อยากทราบว่า attack on titan ควรจบอย่างไร

ผมรู้สึกว่า ep 139 มันไปได้สุดกว่านี้แต่ผมก็อธิบายออกมาไม่ได้ ว่ามันควรจบอย่างไร อยากทราบว่าเพื่อนๆที่ติดตามเรื่องมาจนจบคิดว่ามันควรจบอย่างไรดีครับ หรือว่ามันสุดได้เท่านี้แล้วถึงจะลงตัว ไม่ขัดแย้งกับเรื่องที่ปูไว้ตอนก่อนๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
นี่เป็นความเห็นตามความเข้าใจส่วนตัวเรานะ ซึ่งค่อนข้างไม่เหมือนคนส่วนมาก ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย

รู้สึกว่าเรื่องนี้ เหมือนจบแบบ force ให้เอเรนกลายเป็นคนดีมากไปหน่อย มันเหมือนกับว่าเอเรนคนที่มุ่งมั่นทำตามเป้าหมายใน ss4 เป็นแค่การเล่นละคร นอกจากนี้ยังพยายามทำให้ตัวละครทุกตัวได้รับความสุขกันถ้วนหน้าเกินไป

หลังอ่านตอนที่ 139 เข้าใจว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเอเรนคือทำตามอนาคตแบบไม่ต้องคิดมาก เลยงงว่า ทำไมตอนก่อน ๆ เอเรนยังดูกังวลเรื่องอนาคตอีก เช่น บอกว่าไม่สามารถเอาอนาคตของเกาะพาราดีไปเสี่ยงได้ บอกฮิสทอเรียว่าจะลบความทรงจำให้บ้าง ทำสีหน้าจริงจังตอนจะถูกไรเนอร์กินอีก ตอนนั้นเข้าใจไปว่าไม่อยากถูกกิน เพราะจะปกป้องเกาะ แต่จริง ๆ แล้วไม่อยากถูกกิน เพราะจะไม่ได้ทำตามโชคชะตางั้นรึ

นอกจากเรื่องนี้ มีอีกหลายปมที่ดูเหมือนจะ impact แต่พอเฉลยแล้วเหลือเล็กนิดเดียว เช่น ลูกฮิสทอเรีย ความต้องการของยูมีร์ ถ้าทั้งหมดนั้น อาจารย์ทำมาเพื่อหลอกคนอ่านจริง ๆ ก็รู้สึกว่ามันเกินคำว่าแยบยลไปแล้ว มันเหมือนทำลายปมที่วางไว้ทั้งหมด เราอุตส่าห์คิดตาม มีทฤษฏีนู่นนี่นั่น ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ พอเป็นแบบนี้ เลยรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง โดนหลอกให้อ่านเรื่องโกหกมาตลอด ถ้าเปรียบเทียบกับเรื่องอื่น สมมติโดราเอมอนตอนจบ โนบิตะยังได้แต่งงานกับไจโกะเหมือนเดิม ชีวิตล้มเหลวเหมือนเดิม ที่โดราเอมอนมาไม่ได้เปลี่ยนอะไรหรอก แค่ทำตามชะตากรรม สำหรับเรามันก็แปลก ๆ อยู่นะ มีคนชอบการ surprise ด้วยการไม่ surprise ด้วยเหรอ ( ยกเว้นคนที่ไม่อยากให้มี surprise แต่แรก )

ถามว่าจบแบบนี้มัน real มั้ย บอกเลยว่าก็ real อยู่ บางทีชีวิตคนเราก็แปลก ๆ อย่างคาดไม่ถึงแบบนี้

อีกประเด็นคือ ความสามารถของไททันต้นกำเนิด ที่ควบคุมการกระทำของไททันในอดีตได้ ( เอเรนคุมไดน่าให้ไปกินแม่ตัวเอง ) การย้อนเวลาแบบนี้มันทำให้เกิด plot hole มากอยู่ ยกเว้นจะบอกว่าเป็น fixed timeline คือทุกอย่างต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไร ถ้างั้นก็ต้องตัดเรื่อง loop ทิ้งไป เห็นคนพูดถึง loop เยอะเหลือเกิน แต่ถ้าเป็น fixed timeline มันไม่น่าจะเกิดโลกคู่ขนานได้นะ อย่างไรก็ตาม ตอนที่ 1 กับตอนที่ 138 ก็ทำอย่างกับว่ามี loop มีโลกคู่ขนานจากการตัดสินใจแบบอื่น ( แต่โลกคู่ขนานที่เอเรนไปอยู่กับมิคาสะ ก็มี plot hole เพียบอยู่ดี ) สรุปคือ plot hole มันเยอะมาก ๆ ตั้งคำถามได้เรื่อย ๆ ( ไม่แน่ใจว่าเราเข้าใจผิดหรือเปล่า ใครเข้าใจทะลุปรุโปร่งช่วยมาเคลียร์ได้จะขอบคุณมาก )

ประเด็นสุดท้ายละ เราว่า ด้วยความที่ตอนจบมันเรียลเกินไป มันเหมือนเป็นการสะท้อนสังคมมากกว่า โดยข้อคิดที่เราสกัดได้จากตอนจบ เช่น ตราบใดที่ยังมีมนุษย์ ความขัดแย้งไม่มีทางจบ, ชะตากรรมนั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้าชะตากำหนดให้เราฆ่าแม่ตัวเอง ก็ต้องฆ่า, ปัญหาของคนรุ่นก่อน มักจะถูกส่งต่อให้คนรุ่นต่อไปเสมอ, บางทีคนเราก็มูฟออนไม่ได้ แบบมิคาสะ, ความรักบางทีก็ไม่มีเหตุผล แบบยูมีร์, อิสรภาพนั้นไม่มีจริง คนเราล้วนตกเป็นทาสของบางสิ่งเสมอ, คนเรากลืนน้ำลายตัวเองกันได้ง่าย ๆ เช่นอาร์มิน ตอนแรกไม่เห็นด้วยกับเอเรน สุดท้ายก็ขอบคุณเขา ( ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าอาร์มินแกล้งขอบคุณไหม ) โอเค สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ก็จริง แต่เราคิดว่า ข้อคิดเหล่านี้ มันไม่ inspire ให้เราอยากทำอะไรดี ๆ เท่าไหร่

หากตอนจบ เอเรนทำอย่างเต็มที่เพื่ออนาคตของเกาะ เพื่อครอบครัว ( เพื่อลูกด้วยก็จะชอบมาก ๆ อิอิ ) ด้วยเจตจำนงเสรีของตัวเองจริง ๆ แล้วพันธมิตรยึดมั่นอุดมการณ์ ไม่ฆ่าคนบริสุทธิ์ไปจนจบ ไม่เห็นด้วยกับเอเรน สงครามยังมีต่อก็ได้ แต่ต้องให้เห็นว่า เอเรนทำไปไม่เสียเปล่าจริง ๆ เด็ก ๆ ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบไปหลายปี ตัวละครได้รับผลการกระทำอย่างสมน้ำสมเนื้อ เราว่ามัน impact กว่าตอนจบแบบที่เป็นอยู่มาก ๆ

ดังนั้น สำหรับเรา คิดว่าตอนจบที่ควรจะเป็น คือ
- เป้าหมายเอเรนคือล้างโลกจริง ๆ ไม่ใช่ทำตามภาพอนาคตที่เห็นแบบไร้เดียงสา อยากให้เป้าหมายที่แท้จริงคือ การทำเพื่ออนาคตของคนรุ่นใหม่ ให้มั่นใจว่าไม่ต้องมาเจออะไรแบบที่ตัวเองเคยเจอ ปลดปล่อยให้ยูมีร์มาเกิดใหม่ ได้มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก
- เป้าหมายของพันธมิตรคือ ไม่ยอมรับการ genocide ของเอเรนจริง ๆ เพราะไม่อยากฆ่าคนบริสุทธิ์ ไม่ใช่มากลับลำขอบคุณเอเรนตอนหลัง จะให้อภัยเอเรนก็ได้นะ แต่ต้องไม่เห็นด้วยกับเอเรน
- สองฝั่งนี้ควรจะสู้กันจนฝั่งนึงพ่ายแพ้ สู้ตามอุดมการณ์อย่างเต็มที่ และตายอย่างสมศักดิ์ศรี
- ยูมีร์ ควรจะถูกปลดปล่อยโดยคำพูดของเอเรน ไม่ใช่มิคาสะ เราไม่ชอบแบบนี้เท่าไหร่ ยูมีร์อยู่ใน path เชื่อมต่อกับชาวเอลเดียทุกคนมาเป็นพันปี ทำอย่างกับไม่เคยเห็นคนตัดใจจากความรักมาก่อน แต่คนที่มากอดยูมีร์ แล้วพูดแบบนั้นกับยูมีร์ได้ น่าจะเป็นคนแรกและคนเดียวนะ
- มิคาสะควรจะมูฟออนไปหาคนที่ดีกับเธอกว่านี้ได้ ตั้งแต่ตอนที่ 90 มา เราไม่เคยเห็นเอเรนยิ้มให้มิคาสะเลย สุดท้ายเอเรนมาบอกว่าอยากอยู่กับมิคาสะมาตลอด มันดู force ชอบกล ๆ แถมถ้ารักจริง ทำไมถึงมาทิ้งกันไปแบบนี้ เอเรนอยากหนีจากผลการกระทำของตัวเองจนยอมทิ้งคนรักเลยเหรอ
- กลุ่มนักรบ น่าจะได้รับจุดจบที่สมน้ำสมเนื้อกว่านี้ ไรเนอร์ที่ดูเครียด ๆ ช่วงแรก สรุปตอนนี้ใช้ชีวิตราวกับว่าไม่เคยเครียดมาก่อน
- ฮิสทอเรียควรจะมีบทบาทสำคัญ ช่วง uprising arc เธอมีบทบาทสำคัญมาก แถมฉากของเธอถูกวาดเทียบกับยูมีร์มาตลอด ในเรื่องไม่เคยมีการวาดยูมีร์ให้ดู parallel กับใครเท่าฮิสทอเรียอีกแล้ว แต่พอเข้าซีซั่น 4 เป็นต้นมา ถ้าไม่ใช่การย้อนอดีต เธอไม่มีบทพูดแม้แต่คำเดียว นอกจากจดหมายที่เธอเขียน อย่างกับว่าอยากจะตัดบทเธอ เลยต้องให้เธอท้องกับตัวประกอบ

เราไม่โทษการตัดสินใจของเอเรนกับอาร์มินนะ ทั้งหมดมันอยู่ที่คนเขียน ว่าจะทำให้ตัวละครมีทิศทางแบบไหน เรื่องราวให้ข้อคิดแบบไหน ซึ่งเราไม่ชอบตอนจบรวมถึงข้อคิดที่อาจารย์อยากจะสื่อตอนท้ายเท่าไหร่

แต่ถ้าใครชอบ ก็ดีใจด้วย คุณคงได้การ์ตูนขึ้นหิ้งไว้ในใจอีกเรื่อง น่าอิจฉาจริง ๆ จะมา convince ให้เราชอบตอนจบเรื่องนี้มากขึ้นก็ได้นะ เราคงจะมีความสุขขึ้น ถ้าเราชอบมัน

แก้ไข : เพิ่มเติมข้อมูล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่