คนฉลาดในการทำชั่ว เขาก็เลือกทำชั่วที่ได้บาปน้อย ได้เงินเยอะ
แล้วค่อยเอาเงินไปสร้างวัดบวชพระ

มองบางแง่มุม ก็เป็นไปได้ครับ
คือ จิตใจของคนธรรมดา ก็มีคิดเรื่องดีๆ ชั่วๆ ปะปนกันอยู่   
ใจนึงก็คิดโลภ อยากรวย อยากสบาย เห็นแก่ตัว  
อีกใจนึงก็ยังกลัวบาป

ส่วนการเจตนาทำอกุศล เพราะกิเลส เพราะความโลภ หรืออื่นๆ  โดยที่รู้ว่ามันสร้างโทษให้ผู้อื่น
แล้วหวังว่า จะทำกุศลในภายหลัง เพื่อลบล้างกันนั้น
มันจะไม่ได้หักลบกันแบบที่คนคิดกันตามหลักคณิตศาสตร์นะครับ

สมมติ เราไปทำร้ายลูกชายใครสักคนนึง ก็เป็นวาระนึง  
แล้วเราชดเชยโดยการไปช่วยลูกๆ ของคนอื่นๆ อีกมากมาย  มันก็เป็นอีกวาระนึง
มันต่างกรรม ต่างวาระ    สิ่งไม่ดีที่ทำ ก็เกิดขึ้นแล้ว ส่งผลแล้วบางส่วน
ส่วนดีที่ทำ ก็เกิดขึ้นแล้ว ส่งผลแล้วบางส่วน   
มันคนละเหตุการณ์กัน   หรือแม้แต่ คุณขับรถชนนาย A ขาหัก เดินไม่ปกติเหมือนเดิม
แล้วคุณดูแลค่ารักษาและเรื่องอื่นๆ   คุณก็ทำได้ในการชดเชย  
แต่ไม่สามารถย้อนเอาความเจ็บปวด เอาความทุกข์  เอาขาปกติอันเดิม
คืนให้นาย A  ให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ถึงแม้จะได้พยายามชดเชยเต็มที่แล้ว

การพยายามชดเชยสิ่งที่ทำผิดพลาดเป็นเรื่องดีครับ
แต่ทางพุทธ  แนะนำให้รอบคอบกว่านั้น คือ
การจะลงมือทำอะไร ต้องมีสติ พิจารณาให้ดี ว่าจะส่งผลอะไร ยังไง
ถ้าทำโดยมักง่าย โดยประมาท  หรือจะโดยเจตนาก็ตาม
แล้วหวังว่า มีโอกาสค่อยชดใช้คืนให้   มันหักลบไม่ได้ 100% ครับ

--------------------------------------

ส่วนเรื่องของมึนเมา หรือการพนัน
มันส่งผลรุนแรงได้ในหลายเคสนะครับ
บ้านแตก  ครอบครัวแตกกระเจิง  ปล้น จี้ ทำร้าย ฆ่า
สร้างทุกข์ใจให้คนเกี่ยวข้องหนักหนาครับ
ไม่ใช่เรื่องเบาๆ เลยครับ