ชวนดู A Little Red Flower

ขอยกที่เขียนไว้ในBlockdit มาเลยแล้วกัน     (มีสปอย )



หนังฉายช่วงปีใหม่   2021  กวาดรายได้ไปกว่า 1,400 ล้านหยวน

A little Red Flower เป็นเรื่องราวของ เว่ยอี้หาง เด็กหนุ่มซึ่งป่วยเป็นมะเร็งสมอง หลังการผ่าตัดเขามักฝันเห็นสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาก็ไม่รู้ว่าที่ไหน และผู้หญิงอีกคนที่คิดว่าคือคนรักในอนาคต  

แม้การผ่าตัดจะเป็นไปด้วยดี  แต่การยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่ง่ายนักสำหรับเขา เพราะไม่รู้ว่ามะเร็งจะกลับมาหรือไม่ เมื่อไหร่ แล้วจะมีชีวิตอยู่ไปได้อีกยาวนานแค่ไหน ทำให้เขากลายเป็นคนเก็บตัว มองโลกในแง่ร้าย เข้าขั้นเกรียนระดับ 10  ซึ่งจริง ๆ  ซึ่งมันคือความเจ็บป่วยทางใจของคนเป็นมะเร็ง

พ่อแม่จึงผลักดันให้เขาออกไปเข้ากลุ่มช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็ง นั่นทำให้เขาได้พบกับ หม่าเซียวหยวน  สาวน้อยวัยเดียวกันที่เป็นมะเร็งเหมือนกัน  แต่เธอกลับสดใสแตกต่างกับเขาอย่างสิ้นเชิง แถมเกรียนกว่าเขาอีก 



หม่าเซียวหยวนดึงเว่ยอี้หางออกมาจากโลกแห่งความเดียวดาย กล้าเผชิญกับความเป็นจริง และก้าวต่อไป ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่อีกนานแค่ไหน  ซึ่งคือการเยียวยาจิตใจที่ดีที่สุดนั่นเอง  ในทางกลับกันหม่าเซียวหยวนก็ได้รับความรักบริสุทธิ์จากเด็กหนุ่มคนหนึ่งด้วยเช่นกัน 

เธอมอบดอกไม้แดงเล็ก ๆ ดอกแรกให้เขา  ( อันนี้เดาว่า ดอกไม้แดงเล็ก ๆ ของเด็กจีนคงคล้ายกับดาวของเด็ก อนุบาลไทยทำความดีหรือทำข้อสอบได้ดีจะได้ดาว แล้วเอามาอวดพ่อแม่ในตอนเย็นกัน  เรียกว่าเด็ก ๆ ทุกคนต้องได้ดาวกันทั้งนั้น ) 

ครึ่งเรื่องแรก  ออกแนวฮากับความกวนโอ้ยของตัวละครแทบทุกตัว  โดยเฉพาะพ่อแม่ของเว่ยอี้หาง แม้จะยากลำบากหาเงินมารักษาลูกชายอย่างไร แต่บ้านก็ยังอบอวลไปด้วยความรัก และทำสุดความสามารถเพื่อให้ลูกชายมีชีวิตอย่างที่เด็กหนุ่มทั่วไปคนหนึ่งควรจะมี 

ขำสุด ๆ กับการพนันกันว่าลูกชายจะออกไปหาสาวไหม  และตอนที่ต้องไปพบพ่อของผู้หญิง เพราะอีลูกชายเมาแล้วทำเหตุ

พ่อนางเอกก็น่ารัก  สปอยลูกสาวสุด ๆ  เกรียนได้เท่าที่อยากเกรียนไปเลยลูก



เรื่องครึ่งหลัง ต้องเรียกว่าน้ำตาท่วม (ดูรอบที่สองก็ยังท่วมอยู่)  เมื่อความจริงต่าง ๆ  ความรู้สึกลึก ๆ ของทุกคนที่เกี่ยวข้องค่อย ๆ เผยออกมา พร้อมโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง 

ชอบฉากที่เว่ยอี้หางถามว่าถ้าเขาตาย พ่อแม่จะทำอย่างไร  พ่อแม่ก็เลยไปถ่ายวิดีโอส่งกลับมาเป็นคำตอบ  

ส่วนคำตอบว่า ภาพที่เว่ยอี้หางเห็นเป็นแค่ภาพลวงตา  หรือโลกคู่ขนานกันแน่   ส่วนตัวมองว่าคำตอบไม่ได้สำคัญเลย  เพราะสิ่งที่เรื่องต้องการสื่อสารนั่นคือ การมีกำลังใจที่จะมีชีวิต “อยู่” และ “ทำ”ปัจจุบันให้ดีที่สุดต่างหาก  

 
นักแสดง 

เกาหย่าลิน – พ่อ , ซูหยวนหยวน – แม่


เกาหย่าลิน – พ่อ , ซูหยวนหยวน – แม่

นักแสดงรุ่นใหญ่ของจีนนี่ไม่ต้องพูดถึงฝีมือเลย   ชอบสายตาของแม่ ตอนที่นั่งคุยกับลูกชายว่าจริง ๆ แล้วเขารู้สึกอย่างไรกับผู้หญิงที่รัก 

ชอบฉากพ่อตอนมาง้อลูกที่หนีออกจากบ้านเนื่องจากถูกพ่อตี

หลิ่วเฮ่าฉุน  - หม่าเซียวหยวน



นางเอกหน้าใหม่มาก  เพราะเล่นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สอง แต่ไม่รู้สึกเลยว่าเพิ่งเข้าวงการ  ก็แน่ละ เป็นเด็กสร้างของจางอี้โหม่ว จากเรื่อง  One Second     จบจาก Beijing Dance Academy  เกิดปีเดียวกับอี้หยางเชียนชี 

อี้หยางเชียนชี เว่ยอี้หาง  



เรื่องนี้เป็นพระเอกที่เป็นคนดำเนินเรื่องเต็มตัว  ข้ามคำถามว่าเล่นดีไหมไปได้เลย  ต้องบอกว่าดีไซน์คาแรกเตอร์ตัวละครเก่งมาก  แทบไม่เหลือความเป็นอี้หยางเชียนชีเลย จากไอดอลสายป๊อบกระโดดมาเป็นนักแสดงสายฝีมือได้อย่างไม่มีข้อสงสัยใด ๆ   เป็นเด็กมหัศจรรย์ของวงการเลยทีเดียว

ได้ดูเบื้องหลัง  ผู้กำกับเล่าว่า ตอนที่เขาได้บทเรื่องนี้ อี้หยางเชียนชีอายุยังไม่ถึง 17 เลย ตอนหลังเขาได้เจอกับอี้หยางเชียนชีที่งาน ๆ หนึ่ง แล้วพบว่าอี้หยางเชียนชีเป็นคนเงียบ ๆ ก็จริง แต่ถ้ามีใครมาคุยก็คุยด้วย  แต่หลังจากนั้นเขาสามารถนั่งอยู่เงียบ ๆ ได้ โดยไม่ต้องมีใครมาสนใจเขา  และไม่เรียกร้องความสนใจจากใคร ซึ่งคล้ายกับคาแรกเตอร์ของเว่ยอี้หางมาก 

ดูเรื่องนี้แล้ว อยากให้เขามีความรัก อยากเห็นเล่นหนังรักโรแมนติก  อยากเห็นว่าเขาจะสื่อสารความรู้สึกรักใครสักคนออกมาอย่างไร 

เชียร์ออกนอกหน้าให้ไปหาดูกันค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่