เนื่องจากเรารู้จักกับผู้ชายในAppหาคู่ ได้สักระยะ ก็นัดเจอกัน เราคิดต่างคนต่างคุยเล่นๆ คงไม่นานแยกย้ายกันไปแหละ ไม่มีไรหรอกมั้ง แต่ด้วยความสนิทมากขึ้นๆ ตอนปลายปี 2563 เราลองใจว่า เราอยากได้แหวนทอง พูดลอยๆนะไม่ได้ตั้งใจว่าจะให้เขาซื้อให้ เขาโอนเงินมาให้เราซื้อ ก็คิดนะว่า เขาจะลงทุนอะไร หรือหวังอะไรจากเรามั้ย แต่ก็ช่างเหอะ คงไม่มีอะไร หลังจากนั้นมา เขาก็วางแผนสารพัด สร้างบ้าน ซื้อรถ และตอนนี้ เขาก็ยังโอนเงินให้เราผ่อนรถทุกเดือน โดยที่ไม่อือไม่หือเลย เเต่เราติดใจตรงที่เจาเป็นคนที่หวงโทรโทรศัพท์มาก ไม่ให้เล่น ไม่ให้ดู ไม่ให้อะไรทั้งสิ้นเข้าขั้นหวงมาก แต่โทรไปไม่เคยสายซ้อนนะ หรือเพราะเขามีสองเครื่อง อันนี้จริง เขาเคยบอกว่ามีสองเครื่อง ข้อสงสัย คือเราสองคนไม่มีสถานะ ภาษาวัยรุ่นก็คงแอบแซบอะไรแบบนี้หรือเปล่า เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันในเฟสนะ เราก็ถามว่าทำไมเราไม่เป็นเพื่อนกันในเฟส เขาก็บ่ายเบี่ยงคุยเรื่องอื่นเฉไฉไปเรื่อย ไม่ตอบ เราก็ไม่อยากเซ้าซี้มาก เดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่าๆ ปล่อยผ่าน แต่มาพักหลังๆ หงุดหงิดใส่บ่อย พูดอะไรนิดหน่อยก็ไม่พอใจใส่ อ้อ เราคุยกันมาเข้าเดือนที่ 9แล้ว คงยังนานไม่พอที่จะมีตัวตนสำหรับเขา อ้อลืมบอกไป เขามีลูกติด เรากลัวนะ กลัวว่าเขายังไม่เลิกกัน ผู้ชายมาทำงานไกลบ้าน ส่วนใหญ่มีกบอกโสด หย่าแล้ว อะไรแบบนี้ ซึ่งเราไม่ชอบเลย กับการเป็นมือ ที่สามสี่ห้า เราเลยไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับตัวเอง และสิ่งที่เราเจอสดๆร้อน เขาไม่รู้นึกยังไงปล่อยให้เราเล่นโทรศัพท์ ใจดีแปลกๆ เขาคงไม่คิดว่าเราจะดูแชท มีแชทนึง ถามมา ว่า ทำไรอยู่คะ กินข้าวยังคะ เลิกงานยังคะ เราหันไปให้เขาดู ได้คำตอบคือ บอกว่าลูกสาวใช้เฟสน้าทักมา เราด้วยความไม่เคยมีลูก พ่อลูกเขาคุยกันแบบนี้เหรอ นี่สงสัยจริงๆ จากที่เราตึงๆอยู่แล้ว ก็ตึงเข้าไปอีก ฝืนยิ้ม ฝืนพูด ทั้งๆที่มีคำพูดอยู่ภายในใจเป็นหมื่นล้านคำ ไม่มีสถานะ เท่ากับไม่มีสิทธิ์รู้ ไม่มีสิทธิ์สงสัย ไม่มีสิทธิ์ถามใช่ไหมคะ อ้อมีอีกอย่าง เขาคงอายที่คุยกับคนพิการแบบเราเลยไม่อยากลงรูป หรือเป็นเพื่อนกันในเฟส บอกตรงๆว่าเหนื่อยใจ แต่ไม่พูด เก็บมาตลอด ควรพอ หรือไปต่อให้สุด จนเขาพูดทุกสิ่งออกมาเองดีคะ
ผู้ชายให้เป็นคนในความลับ ทนได้ไหม