เป็นเวลากว่าสี่เดือนแล้วที่ผมเล่น PS5 มา และเมื่อวาน PS ได้ออกวิดิโอมาใหม่ชื่อว่า Play Like Never Before เป็นการสรุปฟีเจอร์เด่นของ PS5 ว่ามีอะไรบ้าง แบบครบเครื่องเลย ซึ่งทำให้คนที่อยากได้ PS5 จะได้ตัดสินใจได้ว่าน่าซื้อเครื่องนี้มั้ยแล้วแตกต่างจาก PS4 ยังไงบ้าง พอเห็นฟีเจอร์ที่เค้าสรุปมาว่ามีอะไรบ้าง ผมก็เลยอยากจะมาเปรียบเทียบกับประสบการณ์ที่ใช้จริงๆ ว่าเหมือนที่โฆษณามั้ย รายละเอียดเป็นยังไงบ้างครับ
- SSD โหลดไวขึ้นจริง แต่ไม่ถึงขนาดหน้าโหลดหายไปเลยนะครับ และความเร็วและความรอนานก็ผันแปรไปตามเกมต่างๆ แต่ถ้าเทียบกับ PS4 นี่รู้สึกได้เยอะครับ
- Adaptive Triggers / Haptic Feedback จอย DualSense เป็นจอยที่สร้างประสบการณ์ใหม่ในการเล่นเกมได้มากทีเดียวครับ แต่ว่าก็อาจจะต้องบอกว่าจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาเกม แน่นอนว่าเกม Exclusive ส่วนใหญ่ก็จะใช้ฟีเจอร์นี่เยอะหน่อย แต่บางเกมที่เป็นเกมลงหลาย Platform ก็ใช้ฟีเจอร์นี้ได้ดี แต่กับอีกหลายเกมก็เหมือนเล่นบนเครื่อง PS4 หรือเครื่องอื่น ไม่ได้พิเศษทุกเกมครับ
- 3D Audio ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะหูฟังนะครับ เป็นฟีเจอร์ที่ผมชอบมาก และรู้สึกว่าใช้ได้ดีมากๆ ครับ รู้สึกแตกต่าง โดยเค้าอาจจะโฆษณาว่า ใช้ได้กับหูฟังที่รองรับเท่านั้น (อาจจะหมายถึง 3D Pulse Wireless กลายๆ) แต่ในความเป็นจริงผมลองใช้กับหูฟังหลายรุ่นก็ใช้ได้ดีครับ เสียงมีทิศทาง และ ตำแหน่งที่ชัดเจนกว่า PS4 มาก
- Ray Tracing อาจจะพูดไม่ได้ว่า สามารถเปิด RT ได้ทุกเกม ต้องดูเป็นเกมๆ ไปและส่วนใหญ่เมื่อเปิด RT อาจจะต้องยอมลดคุณภาพของกราฟิกลง เช่น Framerate แต่ถ้าถามว่าต่างกันมากมั้ย เปิดไม่เปิด ผมว่า ณ จุดนี้เรายังไม่มีเกม PS5 ที่แสดงพลังของ RT ได้ชัดมากๆ เลยไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่างมากเท่าไหร่ อาจจะต้องรอ อีกสักระยะใหญ่ๆ
- 30 / 60 / 120 FPS เกมส่วนใหญ่สามารถเล่นได้ที่ 60 FPS มีน้อยเกมมากที่เล่นได้ที่ 30 FPS เท่านั้น สำหรับเกม PS5 และก็มีน้อยเกมที่รันได้ที่ 120 FPS ที่น่าสนใจคือเกม PS4 ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ถูก Patch ก็จะรันที่ 30 FPS ทั้งๆที่เครื่องสามารถรองรับไปได้มากกว่านั้นแล้ว T-T
- 4K HDR ตัว HDR ไม่มีปัญหา รองรับเต็มที่ แต่ว่าตัว 4K นี่แน่นอนว่าเครื่องส่ง Output เป็น 4K แต่ว่าตัวเกมจริงๆ บางเกมก็เป็น 4K แต่ผมเชื่อว่ามีเกมเยอะเหมือนกันที่เป็น 2K แล้วทำการ Upscale ขึ้นมา อาจจะเรียกได้ว่าเล่น 4K ได้ไม่ทุกเกม
- เล่นเกมเก่า PS4 เค้าได้โฆษณาไว้ว่าเล่นเกมเก่าได้ 4,000 กว่าเกม ผมเชื่อว่าเล่นได้ตามนั้น (ผมโดนเกม Robot War ที่เล่นไม่ได้ งื้อ แต่ก็เป็นเพียงเกมเดียวห้องสมุดเกม) แต่คำถามที่น่าสนใจคือ คุณจะอยากเล่นมั้ย เพราะว่าเกม PS4 ที่เล่นบน PS5 ส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้ Patch จะแสดงผลที่ 30 FPS เท่านั้น T-T และตัว Game Boost ก็ไม่ได้แสดงข้อมูลแน่ชัดว่าทำการเพิ่มประสิทธิภาพอะไรบ้าง สำหรับเกม PS4 บน PS5 อาจจะเรียกได้ว่าต้องดูเป็นเกมๆ ไป
- รองรับ PSVR และ PSVR 2 ในอนาคต อันนี้ไม่มีปัญหาครับ ใครที่เล่น VR อยู่ซื้อ PS5 มาก็ยังใช้ได้เหมือนเดิม
ก็น่าจะประมาณนี้นะครับ กับการเปรียบเทียบ PS5 กับการใช้งานจริง อาจจะเรียกได้ว่าทำได้ทุกฟีเจอร์ที่โฆษณาไว้แต่ก็อาจจะมีดอกจันไว้ประมาณหนึ่งว่าไม่ได้ทำได้ทุกเกม ในทุกเงื่อนไข เราอาจจะต้องรอ PS5 Pro ถ้าอยากจะได้ฟีเจอร์ที่โฆษณาไว้แบบเต็มที่ ผมยังรอ VRR กับการเติม SSD ของ PS5 อยู่ ออกมาเถอะ จะหกเดือนแล้วที่เครื่องวางขาย งื้อ
ช่องแมวนูน
https://www.youtube.com/channel/UCr5L_gavyNJ2KXtVfZDe0Tg
Page :
https://www.facebook.com/maewnoonyoutuber/
Website :
https://www.maewnoon.com/
[CR] PS5 รีวิวเปรียบเทียบ 8 ฟีเจอร์เด่นกับการใช้งานจริง เล่นเกมได้เหมือนที่โฆษณามั้ย
- SSD โหลดไวขึ้นจริง แต่ไม่ถึงขนาดหน้าโหลดหายไปเลยนะครับ และความเร็วและความรอนานก็ผันแปรไปตามเกมต่างๆ แต่ถ้าเทียบกับ PS4 นี่รู้สึกได้เยอะครับ
- Adaptive Triggers / Haptic Feedback จอย DualSense เป็นจอยที่สร้างประสบการณ์ใหม่ในการเล่นเกมได้มากทีเดียวครับ แต่ว่าก็อาจจะต้องบอกว่าจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาเกม แน่นอนว่าเกม Exclusive ส่วนใหญ่ก็จะใช้ฟีเจอร์นี่เยอะหน่อย แต่บางเกมที่เป็นเกมลงหลาย Platform ก็ใช้ฟีเจอร์นี้ได้ดี แต่กับอีกหลายเกมก็เหมือนเล่นบนเครื่อง PS4 หรือเครื่องอื่น ไม่ได้พิเศษทุกเกมครับ
- 3D Audio ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะหูฟังนะครับ เป็นฟีเจอร์ที่ผมชอบมาก และรู้สึกว่าใช้ได้ดีมากๆ ครับ รู้สึกแตกต่าง โดยเค้าอาจจะโฆษณาว่า ใช้ได้กับหูฟังที่รองรับเท่านั้น (อาจจะหมายถึง 3D Pulse Wireless กลายๆ) แต่ในความเป็นจริงผมลองใช้กับหูฟังหลายรุ่นก็ใช้ได้ดีครับ เสียงมีทิศทาง และ ตำแหน่งที่ชัดเจนกว่า PS4 มาก
- Ray Tracing อาจจะพูดไม่ได้ว่า สามารถเปิด RT ได้ทุกเกม ต้องดูเป็นเกมๆ ไปและส่วนใหญ่เมื่อเปิด RT อาจจะต้องยอมลดคุณภาพของกราฟิกลง เช่น Framerate แต่ถ้าถามว่าต่างกันมากมั้ย เปิดไม่เปิด ผมว่า ณ จุดนี้เรายังไม่มีเกม PS5 ที่แสดงพลังของ RT ได้ชัดมากๆ เลยไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่างมากเท่าไหร่ อาจจะต้องรอ อีกสักระยะใหญ่ๆ
- 30 / 60 / 120 FPS เกมส่วนใหญ่สามารถเล่นได้ที่ 60 FPS มีน้อยเกมมากที่เล่นได้ที่ 30 FPS เท่านั้น สำหรับเกม PS5 และก็มีน้อยเกมที่รันได้ที่ 120 FPS ที่น่าสนใจคือเกม PS4 ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ถูก Patch ก็จะรันที่ 30 FPS ทั้งๆที่เครื่องสามารถรองรับไปได้มากกว่านั้นแล้ว T-T
- 4K HDR ตัว HDR ไม่มีปัญหา รองรับเต็มที่ แต่ว่าตัว 4K นี่แน่นอนว่าเครื่องส่ง Output เป็น 4K แต่ว่าตัวเกมจริงๆ บางเกมก็เป็น 4K แต่ผมเชื่อว่ามีเกมเยอะเหมือนกันที่เป็น 2K แล้วทำการ Upscale ขึ้นมา อาจจะเรียกได้ว่าเล่น 4K ได้ไม่ทุกเกม
- เล่นเกมเก่า PS4 เค้าได้โฆษณาไว้ว่าเล่นเกมเก่าได้ 4,000 กว่าเกม ผมเชื่อว่าเล่นได้ตามนั้น (ผมโดนเกม Robot War ที่เล่นไม่ได้ งื้อ แต่ก็เป็นเพียงเกมเดียวห้องสมุดเกม) แต่คำถามที่น่าสนใจคือ คุณจะอยากเล่นมั้ย เพราะว่าเกม PS4 ที่เล่นบน PS5 ส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้ Patch จะแสดงผลที่ 30 FPS เท่านั้น T-T และตัว Game Boost ก็ไม่ได้แสดงข้อมูลแน่ชัดว่าทำการเพิ่มประสิทธิภาพอะไรบ้าง สำหรับเกม PS4 บน PS5 อาจจะเรียกได้ว่าต้องดูเป็นเกมๆ ไป
- รองรับ PSVR และ PSVR 2 ในอนาคต อันนี้ไม่มีปัญหาครับ ใครที่เล่น VR อยู่ซื้อ PS5 มาก็ยังใช้ได้เหมือนเดิม
ก็น่าจะประมาณนี้นะครับ กับการเปรียบเทียบ PS5 กับการใช้งานจริง อาจจะเรียกได้ว่าทำได้ทุกฟีเจอร์ที่โฆษณาไว้แต่ก็อาจจะมีดอกจันไว้ประมาณหนึ่งว่าไม่ได้ทำได้ทุกเกม ในทุกเงื่อนไข เราอาจจะต้องรอ PS5 Pro ถ้าอยากจะได้ฟีเจอร์ที่โฆษณาไว้แบบเต็มที่ ผมยังรอ VRR กับการเติม SSD ของ PS5 อยู่ ออกมาเถอะ จะหกเดือนแล้วที่เครื่องวางขาย งื้อ
ช่องแมวนูน https://www.youtube.com/channel/UCr5L_gavyNJ2KXtVfZDe0Tg
Page : https://www.facebook.com/maewnoonyoutuber/
Website : https://www.maewnoon.com/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้