ตั้งแต่เล็กจนโตเราสองพี่น้องได้รับความกดดันอย่างมากจากคุณปู่คุณย่า เนื่องจากพวกท่านไม่ชอบที่พ่อมาแต่งงานกับแม่พวกท่านเลยพยายามเสี้ยมสอนเราให้เกลียดแม่ แต่พวกเขากับทำตรงกันข้าม พวกเขาทำให้เราสองคนพี่น้องเกลียดพวกท่านแทน ทางด้านพ่อเองก็ไม่เคยทำให้พวกเราสองคนเชื่อใจท่านได้เลยว่าจะไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องชู้สาว นั่นเป็นเพราะพวกเราแอบเห็นแม่มักจะแอบไปนั่งร้องไห้ที่สวนหลังบ้านเสมอ และมีหลายครั้งมักจะมีผู้หญิงโทรเข้ามาหาพ่อ บ้างก็โทรเข้ามาหาเบอร์ของบ้านจนทำให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันบ่อยๆ
แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่าตัวเองเป็นเลขาของพ่อเดินเข้ามาหาถึงในบ้านแล้วบอกว่าขอคุยกับพ่อเป็นการส่วนตัวได้ไหม...ซึ่งพ่อก็ทำ แถมยังอาสาขับรถไปส่งเจ้าหล่อนถึงบ้านด้วย ในตอนที่พ่อเอ่ยแบบนั้นกับผู้หญิงคนนั้น พ่อก็ไม่ได้สนใจพวกเราหรือให้เกียรติแม่เลย ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็มีทั้งคุณยาย แม่ และเราสองคนพี่น้องยืนอยู่ด้วยกันแท้ๆ
ยายเราที่เห็นเหตุการทุกอย่างและทนไม่ไหวจึงเดินไปบอกกับพ่อในวันต่อมาว่าเธอจะหอบลูกและหลานหนีไปถ้าพ่อยังเป็นคนที่ทำตามความต้องการเบื้องล่างดั่งพวกติดสัตว์ไม่มีวันเลิกราอยู่แบบนี้ หากยังมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบชั่วดีอยู่บ้างก็ควรหยุดพฤติกรรมแย่ๆ นั่นซะ ถ้ายังอยากจะเป็นพ่อและสามีที่ดีก็ทำให้ได้ไม่งั้นก็หย่ากับลูกสาวเธอซะ...
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ปู่กับย่าเองก็ไม่มายุ่งวุ่นวายบ้านเราอีก พวกผู้หญิงที่เคยโทรมารบกวนก็หายไป...แต่พ่อกับแม่ไม่หย่ากัน ที่แม่ไม่ยอมหย่ากับพ่อทั้งๆ ที่เขาก็ทำแม่เจ็บมามาก มันเป็นเพราะท่านอยากให้เราพี่น้องมีทั้งพ่อและแม่...ท่านทำเพื่อให้เราพี่น้องมีความสุข
หลายปีผ่านมาแล้วจากเหตุการในวันนั้น ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี พ่อกับแม่ไปไหนมักไปด้วยกันตลอด...แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นฉันและพี่ก็ยังไม่สามารารถเชื่อใจพ่อได้อยู่ดี ยิ่งปู่กับย่ายิ่งแล้วใหญ่
ขอถามหน่อยค่ะ ทำยังไงถึงจะเลิกหวาดระแวงพ่อได้สักทีคะ?
ทำยังไงถึงจะหยุดหวาดระแวงเรื่องพ่อจะแอบเล่นชู้อีกคะ?
แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่าตัวเองเป็นเลขาของพ่อเดินเข้ามาหาถึงในบ้านแล้วบอกว่าขอคุยกับพ่อเป็นการส่วนตัวได้ไหม...ซึ่งพ่อก็ทำ แถมยังอาสาขับรถไปส่งเจ้าหล่อนถึงบ้านด้วย ในตอนที่พ่อเอ่ยแบบนั้นกับผู้หญิงคนนั้น พ่อก็ไม่ได้สนใจพวกเราหรือให้เกียรติแม่เลย ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็มีทั้งคุณยาย แม่ และเราสองคนพี่น้องยืนอยู่ด้วยกันแท้ๆ
ยายเราที่เห็นเหตุการทุกอย่างและทนไม่ไหวจึงเดินไปบอกกับพ่อในวันต่อมาว่าเธอจะหอบลูกและหลานหนีไปถ้าพ่อยังเป็นคนที่ทำตามความต้องการเบื้องล่างดั่งพวกติดสัตว์ไม่มีวันเลิกราอยู่แบบนี้ หากยังมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบชั่วดีอยู่บ้างก็ควรหยุดพฤติกรรมแย่ๆ นั่นซะ ถ้ายังอยากจะเป็นพ่อและสามีที่ดีก็ทำให้ได้ไม่งั้นก็หย่ากับลูกสาวเธอซะ...
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ปู่กับย่าเองก็ไม่มายุ่งวุ่นวายบ้านเราอีก พวกผู้หญิงที่เคยโทรมารบกวนก็หายไป...แต่พ่อกับแม่ไม่หย่ากัน ที่แม่ไม่ยอมหย่ากับพ่อทั้งๆ ที่เขาก็ทำแม่เจ็บมามาก มันเป็นเพราะท่านอยากให้เราพี่น้องมีทั้งพ่อและแม่...ท่านทำเพื่อให้เราพี่น้องมีความสุข
หลายปีผ่านมาแล้วจากเหตุการในวันนั้น ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี พ่อกับแม่ไปไหนมักไปด้วยกันตลอด...แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นฉันและพี่ก็ยังไม่สามารารถเชื่อใจพ่อได้อยู่ดี ยิ่งปู่กับย่ายิ่งแล้วใหญ่
ขอถามหน่อยค่ะ ทำยังไงถึงจะเลิกหวาดระแวงพ่อได้สักทีคะ?