รัสเซีย จะจัดตั้ง ศูนย์ส่งกำลังบำรุงทางเรือ และหน่วยซ่อมบำรุงในฐานทัพใหม่ เอริเทรีย ซูดาน ภายใต้ข้อตกลงใหม่ ที่ลงนามโดย นายกรัฐมนตรี มิคาอิล มิชูสติน เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายฯ ซึ่งเพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณะ
ตามรายละเอียดของข้อตกลง ศูนย์โลจิสติกส์ทางเรือ จะรองรับความจุ ได้ประมาณ 300 คน
ฐานทัพนี้ สามารถรองรับเรือเดินสมุทรได้ถึง 4 ลำ รวมถึงเรือที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์
รัฐบาลซูดาน จะจัดหาโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือที่จำเป็น และที่ดิน ให้รัสเซีย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
รัสเซีย จะได้รับอนุญาตให้ถ่ายโอน ยุทโธปกรณ์ หรืออุปกรณ์ทางทหาร ผ่านท่าเรือซูดานที่จำเป็น สำหรับข้อตกลงดังกล่าวว่าไว้
ศูนย์ดังกล่าว จะทำงานภายใต้เขตอำนาจศาลของรัสเซีย และข้อตกลงจะมีอายุ 25 ปี โดยสามารถต่ออายุได้อีก 10 ปี
ศูนย์โลจิสติกส์ทางเรือในซูดาน จะเป็นฐานทัพแห่งแรกของรัสเซียในแอฟริกา นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต
ในช่วงขณะที่ รัสเซีย มีฐานทัพเรือถาวรในโซมาเลีย
ที่ผ่านมา รัสเซียเริ่มมองหาลู่ทาง สร้างฐานทัพถาวรในจิบูตี (อยู่ห่างจาก เอริเทรีย 480 กม.) ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือของจีน และอเมริกาอยู่แล้ว
แต่การเจรจาล้มเหลว แหล่งข่าวกลาโหม ที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ บอกกับสำนักข่าวกลาโหม
ไม่มีตัวเลขงบประมาณ ที่รัสเซียจะลงทุนไปเพื่อฐานทัพแห่งใหม่
แต่รัสเซีย วางแผนใช้จ่ายถึง 3.2 พันล้านรูเบิล หรือ 41.5 ล้านเหรียญต่อปี เพื่อพัฒนาฐานทัพในเมืองทาร์ทัส ซีเรีย เพื่อเปรียบเทียบ
ศูนย์โลจิสติกส์ทางเรือ ยุคโซเวียตในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถูกเปลี่ยนเป็นฐานทัพถาวร ไม่นานหลังจากรัสเซียเข้าแทรกแซงสงครามกลางเมืองในซีเรีย
การเปิดศูนย์ซูดาน แสดงให้เห็นว่า รัสเซียกำลังกลับสู่มหาสมุทรของโลก คอลัมนิสต์การป้องกันประเทศ เขียนในคอลัมน์ของสำนักข่าว Tass รัสเซีย
เรือลาดตระเวนพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย สามารถใช้ศูนย์นี้ เป็นที่พักผ่อนของลูกเรือได้ เขากล่าว
"ลูกเรือของกองเรือทางตอนเหนือ และทะเลบอลติก จะไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เพื่อที่จะใช้เวลาตรากตรำหลายเดือนในมหาสมุทรอินเดีย" เขาเขียน
การพูดคุยเพื่อเปิดศูนย์โลจิสติกส์ในซูดาน เร่งเร็วขึ้น หลังจากประธานาธิบดีของซูดาน เยือนรัสเซียในปี 2017
แม้จะมีการรัฐประหาร ในปี 2019 ที่ปลดประธานาธิบดีออกจากอำนาจ แต่การเจรจายังคงดำเนินต่อไป นำโดยผู้นำประเทศคนใหม่โดยพฤตินัย
ในปี 2019 เครมลินเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดรัสเซีย - แอฟริกาที่มีผู้นำแอฟริกามากกว่า 40 คนเข้าร่วม
"ประธานาธิบดีมีความสนใจอย่างมากในประเด็นของแอฟริกา" สมาชิกรัฐสภาอาวุโสของรัสเซีย ที่เกี่ยวข้องกับกิจการแอฟริกากล่าวกับสำนักข่าว
https://www.defensenews.com/global/mideast-africa/2020/11/13/sudan-to-host-russian-military-base/#:~:text=The%20naval%20logistics%20center%20in,
ซูดาน ต้อนรับ ฐานทัพรัสเซีย สมาชิกใหม่ล่าสุด
ตามรายละเอียดของข้อตกลง ศูนย์โลจิสติกส์ทางเรือ จะรองรับความจุ ได้ประมาณ 300 คน
ฐานทัพนี้ สามารถรองรับเรือเดินสมุทรได้ถึง 4 ลำ รวมถึงเรือที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์
รัฐบาลซูดาน จะจัดหาโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือที่จำเป็น และที่ดิน ให้รัสเซีย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
รัสเซีย จะได้รับอนุญาตให้ถ่ายโอน ยุทโธปกรณ์ หรืออุปกรณ์ทางทหาร ผ่านท่าเรือซูดานที่จำเป็น สำหรับข้อตกลงดังกล่าวว่าไว้
ศูนย์ดังกล่าว จะทำงานภายใต้เขตอำนาจศาลของรัสเซีย และข้อตกลงจะมีอายุ 25 ปี โดยสามารถต่ออายุได้อีก 10 ปี
ศูนย์โลจิสติกส์ทางเรือในซูดาน จะเป็นฐานทัพแห่งแรกของรัสเซียในแอฟริกา นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต
ในช่วงขณะที่ รัสเซีย มีฐานทัพเรือถาวรในโซมาเลีย
ที่ผ่านมา รัสเซียเริ่มมองหาลู่ทาง สร้างฐานทัพถาวรในจิบูตี (อยู่ห่างจาก เอริเทรีย 480 กม.) ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือของจีน และอเมริกาอยู่แล้ว
แต่การเจรจาล้มเหลว แหล่งข่าวกลาโหม ที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ บอกกับสำนักข่าวกลาโหม
ไม่มีตัวเลขงบประมาณ ที่รัสเซียจะลงทุนไปเพื่อฐานทัพแห่งใหม่
แต่รัสเซีย วางแผนใช้จ่ายถึง 3.2 พันล้านรูเบิล หรือ 41.5 ล้านเหรียญต่อปี เพื่อพัฒนาฐานทัพในเมืองทาร์ทัส ซีเรีย เพื่อเปรียบเทียบ
ศูนย์โลจิสติกส์ทางเรือ ยุคโซเวียตในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถูกเปลี่ยนเป็นฐานทัพถาวร ไม่นานหลังจากรัสเซียเข้าแทรกแซงสงครามกลางเมืองในซีเรีย
การเปิดศูนย์ซูดาน แสดงให้เห็นว่า รัสเซียกำลังกลับสู่มหาสมุทรของโลก คอลัมนิสต์การป้องกันประเทศ เขียนในคอลัมน์ของสำนักข่าว Tass รัสเซีย
เรือลาดตระเวนพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย สามารถใช้ศูนย์นี้ เป็นที่พักผ่อนของลูกเรือได้ เขากล่าว
"ลูกเรือของกองเรือทางตอนเหนือ และทะเลบอลติก จะไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เพื่อที่จะใช้เวลาตรากตรำหลายเดือนในมหาสมุทรอินเดีย" เขาเขียน
การพูดคุยเพื่อเปิดศูนย์โลจิสติกส์ในซูดาน เร่งเร็วขึ้น หลังจากประธานาธิบดีของซูดาน เยือนรัสเซียในปี 2017
แม้จะมีการรัฐประหาร ในปี 2019 ที่ปลดประธานาธิบดีออกจากอำนาจ แต่การเจรจายังคงดำเนินต่อไป นำโดยผู้นำประเทศคนใหม่โดยพฤตินัย
ในปี 2019 เครมลินเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดรัสเซีย - แอฟริกาที่มีผู้นำแอฟริกามากกว่า 40 คนเข้าร่วม
"ประธานาธิบดีมีความสนใจอย่างมากในประเด็นของแอฟริกา" สมาชิกรัฐสภาอาวุโสของรัสเซีย ที่เกี่ยวข้องกับกิจการแอฟริกากล่าวกับสำนักข่าว
https://www.defensenews.com/global/mideast-africa/2020/11/13/sudan-to-host-russian-military-base/#:~:text=The%20naval%20logistics%20center%20in,