ขายดาวน์รถ ไม่เปลี่ยนสัญญา คนซื้อไม่ส่งต่อ ขอคืนรถกลับถูกปฏิเสธ

ยาวหน่อยนะครับ
ก่อนอื่นขอเล่าที่มาที่ไปก่อนจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น

เมื่อต้นปี 64 ที่ผ่านมา ผมวางแผนจะซื้อบ้าน เพราะตอนนี้ผมอายุย่าง 41 ปีแล้ว ถ้าช้าไปกว่านี้ก็จะลำบากในการส่งบ้านหลังเกษียณ

ตอนนี้ผมเช่าบ้านอยู่กับแฟนและน้องที่ออฟฟิศเดียวกัน รวม 3 คน ค่าเช่าบ้านรวมน้ำไฟประมาณ 12,000 บาท ใช้วิธีหารค่าใช้จ่ายกัน ผมจ่าย 6,000 แฟนผมและน้องที่ออฟฟิศ คนละ 3,000 บาท

ปัจจุบันผมเป็นพนักงานออฟฟิศ มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนประมาณเกือบห้าหมื่นบาท ถ้าจะให้กู้บ้านผ่านง่ายๆ ภาระค่าใช้จ่าย 40 เปอร์เซ็นของรายได้ ผมจะต้องมีหนี้ที่ต้องชำระไม่เกิน 32,000 บาทต่อเดือน ลองพิจารณาดูแล้ว ค่างวดรถ น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ได้พอสมควร อีกอย่าง ผมใช้รถของแฟนขับไปทำงานทุกวัน เพราะทำงานที่เดียวกัน ส่วนรถผม น้องสาวใช้งานอยู่

ผมลองหาวิธีจากอินเตอร์เน็ตก็พบว่า ขายดาวน์ เปลี่ยนสัญญาผู้เช่าซื้อ สามารถทำได้ เลยถ่ายรูปรถลงประกาศทางสื่อออนไลน์ มีคนสนใจอินบ็อกซ์เข้ามาสอบถามหลายคน อธิบายรายละเอียด ว่ารถยังติดส่งค่างวด แล้วก็เงียบไป จนกระทั่งพบกับคู่กรณีคนนี้

เขาโทรสอบถามรายละเอียด ซึ่งผมแจ้งไปว่า รถยังติดส่งค่างวดอยู่ เดือนละ 16,618 ถ้าสนใจก็สามารถนัดดูรถและเปลี่ยนสัญญาได้เลย แต่ตอนนี้รถยังอยู่กับน้องสาวเพราะใช้งานอยู่ เขาบอกผมว่า เขาสนใจ และเร่งขอนัดดูรถเร็วๆ ถ้าผมยังไม่พร้อมให้เขาดู เขาอาจจะหาจากเจ้าอื่นและตัดสินใจเลย ผมเลยต้องรีบไปเอารถจากบ้านน้องสาวมา

วันเสาร์ที่ 20 ก.พ. ผมขับรถไปที่บ้านคู่กรณี เพื่อให้ดูสภาพรถ เขาพอใจมาก และตกลงทำสัญญาโดยเขาปริ๊นเป็นสัญญาซื้อขายรถยนต์จากอินเตอร์เน็ต ซึ่งผมบอกตามตรงว่า ตอนนั้น ผมยังไม่เข้าใจขั้นตอนและรายละเอียดของการเปลี่ยนสัญญาเลย ตอนที่คุยกันกับคู่กรณีผมเข้าใจว่า เขาจะเปลี่ยนสัญญาเป็นชื่อเขาเลยพร้อมรับรถไปผ่อนต่อจนครบถ้วน ผมมาเข้าใจทีหลังว่า ผู้ขายดาวน์ซึ่งเป็นผม ควรจัดทำหนังสือสัญญาขึ้นมาหนึ่งฉบับ โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้ซื้อดาวน์รถ มีหน้าที่จะต้องไปผ่อนต่อจนครบถ้วน แต่หากผู้ซื้อดาวน์รถไม่ชำระค่างวด หรือปฏิบัติผิดสัญญา ผู้ขายดาวน์รถมีสิทธิ์ที่จะยึดรถคืนได้ทันที แต่รายละเอียดในสัญญาซื้อขายไม่ใช่แบบนี้ สุดท้ายผมก็เซ็นต์ชื่อเป็นผู้ขายแบบงงๆ แต่ก๋ยังมียื้อเวลาเรื่องขอรถให้น้องสาวทำธุระก่อน ถึงสิ้นเดือนจะนำรถมาให้ เขาอ้างว่า เขาไม่มีรถใช้ ทุกวันเมียใช้ไปซื้อพวกเหล้าเบียร์ต้องจ้างรถวันละ 500-600 บาท ผมก็รู้สึกกระอักกระอ่วน เลยตัดสินใจให้รถไปเลย แล้วจะคุยกับน้องสาวทีหลัง

ตอนกลับบ้านคู่กรณีอาสาขับรถผม มาส่งผมที่บ้านเช่า ระหว่างทางผมก็ถามว่า ทำไมถึงยังไม่เปลี่ยนสัญญา เขาบอกผมว่า เขาจะเปลี่ยนสัญญาให้เดือนกรกฎาคม เพราะเขายังติดเรื่องภาระส่งบิ๊กไบท์ และอาคารพาณิชย์ที่เขาทำธุรกิจเหล้าเบียร์บุหรี่ เขาบอกผมว่า ด้วยธุรกิจที่เขาทำอยู่ เขามีศักยภาพในการชำระค่างวดต่างๆต่อเดือนหลักแสน แต่ในระหว่างนี้เขาจะจ่ายค่างวดให้กับผมทุกเดือนจนกว่าจะเปลี่ยนสัญญา ผมคิดในใจว่า ก็โอเค..อย่างน้อยก็ยังพอมีเวลาเคลียร์ภาระเรื่องรถ ช่วงธนาคารที่ยื่นเรื่องกู้บ้านจะพิจารณาเครดิตบูโร ก่อนโอนกรรมสิทธิ์บ้านเดือนสิงหาคม

ผ่านไปไม่นาน ถึงวันที่ต้องชำระค่างวด ผมแจ้งคู่กรณีไปว่าถึงรอบชำระทุกวันที่ 5 แล้ว เขาบอกว่า ผมได้ยินว่าจ่ายไม่เกินวันที่ 10 แต่ยังไงจะจัดการให้ ผมก็ตอบไปว่าถ้าอย่างนั้นรบกวนรีบชำระเข้ามาให้ด่วน

ด้วยที่ผมกลัวจะเสียเครดิต ตราบใดที่รถยังเป็นชื่อผมอยู่ ตั้งแต่ผมส่งค่างวดมา 27 งวดแล้วไม่เคยจ่ายล่าช้าเลย ไม่เคยเสียประวัติ กลายเป็นว่าผมเลยต้องเบิกเงินสดจากสินเชื่อบุคคลมาจ่ายค่างวดแทนคู่กรณีไปก่อน มีการติดตามทวงถามมาตลอด จนกระทั่งเดือนที่สอง เขาบอกจะจัดการให้ก็ยังไม่โอนมาให้ ผมเริ่มรู้สึกไม่โอเคแล้ว เพราะไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ เลยแจ้งว่าจะขอรับรถคืน และขอให้จ่ายค่างวดสองเดือนให้ครบภายในสิ้นเดือนเม.ย. คู่กรณีกลับเพิกเฉยไม่สนใจบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด อ้างแต่ว่าในสัญญา ผมก็บอกจะปิดค่างวดให้ แต่ผมยังไงไม่สะดวกให้รถคืนไป

ผมคุยกับน้องสาว แนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันและรีบติดต่อไฟแนนซ์เพื่อออกหนังสือมอบอำนาจให้จนท.ตำรวจดำเนินคดีต่อไป น้องสาวผมก็ไม่อยากตำหนิ ได้แค่ปรึกษากับผู้ใหญ่ที่รู้จัก และให้คำแนะนำกับผมเท่านั้น น้องสาวก็บอกว่าก็ถือว่าเป็นบทเรียนแล้วกัน ผู้ใหญ่ที่รู้จักก็บอก มีเงินแต่ก็ต้องมีสมองด้วย เพราะถ้าเรื่องไปถึงไฟแนนซ์ เป็นเรื่องทางกฎหมาย ตัวเราเองจะโดนคดีแพ่งเพราะผิดสัญญาเช่าซื้อกับไฟแนนซ์ เค้ามีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาทันที ส่วนคู่กรณีก็จะโดนคดีอาญาเรื่องรับซื้อของโจรไป

กรณีนี้ ผมตัดสินใจโดยไม่ได้ปรึกษาใคร หรือคิดให้รอบคอบก่อนที่จะขายดาวน์ มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรจริง แต่ไม่มีข้อตกลงสภาพบังคับกรณีที่ผู้ซื้อดาวน์รถผิดสัญญา ผู้ขายดาวน์มีสิทธิ์ทำอะไรได้บ้าง

ตอนนี้ทราบแล้ว เป็นอุทาหรณ์ว่า หากต้องการขายดาวน์ เปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อ เปลี่ยนผู้เช่าซื้อ ดีที่สุดครับ

และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าผมไม่ได้มีเจตนาทุจริต หรือแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นองค์ประกอบความผิด ฐานข้อหาลักทรัพย์หรือฉ้อโกง

ผมกำลังนำเอกสารหลักฐานในการชำระเงินค่างวด หลักฐานข้อความที่สนทนาทางแอพพลิเคชั่นต่างๆ รายละเอียดการใช้โทรศัพท์ สำเนาบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้านของผู้ซื้อดาวน์รถ มอบให้กับไฟแนนซ์ เพื่อออกหนังสือมอบอำนาจให้ดำเนินการตามกฎหมายขั้นตอนต่อไป

ขอบคุณที่สละเวลาในการอ่านจนจบ และขอให้เป็นกรณีตัวอย่าง หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่