คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ธรรมะทำให้คนแสบร้อนด้วยหรือ ธรรมะน่าจะเปรียบเหมือนน้ำชโลมใจ น้ำเปรียบได้ 3 ลักษณะคือเย็น สะอาด และปรับตัวเข้ากับสิ่งอื่นได้ง่ายดั่งเป็นตัวประสาน
น้ำเย็นคือรักษาใจร้อนให้เย็นลง น้ำสะอาดคือชะล้างมลทินชีวิต น้ำเข้ากับสิ่งอื่นได้ดีคือการปรับตัว ไม่ถือตัว
ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ นำความปรารถนาดีไปสู่ผู้อื่น สังคมต้องการคนช่วยกันแก้ปัญหาไม่ใช่ก่อกวน
น้ำเย็นคือรักษาใจร้อนให้เย็นลง น้ำสะอาดคือชะล้างมลทินชีวิต น้ำเข้ากับสิ่งอื่นได้ดีคือการปรับตัว ไม่ถือตัว
ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ นำความปรารถนาดีไปสู่ผู้อื่น สังคมต้องการคนช่วยกันแก้ปัญหาไม่ใช่ก่อกวน
สมาชิกหมายเลข 1778965 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4479267 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5658363 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6193574 ถูกใจ
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การเมือง
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
พุทธสุภาษิต
⤴️มาลาริน/จงเป็นผู้กล้าหาญ...“เมื่อถึงยามคับขันประชาชนต้องการผู้กล้าหาญ เมื่อถึงคราวปรึกษางาน ต้องการผู้ที่ไม่พูดพล่าม
“เมื่อถึงยามคับขันประชาชนต้องการผู้กล้าหาญ,
เมื่อถึงคราวปรึกษางาน ต้องการผู้ที่ไม่พูดพล่าม,
ยามมีข้าวน้ำ ต้องการผู้เป็นที่รัก,
ยามเกิดปัญหา ต้องการบัณฑิต”
ไม่มีชีวิตใดประสบแต่ความเกษมสุข ปราศจากทุกข์ภัยไปได้ตลอด เมื่อเกิดมาแล้ว จึงจำเป็นต้องขวนขวายสั่งสม “สติ” และ “ปัญญา” สำหรับเป็นอุปกรณ์บำบัดความทุกข์อยู่ทุกเมื่อ เพื่อให้สมกับที่ดำรงอัตภาพแห่งมนุษย์ผู้มีศักยภาพต่อการพัฒนา
ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดซึ่งก่อให้เกิดความหวาดหวั่นครั่นคร้ามกันทั่วหน้า ทุกคนมีหน้าที่แสวงหาหนทางเพิ่มพูน “สติ” และ “ปัญญา” พร้อมทั้งแบ่งปันหยิบยื่นให้แก่เพื่อนร่วมสังคม อย่าปล่อยให้ความกลัวภัยและความหดหู่ท้อถอย คุกคามเข้าบั่นทอนความเข้มแข็งของจิตใจ ในอันที่จะอดทน พากเพียร เสียสละ และสามัคคี
มีธรรมภาษิตบทหนึ่งในพระพุทธศาสนา พึงน้อมนำมาเตือนใจในยามนี้ ว่า “เมื่อถึงยามคับขันประชาชนต้องการผู้กล้าหาญ, เมื่อถึงคราวปรึกษางาน ต้องการผู้ที่ไม่พูดพล่าม, ยามมีข้าวน้ำ ต้องการผู้เป็นที่รัก, ยามเกิดปัญหา ต้องการบัณฑิต”
ขอทุกท่านจงเป็น “ผู้กล้าหาญ” ที่จะละความดื้อด้านเห็นแก่ตัว ความเคยตัว และความไม่ระมัดระวังตัว ขอจงเป็น “ผู้ที่ไม่พูดพล่าม” โดยปราศจากสาระ ก่อความร้าวฉานชิงชัง ในยามที่สังคมต้องการสาระ คำปรึกษาหารือ และกำลังใจ แต่จงประพฤติตนเป็น “บัณฑิต” ผู้รู้รักษากายใจของตัวให้ปลอดจากโรคกายโรคใจ เป็นผู้ฉลาดศึกษา ค้นคว้า วางแผน ชี้แนะ และลงมือทำ
ทั้งนี้ ถ้าแต่ละคนแม้เพียงตั้งจิตไว้ในธรรมฝ่ายสุจริต ไม่ถลำลงสู่ความคิดชั่ว อันนำไปสู่การพูดชั่วและทำชั่วซ้ำเติม ก็นับว่าได้ช่วยบรรเทาปัญหาของโลกแล้ว และยิ่งหากท่านมีดวงจิตผ่องแผ้วด้วยเมตตาการุณยธรรม นำความปรารถนาดีเผื่อแผ่ไปสู่ทุกชีวิตอย่างเสมอหน้า ความทุกข์ยากที่เราทั้งหลายต่างเผชิญ ย่อมจะคลี่คลายได้ในไม่ช้า
วโร วรญฺญู วรโท วราหโร
อนุตฺตโร ธมฺมวรํ อเทสยิ
อิทมฺปิ พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ
เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ.
https://www.thaipost.net/main/detail/98918
จงกล้าหาญที่จะละความดื้อด้าน เห็นแก่ตัว เคยตัว ไม่ระมัดระวัง
จงเป็นผู้ไม่พูดพล่าม ไร้สาระ ก่อความร้าวฉาน ชิงชัง ยามสังคมต้องการสาระ กำลังใจ
จงประพฤติตนเป็นบัณฑิต รักษา กาย ใจ ให้ปลอดโรคกาย โรคใจ
จงเป็นผู้ฉลาด ศึกษา ค้นคว้า วางแผนและลงมือทำ
เมื่อตั้งจิตอยู่ในธรรมฝ่ายสุจริต ไม่ถลำไปคิดชั่ว ทำชั่ว มีเมตตาการุณยธรรม มีความปรารถนาดีเผื่อแผ่ไปสู่ทุกชีวิตอย่างเสมอหน้า ย่อมจะช่วยบรรเทาปัญหา ทุกข์ยากที่เผชิญอยู่ก็จะคลี่คลายในไม่ช้า...
พระคติธรรมในยามสู้โควิด
สาธุเจ้าค่ะ....