คือผมเคยกู้ยืม LINE BK 30,000 บาทเพื่อหมุนเวียนใช้จ่ายในช่วง Covid ระลอกแรกๆ และคำนวนแล้วตั้งเป้าว่าจะฟื้นตัวภายใน 1 - 2 ปี
ต่อมาเศรษฐกิจเริ่มฟื้น ผมเลยกู้ Dolfin และ Xpress loan มาอีกอย่างละ 30,000 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและหมุนเวียนในชีวิตประจำวันต่อไป จนมาถึงระลอกที่ 3 ในปัจจุบันทำให้ทุกอย่างพังครืน ผมเริ่มขาดสภาพคล่อง และยอดขายในธุรกิจผมเริ่มแย่ลง จากวันละ 4 - 5,000 ในช่วงแรกๆ และ 2 - 3,000 ในช่วงระลอกที่สอง ปัจจุบันเหลือแค่พันต้นๆเท่านั้น บางวันไม่ถึงพันก็มี ผมเริ่มขาดสภาพคล่อง วงเงินในสินเชื่อทั้ง BK และ Dolfin เริ่มเต็มและขาดส่ง ส่วน Xpress loan เริ่มส่งช้า และผมก็ไม่อยากประวัติเสีย ผมเลยหากู้ระยะยาว 200,000 บาท ผ่อนยาวๆ 5 - 8 ปีเพื่อมาโปะบัตรและใช้จ่ายประจำวัน ยืดเวลาและรักษาประวัติ แต่ไม่มีแบงค์ไหนตอบโจทย์เลย ผมเลยทู่ซี้จ่ายไปเรื่อยๆ เป็นรายวันเลย ขนาดที่ว่าวันละหลักสิบหลักร้อยผมก็ยังหยอดไป ทั้งที่รวมๆแล้วก็ยังไม่ถึงยอดขั้นต่ำต่อเดือนอยู่ดี แต่ผมก็ทำเพื่ออย่างน้อยๆถ้าแบงค์โทรมาทวง ก็จะได้บอกว่าผมก็ยังจ่ายนะ ไม่ได้หนีไปไหน ผมมีผมก็จ่าย ย้อนประวัติดูได้เลย ต่อมาทาง Dolfin มีมาตรกาารพักชำระหนี้ เลยค่อยมีที่ให้หายใจได้บ้าง
แต่ปัญหาก็ยังไม่จบ เพราะ Dolfin กับ Xpress loan แบงค์เป็นผู้ให้บริการ แต่ LINE BK ใช้บริษัทลูกบริหาร ทั้งที่ให้บริการโดยแบงค์เดียวกัน และบริษัทลูกก็ใช้บริษัททวงหนี้โดยเฉพาะมาดูแลจัดการหนี้ อารมณ์ประมาณ AEON เลยครับ ส่งช้าส่งไม่ครบก็โทรมาทวง กดดันให้จ่าย คือคนละเรื่องกับอีก 2 อันที่เหลือเลย และก็ยังบอกอีกว่าถ้ายังจ่ายช้าหรือจ่ายไม่ครบอยู่อย่างงี้จะปิดระบบของผมไม่ให้จ่ายผ่านแอพ LINE ได้อีก แล้วต้องใช้วิธีโอนและส่งสลิปเพื่อตัดยอดหนี้ ซึ่งมันยุงยากและลำบากกว่า ทั้งที่ผมก็กดจ่ายผ่าน LINE อยู่ดีๆ ไม่ได้หนีหายไปไหน ทำไมต้องมาปิดระบบผมด้วย ผมเลยบอกไปว่า ถ้าปิดระบบผม ผมไม่จ่ายนะ เพราะถือว่าไม่ได้รับความสะดวก ผมจ่ายของผมดีๆ ต่อให้จ่ายไม่ครบ จ่ายช้า แต่ก็ถือว่าผมจ่าย แล้วมาปิดระบบของผมเอง ถ้าถึงจุดนั้นแล้วก็ไปคุยกันในชั้นศาลก็แล้วกัน
สรุปคือตอนนี้
- ยอดคงค้างรวมดอกเบี้ยอยู่ที่ 90,000 - 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับจังหวะที่ผมมีจ่าย และขัดสนจนต้องกดมาใช้ใหม่อีก)
- สถานะตอนนี้ Xpress loan จ่ายปกติแม้มีล่าช้าบ้าง, Dolfin อยู่ในสถานะพักหนี้ แต่ยังสามารถเบิกถอนและจ่ายหนี้ได้ปกติ, LINE BK เริ่มติดขัดและค่างชำระเป็นบางงวด สถานะปัจจุบันไม่สามารถเปิกถอนได้ แต่ยังสามารถชำระผ่าน LINE ได้ตามปกติ (ซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานไหม)
-รายรับจ่ายหมุนเวียนวันต่อวัน ไม่สามารถเก็บออมได้เพราะจะไม่พอใช้ (ถ้ามีเศษเหลือก็หยอดเข้า BK หมด เพื่อยื้อประวัติให้ดีที่สุด ให้เห็นว่าผมพยายามจ่ายมากแค่ไหน)
-ยอดหมุนเวียนต่อเดือนประมาณ 25,000 - 30,000 บาท
แล้วถ้าถึงจุดนั้นแล้วจริงๆ ผมควรจะทำยังไงให้ประวัติเสียน้อยที่สุดครับ หรือพลิกเกมต่อรองให้แปลงเป็นวงเงินผ่อนยาวที่ผมกำลังต้องการได้ยิ่งดี จากที่ปกติไม่มีแบงค์ที่ไหนให้ได้ ก็ให้ศาลสั่งซะเลย คิดว่าทางออกนี้เป็นไปได้ไหมครับ เพราะผมเองต้องการโปะหนี้ แต่ก็ยังต้องการเงินใช้เพิ่มอีกก้อนเพื่อต่อลมหายใจ และทั้ง 3 สินเชื่อก็อยู่ในเครือของแบงค์เดียวกันทั้งหมด เพราะเชื่อว่าปีหน้า COVID ก็คงซาแล้ว วัคซีนก็แจกจ่ายได้ทั่วถึง ถึงวันนั้นเศรษฐกิจก็น่าจะเหมือนเดิมแล้ว เวลานั้นผมมีเงินจ่ายหนี้แน่นอน เผลอๆอาจชำระหมดเร็วกว่าที่ผมเสนอเอาไว้ จาก 5 - 8 ปี ก็อาจเหลือ 4 - 5 ปีก็เป็นได้ แต่ถ้าไม่ได้ก้อนนี้ช่วย อาจตายก่อนที่การเงินผมจะฟื้น หนี้ตายไม่พอ ประวัติเสียอีก จะกู้อะไรเพิ่มก็ไม่ได้แล้วเพราะหนี้ผมเสียไปแล้ว ผมควรจะแก้ไขต่อรองยังไงดีครับ เอาตั้งแต่ยื้อไม่ให้ต้นทาง (บริษัทบริหารหนี้ที่จ้างมาทวงให้ LINE BK) ปิดระบบในแอพ LINE จนไปถึงถ้าทาง BK ไม่ยอมและปิดระบบผมไปแล้ว ผมต้องทำยังไงต่อ เพราะผมไม่สะดวกจ่ายนอกแอพ ผมจะรอจนฟ้องได้ไหม แล้วค่อยไปคุยกันตรงนั้น แต่ดีที่สุดคือผมไม่อยากประวัติเสียครับ ถ้าจะเสียก็ขอให้เสียน้อยที่สุด (คือได้สถานะ 10, 12 เลขอื่นไม่เอา)
ถ้าผ่อนหนี้ไม่ไหว ควรหยุดจ่ายไปเลยหรือทู่ซี้จ่ายต่อไปดีครับ
ต่อมาเศรษฐกิจเริ่มฟื้น ผมเลยกู้ Dolfin และ Xpress loan มาอีกอย่างละ 30,000 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและหมุนเวียนในชีวิตประจำวันต่อไป จนมาถึงระลอกที่ 3 ในปัจจุบันทำให้ทุกอย่างพังครืน ผมเริ่มขาดสภาพคล่อง และยอดขายในธุรกิจผมเริ่มแย่ลง จากวันละ 4 - 5,000 ในช่วงแรกๆ และ 2 - 3,000 ในช่วงระลอกที่สอง ปัจจุบันเหลือแค่พันต้นๆเท่านั้น บางวันไม่ถึงพันก็มี ผมเริ่มขาดสภาพคล่อง วงเงินในสินเชื่อทั้ง BK และ Dolfin เริ่มเต็มและขาดส่ง ส่วน Xpress loan เริ่มส่งช้า และผมก็ไม่อยากประวัติเสีย ผมเลยหากู้ระยะยาว 200,000 บาท ผ่อนยาวๆ 5 - 8 ปีเพื่อมาโปะบัตรและใช้จ่ายประจำวัน ยืดเวลาและรักษาประวัติ แต่ไม่มีแบงค์ไหนตอบโจทย์เลย ผมเลยทู่ซี้จ่ายไปเรื่อยๆ เป็นรายวันเลย ขนาดที่ว่าวันละหลักสิบหลักร้อยผมก็ยังหยอดไป ทั้งที่รวมๆแล้วก็ยังไม่ถึงยอดขั้นต่ำต่อเดือนอยู่ดี แต่ผมก็ทำเพื่ออย่างน้อยๆถ้าแบงค์โทรมาทวง ก็จะได้บอกว่าผมก็ยังจ่ายนะ ไม่ได้หนีไปไหน ผมมีผมก็จ่าย ย้อนประวัติดูได้เลย ต่อมาทาง Dolfin มีมาตรกาารพักชำระหนี้ เลยค่อยมีที่ให้หายใจได้บ้าง
แต่ปัญหาก็ยังไม่จบ เพราะ Dolfin กับ Xpress loan แบงค์เป็นผู้ให้บริการ แต่ LINE BK ใช้บริษัทลูกบริหาร ทั้งที่ให้บริการโดยแบงค์เดียวกัน และบริษัทลูกก็ใช้บริษัททวงหนี้โดยเฉพาะมาดูแลจัดการหนี้ อารมณ์ประมาณ AEON เลยครับ ส่งช้าส่งไม่ครบก็โทรมาทวง กดดันให้จ่าย คือคนละเรื่องกับอีก 2 อันที่เหลือเลย และก็ยังบอกอีกว่าถ้ายังจ่ายช้าหรือจ่ายไม่ครบอยู่อย่างงี้จะปิดระบบของผมไม่ให้จ่ายผ่านแอพ LINE ได้อีก แล้วต้องใช้วิธีโอนและส่งสลิปเพื่อตัดยอดหนี้ ซึ่งมันยุงยากและลำบากกว่า ทั้งที่ผมก็กดจ่ายผ่าน LINE อยู่ดีๆ ไม่ได้หนีหายไปไหน ทำไมต้องมาปิดระบบผมด้วย ผมเลยบอกไปว่า ถ้าปิดระบบผม ผมไม่จ่ายนะ เพราะถือว่าไม่ได้รับความสะดวก ผมจ่ายของผมดีๆ ต่อให้จ่ายไม่ครบ จ่ายช้า แต่ก็ถือว่าผมจ่าย แล้วมาปิดระบบของผมเอง ถ้าถึงจุดนั้นแล้วก็ไปคุยกันในชั้นศาลก็แล้วกัน
สรุปคือตอนนี้
- ยอดคงค้างรวมดอกเบี้ยอยู่ที่ 90,000 - 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับจังหวะที่ผมมีจ่าย และขัดสนจนต้องกดมาใช้ใหม่อีก)
- สถานะตอนนี้ Xpress loan จ่ายปกติแม้มีล่าช้าบ้าง, Dolfin อยู่ในสถานะพักหนี้ แต่ยังสามารถเบิกถอนและจ่ายหนี้ได้ปกติ, LINE BK เริ่มติดขัดและค่างชำระเป็นบางงวด สถานะปัจจุบันไม่สามารถเปิกถอนได้ แต่ยังสามารถชำระผ่าน LINE ได้ตามปกติ (ซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานไหม)
-รายรับจ่ายหมุนเวียนวันต่อวัน ไม่สามารถเก็บออมได้เพราะจะไม่พอใช้ (ถ้ามีเศษเหลือก็หยอดเข้า BK หมด เพื่อยื้อประวัติให้ดีที่สุด ให้เห็นว่าผมพยายามจ่ายมากแค่ไหน)
-ยอดหมุนเวียนต่อเดือนประมาณ 25,000 - 30,000 บาท
แล้วถ้าถึงจุดนั้นแล้วจริงๆ ผมควรจะทำยังไงให้ประวัติเสียน้อยที่สุดครับ หรือพลิกเกมต่อรองให้แปลงเป็นวงเงินผ่อนยาวที่ผมกำลังต้องการได้ยิ่งดี จากที่ปกติไม่มีแบงค์ที่ไหนให้ได้ ก็ให้ศาลสั่งซะเลย คิดว่าทางออกนี้เป็นไปได้ไหมครับ เพราะผมเองต้องการโปะหนี้ แต่ก็ยังต้องการเงินใช้เพิ่มอีกก้อนเพื่อต่อลมหายใจ และทั้ง 3 สินเชื่อก็อยู่ในเครือของแบงค์เดียวกันทั้งหมด เพราะเชื่อว่าปีหน้า COVID ก็คงซาแล้ว วัคซีนก็แจกจ่ายได้ทั่วถึง ถึงวันนั้นเศรษฐกิจก็น่าจะเหมือนเดิมแล้ว เวลานั้นผมมีเงินจ่ายหนี้แน่นอน เผลอๆอาจชำระหมดเร็วกว่าที่ผมเสนอเอาไว้ จาก 5 - 8 ปี ก็อาจเหลือ 4 - 5 ปีก็เป็นได้ แต่ถ้าไม่ได้ก้อนนี้ช่วย อาจตายก่อนที่การเงินผมจะฟื้น หนี้ตายไม่พอ ประวัติเสียอีก จะกู้อะไรเพิ่มก็ไม่ได้แล้วเพราะหนี้ผมเสียไปแล้ว ผมควรจะแก้ไขต่อรองยังไงดีครับ เอาตั้งแต่ยื้อไม่ให้ต้นทาง (บริษัทบริหารหนี้ที่จ้างมาทวงให้ LINE BK) ปิดระบบในแอพ LINE จนไปถึงถ้าทาง BK ไม่ยอมและปิดระบบผมไปแล้ว ผมต้องทำยังไงต่อ เพราะผมไม่สะดวกจ่ายนอกแอพ ผมจะรอจนฟ้องได้ไหม แล้วค่อยไปคุยกันตรงนั้น แต่ดีที่สุดคือผมไม่อยากประวัติเสียครับ ถ้าจะเสียก็ขอให้เสียน้อยที่สุด (คือได้สถานะ 10, 12 เลขอื่นไม่เอา)