น่าตกใจ! ยอด ‘โควิด-19’ วันนี้ยิ่งพุ่ง ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1,767 ราย
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/932950
รายงานสถานการณ์โคโรนาไวรัสล่าสุด วันนี้ 18 เมษายน 2564 ยังแย่ลงอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทะลุหลักพันติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยยอดผู้ติดเชื้อทะลุพันเจ็ดร้อยรายเป็นครั้งแรก ซึ่งรายงานจาก รายงานอัพเดทสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ประจำวัน 18 เมษายน 2564 หรือ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1,767 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 42,352 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต 
 
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้น สามารถแบ่งออกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 1,765 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,477 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 288 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 2 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 28,683 ราย 
 
ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 64 ถึง 18 เม.ย. 64 พบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่เพิ่ม 1,767 ราย ทำให้ในระยะเวลาเพียง 18 วันของการระบาดระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อสะสมไปแล้ว 13,489 ราย
 
สำหรับ สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก ในวันเสาร์ที่ 17 เมษายน 2564 เวลา 10.00 น. พบว่า มียอดผู้ติดเชื้อรวม 140,511,425 ราย  ผู้ป่วยอาการรุนแรง 107,017 ราย รักษาหายแล้ว 119,330,709 ราย เสียชีวิต 3,012,007 ราย 
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่
1. สหรัฐอเมริกา  จำนวน 32,305,912 ราย
2. อินเดีย  จำนวน 14,521,683 ราย
3. บราซิล จำนวน 13,834,342 ราย
4. ฝรั่งเศส  จำนวน 5,224,321 ราย
5. รัสเซีย  จำนวน 4,684,148 ราย
 
ประเทศไทย  อยู่ในอันดับที่ 110 จำนวน 40,585 ราย
 

---

สวนดุสิตโพลคนหนุนหยุดยาวกระตุ้นศก.-เน้นอยู่บ้าน
https://www.innnews.co.th/news/news-general/news_83927/

สวนดุสิตโพล เผย คนหนุนหยุดยาวกระตุ้น ศก. ส่วนใหญ่เน้นพักผ่อนอยู่บ้าน ขณะก่อนโควิดระบาดออกเดินทางท่องเที่ยว
 
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,447 คน เรื่อง วันหยุดของคนไทยระหว่างวันที่ 6-15 เมษายน 2564 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.28 ระบุ ไทยมีวันหยุดเหมาะสม รองลงมาร้อยละ32.34 ระบุ มีมากเกินไปร้อยละ 14.38 ระบุ มีน้อยเกินไป
 
เมื่อถามว่าประชาชนให้ความสำคัญกับวันหยุดในช่วงเทศกาลใดมากที่สุด พบว่า ร้อยละ 81.30 ระบุ วันขึ้นปีใหม่ รองลงมาร้อยละ 76.56 ระบุ วันสงกรานต์ ร้อยละ48.37 ระบุ วันพ่อ/วันแม่ ร้อยละ 34.99 ระบุ วันเข้าพรรคษา/ออกพรรษา
เมื่อถามถึงกิจกรรมที่ประชาชนทำในวันหยุด พบว่า ร้อยละ 73.39 ระบุ พักผ่อน รองลงมาร้อยละ 70.69 ระบุ อยู่กับครอบครัวร้อยละ 52.81 ระบุ ทำความสะอาดบ้าน
 
ทั้งนี้ เมื่อถามถึงกิจกรรมที่เคยทำในวันหยุดแล้วเปลี่ยนไปเมื่อมีโควิด-19 พบว่า ร้อยละ58.95 ระบุ เดินทางท่องเที่ยวรองลงมาร้อยละ 52.06 ระบุ ไปห้างสรรพสินค้า/ตลาด ร้อยละ 50.80 ระบุ ไปสงสรรค์/ไปงานรื่นเริง
 
พร้อมกันนี้ ประชาชนร้อยละ79.78 ระบุ ขอดีของวันหยุดหลายวันคือได้พักผ่อนอยู่กับบ้าน ขณะประชาชนร้อยละ 58.36 ระบุ ข้อเสียคือกระทบต่อการทำงาน/รายได้
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ กับการประกาศวันหยุดพิเศษ/วันหยุดยาวเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจพบว่า ร้อยละ 62.34 ระบุ เห็นด้วย รองลงมาร้อยละ 23.50 ระบุ ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 14.16 ระบุ ไม่แน่ใจ
 

---

 
อนามัยโลกเตือน โควิดอินเดีย กลายพันธุ์ 2 ตำแหน่ง อาจระบาดเร็ว
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6339920

อนามัยโลกเตือน – วันที่ 17 เม.ย. รอยเตอร์ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมที ผู้นำอินเดีย วิงวอนให้นักพรตและชาวฮินดูหลายแสนคนที่มารวมกลุ่มอาบน้ำที่แม่น้ำคงคา ทางเหนือของประเทศ เพื่อชำระล้างบาป ในพิธีมหากุมภะเมลา ตามความเชื่อศาสนาพราหมณ์-ฮินดู งดพิธีดังกล่าว

ท่ามกลางผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 200,000 คน ติดต่อกันเป็นวันที่สามแล้ว โดยผู้ติดเชื้อใหม่รอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด อยู่ที่ 234,692 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นเกือบ 14.5 ล้านคน เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 175,649 ราย
 
นายกรัฐมนตรีโมทีทวีตข้อความว่า พิธีดังกล่าวตอนนี้ควรเป็นเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่ผู้นำศาสนาตอบรับผู้นำประเทศและเรียกร้องให้ประชาชนอย่ารวมกลุ่มกัน

ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการจัดการวิกฤตสาธารณสุข เนื่องจากเทศกาลศาสนาและการหาเสียงเลือกตั้งยังดำเนินต่อไป แม้จะมีรายงานการขาดแคลนเตียงผู้ป่วย ถังออกซิเจน และวัคซีนป้องกันโควิด-19
 
โดยเฉพาะการหาเสียงเลือกตั้งของนายกรัฐมนตรีโมทีเอง 2 ครั้ง ในรัฐเบงกอลตะวันตกที่จะมีการเลือกตั้งระดับรัฐ ผู้สนับสนุนหลายพันคนเข้าร่วม แต่น้อยคนจะปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยจากโควิด-19
 
วันเดียวกัน บลูมเบิร์ก รายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่ก่อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ บี.1.617 ซึ่งอุบัติขึ้นในอินเดีย อาจมีความสามารถในการระบาดอย่างรวดเร็ว หรือลดทอนตัวลบล้างฤทธิ์ จากการกลายพันธุ์ลักษณะเฉพาะ
 
มาเรีย แวน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคโควิด-19 ของ WHO แถลงว่า คณะผู้ศึกษาจีโนมโควิด-19 แห่งอินเดีย (INSACOG) เปิดเผยว่า บี.1.617 ปรากฏครั้งแรกในอินเดียเมื่อ 7 ธ.ค. 2563 มีการกลายพันธุ์ลักษณะเฉพาะ 2 ตำแหน่ง ได้แก่ อี484คิว และ แอล452อาร์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่พบในสายพันธุ์ไวรัสที่ระบาดเป็นวงกว้าง และตั้งข้อสังเกตว่า บี.1.617 กำลังกระจายไปหลายประเทศ และมีรายงานการตรวจพบทั่วเอเชียและอเมริกาเหนือ
 
อย่างไรก็ตาม WHO จัดให้ไวรัสกลายพันธุ์ 2 ตำแหน่ง เป็นเชื้อที่ต้องสืบสวน หรือเป็นเชื้อที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนแต่ต้องเริ่มเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และยังไม่บ่งชี้ถึงความจำเป็นต้องยกระดับการดำเนินการสาธารณสุขหรือไม่
 
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอินเดียออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า บี.1.617 สามารถเพิ่มอัตราการติดเชื้อและอาจหลุดรอดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลแถลงพบบี.1.617 เป็นครั้งแรกในประเทศ โดยผู้ติดเชื้อเป็นชาวอิสราเอล 7 คน เดินทางมาจากต่างประเทศ และทั้งหมดยังไม่ได้รับวัคซีน