กระโดดหลบไม้เรียวพ่อ ทำให้พ่อเสียหลักล้ม และทำให้มีปัญหากับทางบ้าน

เห็นหัวกระทู้แล้วอาจคิดว่าผมเป็นเด็ก แต่ผมไม่ใช่เด็กแล้วครับ ผมอยู่ในวัยทำงาน อายุ 30 แล้ว มีอะไรหลายอย่างเป็นของตัวเอง มีรถเป็นของตัวเอง เคยเช่าคอนโดอยู่แต่รายได้หลักหายไปเนื่องจากโรคระบาด เลยกลับไปอยู่กับพ่อแม่เหมือนเดิมและหางานใกล้บ้านทำแทน

ซึ่งคุณพ่อผมเป็นคนที่คิดแบบคนโบราณ และมีอคติกับความชอบหลายอย่างของผม และมักจะดุด่าเวลาเห็นผมเล่นเกม หรือไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แล้วกลับมาดึกๆ ก็โดนดุด่าเช่นกัน รวมทั้งเวลาใช้งานทำโน่นทำนี่ ถ้าเรียกครั้งเดียวไม่ตอบ จะตะโกนชื่อผมดังๆ แล้วบ่นจนเพื่อนบ้านได้ยิน

และล่าสุดที่พ่อใช้ไม้เรียวเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เริ่มจากผมฟังเพลงโดยใช้หูฟัง อยู่ในห้องนอนสบายๆ อยู่ๆ พ่อเดินเข้ามา ถอดหูฟังออกนี่บ้านแทบแตกเลยครับ คือพ่อเรียกผมไปทำกับข้าว แต่ผมไม่ได้ยินและไม่ตอบเลยโมโห ทีนี้เห็นพ่อหยิบไม้แขวนเสื้อออกมาจากตู้เสื้อผ้า จะตีผม แต่ผมคิดว่ามันไม่ใช่แล้ว ในวัยนี้ยังจะใช้ไม้เรียวกันอีกเหรอ ผมเลยกระโดดหลบ พ่อยิ่งโมโห ตามมาจะฟาดซ้ำแต่ผมกระโดดหลบอีกแล้วพ่อเสียหลักล้มหัวไปกระแทกกับโต๊ะ ได้รับบาดเจ็บ ผมเลยเรียกรถพยาบาล ส่วนคุณแม่พอรู้เรื่องนี้ก็ออกโรงเข้าข้างพ่อ หาว่าผมเป็นลูกทรพี ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรพ่อเลย พ่อเสียหลักล้มเองต่างหาก

พอญาติๆ รู้เรื่องนี้ ก็เข้าใจว่าผมเป็นลูกทรพี อย่างเมื่อวันก่อนไปเยี่ยมพ่อที่ รพ. ก็ไปเจอญาติ (อา) ที่สีหน้าไม่เป็นมิตรเลย แถมยังถามว่าไปทำพ่อแบบนั้นทำไม พอบอกความจริงก็ยังบอกว่านั่นแหละทรพี 

ตอนนี้เริ่มมีปัญหากับทางญาติๆ แล้วครับ เข้าใจว่าผมเป็นลูกทรพีกันหมด มืดแปดด้านเลยครับ จะหาทางออกยังไงดี
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
พ่อที่ลงไม้ลงมือกับลูกเพียงเพราะตัวเองโมโหเนี่ยนะ เหอะ ๆ

เราไม่แปลกใจที่จะมีเหตุการณ์แบบนี้นะ พ่อเราก็นิสัยเหมือนพ่อจขกท.นี่แหละ ขนาดแยกกันอยู่คนละบ้าน บางวันเจอหน้ากันแค่ 10 นาทียังหาเรื่องมาด่าเราได้เลยทั้งที่เราก็โตแล้ว ทำงานแล้ว

จขกท.ตกงานเลยกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ แต่ก็ไม่ได้นิ่งดูดาย ยังหางานใหม่ทำ ยังออกไปทำงาน ยังแบ่งเงินให้พ่อแม่อยู่เหมือนเดิม

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่จขกท.ใส่หูฟังหรือกระโดดหลบพ่อ ปัญหาอยู่ที่พ่อของจขกท.ที่เอาตัวเองเป็นใหญ่ อยากมีอำนาจเหนือลูกแม้ว่าลูกจะโตแล้ว พอไม่สามารถควบคุมได้ 100% เหมือนตอนลูกยังเรียนหนังสืออยู่เลยยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ ถ้าพ่อคุณไม่เป็นฝ่ายเริ่มก่อนเหตุการณ์จะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย

คนโต ๆ กันแล้วควรคุยกันรู้เรื่องมากกว่านี้นะ คนนึงแก่แล้วคนนึงก็วัยทำงานแล้ว การอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวควรถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไม่ใช่หรือ ถ้าใช้โลจิคว่าบ้านใครกฎคนนั้น เจ้าของบ้านทำอะไรก็ไม่ผิด งั้นคิดสลับกันว่าพ่อจขกท.ไปอยู่บ้านจขกท. จขกท.เรียกพ่อแล้วพ่อไม่ขานรับจขกท.เลยเอาไม้หวดพ่อแบบนี้ได้ไหม คนในบอร์ดจะว่าจขกท.ใจร้ายกับพ่อหรือเปล่า

ครอบครัวจขกท. toxic มากเพราะทั้งแม่ทั้งญาติก็คิดแบบพ่อ อยู่ไปยังไงคุณก็ปวดหัวแน่นอน หาทางย้ายออกมาโดยตัดเงินที่ให้พ่อแม่นั่นล่ะมาเป็นค่าหอ (ถ้าคุณใจแข็งพอนะ) หรือไม่ก็ทนต่อไป (ถ้าทนไหว) แต่ถึงทนไปพ่อคุณก็ไม่เปลี่ยนนิสัยหรอก ย้ายออกดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็นที่ 19
กรรมทันตาเห็นไง
กรรมเป็นเรื่องส่วนบุคคล
อันนี้คือกรรมของพ่อ ชัดเจน

พ่อคิดจะทำร้ายคุณ จิตมี โมหะ โทสะ นี่พ่อก็บาปแระ เป็นมโนกรรม
หยิบไม้ขึ้นมาตี เป็น กายกรรม
ด่าด้วยไหม ถ้าด่าด้วย เป็นวจีกรรม
ครบองค์ประกอบทุกกรรม

แต่ตัวเอง ดันแพ้ภัยตัวเอง หัวโขกเอง นี่สนองกรรมตัวเองชัดๆ

ถึงยอมให้ตี ให้ด่าวันนี้ กรรมก็ต้องสนองอยู่ดีแหละ

ไม่เห็นจะมีอะไรซับซ้อน ไม่เกี่ยวกับทรพี ทรพา อะไรสักนิด
ความคิดเห็นที่ 20
คุณเจ้าของกระทู้เล่าไม่ละเอียดตั้งแต่ต้น  

ความคิดเห็นที่ 1-1
ก็คิดจะทำแบบนี้อยู่ครับแต่รายได้ ณ ตอนนี้ มันไม่พอให้ทำแบบนั้นครับ ค่าผ่อนรถ กับส่งเงินให้ที่บ้าน รวมกันก็ 70% ของเงินเดือนแล้ว ถ้าส่งให้น้อยกว่านี้เป็นปัญหาแน่ เพราะบ้านยังต้องผ่อนอยู่


ความคิดเห็นที่ 10-1
ไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆ นะครับ เงินผมก็ส่งให้เกือบครึ่งของเงินเดือน งานบ้านก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว กับข้าวผมก็ทำสลับกับแม่เป็นประจำ คือมีหน้าที่เป็นของตัวเอง แต่เวลาที่เกิดเหตุมันเป็นเวลาพักผ่อน ตอนนั้นดึกมากแล้ว นอนฟังเพลงรอให้ง่วงหลับไป แล้วพ่อก็ขึ้นมาใช้งาน ด้วยอารมณ์โมโหดังกล่าว



หยุดส่งเงินให้ที่บ้าน แล้วย้ายออกไปอยู่ด้วยตัวเอง  มีเหลือพอเมื่อไหร่ ก็ค่อยส่งให้  ไปมาหาสู่เยี่ยมเยียนกันตามปกติ  แต่อย่าอยู่ด้วยกัน

คุณโตแล้ว  ต้องรับผิดชอบตัวเองให้ได้  พ่อแม่เองก็โตแล้ว  ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองเช่นกัน  

ไม่มีใครเปลี่ยนนิสัยใครได้ พ่อแม่คุณเขาก็เปลี่ยนไม่ได้  เรื่องพวกนี้ มันก็พัวๆพันๆไม่จบไม่สิ้น  คนเป็นเจ้าของบ้าน เขาก็มีความคิดของเขาอย่างนึง  คุณอยู่ในฐานะผู้อาศัย สิ่งที่คุณคิด คุณทำ  เขาไม่ได้คิดแบบเดียวกัน
ความคิดเห็นที่ 43
อ่านกระทู้นี้แล้วตลกมาก อยู่บ้านพ่อแม่ต้องทำตามกฎพ่อแม่ ?

จขกท.ก็บอกอยู่ว่าเค้าเป็นคนหาเงินส่งให้ที่บ้านใช้ ซึ่งบ้านก็ยังต้องผ่อนอยู่ แสดงว่าจขกท.เป็น 1 ในคนที่ผ่อนบ้านครับ จขกท.เป็นเจ้าของบ้านด้วยซ้ำ ไอ้แบบนี้ยังต้องทำตามกฎอะไรของใครอีกเหรอครับ ?

การเล่นเกมจะวัยไหน 30-40-50-60 ถ้าอยากเล่นก็เล่นได้ครับ ไอ้ตรรกะว่าอายุ 30 แล้วยังมัวแต่เล่นเกมนี่เป็นตรรกะที่โคตรโลกแคบและหัวโบราณสุดๆ(และเป็นชุดตรรกะเดียวกับพ่อจขกท.นั่นแหละ) จขกท.เองก็ไม่ได้เล่นเกมทั้งวันทั้งคืน เกาะพ่อเกาะแม่กินอยู่ที่บ้านเฉยๆซะเมื่อไหร่ งานการก็หาทำ เงินก็ยังส่งเสียให้ที่บ้านเหมือนเดิม เอาเวลาว่างมาพักผ่อนมันผิดตรงไหนอ่ะ ?

ผมเองก็ยังอาศัยอยู่ที่บ้านครับ อายุก็ใกล้เลข 3 แล้ว ค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดตอนนี้ผมรับผิดชอบครับ จะบอกว่าผมมีอำนาจสูงสุดในบ้านก็ได้ แต่ก็ไม่เคยมานั่งตั้งกฎในบ้านนะว่าใครต้องปฎิบัติตัวยังไง พ่อแม่อยากทำอะไรก็ทำ ผมอยากทำอะไรก็ทำ แค่เราไม่ก้าวก่ายกันไม่บังคับกันว่าแต่ละคนต้องทำอะไร ชีวิตก็มีความสุขดีนะครับ

ผมมองว่าครอบครัวจขกท.ค่อนข้าง Toxic มาก และจขกท.เองอาจจะเป็นฝ่ายยอมพ่อกับแม่มาโดยตลอดด้วย ถ้าเป็นผมน่าจะต้องมีเปิดศึกเถียงกันแรงๆสักครั้งให้มันจบไปครับ จะโดนด่าว่าทรพีอะไรก็เอาเถอะ ผมถือว่าเราทำทุกอย่างให้กับครอบครัวได้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว
ความคิดเห็นที่ 2
โต 30 ก็น่าจะคิดแบบคน 30 ครับ
ผมบอกได้แค่นี้ เพราะเห็นว่าอายุเยอะพอควรแล้ว
ลองนึกทบทวนดูนะครับ ว่าควรทำอะไร หรือ ไม่ควรทำอะไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่