7 กก. แล้วบอกคนในกองว่าอย่าบอกผู้จัดการนะ ผมอยากสร้างคาแร็กเตอร์ให้ดูน่ารัก มีแก้ม เพราะในเรื่องเป็นคนที่มีเสน่ห์แบบลึกๆ ผมชอบการไม่ติดกับภาพตัวเอง เราเป็นคาแร็กเตอร์นั้นเลย”

พอปิดกล้องเรื่องวอน(เธอ) มีนก็เปลี่ยนตัวเองอีกครั้ง ด้วยการปั๊มหุ่นให้บึ้กขึ้นเพื่อสวมคาแร็กเตอร์นักฆ่าหน้านิ่งในละครแนวคอเมดี้ ‘เพชฌฆาตจันทร์เจ้า’ ที่กำลังถ่ายทำอยู่ในขณะนี้ แต่ถ้าอยากเห็นว่าเวลาที่ไม่ได้สวมบทบาทเป็นใคร คาแร็กเตอร์มีนจริงๆ เป็นแบบไหนก็ต้องติดตามรายการเรียลิตี้ท่องเที่ยว ‘Thailand, I Miss You!’ ของช่อง 3 ที่เขาเป็นหนึ่งในพิธีกรร่วมสี่คน

อะไรทำให้มีน–พีรวิชญ์มาอยู่ในจุดนี้ได้
ผมว่าแพสชั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมก้าวมาได้ขนาดนี้ งานเบื้องหน้าเป็นสิ่งที่ไม่ได้อยากทำตอนแรกด้วย ผมชอบทำงานเบื้องหลังมากกว่า เป้าหมายเดียวคืออยากรู้ว่าตัวเองจะทำได้ถึงขนาดไหน เป็นคนชอบวัดความสามารถตัวเอง อยากรู้ว่าเราจะได้สักกี่น้ำ จะเก่งสักแค่ไหน เลยพยายามทำมาเรื่อยๆ พอยิ่งศึกษาก็ยิ่งชอบ ยิ่งอยากลอง แล้วในวงการบันเทิงก็มีอะไรหลากหลายให้เราลองด้วย ทุกวันนี้ก็เลยติดใจ

เวลารับงาน เราเลือกที่ตัวเองแฮปปี้ หรือคนดูแฮปปี้
ผมว่าภาพยนตร์หรือสื่อบันเทิงอะไรก็ตาม เรื่องของคุณดูก็สำคัญแหละ เรื่องรายได้ก็สำคัญ แต่ว่าในฐานะนักแสดงเราต้องเอาที่ตัวเราแฮปปี้ก่อน เลือกบทบาทที่เราชอบและอยากเล่น แล้วทำมันออกมาให้ดี สมมติวันนี้พอฉายในโรงมันอาจจะรายได้ไม่ดี แต่เวลาผ่านไปแล้วคนย้อนกลับมาดูใหม่ คำชมอาจจะตามมาก็ได้ แต่ว่าถ้าตัวเราไม่ชอบ ทำออกมาไม่ดี มันก็เป็นแค่ป็อปคัลเจอร์ วินาทีนั้นอาจจะดัง พอเวลาผ่านไปอาจจะเฉยๆ ก็ได้

ระยะหลังมานี้เห็นว่าเล่นบทที่หลากหลายมากขึ้น
การตัดสินใจเลือกรับคาแร็กเตอร์ที่หลากหลายและท้าทายมันมาจากช่วงแรกที่คนจะติดภาพว่าเรามีคาแร็กเตอร์แบบวัยรุ่นใสๆ หรือไม่ก็คุณชายมาดนิ่ง ซึ่งความจริงตัวเราไม่ได้เป็นคนแบบนั้น เรายังมีมุมมองอื่น แล้วเราก็ไม่อยากเล่นคาแร็กเตอร์นั้นไปตลอด ผมเลยตัดสินใจว่า โอเคงั้นผมจะรับคาแร็กเตอร์อื่นที่มันหลากหลายด้วย เพราะผมจะทำให้คุณดูว่าผมเป็นได้หลายอย่างนะ

มีบทอีกเยอะครับที่อยากลอง อย่างบทคนโรคจิตที่มีหลายคาแร็กเตอร์ มีมุมซับซ้อนมากๆ ดราม่าจัดๆ เล่นยากๆ น่าจะเป็นอะไรที่ท้าทายตัวเราด้วย ส่วนอันนี้ตลกเลย (ยิ้ม) อยากเล่นบทพ่อ เป็นไอเดียช่วงโควิดตอนนั่งดูละครกับหนังไทยสมัยก่อน รู้สึกว่าคนที่เคยเป็นพระเอกยุคเราเด็กๆ กลายเป็นพ่อไปหมดแล้ว ถ้าได้เล่นบทพ่อแสดงว่าเราต้องผ่านประสบการณ์จนเจนสนามมาพอสมควร คือต้องอยู่ได้นานและมีชื่อเสียงเลยนะถึงจะได้เล่นบทนี้ได้

จากที่เคยเล่นซีรีส์วายแล้วมาเล่นบทชายรักหญิง มีความแตกต่างกันไหม
จริงๆ แทบไม่ต่างกันเลย อาจจะต่างในดีเทลลึกๆ แต่ภาพรวมแล้วไม่ต่าง ผมรู้สึกว่าซีรีส์วายก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง คาแร็กเตอร์ที่ผมเล่นในซีรีส์วายก็เป็นอีกคาแร็กเตอร์หนึ่ง ส่วนใหญ่เรื่องที่ผมเล่นมาจากนิยายหรือบทประพันธ์ การที่ผมเอามาเล่นก็ต้องเคารพในบทประพันธ์ด้วย ส่วนคนดูก็จะมีบรรทัดฐานค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการอะไร อยากเห็นอะไร

ส่วนภาพยนตร์หรือซีรีส์หลายเรื่องที่ผมรับเล่นในปัจจุบันจะค่อนข้างท้าทาย ไม่รู้เลยว่าทำออกไปแล้วคนดูจะชอบหรือไม่ชอบ มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวเท่าซีรีส์วาย แต่ซีรีส์วายก็ไม่ได้มีสูตรสำเร็จเต็มร้อยนะ บางเรื่องเราชอบเพราะสนุกมาก แต่พอทำออกมาแล้วไม่ตรงใจคนดูก็มี

ผมรู้สึกว่าบางคนอาจจะติดภาพว่าเรามีชื่อเสียงมาจากซีรีส์วาย และคิดว่าตอนนี้เราไม่รับซีรีส์วายแล้ว คิดกันไปว่าเราอยากจะล้างภาพ ซึ่งอันนี้ผมต้องปฏิเสธ คิดง่ายๆ เลยนะว่าเราก็เล่นไปแล้ว และมันอยู่ในแพลตฟอร์มที่สามารถย้อนกลับมาดูได้ตลอด ฉะนั้นไม่มีทางล้างภาพพวกนี้ได้อยู่แล้ว และผมก็ไม่เคยคิดว่าอยากจะล้างภาพพวกนี้ด้วย เพราะมันเป็นผลงานที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ
 
ซีรีส์วายจะมาแย่งซีนละครทั่วไปได้ไหม
ผมรู้สึกว่าการเป็นซีรีส์วายสุดท้ายแล้วก็ยัง stereotype ความเป็นชายหญิงอยู่ดี ถ้าเราดูดีๆ ซีรีส์วายหลายเรื่อง ตัวละครที่เป็นพระเอกก็ยังแทนภาพความเป็นผู้ชายเท่ แมนๆ เจ้าชู้ มีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อน ส่วนอีกคาแร็กเตอร์หนึ่งที่เป็นนางเอกก็จะงุ้งงิ้ง น่ารัก มีแก้ม ซึ่งสุดท้ายก็หลุดไม่พ้นกรอบของความเป็นชายหญิงอยู่ดี

บางครั้งด้วยภาพของคนดูที่อยากดูแบบนี้ก็ทำให้หลุดออกจากจินตนาการไม่ได้ พอเนื้อหามันจริงเกินหรือซีเรียสเกิน คนดูก็อาจจะไม่ค่อยชอบ ผมรู้สึกว่าการที่จะพัฒนาซีรีส์วายให้ดีขึ้นหรือว่ามีคุณค่ากับคนดูมากขึ้น คงต้องพัฒนาตรงนี้ให้มันไปแตะกับความเป็น LGBTQ หรือกลุ่มของความหลากหลายทางเพศมากขึ้น มีเรื่องจริงเข้ามาผสมมากขึ้น

พอใจกับหลักไมล์ของตัวเองแค่ไหน
สมัยที่ผมยังไม่เป็นที่รู้จัก ผมถามคนที่ดังแล้วทั้งรุ่นพี่ทั้งเพื่อนว่าต้องทำยังไงถ้าวันหนึ่งผมดังขึ้นมา เขาบอกว่าให้เป็นตัวของตัวเอง คือถ้าเราเป็นตัวของตัวเองทั้งหน้าฉากและหลังฉาก เราก็จะสบายใจ แต่ปัญหาคือเราเป็นคน introvert ซึ่งทุกวันนี้ก็พัฒนามาไกลจนจะกลายเป็น ambivert ไปแล้ว (ยิ้ม) แต่มันก็เป็นตัวเรานะ

จุดที่ยืนอยู่ตอนนี้ผมโอเคแล้ว แต่การรักษามาตรฐานทั้งในฐานะของการเป็นนักแสดงที่ดี เอนเตอร์เทนเนอร์ที่ดีกับแฟนคลับ เพื่อนร่วมงานที่ดีกับทีมงาน และจะพัฒนาตัวเองได้มากแค่ไหน อันนั้นน่ะเรื่องยาก การประคองไม่ให้ตกฮวบหายไป หรือกลายเป็นอะไรไม่รู้ หรือหลงไปกับมัน เป็นเรื่องที่ต้องพยายามต่อไป

ผมว่าตอนที่มีความสุขคือวินาทีที่ผมสามารถจัดการกับทุกอย่างได้ พอใจกับงานตรงนี้ งานพอใจเรา ครอบครัวพอใจกับเรา แล้วก็มีเวลาพักผ่อนด้วย มันคือความสุขที่สามารถแมเนจทุกอย่างให้ทุกคนโอเค ส่วนตัวรู้สึกว่าเราก็อยากเป็นคนที่ทุกคนรู้จักผ่านบทบาทหรือคาแร็กเตอร์ที่เป็นมาสเตอร์พีซ แล้วเราก็อยากอยู่ไปนานๆ ได้เล่นบทโน้นบทนี้ อย่างที่บอกว่าอยากเล่นบทพ่อ ฉะนั้นต้องอยู่กันยาวๆ ไปเนอะ”

ที่มา : https://lofficielthailand.com/2021/01/mean-phiravich-cool-guy-jan-21/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่