ถูกกักขัง มากกว่า 14 ปีโดยไม่แจ้งขอหาใดๆ The Mauritanian และการฟ้องรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของสหรัฐฯ


ดูหนังมั้ยพี่?    
วันนี้เสนอเรื่อง "The Mauritanian" หนังแนวดราม่าเชิงกฎหมายและสิทธิฯ legal drama
สร้างจากเรื่องจริงของ Mohamedou Ould Slahi (โมฮาเหม็ดดู ซาลาฮี) ชาวมอริเตเนีย ที่ถูกจองจำ กักขังมากกว่า 14 ปี โดยที่ไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆกับตัวเขา ในเรือนจำอ่าวกวนตานาโม, ประเทศคิวบา หลังจากเหตุการณ์ 9/11 หนังสือของเขาได้ติดอันดับหนังสือขายดี จากต้นฉบับที่เขียนด้วยลายมือ 466 หน้า เป็นหนังสือขายดีระดับนานาชาติและได้รับการแปลเป็นหลายภาษาเพื่อตีพิมพ์ในกว่า 25 ประเทศ
เรื่องได้เริ่มปมที่ว่า เขาถูกนำตัวจากบ้านเกิดใน มอริเตเนีย ในคืนวันแต่งงานของญาติมิตร และหลังจากนั้น ไม่เคยมีใครได้พบ ได้ยินข่าว หรือเห็นแม้กระทั่งศพของเขานานถึง 6 ปี การดำเนินการครั้งนี้เริ่มต้นด้วยกลุ่มตำรวจและรัฐบาลกลางของมอริเตเนียเอง และเขาถูกส่งตัวต่อให้สหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา
เรื่องนี้นำเสนอให้เห็นถึงการละเมิดสิทธิทางกฎหมายขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญที่น่ากลัวซึ่งหลายคนต้องทนอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลสหรัฐฯ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ภาพเรือนจำและห้องพิจารณาคดีดูสมจริงมาก
การแสดงของ Tahar Rahim ที่แสดงเป็น โมฮาเหม็ดดู สมควรได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์เป็นอย่างยิ่ง ถ้าเขาได้เข้าชิงผมจะเชียร์สุดใจบอกเลย การแสดงออกทางสายตา สิ่งที่ไม่ต้องบอกเป็นคำพูดแต่เราสามารถรับรู้ได้ว่า เขาทุกข์ทรมาน เจ็บปวด กดดัน และติดอยู่กับบ่วงทางอารมร์ของตัวเองได้อย่างล้ำลึก มันทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีความพิเศษในตัวมันเอง
Jodie Foster ที่แสดงเป็น Nancy Hollander ทนายหัวขบฐที่อาจหาญท้าทาย ฟ้องรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯแทนลูกความของเธอ ก็แสดงได้ดี บาดลึก ถึงอารมณ์มาก คนประเภทนี้แยกชัดเจนมากระหว่าง หน้าที่ เรื่องส่วนตัว และความเป็นกลางทางสังคม เธอได้นำแสงออย่างน่าเชื่อถือในการปกป้องสิทธิมนุษยชน เธอต้องรวบรวมหลักฐานจากเอกสารที่ถูกขีดดำ เกือบทั้งหน้าจากการกรองของหน่วยงานกลาง ด้วยหลักฐานที่มีอยูจำนวนมาก แต่แทบใช้การไม่ได้เลยเพราะถูกขีดดำ เธอจึงหันมาพึ่งคำให้การที่เขียนโดยลูกความของเธอแทน แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ลูกความบอกทุกอย่างที่เขาทำ และก็ไม่ใช่ไม่มีลูกความที่ไม่โกหกทนายของตัวเอง
หนังถูกบีบคั้นด้วย การยืนยันว่า "ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์" ถูกกักขังโดยไม่แจ้งข้อหามากกว่า 6 ปี แต่เมื่อสืบไปลึกๆแล้ว กลับมีคำให้การ"สารภาพ"ของเขาในเอกสารคำให้การ
เรื่องมันซับซ้อนกว่าที่เห็น ระยะเวลาไม่ใช่ตัวตัดสิน ศาสนาและพิธีกรรม การผูกโยงมายาคติของคนแต่ละคนในสังคม ที่แตกต่างกัน ย่อมแตกต่างกัน มาตรฐานตัวชี้วัดสามารถใช้ได้จริงกับทุกบุคคล และทุกสังคมจริงหรือ? อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องไปหาคำตอบในภาพยนตร์กันครับ
สุดท้ายแล้ว Mohamedou Ould Slahi จะพ้นผิดหรือไม่ หรือการฟ้องรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของสหรัฐฯในครั้งนี้ จะยิ่งทำให้ชีวิตของเขาดำดิ่งลงลึกภายใต้คุกแห่งกวนตานาโมอีกมากโข ต้องไปลุ้นครับ
สุดท้ายไปดูเถอะครับ ถือว่าผมขอร้อง และนำเสนออย่างจริงจัง มันดีจริงๆ อยากให้ทุกคนได้ดูกันครับ 10 เต็มไม่หักออกบอกเลย สำหับเรื่องนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่