เปิดใจ “เบล บุษญา” เปิดศึก “ดิว อริสรา” เหตุปมหึง! รับแฟนสาวหล่อต่อยดิวจริง แต่เพราะถูกบูลลี่
จากดราม่าเปิดศึกเกาเหลาระหว่าง "เบล บุษญา" ลูกสาว บรรยิน ที่ออกมาฟาดสาว "ดิว อริสรา" บนไอจีสตอรี่
ล่าสุดเปิดใจกับอมรินทร์ทีวีเผยจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดมาจากความหึงและอิจฉา
ลั่นเรื่องนี้จะจบหากอีกฝ่ายขอโทษต่อหน้าสื่อ แต่ถ้าโกหกอีกจะเอาถึงตาย
โดย “เบล” เผยจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดดังนี้
ปมความสัมพันธ์
1. “เบล” รู้จักกับ “เซบาสเตียน” แฟนของ “ดิว อริสรา” ก่อนหน้าที่ “เซบาสเตียน” จะเป็นแฟนกับ “ดิว”
ฝ่ายชายเคยจีบ “เบล” มาก่อนโดยมีการชวนไปงานฮาโลวีน ซึ่งเป็นปาร์ตี้ที่จัดขึ้นให้ “เบล” โดยเฉพาะ
แต่ “เบล” ไม่ได้ชอบ “เซบาสเตียน” จึงคุยตกลงเป็นแค่เพื่อนกัน
จากนั้น “ดิว” จึงเป็นฝ่ายเริ่มต้นจีบ “เซบาสเตียน” และสุดท้ายทั้งคู่เป็นฝ่ายคบกันในที่สุด
2. “เบล” แฉต่ออีกว่า ตนกับ “ดิว” รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะตอนนั้น ตนยังเป็นทอม และ “ดิว” ก็เป็นดี้
ซึ่ง “ดิว” เข้ามาจีบ “เบล” แต่แม่ดิวไม่ให้คุยกัน ก็เลยไม่ได้สานสัมพันธ์ต่อ
และที่สำคัญคือตนอายุเยอะกว่า ไม่ควรมาทำแบบนี้ เป็นพฤติกรรมของวัวลืมตีน เป็นไฮโซจอมปลอม
จุดเริ่มต้นสงครามเดือด
3. “เบล” และแฟนสาวหล่อไปร่วมงานวันเกิด “อาจี้” โดย “อาจี้” เป็นเพื่อนสนิทกับ “เซบาสเตียน” ซึ่ง “เบล” ก็สนิทกับ “อาจี้” เช่นกัน
โดยตนที่ไม่รู้เลยว่า “ดิว” และ “เซบาสเตียน” จะเดินทางมาร่วมงานวันเกิดด้วยหรือไม่
4. เมื่อ “เบล” เดินทางไปถึงงาน สิ่งแรกที่ได้รับคือ สายตาเหยียดหยาม ดูถูก โดยเบล กล่าวว่า
"เราก็ไม่รู้ว่าเขาไปกะเกณฑ์ชนชั้นคนมาจากไหน เพราะตัวเขาเองก็ชนชั้นไม่ได้สูง ทำไมเขาจึงทำกริยากับคนอื่นแบบนั้น
แต่เราก็ไม่ได้แสดงออกอะไร ก็อยู่ในโซนของตนเองไป เราไม่เคยไปทักแฟนเขาก่อนเพราะเราให้เกียรติเขา"
5. เหตุการณ์ต่อมา เมื่อ “เบล” เดินขึ้นไปเอาแชมเปญบนชั้น 2 (งานจัดบนเรือ) เดินลงมาจากบันได จะมีกลุ่มที่นั่งบนโซฟาอยู่ชั้นล่าง
และ “เซบาสเตียน” ยืนอยู่ตรงนั้น ประจวบกับเบลเดินลงมา แล้วสายตาสบกัน “เบล” จึงทักทาย Hi
แต่เมื่อข้างซ้ายถือกระเป๋า มือข้างขวาถือแชมเปญ จึงไม่มีมือจะไปตบไหล่เซย์ไฮ จึงเอาไหล่ชนกัน
6. “ดิว” เดินมาหา “เบล” แล้วถามทันทีว่า
ดิว : “เบล ชนไหล่ทำไม”
เบล : “ทำไมจะชนไหล่ไม่ได้ เขาเป็นเพื่อน เธอมีปัญหาอะไร”
จากนั้น “ดิว” ก็เดินไป
7. ขณะที่ “เบล” เดินเข้าไปในห้องกินข้าว ก็ได้ยิน “ดิว” พูดถึงพ่อของตน
เบล : “ดิวกำลังพูดถึงพ่อของหนูกับเซบาสเตียนเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงแย่มากเลยค่ะ ต้องไปฝึกเนอะ
เบลก็เลยพูดว่า I heard everything bitch. ซึ่งก็คงจะเสียหน้า เพราะอาจจะไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร มันก็เลยพูดด่าพ่อหนูกลางงานเลย ทุกคนได้ยินหมด
ด้วยนิสัยชั้นต่ำของมัน แล้วคนต่ำๆ อย่างมันมีสิทธิ์อะไรมาด่าพ่อหนู ซึ่งมาด่าต่อหน้าหนูรับไม่ได้”
“ประโยคแรกที่หนูได้ยินคือ Her dad gonna die soon. เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาเขายังพูดอีกว่า “อุ้ย เดี๋ยวพ่อเขาต้องมาฆ่าเราแน่เลย”
ดังนั้น หนูอึ้งนะ พ่อตัวเองล่ะ เคยเห็นสันดานพ่อตัวเองป่ะ ตัวเองเป็นลูกเมียน้อยยังไม่มีใครว่าเลย ทำไมต้องพูดจาดูถูกคนอื่น
นอกจากนี้ยังพูดอีกว่า “ -ัวทอม ดูดิมี -ัวเป็นทอม” ทำไมเหยียดเพศคนอื่น ทั้งที่ตัวเองก็เคยเป็น hobo lesbian (เลสเบี้ยนที่เป็นกุ๊ย)
เหมือนว่าพูดจาดูถูกคนอื่นเพื่อให้ตนเองสูงขึ้น แต่หนูไม่ได้คิดอะไร หนูมองว่ามันต่ำ”
8. ทุกคนในงานแยกทั้งคู่ออกจากกัน โดยให้ “เบล” ไปอยู่หัวเรือ ส่วน “ดิว” ไปอยู่ท้ายเรือ
9. ระหว่างปาร์ตี้นั้น “แฟนของเบล” เมามาก จึงเดินไปต่อย “ดิว” ไป 1 ที
10. “เซบาสเตียน” แฟนของดิว จึงเข้ามากระชากหัวแฟนสาวหล่อของเบล เพราะไปต่อยดิว จากนั้นเกิดการขว้างปาสิ่งของกัน
จนกัปตันเรือเข้ามาช่วยห้าม ซึ่งแฟนสาวหล่อของเบล ไม่ได้โดนอะไร เพราะเด็กเสิร์ฟมาช่วยจึงโดนเซบาสเตียนต่อยไป 1 ที
11. “เบล” เผยว่า “เซบาสเตียน” โทรไปขู่ แฟนสาวหล่อของเบลว่าจะเอาพวกมากระทืบ
12. “เบล” เผยว่า “ดิว” โทรไปฟ้อง “ไผ่ วันพอยท์” ว่า “เบล” เป็นคนสั่งการ แต่จริงๆ ตนเป็นคนห้าม
ซึ่ง “เบล” ได้คุยกับ “ไผ่ วันพอยท์” ก่อนเพราะทางครอบครัวรู้จักกันอยู่แล้ว
เบล : “เธอจะให้พี่ไผ่มาทำอะไรฉัน ขอโทษทีเถอะ เธอรู้จักฉันน้อยไป เธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ดังนั้นอย่าอวดฉลาด”
13. “เบล” เผยต่อว่า “หนูยอมจ่าย 500 เพื่อให้ได้ตบมันอีก และไม่เคยเสียใจเลยด้วยที่ทำไป ไม่รู้ตอนนี้หน้าต้องไปเย็บกี่เข็ม
ถามว่ามีส่งใครมาเจรจาเรื่องนี้ไหม ไม่มีค่ะ เพราะเรื่องนี้มันผิดเต็มๆ ตั้งแต่แรกยันจบ ดังนั้นสมควรโดน”
14. “เบล” มีความคิดจะดำเนินคดีหมิ่นประมาท
เบล : “มีกล้องวงจรปิดบนเรือ เด็กเรือติดต่อเรามาถามว่าเป็นยังไงบ้าง เขาพูดว่า ขอบคุณนะที่เราเป็นหนึ่งในคนที่กล้าหาญที่ทำแบบนี้
แต่เราบอก อ๋อเปล่านะ เราไม่เคยใส่ใจอะไรเลยเขาเลย แต่ทำไมเขาต้องมานั่งหึงเรา อิจฉาเรา เขารู้แก่ใจเพราะแฟนเขามาชอบเราไง”
15. เรื่องนี้จะจบได้ก็ต่อเมื่อ ดิวมาขอโทษเบล
เบล : “หนูจะจบแน่ค่ะพี่ ถ้ามันมาขอโทษหนู ขอโทษต่อหน้า อย่ามาเก่งลับหลัง อย่ามาขอโทษบนไอจีไม่รับ ต้องพูดต่อหน้า ออกสื่อก็พูดด้วยนะ
แล้วถ้าโกหกอีก -ู เอาตาย”
16. “เบล” เผยมุมมองส่วนตัว กรณีถูกบูลลี่ในอดีต
เบล : “คนเราอ่ะ คนเล่นยา เขาไม่ได้เป็นคนไม่ดีนะคะ เขาอาจจะมีความสุขของเขา เขาอาจจะมีปัญหา มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
แต่เขาไม่ได้ไปขอเงินใคร สุขภาพก็เป็นสุขภาพของเขา และการผิดพลาดไปครั้งหนึ่ง ไม่ได้ทำให้ทั้งชีวิตเสียไปเลย อย่าเอาเรื่องนี้มาบูลลี่เขาซ้ำๆ
แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย แต่เขายกขึ้นมาเพื่อบูลลี่เรา ให้ตนเองดูสูงขึ้น คุณควรให้โอกาสคนแก้ตัว
มันไม่มีใครสามารถตัดสินได้ว่า คนเล่นยาเป็นคนดีหรือไม่ดี ฉะนั้นอย่าโลกแคบ อย่าเอาเรื่องนี้มาบูลลี่กัน”
17. ก่อนที่จะจบการสัมภาษณ์ “เบล” ก็ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เมื่อนึกถึงคำพูดของอีกฝ่ายที่มีการพูดถึงพ่อตน
เบล : “อย่าบูลลี่พ่อคนอื่น พ่อยังไงก็คือพ่อของหนู เขาจะทำอะไรก็ตามเขาก็คือพ่อของหนู
พ่อของคุณทำผิดอะไร หนูยังไม่เคยไปว่าพ่อของคุณเลย ทำไมคุณถึงมาว่าพ่อหนู”
18. “แฟนสาวหล่อของเบล” ขอฝากถึงสังคม ว่า
“เวลามีเรื่อง ก็อย่าไปขุดคุ้ยเรื่องในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพ่อแม่ เพราะคนมันผิดพลาดกันได้
พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เรื่องของบนเรือ ทำไมต้องขุดคุ้ยเรื่องเก่า ให้มันจบแค่ตรงนี้ดีกว่า”
19. “เบล” ขอฝากถึงสังคมและกลุ่ม LGBT ว่า
“คนที่เป็นแฟนคลับก็ฟังไว้ด้วยนะคะ ไม่ใช่อยู่ๆ มาเข้าข้างกัน หลับหูหลับตาไม่ฟังอะไรเลย
ซึ่งเขาเหยียดเพศมาก แต่ตัวเขาเองเคยเป็นเลสเบี้ยนมาก่อน และเคยเป็นดี้มาก่อน มี -ัวเป็นทอมมาตลอด
พอมี -ัวรวยหน่อย ลืมกำพืดตัวเองแล้วมาบูลลี่เรา หนูว่ากลุ่ม LGBT ควรออกมาค่ะ คนๆ นี้ไม่ควรได้รับการสนับสนุนจากพวกคุณค่ะ”
ปล. ถึงกับต้องสละโควต้า 1 กระทู้
🔎 เปิดใจ “เบล บุษญา” เปิดศึก “ดิว อริสรา” | เรื่องนี้จะจบหากอีกฝ่ายขอโทษต่อหน้าสื่อ แต่ถ้าโกหกอีกจะเอาถึงตาย
1. “เบล” รู้จักกับ “เซบาสเตียน” แฟนของ “ดิว อริสรา” ก่อนหน้าที่ “เซบาสเตียน” จะเป็นแฟนกับ “ดิว”
ฝ่ายชายเคยจีบ “เบล” มาก่อนโดยมีการชวนไปงานฮาโลวีน ซึ่งเป็นปาร์ตี้ที่จัดขึ้นให้ “เบล” โดยเฉพาะ
แต่ “เบล” ไม่ได้ชอบ “เซบาสเตียน” จึงคุยตกลงเป็นแค่เพื่อนกัน
จากนั้น “ดิว” จึงเป็นฝ่ายเริ่มต้นจีบ “เซบาสเตียน” และสุดท้ายทั้งคู่เป็นฝ่ายคบกันในที่สุด
2. “เบล” แฉต่ออีกว่า ตนกับ “ดิว” รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะตอนนั้น ตนยังเป็นทอม และ “ดิว” ก็เป็นดี้
ซึ่ง “ดิว” เข้ามาจีบ “เบล” แต่แม่ดิวไม่ให้คุยกัน ก็เลยไม่ได้สานสัมพันธ์ต่อ
และที่สำคัญคือตนอายุเยอะกว่า ไม่ควรมาทำแบบนี้ เป็นพฤติกรรมของวัวลืมตีน เป็นไฮโซจอมปลอม
จุดเริ่มต้นสงครามเดือด
3. “เบล” และแฟนสาวหล่อไปร่วมงานวันเกิด “อาจี้” โดย “อาจี้” เป็นเพื่อนสนิทกับ “เซบาสเตียน” ซึ่ง “เบล” ก็สนิทกับ “อาจี้” เช่นกัน
โดยตนที่ไม่รู้เลยว่า “ดิว” และ “เซบาสเตียน” จะเดินทางมาร่วมงานวันเกิดด้วยหรือไม่
4. เมื่อ “เบล” เดินทางไปถึงงาน สิ่งแรกที่ได้รับคือ สายตาเหยียดหยาม ดูถูก โดยเบล กล่าวว่า
"เราก็ไม่รู้ว่าเขาไปกะเกณฑ์ชนชั้นคนมาจากไหน เพราะตัวเขาเองก็ชนชั้นไม่ได้สูง ทำไมเขาจึงทำกริยากับคนอื่นแบบนั้น
แต่เราก็ไม่ได้แสดงออกอะไร ก็อยู่ในโซนของตนเองไป เราไม่เคยไปทักแฟนเขาก่อนเพราะเราให้เกียรติเขา"
5. เหตุการณ์ต่อมา เมื่อ “เบล” เดินขึ้นไปเอาแชมเปญบนชั้น 2 (งานจัดบนเรือ) เดินลงมาจากบันได จะมีกลุ่มที่นั่งบนโซฟาอยู่ชั้นล่าง
และ “เซบาสเตียน” ยืนอยู่ตรงนั้น ประจวบกับเบลเดินลงมา แล้วสายตาสบกัน “เบล” จึงทักทาย Hi
แต่เมื่อข้างซ้ายถือกระเป๋า มือข้างขวาถือแชมเปญ จึงไม่มีมือจะไปตบไหล่เซย์ไฮ จึงเอาไหล่ชนกัน
6. “ดิว” เดินมาหา “เบล” แล้วถามทันทีว่า
ดิว : “เบล ชนไหล่ทำไม”
เบล : “ทำไมจะชนไหล่ไม่ได้ เขาเป็นเพื่อน เธอมีปัญหาอะไร”
จากนั้น “ดิว” ก็เดินไป
7. ขณะที่ “เบล” เดินเข้าไปในห้องกินข้าว ก็ได้ยิน “ดิว” พูดถึงพ่อของตน
เบล : “ดิวกำลังพูดถึงพ่อของหนูกับเซบาสเตียนเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงแย่มากเลยค่ะ ต้องไปฝึกเนอะ
เบลก็เลยพูดว่า I heard everything bitch. ซึ่งก็คงจะเสียหน้า เพราะอาจจะไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร มันก็เลยพูดด่าพ่อหนูกลางงานเลย ทุกคนได้ยินหมด
ด้วยนิสัยชั้นต่ำของมัน แล้วคนต่ำๆ อย่างมันมีสิทธิ์อะไรมาด่าพ่อหนู ซึ่งมาด่าต่อหน้าหนูรับไม่ได้”
“ประโยคแรกที่หนูได้ยินคือ Her dad gonna die soon. เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาเขายังพูดอีกว่า “อุ้ย เดี๋ยวพ่อเขาต้องมาฆ่าเราแน่เลย”
ดังนั้น หนูอึ้งนะ พ่อตัวเองล่ะ เคยเห็นสันดานพ่อตัวเองป่ะ ตัวเองเป็นลูกเมียน้อยยังไม่มีใครว่าเลย ทำไมต้องพูดจาดูถูกคนอื่น
นอกจากนี้ยังพูดอีกว่า “ -ัวทอม ดูดิมี -ัวเป็นทอม” ทำไมเหยียดเพศคนอื่น ทั้งที่ตัวเองก็เคยเป็น hobo lesbian (เลสเบี้ยนที่เป็นกุ๊ย)
เหมือนว่าพูดจาดูถูกคนอื่นเพื่อให้ตนเองสูงขึ้น แต่หนูไม่ได้คิดอะไร หนูมองว่ามันต่ำ”
8. ทุกคนในงานแยกทั้งคู่ออกจากกัน โดยให้ “เบล” ไปอยู่หัวเรือ ส่วน “ดิว” ไปอยู่ท้ายเรือ
9. ระหว่างปาร์ตี้นั้น “แฟนของเบล” เมามาก จึงเดินไปต่อย “ดิว” ไป 1 ที
10. “เซบาสเตียน” แฟนของดิว จึงเข้ามากระชากหัวแฟนสาวหล่อของเบล เพราะไปต่อยดิว จากนั้นเกิดการขว้างปาสิ่งของกัน
จนกัปตันเรือเข้ามาช่วยห้าม ซึ่งแฟนสาวหล่อของเบล ไม่ได้โดนอะไร เพราะเด็กเสิร์ฟมาช่วยจึงโดนเซบาสเตียนต่อยไป 1 ที
11. “เบล” เผยว่า “เซบาสเตียน” โทรไปขู่ แฟนสาวหล่อของเบลว่าจะเอาพวกมากระทืบ
12. “เบล” เผยว่า “ดิว” โทรไปฟ้อง “ไผ่ วันพอยท์” ว่า “เบล” เป็นคนสั่งการ แต่จริงๆ ตนเป็นคนห้าม
ซึ่ง “เบล” ได้คุยกับ “ไผ่ วันพอยท์” ก่อนเพราะทางครอบครัวรู้จักกันอยู่แล้ว
เบล : “เธอจะให้พี่ไผ่มาทำอะไรฉัน ขอโทษทีเถอะ เธอรู้จักฉันน้อยไป เธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ดังนั้นอย่าอวดฉลาด”
13. “เบล” เผยต่อว่า “หนูยอมจ่าย 500 เพื่อให้ได้ตบมันอีก และไม่เคยเสียใจเลยด้วยที่ทำไป ไม่รู้ตอนนี้หน้าต้องไปเย็บกี่เข็ม
ถามว่ามีส่งใครมาเจรจาเรื่องนี้ไหม ไม่มีค่ะ เพราะเรื่องนี้มันผิดเต็มๆ ตั้งแต่แรกยันจบ ดังนั้นสมควรโดน”
14. “เบล” มีความคิดจะดำเนินคดีหมิ่นประมาท
เบล : “มีกล้องวงจรปิดบนเรือ เด็กเรือติดต่อเรามาถามว่าเป็นยังไงบ้าง เขาพูดว่า ขอบคุณนะที่เราเป็นหนึ่งในคนที่กล้าหาญที่ทำแบบนี้
แต่เราบอก อ๋อเปล่านะ เราไม่เคยใส่ใจอะไรเลยเขาเลย แต่ทำไมเขาต้องมานั่งหึงเรา อิจฉาเรา เขารู้แก่ใจเพราะแฟนเขามาชอบเราไง”
15. เรื่องนี้จะจบได้ก็ต่อเมื่อ ดิวมาขอโทษเบล
เบล : “หนูจะจบแน่ค่ะพี่ ถ้ามันมาขอโทษหนู ขอโทษต่อหน้า อย่ามาเก่งลับหลัง อย่ามาขอโทษบนไอจีไม่รับ ต้องพูดต่อหน้า ออกสื่อก็พูดด้วยนะ
แล้วถ้าโกหกอีก -ู เอาตาย”
16. “เบล” เผยมุมมองส่วนตัว กรณีถูกบูลลี่ในอดีต
เบล : “คนเราอ่ะ คนเล่นยา เขาไม่ได้เป็นคนไม่ดีนะคะ เขาอาจจะมีความสุขของเขา เขาอาจจะมีปัญหา มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
แต่เขาไม่ได้ไปขอเงินใคร สุขภาพก็เป็นสุขภาพของเขา และการผิดพลาดไปครั้งหนึ่ง ไม่ได้ทำให้ทั้งชีวิตเสียไปเลย อย่าเอาเรื่องนี้มาบูลลี่เขาซ้ำๆ
แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย แต่เขายกขึ้นมาเพื่อบูลลี่เรา ให้ตนเองดูสูงขึ้น คุณควรให้โอกาสคนแก้ตัว
มันไม่มีใครสามารถตัดสินได้ว่า คนเล่นยาเป็นคนดีหรือไม่ดี ฉะนั้นอย่าโลกแคบ อย่าเอาเรื่องนี้มาบูลลี่กัน”
17. ก่อนที่จะจบการสัมภาษณ์ “เบล” ก็ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เมื่อนึกถึงคำพูดของอีกฝ่ายที่มีการพูดถึงพ่อตน
เบล : “อย่าบูลลี่พ่อคนอื่น พ่อยังไงก็คือพ่อของหนู เขาจะทำอะไรก็ตามเขาก็คือพ่อของหนู
พ่อของคุณทำผิดอะไร หนูยังไม่เคยไปว่าพ่อของคุณเลย ทำไมคุณถึงมาว่าพ่อหนู”
18. “แฟนสาวหล่อของเบล” ขอฝากถึงสังคม ว่า
“เวลามีเรื่อง ก็อย่าไปขุดคุ้ยเรื่องในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพ่อแม่ เพราะคนมันผิดพลาดกันได้
พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เรื่องของบนเรือ ทำไมต้องขุดคุ้ยเรื่องเก่า ให้มันจบแค่ตรงนี้ดีกว่า”
19. “เบล” ขอฝากถึงสังคมและกลุ่ม LGBT ว่า
“คนที่เป็นแฟนคลับก็ฟังไว้ด้วยนะคะ ไม่ใช่อยู่ๆ มาเข้าข้างกัน หลับหูหลับตาไม่ฟังอะไรเลย
ซึ่งเขาเหยียดเพศมาก แต่ตัวเขาเองเคยเป็นเลสเบี้ยนมาก่อน และเคยเป็นดี้มาก่อน มี -ัวเป็นทอมมาตลอด
พอมี -ัวรวยหน่อย ลืมกำพืดตัวเองแล้วมาบูลลี่เรา หนูว่ากลุ่ม LGBT ควรออกมาค่ะ คนๆ นี้ไม่ควรได้รับการสนับสนุนจากพวกคุณค่ะ”