แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เควิน เดอ บรอยน์ บรรลุข้อตกลงในการขยายสัญญาจากฉบับเดิมออกไปอีก 2 ปี ทำให้จอมทัพทีมชาติเบลเยียมจะค้าแข้งในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม จนถึงช่วงซัมเมอร์ ปี 2025
ทั้งนี้ เดอ บรอยน์ วัย 29 ปี อยู่กับ "เรือใบสีฟ้า" มาแล้ว 5 ปีครึ่ง พร้อมสร้างชื่อจนกลายเป็นเพลย์เมกเกอร์ระดับโลก พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีกคัพ 4 สมัย ตลอด 5 ฤดูกาลหลังสุด และได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพแห่งอังกฤษ (พีเอฟเอ) และพรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นที่แล้วด้วย
ด้าน เดอ บรอยน์ ให้สัมภาษณ์หลังการต่อสัญญาว่า "ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมมีความสุขมากไปกว่านี้อีกแล้ว นับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อปี 2015 ผมรู้สึกว่าที่นี่คือบ้านของผม ผมรักแฟนบอลทุกคน และครอบครัวของผมก็ลงหลักปักฐานที่ แมนเชสเตอร์ แล้ว ส่วนการเล่นของผมก็พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด"
"นี่คือสโมสรฟุตบอลที่เดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ และให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมต้องการเพื่อยกระดับผลงานการเล่นในสนาม การเซ็นสัญญาครั้งนี้จึงตัดสินใจได้ไม่ยาก ซึ่ง เป๊ป (กวาร์ดิโอลา) และผมต่างก็มีมุมมองด้านฟุตบอลในทิศทางเดียวกัน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผม
"ตอนนี้ผมขอโฟกัสไปที่การลุ้นความสำเร็จในฤดูกาลปัจจุบัน ที่ผ่านมาผลการแข่งขันและผลงานในสนามของเรานับว่ายอดเยี่ยมมาก แต่เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราจะจบฤดูกาลด้วยถ้วยรางวัลที่เราสมควรจะได้รับ" ซึ่งตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ ยังมีลุ้นแชมป์ครบ 4 รายการ ทั้งพรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ลีกคัพ
ขณะที่ เดลี เมล์ สื่อดังของอังกฤษรายงานว่า เดอ บรอยน์ จะได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็นฤดูกาลละมากกว่า 16 ล้านปอนด์ (688 ล้านบาท) ตลอดสัญญา 4 ปีที่เหลืออยู่ จากเดิมที่ได้ค่าจ้างซึ่งยังไม่รวมโบนัสอยู่ที่สัปดาห์ละ 300,000 ปอนด์ (12.9 ล้านบาท) มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีก
1. ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) - 375,000 ปอนด์ / สัปดาห์
2. ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมยอง (อาร์เซนอล) - 350,000 ปอนด์ / สัปดาห์
3. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) - 300,000 ปอนด์ / สัปดาห์ *ไม่รวมโบนัส
4. ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) - 300,000 ปอนด์ / สัปดาห์
5. พอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) - 270,000 / สัปดาห์
*ขอบคุณภาพจาก Twitter : Manchester City
cr : www.thairath.co.th
"เดอ บรอยน์" ต่อสัญญา แมนฯ ซิตี้ ถึง 2025 เผยตัวเลขค่าจ้างท็อป 5 พรีเมียร์ลีก
ทั้งนี้ เดอ บรอยน์ วัย 29 ปี อยู่กับ "เรือใบสีฟ้า" มาแล้ว 5 ปีครึ่ง พร้อมสร้างชื่อจนกลายเป็นเพลย์เมกเกอร์ระดับโลก พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีกคัพ 4 สมัย ตลอด 5 ฤดูกาลหลังสุด และได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพแห่งอังกฤษ (พีเอฟเอ) และพรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นที่แล้วด้วย
ด้าน เดอ บรอยน์ ให้สัมภาษณ์หลังการต่อสัญญาว่า "ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมมีความสุขมากไปกว่านี้อีกแล้ว นับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อปี 2015 ผมรู้สึกว่าที่นี่คือบ้านของผม ผมรักแฟนบอลทุกคน และครอบครัวของผมก็ลงหลักปักฐานที่ แมนเชสเตอร์ แล้ว ส่วนการเล่นของผมก็พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด"
"นี่คือสโมสรฟุตบอลที่เดินหน้าไปสู่ความสำเร็จ และให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมต้องการเพื่อยกระดับผลงานการเล่นในสนาม การเซ็นสัญญาครั้งนี้จึงตัดสินใจได้ไม่ยาก ซึ่ง เป๊ป (กวาร์ดิโอลา) และผมต่างก็มีมุมมองด้านฟุตบอลในทิศทางเดียวกัน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผม
"ตอนนี้ผมขอโฟกัสไปที่การลุ้นความสำเร็จในฤดูกาลปัจจุบัน ที่ผ่านมาผลการแข่งขันและผลงานในสนามของเรานับว่ายอดเยี่ยมมาก แต่เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราจะจบฤดูกาลด้วยถ้วยรางวัลที่เราสมควรจะได้รับ" ซึ่งตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ ยังมีลุ้นแชมป์ครบ 4 รายการ ทั้งพรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ลีกคัพ
ขณะที่ เดลี เมล์ สื่อดังของอังกฤษรายงานว่า เดอ บรอยน์ จะได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็นฤดูกาลละมากกว่า 16 ล้านปอนด์ (688 ล้านบาท) ตลอดสัญญา 4 ปีที่เหลืออยู่ จากเดิมที่ได้ค่าจ้างซึ่งยังไม่รวมโบนัสอยู่ที่สัปดาห์ละ 300,000 ปอนด์ (12.9 ล้านบาท) มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีก
1. ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) - 375,000 ปอนด์ / สัปดาห์
2. ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมยอง (อาร์เซนอล) - 350,000 ปอนด์ / สัปดาห์
3. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) - 300,000 ปอนด์ / สัปดาห์ *ไม่รวมโบนัส
4. ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) - 300,000 ปอนด์ / สัปดาห์
5. พอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) - 270,000 / สัปดาห์
*ขอบคุณภาพจาก Twitter : Manchester City
cr : www.thairath.co.th