คนแรกที่ได้รู้ความจริงเรื่องสำคัญของฮาราบูจี โดยที่ฮาราบูจีไม่ได้ตั้งใจเลยแม้แต่สักนิด ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เป็น แชรก
อาการของโรคจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากน้อยไปหามาก แต่กว่าที่จะมาถึงจุดนี้ ฮาราบูจีก็เผชิญความทุกข์อยู่เพียงลำพัง
อาจารย์หญิงแหย่อาจารย์ชาย หลังจากอาจารย์ชายแสดงน้ำใจด้วยการตั้งใจพาคุณปู่ไปที่โรงเรียนสอนบัลเลต์ ทำให้คุณปู่ได้มีโอกาสวาดแขนวาดขากลางฟลอร์ประหนึ่งเป็นโชว์ครั้งแรกต่อหน้านักบัลเลต์ตัวจริงรอบห้อง คุณปู่มีความสุข คนดูมีความปลื้มใจ . . .
ฉันล่ะชอบใจอดีตผัว-เมียคู่นี้จริงๆ ค่ะ อาจารย์หญิงก็บลัฟเก่ง อาจารย์ชายก็ท่าเยอะ เวลาเขาบลัฟกัน ทำไมเราอมยิ้ม . . รักกันล่ะ ดูออก ๕๕๕๕๕
แชรก เมื่อรู้ความจริงที่คุณปู่ปิดบังไว้แล้ว แถมยังทำสมุดบันทึกร่วงไว้ จึงตามมาดูว่าถึงบ้านเรียบร้อยรึเปล่า สุดท้ายได้มานั่งกินเลี้ยงกับครอบครัวคุณปู่
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน ฉันนึกอยู่ ว่าคู่นี้จะต้องได้ทำโปรเจ็คใหญ่ร่วมกันสักเรื่องแน่ๆ
คุณปู่เดินออกมาส่งแชรกกลับบ้าน ในใจแชรกแสนจะเป็นห่วง แต่ก็ฝืนความต้องการของคุณปู่ไม่ได้
ยิ่งแชรกใส่ใจคุณปู่มากแค่ไหน คุณปู่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตื๊อจนแชรกยอมไปจิมจิลบังด้วยกัน
ปู่หลอกเด็กมาขัดขี้ไคลหลังให้ด้วยนมกล้วย
แชรก เดินตามไปส่งคุณปู่จนถึงหน้าบ้านท่ามกลางละอองหิมะ โดยที่ปู่ไม่รู้เรื่องเลย
น้องจิ๋วน่ารักมาก การมีเขาเป็นผู้รักษาประตูที่ไว้ใจได้ น่าจะทำให้แชรกอุ่นใจเสมอ จิ๋วแต่แจ๋วจริงๆ เจ้าหนุ่มน้อย
คุณปู่ต้องมาสอบกับคุณครูแชรก แต่ยังไม่ทันจะได้สอบ ปู่ตะหงิดใจว่าลืมอะไรสักอย่าง ใช่แล้ว ปู่มีนัดพบแพทย์ ปู่โกหกแชรกว่าฮัลโมนีปวดท้องจะกลับไปดูแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวกลับมาใหม่ ในขณะที่อาจารย์ชายก็พาแชรกไปพบแพทย์เช่นกัน แต่ปู่ไม่กลับมาเลยจนมืดค่ำ แชรกกลับมารอจนเริ่มกระวนกระวาย
โฮบอมมาเจอปู่ในสภาพที่อาการอัลไซเมอร์กำเริบ ปู่ก้าวขาไปทางไหนไม่ได้ ยืนอยู่ที่เดิมมาเป็นชั่วโมงๆ ในสำนึกของโฮบอม เขาพยายามจะเรียกสติของปู่ แต่ปู่พูดวนไปมา โฮบอมค้นกระเป๋าเจอสมุดและได้รู้ความจริงและโทรตามแชรก
แชรกรีบมา แต่ปู่ก็ไม่ตอบสนองใดๆ ต่อแชรก, เพราะแชรกได้อ่านทุกอย่างในสมุดจดของปู่แล้ว แชรกรู้ดีว่าสิ่งที่เขาควรจะทำในวินาทีนี้คืออะไร
โฮบอมเดินออกมาโดยไม่กล่าวอะไรหรือทำอะไรอย่างที่เคยทำร้ายแชรก และก่อนที่โฮบอมจะจากไป ภาพของแชรกและคุณปู่ที่เขาเห็นคือ . .
แชรกเริ่มหมุนตัว วาดแขนวาดขา กระโดด เขาเริ่มร่ายระบำบัลเลต์ บนทางเดินท่ามกลางละอองหิมะอย่างไม่สนใจใคร มีคุณปู่ยืนสั่นด้วยความตกใจ และพุ่งสายตามาที่แชรก แน่นอนว่าโฮบอมก็เห็นภาพทั้งหมดด้วยสองตาของเขาเช่นกัน
น้ำตาฉันไหลเงียบๆ ดีงาม เป็นซีนที่สุดพีคสำหรับฉันแล้ว ดูซ้ำก็ยังน้ำตาไหล เรื่องราว อารมณ์ ดนตรี ลีลา
คนเขียนบทเก่งจัง วางพล็อตวางจังหวะเหมือนภาพยนตร์ ซีนนี้ได้ความประทับใจในการเรียกคืนความทรงจำของฮาราบูจี แถมด้วยการปลดตุ้มน้ำหนักของโฮบอม ทิ้งความทรงจำเลวร้ายไว้ข้างหลัง เพื่อก้าวเดินไปข้างหน้า . . . ปรบมือให้คนเขียนบทและผู้กำกับสำหรับซีนนี้
.
สัปดาห์หน้า ความเข้มข้นและความซึ้งจะยิ่งทวีคูณอย่างไม่ต้องสงสัย
อ่านรีวิว Navillera ที่นี่ค่ะ >>>
https://ppantip.com/topic/40641643
[Navillera] ย้อนรอยฝัน ในความทรงจำ ep 8
คนแรกที่ได้รู้ความจริงเรื่องสำคัญของฮาราบูจี โดยที่ฮาราบูจีไม่ได้ตั้งใจเลยแม้แต่สักนิด ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่เป็น แชรก
อาการของโรคจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากน้อยไปหามาก แต่กว่าที่จะมาถึงจุดนี้ ฮาราบูจีก็เผชิญความทุกข์อยู่เพียงลำพัง
อาจารย์หญิงแหย่อาจารย์ชาย หลังจากอาจารย์ชายแสดงน้ำใจด้วยการตั้งใจพาคุณปู่ไปที่โรงเรียนสอนบัลเลต์ ทำให้คุณปู่ได้มีโอกาสวาดแขนวาดขากลางฟลอร์ประหนึ่งเป็นโชว์ครั้งแรกต่อหน้านักบัลเลต์ตัวจริงรอบห้อง คุณปู่มีความสุข คนดูมีความปลื้มใจ . . .
ฉันล่ะชอบใจอดีตผัว-เมียคู่นี้จริงๆ ค่ะ อาจารย์หญิงก็บลัฟเก่ง อาจารย์ชายก็ท่าเยอะ เวลาเขาบลัฟกัน ทำไมเราอมยิ้ม . . รักกันล่ะ ดูออก ๕๕๕๕๕
แชรก เมื่อรู้ความจริงที่คุณปู่ปิดบังไว้แล้ว แถมยังทำสมุดบันทึกร่วงไว้ จึงตามมาดูว่าถึงบ้านเรียบร้อยรึเปล่า สุดท้ายได้มานั่งกินเลี้ยงกับครอบครัวคุณปู่
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน ฉันนึกอยู่ ว่าคู่นี้จะต้องได้ทำโปรเจ็คใหญ่ร่วมกันสักเรื่องแน่ๆ
คุณปู่เดินออกมาส่งแชรกกลับบ้าน ในใจแชรกแสนจะเป็นห่วง แต่ก็ฝืนความต้องการของคุณปู่ไม่ได้
ยิ่งแชรกใส่ใจคุณปู่มากแค่ไหน คุณปู่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตื๊อจนแชรกยอมไปจิมจิลบังด้วยกัน
ปู่หลอกเด็กมาขัดขี้ไคลหลังให้ด้วยนมกล้วย
แชรก เดินตามไปส่งคุณปู่จนถึงหน้าบ้านท่ามกลางละอองหิมะ โดยที่ปู่ไม่รู้เรื่องเลย
น้องจิ๋วน่ารักมาก การมีเขาเป็นผู้รักษาประตูที่ไว้ใจได้ น่าจะทำให้แชรกอุ่นใจเสมอ จิ๋วแต่แจ๋วจริงๆ เจ้าหนุ่มน้อย
คุณปู่ต้องมาสอบกับคุณครูแชรก แต่ยังไม่ทันจะได้สอบ ปู่ตะหงิดใจว่าลืมอะไรสักอย่าง ใช่แล้ว ปู่มีนัดพบแพทย์ ปู่โกหกแชรกว่าฮัลโมนีปวดท้องจะกลับไปดูแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวกลับมาใหม่ ในขณะที่อาจารย์ชายก็พาแชรกไปพบแพทย์เช่นกัน แต่ปู่ไม่กลับมาเลยจนมืดค่ำ แชรกกลับมารอจนเริ่มกระวนกระวาย
โฮบอมมาเจอปู่ในสภาพที่อาการอัลไซเมอร์กำเริบ ปู่ก้าวขาไปทางไหนไม่ได้ ยืนอยู่ที่เดิมมาเป็นชั่วโมงๆ ในสำนึกของโฮบอม เขาพยายามจะเรียกสติของปู่ แต่ปู่พูดวนไปมา โฮบอมค้นกระเป๋าเจอสมุดและได้รู้ความจริงและโทรตามแชรก
แชรกรีบมา แต่ปู่ก็ไม่ตอบสนองใดๆ ต่อแชรก, เพราะแชรกได้อ่านทุกอย่างในสมุดจดของปู่แล้ว แชรกรู้ดีว่าสิ่งที่เขาควรจะทำในวินาทีนี้คืออะไร
โฮบอมเดินออกมาโดยไม่กล่าวอะไรหรือทำอะไรอย่างที่เคยทำร้ายแชรก และก่อนที่โฮบอมจะจากไป ภาพของแชรกและคุณปู่ที่เขาเห็นคือ . .
แชรกเริ่มหมุนตัว วาดแขนวาดขา กระโดด เขาเริ่มร่ายระบำบัลเลต์ บนทางเดินท่ามกลางละอองหิมะอย่างไม่สนใจใคร มีคุณปู่ยืนสั่นด้วยความตกใจ และพุ่งสายตามาที่แชรก แน่นอนว่าโฮบอมก็เห็นภาพทั้งหมดด้วยสองตาของเขาเช่นกัน
น้ำตาฉันไหลเงียบๆ ดีงาม เป็นซีนที่สุดพีคสำหรับฉันแล้ว ดูซ้ำก็ยังน้ำตาไหล เรื่องราว อารมณ์ ดนตรี ลีลา
คนเขียนบทเก่งจัง วางพล็อตวางจังหวะเหมือนภาพยนตร์ ซีนนี้ได้ความประทับใจในการเรียกคืนความทรงจำของฮาราบูจี แถมด้วยการปลดตุ้มน้ำหนักของโฮบอม ทิ้งความทรงจำเลวร้ายไว้ข้างหลัง เพื่อก้าวเดินไปข้างหน้า . . . ปรบมือให้คนเขียนบทและผู้กำกับสำหรับซีนนี้
.
สัปดาห์หน้า ความเข้มข้นและความซึ้งจะยิ่งทวีคูณอย่างไม่ต้องสงสัย
อ่านรีวิว Navillera ที่นี่ค่ะ >>> https://ppantip.com/topic/40641643