"ขอขอบคุณเพจ ป ปืนอย่างสูงครับ"
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
ได้มีการพัฒนาขึ้นในช่วงปลายยุค 1960 เพื่อมาใช้งานแทนที่ Stg.58 (FN FAL) battle rifles เพื่อใช้งานในกองทัพบก ออสเตรีย Austrian army. งานนี้ตกเป็นของบริษัท Austrian Steyr-Daimler-Puch company (ปัจจุบันคือ Steyr-Mannlicher AG & Co KG)ที่มีความใกล้ชิดกับกองทัพ .
นักออกแบบหลักมีสามคนคือ - Horst Wesp, Karl Wagner และ Karl Möser, ซึ่งพัฒนาปืนจากคุณสมบัติที่กำหนด
โดย. Austrian Office of Military Technology โดยอยู่ในความดูแลของ Colonel Walter Stoll .มีการทำปืนต้นแบบต่างๆออกมาในปี 1975 โดยมีความตั้งใจทำเป็นปืนแบบ Bullpup และใช้กระสุน 5.56x45 mm NATO ตั้งแต่แรก การออกแบบในปีถัดมาเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมาขึ้น โดยใช้ระบบศูนย์เปิดมาจนถึงแบบก่อนหน้าที่จะเป็นแบบอนุมัติจริง จึงมีการใช้กล้องเล็งที่มีระบบศูนย์เปิดอยู่ด้านบนเข้าไปแทน
ปืนรุ่นใหม่ก็ออกมาใช้งานในปี 1977 คือ Stg.77/ Sturmgewehr, Modell 1977 (Assault rifle, model of 1977) หรือที่เราเรียกว่า Steyr AUG (Armee Universal Gewehr - Universal Army Rifle) คือ Austrian 5.56×45mm NATO bullpup assault rifle นั้นแหล่ะ
เริ่มผลิตในปี 1978. ไม่นาน AUG ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เช่น Australia, Austria, New Zealand, Oman, Malaysia, Saudi Arabia, Ireland และประเทศอื่นๆอีก รวมถึงหน่วยงานรักษาความปลอดภัยและหน่วยงานกฎหมายทั่วโลก เช่น US Coastal Guard.Steyr
AUG เป็น bullpup assault rifle ที่ประสบความสำเร็จในด้านการขายทั้งเชิงทหารและพานิชตั้งแต่ปี 1997 0กฝีมือของSteyr-Mannlicher
ถึงแม้ว่าAUG จะเป็นปืน Bullpup rifleที่ประสบความสำเร็จ แบบหนึ่งของโลกก็จริงแต่แนวคิดนี้มีมานานมาก เพื่อเป็นการทำให้ปืนสั้นลงแต่ยังคงลำกล้องที่ยาวเอาไว้ ในยุคที่ใกล้เคียงกับการออแบบAUG ออกมายังมีแบบที่ออกแบบมาก่อนหน้า25-30 ปี เช่น bullpup, British Enfield EM-2 และ Soviet Korobov TKB-408 bullpup assault rifles ในช่วงไล่เลี่ยกันคือ French FAMAS bullpup also appeared on the scene at the very same time, as the AUG did. Plasticfirearm และยังมี Korobov TKB-022,ที่ใช้วัสดุสังเคราะห์ในการทำโครงปืนในปี 1962 ส่วนระบบการเล็งด้วยกล้อง British EM-2 bullpup rifle ก็ทำมาก่อนแล้วในยุค 1940 ทั้งหมดที่กล่าวมาคือ AUG ถึงแม้จะไม่ใช้ bullpup กระบอกแรก แต่สามารถทำให้โลกตอบรับมันได้และมีความน่าเชื่อถือสูง
Features
AUG ใช้ซองกระสุนของตัวเองใช้มีดปลายปืนของ American M7 หรือ German KCB-77 M1
ใช้ระบบบริหารกลไกด้วยแก๊ส gas operated, ป้อนกระสุนด้วยซองกระสุนนอก magazine fed, สามารถยิงในระบบ selective fire rifle
ระบบการทำงานของปืนนั้นระบบแก๊สจะไม่ได้ยึดติดกับลำกล้องปืนแบบปืนอื่นๆ โดยระบบแก๊สจะอยู่กับโครงปืนส่วนหน้า ท้างขวา ส่วนท้างซ้ายนั้นเป็นระบบคั้นรั้งลูกเลื่อนทางซ้ายและแท่งทางชวาคือก้านส่งลูกเลื่อนและ โดยที่ลูกสูบ gas-driven piston จะอยู่ด้านหน้าเป็นระบบลูกสูบช่วงสั้น (short-stroke piston) แหนบสปริงหลัก (return springs) จะอยู่ภายในแท่งสองแท่งนี้ซึ่งกลวง โดยที่โครงปืนเมื่อประกอบลูกเลื่อนเข้าไปจะมีก้านนำ( guide rods)สองแท่ง ที่คอยส่งลูกเลื่อนไปด้านหน้า ซึ่งเรียกว่าแบบ "bump" type ระบบแก๊สของปืนจะสามารถปรับได้ 3ระดับตามสภาพแวดล้อม 3-position gas ซึ่งจะบอกด้วยสัญลักษณ์ที่วาล์วจะมีจุดเล็กคือการยิงปกติ จุดที่ใหญ่ขึ้นมาอีกคือการยิงในสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย และ “GR” คือการปิดวาล์วเพื่อยิงกระสุนที่ใช้ส่งลูกระเบิดยิง launch rifle grenades (non-bullet trap type)
.
ลูกเลื่อนของ AUG ใช้ปีกขัดกลอน 7 ปีก โดยสามารถเปลี่ยนด้านคัดปลอกกระสุนได้ โดยการสับด้านสลักนำเลื่อนกลับด้านและนำแผ่นกันฝุ่นไปไว้ ช่องคายปลอกกระสุนด้านตรงข้าม
ซองกระสุนมีแบบ 45 นัด 30 นัด และ 10 นัด
การถอดปืน โดยการดันปุ่มล๊อกลำกล้องที่ใต้โครงปืนส่วนหน้าและบิดลำกล้องไปทางขวาตามแนวรัศมีแล้วดึงลำกล้องออกมา การถอดชุดโครงปืนส่วนหน้าจะมีตัวล๊อกที่อยู่เยื้องด้านหน้าระหว่างช่องคายปลอกกระสุนและชองใส่ซองกระสุน โยการดันไปทางขวาจะปลดชุดโครงปืนส่วนหน้าออกมาพร้อมชุดลูกเลื่อน ชุดลั่นไกจะอยู่ท้ายโครงปืนแบบปืน Bullpup ทั่วไป ใช้แกนบังคับการยิงที่โยงจากไกปืนสองก้านถอดโดยเปิดฝาพานท้ายและดึงอออกมา
ระบบไกปืนของ AUG เป็นแบบ Spz-kr type progressive trigger คือมือกดลงไปจังหวะแรกคือยิงทีละนัดและกดลึกลงไปอีกคือยิงอัตโนมัติ ระบบคันห้ามไกเซฟปืนแบบ cross-bolt, button type อยู่เหนือด้ามปืนเมื่อกดจากซ้ายไปขวาคือ "safe" จะมีจุดสีขาวด้านขวาของคันห้ามไก และพร้อมยิงเมื่อกดจากขวามาทางซ้ายจะมีจุดแดงทางด้านซ้านของตัวปืน บางเวอร์ชั่นจะเป็น ALO หรือ "automatic lockout" ซึ่งเป้นการเลือกโหมดในการยิงที่ปุ่มห้ามไกปืน
AUG ใช้ระบบศูนย์กล้อง 1.5× telescopic sight
รุ่นต่างๆของ AUG ของ ออสเตรีย
AUG: รุ่นมาตรฐานใช้กระสุนขนาด 5.56×45mm NATO ผลิตในปี1978 หรือ StG 77 ลำกล้องยาว 790 mm (31.1 in)
AUG M203: มีการติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิด M203 grenade launcher.
AUG A1: Steyr AUG A1 เป็นแบบปรับปรุงของ AUG ในปี 1982. โยมีสีเขียวมะกอกและดำ
AUG A2: Steyr AUG A2 คล้ายกับ AUG A1 มีการใช้ราง MIL-STD-1913 rail.ติดตั้งแทนศูนย์กล้อง ในปี 1997.
AUG A3: The Steyr AUG A3 คล้ายแบบ AUG A2 แต่รางแบบ MIL-STD-1913 rail ตะเตี้ยลงมาอีก และใช้ external bolt release
AUG A3 SF: The Steyr AUG A3 SF หรือ AUG A2 Commando คล้ายกับ AUG A2 ติดตั้งราง MIL-STD-1913 rails mounted บนตัวกล้องเล็งแบบ telescopic sight 1.5× or 3× magnification และมีรางด้านขวาของโครงปืน ใช้งานในหน่วยงาน Austrian Special Forces ปี 2007
AUG A3-CQC: The Steyr AUG A3-CQC พัฒนาจาก AUG A3 เปิดตัวในงาน the SHOT Show 2006. มีการปรับปรุงชุดหน้าใหม่ทั้งหมด โดดยใช้ชุดราง ที่สามารถติดอุปกรณ์ได้มากขึ้น
AUG Para: เป็นรุ่น submachine gun ของ AUG. ใช้ซองกระสุนขนาด 25และ 32 oyf ของ Steyr MPi 69/81 ซึ่งทำเป็น Conversion kits สำหรับ AUG A1 และ A2 .
AUG A3 Para XS: เป็น รุ่นใช้กระสุน 9 mm ของ AUG A3 คล้ายๆ AUG Para.ลำกล้องยาว 325 mm (12.8 in) ใช้ราง Picatinny rail system
.
ในกลุ่ม Light machine gun
พร้อมยิงเมื่อลูกหเลื่อนเปิด open bolt (AUG LMG ).มีการ ปรับปรุง,ชุดลูกเลื่อน ,ระบบลั่นไกใช้ระบบเข็มพุ่งกระแทก striker และปรับปรุงระบบชุดลั่นไก
AUG LSW: (Light Support Weapon) เป็นกลุ่ม light support ของ AUG.
AUG HBAR: (Heavy-Barreled Automatic Rifle) ลำกล้องยาวและหน้าเป็น light machine gun หรือ Squad Automatic Weapon.
AUG LMG (Light machine gun) มาจาก AUG HBAR ใช้ศูนย์เล็งแบบ 4× magnification
AUG LMG–T: คล้ายแบบ AUG LMG แต่มีรางแบบ AUG P Special Receiver.
AUG HBAR–T: ออกแบบมาเป็น marksman rifle based พื้นฐานจาก HBAR ใช้ universal scope mount กักล้องเล็งแบบ Kahles ZF69 6×42 optical sight.
รุ่น Semi-automatic
AUG P: เป็น semi-automatic only variant ของรุ่น AUG A1 ลำกล้องสั้นกว่า คือ 407 mm (16.0 in)
AUG P Special Receiver: คล้ายแบบ AUG P แต่ใช้ราง a MIL-STD-1913 ด้านบนโครงปืน
AUG SA: เป็นรุ่น semi-automatic ของ AUG A1 ทำมาเพื่อตลาดพลเรือนในปี 1989.
AUG Z: เป็นรุ่น semi-automatic ของ AUG A2
USR: คือรุ่น AUG A2 ที่นำมาดัดแปลงโดย Federal Assault Weapons Ban (AWB) (or Public Safety and Recreational Firearms Use Protection Act)
AUG A3 SA USA: คือรุ่น semi-automatic ของ AUG A3 ใช้ลำกล้องสั้น 407 mm (16.0 in)ทำมาเพื่อขายในตลาดสหรัฐ ในปี 2009
AUG A3 SA NATO: คล้ายแบบ AUG A3 SA USA แต่ทำมาสำหรับคนถนันขวาเท่านั้นใช้ซองกระสุน AR NATO STANAG magazine
AUG A3 M1: คือรุ่น semi-automatic ของ AUG A3 SF ใช้ราง MIL-STD-1913 rails แทนศูนย์กล้อง ผลิตในสหรัฐ โดย Steyr Arms ปี 2014
สารานุกรมปืนตอนที่ 557 Steyr AUG Part 1
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
ได้มีการพัฒนาขึ้นในช่วงปลายยุค 1960 เพื่อมาใช้งานแทนที่ Stg.58 (FN FAL) battle rifles เพื่อใช้งานในกองทัพบก ออสเตรีย Austrian army. งานนี้ตกเป็นของบริษัท Austrian Steyr-Daimler-Puch company (ปัจจุบันคือ Steyr-Mannlicher AG & Co KG)ที่มีความใกล้ชิดกับกองทัพ .
นักออกแบบหลักมีสามคนคือ - Horst Wesp, Karl Wagner และ Karl Möser, ซึ่งพัฒนาปืนจากคุณสมบัติที่กำหนด
โดย. Austrian Office of Military Technology โดยอยู่ในความดูแลของ Colonel Walter Stoll .มีการทำปืนต้นแบบต่างๆออกมาในปี 1975 โดยมีความตั้งใจทำเป็นปืนแบบ Bullpup และใช้กระสุน 5.56x45 mm NATO ตั้งแต่แรก การออกแบบในปีถัดมาเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมาขึ้น โดยใช้ระบบศูนย์เปิดมาจนถึงแบบก่อนหน้าที่จะเป็นแบบอนุมัติจริง จึงมีการใช้กล้องเล็งที่มีระบบศูนย์เปิดอยู่ด้านบนเข้าไปแทน
ปืนรุ่นใหม่ก็ออกมาใช้งานในปี 1977 คือ Stg.77/ Sturmgewehr, Modell 1977 (Assault rifle, model of 1977) หรือที่เราเรียกว่า Steyr AUG (Armee Universal Gewehr - Universal Army Rifle) คือ Austrian 5.56×45mm NATO bullpup assault rifle นั้นแหล่ะ
เริ่มผลิตในปี 1978. ไม่นาน AUG ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เช่น Australia, Austria, New Zealand, Oman, Malaysia, Saudi Arabia, Ireland และประเทศอื่นๆอีก รวมถึงหน่วยงานรักษาความปลอดภัยและหน่วยงานกฎหมายทั่วโลก เช่น US Coastal Guard.Steyr
AUG เป็น bullpup assault rifle ที่ประสบความสำเร็จในด้านการขายทั้งเชิงทหารและพานิชตั้งแต่ปี 1997 0กฝีมือของSteyr-Mannlicher
ถึงแม้ว่าAUG จะเป็นปืน Bullpup rifleที่ประสบความสำเร็จ แบบหนึ่งของโลกก็จริงแต่แนวคิดนี้มีมานานมาก เพื่อเป็นการทำให้ปืนสั้นลงแต่ยังคงลำกล้องที่ยาวเอาไว้ ในยุคที่ใกล้เคียงกับการออแบบAUG ออกมายังมีแบบที่ออกแบบมาก่อนหน้า25-30 ปี เช่น bullpup, British Enfield EM-2 และ Soviet Korobov TKB-408 bullpup assault rifles ในช่วงไล่เลี่ยกันคือ French FAMAS bullpup also appeared on the scene at the very same time, as the AUG did. Plasticfirearm และยังมี Korobov TKB-022,ที่ใช้วัสดุสังเคราะห์ในการทำโครงปืนในปี 1962 ส่วนระบบการเล็งด้วยกล้อง British EM-2 bullpup rifle ก็ทำมาก่อนแล้วในยุค 1940 ทั้งหมดที่กล่าวมาคือ AUG ถึงแม้จะไม่ใช้ bullpup กระบอกแรก แต่สามารถทำให้โลกตอบรับมันได้และมีความน่าเชื่อถือสูง
Features
AUG ใช้ซองกระสุนของตัวเองใช้มีดปลายปืนของ American M7 หรือ German KCB-77 M1
ใช้ระบบบริหารกลไกด้วยแก๊ส gas operated, ป้อนกระสุนด้วยซองกระสุนนอก magazine fed, สามารถยิงในระบบ selective fire rifle
ระบบการทำงานของปืนนั้นระบบแก๊สจะไม่ได้ยึดติดกับลำกล้องปืนแบบปืนอื่นๆ โดยระบบแก๊สจะอยู่กับโครงปืนส่วนหน้า ท้างขวา ส่วนท้างซ้ายนั้นเป็นระบบคั้นรั้งลูกเลื่อนทางซ้ายและแท่งทางชวาคือก้านส่งลูกเลื่อนและ โดยที่ลูกสูบ gas-driven piston จะอยู่ด้านหน้าเป็นระบบลูกสูบช่วงสั้น (short-stroke piston) แหนบสปริงหลัก (return springs) จะอยู่ภายในแท่งสองแท่งนี้ซึ่งกลวง โดยที่โครงปืนเมื่อประกอบลูกเลื่อนเข้าไปจะมีก้านนำ( guide rods)สองแท่ง ที่คอยส่งลูกเลื่อนไปด้านหน้า ซึ่งเรียกว่าแบบ "bump" type ระบบแก๊สของปืนจะสามารถปรับได้ 3ระดับตามสภาพแวดล้อม 3-position gas ซึ่งจะบอกด้วยสัญลักษณ์ที่วาล์วจะมีจุดเล็กคือการยิงปกติ จุดที่ใหญ่ขึ้นมาอีกคือการยิงในสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย และ “GR” คือการปิดวาล์วเพื่อยิงกระสุนที่ใช้ส่งลูกระเบิดยิง launch rifle grenades (non-bullet trap type)
.
ลูกเลื่อนของ AUG ใช้ปีกขัดกลอน 7 ปีก โดยสามารถเปลี่ยนด้านคัดปลอกกระสุนได้ โดยการสับด้านสลักนำเลื่อนกลับด้านและนำแผ่นกันฝุ่นไปไว้ ช่องคายปลอกกระสุนด้านตรงข้าม
ซองกระสุนมีแบบ 45 นัด 30 นัด และ 10 นัด
การถอดปืน โดยการดันปุ่มล๊อกลำกล้องที่ใต้โครงปืนส่วนหน้าและบิดลำกล้องไปทางขวาตามแนวรัศมีแล้วดึงลำกล้องออกมา การถอดชุดโครงปืนส่วนหน้าจะมีตัวล๊อกที่อยู่เยื้องด้านหน้าระหว่างช่องคายปลอกกระสุนและชองใส่ซองกระสุน โยการดันไปทางขวาจะปลดชุดโครงปืนส่วนหน้าออกมาพร้อมชุดลูกเลื่อน ชุดลั่นไกจะอยู่ท้ายโครงปืนแบบปืน Bullpup ทั่วไป ใช้แกนบังคับการยิงที่โยงจากไกปืนสองก้านถอดโดยเปิดฝาพานท้ายและดึงอออกมา
ระบบไกปืนของ AUG เป็นแบบ Spz-kr type progressive trigger คือมือกดลงไปจังหวะแรกคือยิงทีละนัดและกดลึกลงไปอีกคือยิงอัตโนมัติ ระบบคันห้ามไกเซฟปืนแบบ cross-bolt, button type อยู่เหนือด้ามปืนเมื่อกดจากซ้ายไปขวาคือ "safe" จะมีจุดสีขาวด้านขวาของคันห้ามไก และพร้อมยิงเมื่อกดจากขวามาทางซ้ายจะมีจุดแดงทางด้านซ้านของตัวปืน บางเวอร์ชั่นจะเป็น ALO หรือ "automatic lockout" ซึ่งเป้นการเลือกโหมดในการยิงที่ปุ่มห้ามไกปืน
AUG ใช้ระบบศูนย์กล้อง 1.5× telescopic sight
รุ่นต่างๆของ AUG ของ ออสเตรีย
AUG: รุ่นมาตรฐานใช้กระสุนขนาด 5.56×45mm NATO ผลิตในปี1978 หรือ StG 77 ลำกล้องยาว 790 mm (31.1 in)
AUG M203: มีการติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิด M203 grenade launcher.
AUG A1: Steyr AUG A1 เป็นแบบปรับปรุงของ AUG ในปี 1982. โยมีสีเขียวมะกอกและดำ
AUG A2: Steyr AUG A2 คล้ายกับ AUG A1 มีการใช้ราง MIL-STD-1913 rail.ติดตั้งแทนศูนย์กล้อง ในปี 1997.
AUG A3: The Steyr AUG A3 คล้ายแบบ AUG A2 แต่รางแบบ MIL-STD-1913 rail ตะเตี้ยลงมาอีก และใช้ external bolt release
AUG A3 SF: The Steyr AUG A3 SF หรือ AUG A2 Commando คล้ายกับ AUG A2 ติดตั้งราง MIL-STD-1913 rails mounted บนตัวกล้องเล็งแบบ telescopic sight 1.5× or 3× magnification และมีรางด้านขวาของโครงปืน ใช้งานในหน่วยงาน Austrian Special Forces ปี 2007
AUG A3-CQC: The Steyr AUG A3-CQC พัฒนาจาก AUG A3 เปิดตัวในงาน the SHOT Show 2006. มีการปรับปรุงชุดหน้าใหม่ทั้งหมด โดดยใช้ชุดราง ที่สามารถติดอุปกรณ์ได้มากขึ้น
AUG Para: เป็นรุ่น submachine gun ของ AUG. ใช้ซองกระสุนขนาด 25และ 32 oyf ของ Steyr MPi 69/81 ซึ่งทำเป็น Conversion kits สำหรับ AUG A1 และ A2 .
AUG A3 Para XS: เป็น รุ่นใช้กระสุน 9 mm ของ AUG A3 คล้ายๆ AUG Para.ลำกล้องยาว 325 mm (12.8 in) ใช้ราง Picatinny rail system
.
ในกลุ่ม Light machine gun
พร้อมยิงเมื่อลูกหเลื่อนเปิด open bolt (AUG LMG ).มีการ ปรับปรุง,ชุดลูกเลื่อน ,ระบบลั่นไกใช้ระบบเข็มพุ่งกระแทก striker และปรับปรุงระบบชุดลั่นไก
AUG LSW: (Light Support Weapon) เป็นกลุ่ม light support ของ AUG.
AUG HBAR: (Heavy-Barreled Automatic Rifle) ลำกล้องยาวและหน้าเป็น light machine gun หรือ Squad Automatic Weapon.
AUG LMG (Light machine gun) มาจาก AUG HBAR ใช้ศูนย์เล็งแบบ 4× magnification
AUG LMG–T: คล้ายแบบ AUG LMG แต่มีรางแบบ AUG P Special Receiver.
AUG HBAR–T: ออกแบบมาเป็น marksman rifle based พื้นฐานจาก HBAR ใช้ universal scope mount กักล้องเล็งแบบ Kahles ZF69 6×42 optical sight.
รุ่น Semi-automatic
AUG P: เป็น semi-automatic only variant ของรุ่น AUG A1 ลำกล้องสั้นกว่า คือ 407 mm (16.0 in)
AUG P Special Receiver: คล้ายแบบ AUG P แต่ใช้ราง a MIL-STD-1913 ด้านบนโครงปืน
AUG SA: เป็นรุ่น semi-automatic ของ AUG A1 ทำมาเพื่อตลาดพลเรือนในปี 1989.
AUG Z: เป็นรุ่น semi-automatic ของ AUG A2
USR: คือรุ่น AUG A2 ที่นำมาดัดแปลงโดย Federal Assault Weapons Ban (AWB) (or Public Safety and Recreational Firearms Use Protection Act)
AUG A3 SA USA: คือรุ่น semi-automatic ของ AUG A3 ใช้ลำกล้องสั้น 407 mm (16.0 in)ทำมาเพื่อขายในตลาดสหรัฐ ในปี 2009
AUG A3 SA NATO: คล้ายแบบ AUG A3 SA USA แต่ทำมาสำหรับคนถนันขวาเท่านั้นใช้ซองกระสุน AR NATO STANAG magazine
AUG A3 M1: คือรุ่น semi-automatic ของ AUG A3 SF ใช้ราง MIL-STD-1913 rails แทนศูนย์กล้อง ผลิตในสหรัฐ โดย Steyr Arms ปี 2014