เท่าที่ตามข่าว ทีมที่เป็นตัวตั้งตัวตีคือทีมใหญ่ที่อยากเล่นถ้วยใหญ่ต่อไปโดยมีซิตี้และเชลซีต้องยอมตกกระไดพลอยโจน
ลองวิเคาะห์ดูว่า ESL ยูโรซุปเปอร์ลีคดียังไงสำหรับทีมใหญ่ อย่างแรกคือต้นทุนน้อยกว่าเนื่องจากใช้นักเตะดีๆน้อยกว่า
ปัญหาที่ทีมใหญ่เจอคือต้องแบ่งนักเตะไปเตะกลางสัปดาห์แล้วยังต้องแบ่งนักเตะอีกส่วนไปเตะปลายอาทิตย์
นักเตะต้องใช้ตัวดีๆเยอะ ไม่งั้นก็พอเน้นกลางสัปดาห์ ปลายอาทิตย์ก็แผ่วแล้วก็แพ้จนหล่นไปกลางตาราง
มันไม่เหมือนสมัยก่อนที่ยังไงบิ๊กโฟล์ได้เล่นถ้วยยุโรปทุกปี ทีมในลีคสมัยนี้ไม่จัดเต็มทีมโดนกลางตารางสอยคาบ้านได้ง่ายๆ
แล้วฤดูกาลต่อมาไปเตะยูโรป้าแทน จนกลายเป็นจ้าวยูโรป้า
แต่ถ้าจะซื้อนักเตะดีๆเยอะๆพอลุ้นสองด้านก็ใช้เงินเยอะเกินจนขาดทุนสู้ไม่ไหว
สู้มาตั้งลีคยุโรปทีมยักษ์เตะกันเองดีกว่า เน้นเตะแค่ถ้วยเดียว ได้เงินมากกว่า ใช้นักเตะแพงๆน้อยกว่า ได้เล่นทุกปีไม่มีตกชั้น
และถ้าพรีเมียร์ลีคไม่รับ ลาลีกาไม่รับ ซีรี่อาไม่รับร่วมลีค ก็จัดเตะมันปลายอาทิตย์ไปเลย
แล้วดูว่าแฟนบอลจะเลือกดูใคร ระหว่างแมนยูเตะกับมาดริด มีแต่ทีมใหญ่ๆเตะกัน
หรือจะเปลี่ยนช่องไปดูบิ๊กแมทช์ประจำฤดูกาลของพรีเมียร์แย่งตำแหน่งแชมป์ เลสเตอร์เจอกับเวสแฮม
ส่วนกลางสัปดาห์ก็นอนพักผ่อน รอนัดชิงบาเยิร์นกับ PSG นัดเดียว
ESL กล่าวอีกนัยคือเอายอดทีมยุโรปมาเจอกันเลย ไม่ต้องไปเสียเวลาเตะกับทีมยุโรปเล็กๆหรือทีมกลางตารางในประเทศอีก
เพราะเส้นทางมันไม่ง่ายเหมือนยุคก่อน ขุมกำลังไม่แน่นจริงๆ ก็ต้องเลือกถ้วยเดียว
ได้ข่าวว่าบอร์ดบริหารทีมหนึ่งบอกว่าเจ้าของทีมตัดสินใจแล้ว ถ้าลีคในประเทศไม่รับ ก็ไม่ง้อ
ถ้ายังรับอยู่ก็จะจัดตัวสำรองไปเตะ ลับฝีเท้าตัวสำรองและเด็กใหม่ เพราะถ้วยในประเทศเงินตอนนั้นคงน้อย
เพราะเค้ารู้ว่ามีผู้สนใจเตรียมซื้อลิขสิทธิถ่ายทอด ESL แล้วในราคาสูง แถมยังได้เงิน 3.5 พันล้านเอาไปแบ่งกันในช่วงฝ่าโควิด
ถ้านักเตะจะไม่ได้เล่นทีมชาติ เจ้าของทีมจะแอบดีใจด้วยซ้ำ
ส่วนนักเตะก็เลือกเองว่าจะติดธงหรือจะเอาเงิน เอาทั้งสองทางไม่ได้แล้วถ้าฟีฟ่าจะเล่นด้วย
ปราศจาก 12 ทีมนี้ ลีคในประเทศใครจะอยากซื้อลิขสิทธิ ทีมไหนในลีคจะยอมจ่ายค่าเหนื่อยแพงๆ
ส่วนแชมเปี้ยนลีคเดิมถ้ายังฝืนจัดก็ไม่ได้เงิน ใครซื้อลิขสิทธิเส้นทางก่อนมาเจอกันในนัดชิงของบาเยิร์นกับ PSG ใครจะอยากดู
นี่เป็นเหตุผลที่ซิตี้และเชลซีลังเล สุดท้ายก็ต้องกระโจน เพราะเงินจะจ่ายนักเตะจะมาทางนี้ต่อไป
เหตุผลที่แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี ต้องยอมกระโจนลงเล่นซุปเปอร์ลีค
ลองวิเคาะห์ดูว่า ESL ยูโรซุปเปอร์ลีคดียังไงสำหรับทีมใหญ่ อย่างแรกคือต้นทุนน้อยกว่าเนื่องจากใช้นักเตะดีๆน้อยกว่า
ปัญหาที่ทีมใหญ่เจอคือต้องแบ่งนักเตะไปเตะกลางสัปดาห์แล้วยังต้องแบ่งนักเตะอีกส่วนไปเตะปลายอาทิตย์
นักเตะต้องใช้ตัวดีๆเยอะ ไม่งั้นก็พอเน้นกลางสัปดาห์ ปลายอาทิตย์ก็แผ่วแล้วก็แพ้จนหล่นไปกลางตาราง
มันไม่เหมือนสมัยก่อนที่ยังไงบิ๊กโฟล์ได้เล่นถ้วยยุโรปทุกปี ทีมในลีคสมัยนี้ไม่จัดเต็มทีมโดนกลางตารางสอยคาบ้านได้ง่ายๆ
แล้วฤดูกาลต่อมาไปเตะยูโรป้าแทน จนกลายเป็นจ้าวยูโรป้า
แต่ถ้าจะซื้อนักเตะดีๆเยอะๆพอลุ้นสองด้านก็ใช้เงินเยอะเกินจนขาดทุนสู้ไม่ไหว
สู้มาตั้งลีคยุโรปทีมยักษ์เตะกันเองดีกว่า เน้นเตะแค่ถ้วยเดียว ได้เงินมากกว่า ใช้นักเตะแพงๆน้อยกว่า ได้เล่นทุกปีไม่มีตกชั้น
และถ้าพรีเมียร์ลีคไม่รับ ลาลีกาไม่รับ ซีรี่อาไม่รับร่วมลีค ก็จัดเตะมันปลายอาทิตย์ไปเลย
แล้วดูว่าแฟนบอลจะเลือกดูใคร ระหว่างแมนยูเตะกับมาดริด มีแต่ทีมใหญ่ๆเตะกัน
หรือจะเปลี่ยนช่องไปดูบิ๊กแมทช์ประจำฤดูกาลของพรีเมียร์แย่งตำแหน่งแชมป์ เลสเตอร์เจอกับเวสแฮม
ส่วนกลางสัปดาห์ก็นอนพักผ่อน รอนัดชิงบาเยิร์นกับ PSG นัดเดียว
ESL กล่าวอีกนัยคือเอายอดทีมยุโรปมาเจอกันเลย ไม่ต้องไปเสียเวลาเตะกับทีมยุโรปเล็กๆหรือทีมกลางตารางในประเทศอีก
เพราะเส้นทางมันไม่ง่ายเหมือนยุคก่อน ขุมกำลังไม่แน่นจริงๆ ก็ต้องเลือกถ้วยเดียว
ได้ข่าวว่าบอร์ดบริหารทีมหนึ่งบอกว่าเจ้าของทีมตัดสินใจแล้ว ถ้าลีคในประเทศไม่รับ ก็ไม่ง้อ
ถ้ายังรับอยู่ก็จะจัดตัวสำรองไปเตะ ลับฝีเท้าตัวสำรองและเด็กใหม่ เพราะถ้วยในประเทศเงินตอนนั้นคงน้อย
เพราะเค้ารู้ว่ามีผู้สนใจเตรียมซื้อลิขสิทธิถ่ายทอด ESL แล้วในราคาสูง แถมยังได้เงิน 3.5 พันล้านเอาไปแบ่งกันในช่วงฝ่าโควิด
ถ้านักเตะจะไม่ได้เล่นทีมชาติ เจ้าของทีมจะแอบดีใจด้วยซ้ำ
ส่วนนักเตะก็เลือกเองว่าจะติดธงหรือจะเอาเงิน เอาทั้งสองทางไม่ได้แล้วถ้าฟีฟ่าจะเล่นด้วย
ปราศจาก 12 ทีมนี้ ลีคในประเทศใครจะอยากซื้อลิขสิทธิ ทีมไหนในลีคจะยอมจ่ายค่าเหนื่อยแพงๆ
ส่วนแชมเปี้ยนลีคเดิมถ้ายังฝืนจัดก็ไม่ได้เงิน ใครซื้อลิขสิทธิเส้นทางก่อนมาเจอกันในนัดชิงของบาเยิร์นกับ PSG ใครจะอยากดู
นี่เป็นเหตุผลที่ซิตี้และเชลซีลังเล สุดท้ายก็ต้องกระโจน เพราะเงินจะจ่ายนักเตะจะมาทางนี้ต่อไป