คนเราทุกคนเกิดมาจากหลากหลายครอบครัว
การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม และการปลูกฝังด้านวัฒนธรรมต่างๆที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ซึ่งจะมีทั้งสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ
เป็นเรื่องปกติที่พบเห็นทั่วไปในสังคม
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีเท่าเทียมกัน ก็คือเกียรติและคุณค่าในตัวเองในสังคม...คือการที่เราให้เกียรติใครสักคน ก็เหมือนกับเป็นการให้เกียรติตัวเองในความคิด คำพูด ความรู้สึกต่างๆ....คือการแสดงออกอย่างจริงใจ
ผมเองเมื่อก่อนหน้านี้เป็นคนนึงที่จะยอมนิ่งเฉย ยืดหยุ่น กับการได้ยินความคิดเห็นต่างๆที่อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ออกในลักษณะเชิงเหยียดหยาม เสียดสี ดูถูกกัน แต่ก็ทนนิ่งเฉยๆ ไม่แสดงออกทางความคิดเห็นใดๆ จนหลายคนมองว่า ดูอ่อนไหว ยอมคน ฯลฯ
จริงๆก็เพียงต้องการแค่อยากจะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีๆร่วมกันไว้จนมองผ่าน ผมเคยมีเพื่อนสนิทคนนึงที่รู้จักกันมาหลายปี ที่เติบโตมาด้วยกัน กินด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ช่วงนึงเพื่อนคนนี้มีปัญหาที่บ้าน ก็ยังรักเพื่อนยังพาเพื่อนมาอยู่ด้วยที่บ้านในช่วงนึงจนเติบโตสู่วัยทำงานและมีครอบครัว แยกย้ายกันไป
ซึ่งในวันนึงมีโอกาสได้มาพบกัน และทุกครั้งที่พบเพื่อนคนนี้ก็จะแสดงออกทางการพูดจา ในเชิงพูดจาข่ม และพูดในเชิงเหนือกว่าตลอดเวลา ไม่ว่าจะเรื่องบ้าน ทรัพย์สิน ครอบครัว (ด้วยความจริงใจ เมื่อเห็นเพื่อนได้ดี เราก็ยินดีด้วย ไม่เคยมีความคิดริษยาใดๆ)
ด้วยความคิดต่างๆที่ต้องถือในความคิดเห็นของตนเองเพียงคนเดียวเป็นใหญ่ ที่เหนือกว่าเพื่อนๆทุกคนเท่านั้น แต่เนื่องจากความที่เป็นเพื่อนสนิทกันมานานหลายปี ทุกๆคนจึงพยายามปล่อยผ่าน ไม่สนใจ....
จนเมื่อผ่านประสบการณ์ต่างๆ มาหลายปี มุมมองความคิดในเรื่องนี้จึงเปลี่ยนไป ผมเริ่มไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง กับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่พวกเราต่างเผชิญกันมา
ในความเป็นกัลยาณมิตรหรือเพื่อนสนิท ทำไมเราถึงต้องยอมปล่อยผ่านให้เพื่อนที่เราคิดว่าสนิทคนนึง (ซึ่งไม่รู้ว่าจะมองเราแบบนั้นหรือไม่) ต้องคอยมาพูดจาข่ม ให้ตัวเองเหนือกว่าตลอดเวลา... ผมจึงคิดว่า ถ้าเรายังคงเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ เราน่าจะพูดในเรื่องดังกล่าวได้ จึงได้เอ่ยไปตามตรงว่า ทุกคนมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง ไม่มีใครสามารถพูดจาข่ม หรือครอบความคิดใครได้ ถ้าคนนั้นไม่ยินดีและเชื่อตามความคิดนั้น
.....เมื่อเพื่อนคนนั้นได้ฟัง...ก็ยอมรับความจริงไม่ได้ ยังคงคิดว่าความคิดเห็นของตนเองเป็นความคิดที่ถูกต้องเสมอ...และด่าว่าเพื่อนที่แสดงความคิดเห็นตรงๆในความไม่เหมาะสมจากพฤติกรรมต่างๆของเค้าที่เราพบกันมา ในเชิงหยาบคาย ด้วยความที่ยอมรับฟังความจริงไม่ได้ จริงๆในช่วงเด็กๆผมก็เคยรู้สึกรักเพื่อนคนนี้มากเหมือนกัน แต่พอผ่านสถานการณ์แบบนี้มาหลายๆครั้ง มันทำให้รู้สึกว่า ความจริงใจต่างๆที่เราเคยมีให้ ไม่ได้มีความหมายใดๆตลอดหลายปีที่ผ่านมาเลย กลับกลายเป็นการยกตน ข่มคนอื่น ทั้งๆที่บอกตัวเองว่าเราคือเพื่อนสนิทกัน
......ทุกคนที่พบกรณีแบบนี้มีความคิดเห็นกันอย่างไรครับ มีแนวทางการจัดการอย่างไร
เราเกิดมาจากหลากหลายครอบครัว การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม ฯลฯแตกต่างกัน ถ้าเราเจอเพื่อนที่พูดจาข่ม ให้ดูเหนือกว่าคนอื่นตลอด
การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม และการปลูกฝังด้านวัฒนธรรมต่างๆที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจจะมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ซึ่งจะมีทั้งสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ
เป็นเรื่องปกติที่พบเห็นทั่วไปในสังคม
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีเท่าเทียมกัน ก็คือเกียรติและคุณค่าในตัวเองในสังคม...คือการที่เราให้เกียรติใครสักคน ก็เหมือนกับเป็นการให้เกียรติตัวเองในความคิด คำพูด ความรู้สึกต่างๆ....คือการแสดงออกอย่างจริงใจ
ผมเองเมื่อก่อนหน้านี้เป็นคนนึงที่จะยอมนิ่งเฉย ยืดหยุ่น กับการได้ยินความคิดเห็นต่างๆที่อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ออกในลักษณะเชิงเหยียดหยาม เสียดสี ดูถูกกัน แต่ก็ทนนิ่งเฉยๆ ไม่แสดงออกทางความคิดเห็นใดๆ จนหลายคนมองว่า ดูอ่อนไหว ยอมคน ฯลฯ
จริงๆก็เพียงต้องการแค่อยากจะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีๆร่วมกันไว้จนมองผ่าน ผมเคยมีเพื่อนสนิทคนนึงที่รู้จักกันมาหลายปี ที่เติบโตมาด้วยกัน กินด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ช่วงนึงเพื่อนคนนี้มีปัญหาที่บ้าน ก็ยังรักเพื่อนยังพาเพื่อนมาอยู่ด้วยที่บ้านในช่วงนึงจนเติบโตสู่วัยทำงานและมีครอบครัว แยกย้ายกันไป
ซึ่งในวันนึงมีโอกาสได้มาพบกัน และทุกครั้งที่พบเพื่อนคนนี้ก็จะแสดงออกทางการพูดจา ในเชิงพูดจาข่ม และพูดในเชิงเหนือกว่าตลอดเวลา ไม่ว่าจะเรื่องบ้าน ทรัพย์สิน ครอบครัว (ด้วยความจริงใจ เมื่อเห็นเพื่อนได้ดี เราก็ยินดีด้วย ไม่เคยมีความคิดริษยาใดๆ)
ด้วยความคิดต่างๆที่ต้องถือในความคิดเห็นของตนเองเพียงคนเดียวเป็นใหญ่ ที่เหนือกว่าเพื่อนๆทุกคนเท่านั้น แต่เนื่องจากความที่เป็นเพื่อนสนิทกันมานานหลายปี ทุกๆคนจึงพยายามปล่อยผ่าน ไม่สนใจ....
จนเมื่อผ่านประสบการณ์ต่างๆ มาหลายปี มุมมองความคิดในเรื่องนี้จึงเปลี่ยนไป ผมเริ่มไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง กับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่พวกเราต่างเผชิญกันมา
ในความเป็นกัลยาณมิตรหรือเพื่อนสนิท ทำไมเราถึงต้องยอมปล่อยผ่านให้เพื่อนที่เราคิดว่าสนิทคนนึง (ซึ่งไม่รู้ว่าจะมองเราแบบนั้นหรือไม่) ต้องคอยมาพูดจาข่ม ให้ตัวเองเหนือกว่าตลอดเวลา... ผมจึงคิดว่า ถ้าเรายังคงเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ เราน่าจะพูดในเรื่องดังกล่าวได้ จึงได้เอ่ยไปตามตรงว่า ทุกคนมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง ไม่มีใครสามารถพูดจาข่ม หรือครอบความคิดใครได้ ถ้าคนนั้นไม่ยินดีและเชื่อตามความคิดนั้น
.....เมื่อเพื่อนคนนั้นได้ฟัง...ก็ยอมรับความจริงไม่ได้ ยังคงคิดว่าความคิดเห็นของตนเองเป็นความคิดที่ถูกต้องเสมอ...และด่าว่าเพื่อนที่แสดงความคิดเห็นตรงๆในความไม่เหมาะสมจากพฤติกรรมต่างๆของเค้าที่เราพบกันมา ในเชิงหยาบคาย ด้วยความที่ยอมรับฟังความจริงไม่ได้ จริงๆในช่วงเด็กๆผมก็เคยรู้สึกรักเพื่อนคนนี้มากเหมือนกัน แต่พอผ่านสถานการณ์แบบนี้มาหลายๆครั้ง มันทำให้รู้สึกว่า ความจริงใจต่างๆที่เราเคยมีให้ ไม่ได้มีความหมายใดๆตลอดหลายปีที่ผ่านมาเลย กลับกลายเป็นการยกตน ข่มคนอื่น ทั้งๆที่บอกตัวเองว่าเราคือเพื่อนสนิทกัน
......ทุกคนที่พบกรณีแบบนี้มีความคิดเห็นกันอย่างไรครับ มีแนวทางการจัดการอย่างไร