เรื่องมีอยู่ว่า เราเเละเเฟนได้เดินทางไปช้อปปิ้งที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ (ซึ่งเรากับเเฟนไปกันบ่อยเพราะชอบการบริการของที่นี่) ในขณะที่เเฟนของเรานั้นกำลังขับรถขึ้นไปอาคารจอดรถ3,000คัน ระหว่างที่อยู่บริเวณทางขึ้นชั้น2 (ทุกคนก็รู้ดีว่าเวลาเราขับรถขึ้นทางลาดชัน เราจะต้องเร่งเครื่องให้รถขึ้นเพื่อให้มีเเรงส่งตัวเองขึ้นไปเเละการที่ รปภ. นั้น มาโบกให้รถหยุด จึงเป็นการทำให้รถนั้นเสียจังหวะเป็นอย่างมาก สมมติว่ารถเบรกอยู่กับที่ในทางลาด เเล้วเเฟนของเราปล่อยเบรกเพื่อที่จะเหยียบคันเร่ง เเล้วรถเกิดไหลไปโดนคันข้างหลัง รปภ. คนนั้นก็คงรับผิดชอบอะไรไม่ได้ นอกเสียจากคำว่าขอโทษ เเละอีกเรื่องหนึ่ง รถที่ออกมาจากอีกทางที่รปภ. โบกให้ ขับมาจากเเนวราบซึ่งสามารถจอดรอได้ เเต่รปภ. เลือกที่จะให้รถของเเฟนเรารอ เเฟนเราเลยเปิดกระจกเพื่อคุยกับรปภ.ดีๆ เเต่รปภ. กลับพูดจาไม่ดี เเล้วเดินหนีเเละตอบเพียงเเค่ว่ารถยังขึ้นมาไม่ถึง ทำให้เราเเละเเฟนโกรธมากจึงไปร้องเรียนกับศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ เเต่หัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์เเละหัวหน้ารปภ. ปล่อยให้เราเเละเเฟนเรายืนรอเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะพาเราเเละเเฟนเราไปนั่งที่ห้องรับรอง เรากับเเฟนเราได้ปรึกษากันเเล้วว่าจะให้รปภ. มาขอโทษเเละทุกอย่างจะจบไป เเต่ทางหัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ยืนกรานอย่างหนักเเน่นว่าจะไม่ยอมพาตัวรปภ. คนนี้ขึ้นมาขอโทษ ทั้งนี้ทั้งนั้นทางเราเเละเเฟนเรารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเเละทางหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของห้างเซ็นทรัลเวิล์ดได้มาบอกว่ารปภ. ของเขานั้นไม่ได้มีการเดินหนีจากเราเเละเเฟนเราที่นั่งอยู่ในรถ เเฟนเราจึงให้หัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์มาเปิดกล้องวงจรปิดให้ดู(นี่คือหลักฐานที่อยู่กับเซ็นทรัลซึ่งเเสดงให้เห็นว่าเราเเละเเฟนเราไม่ได้โกหก) จึงเห็นว่ารปภ.ได้มีการเดินหนีจริงซึ่งหลักฐานนั้นแสดงให้เห็นว่าเราเเละเเฟนเราไม่ได้พูดโกหก ถึงอย่างไรก็ตามทางหัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะไม่พาตัวรปภ. ขึ้นมาขอโทษเราเเละเเฟน เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เราเเละเเฟนรู้สึกเเย่เเละเสียความรู้สึกกับเซ็นทรัล พัฒนาเป็นอย่างมาก จากนั้นเราเเละเเฟนจึงเดินออกจากห้องรับรอง  
ทุกคนคิดเห็นเป็นอย่างไรบ้างคะกับบุคลากรระดับหัวหน้าแผนกจากเซ็นทรัล พัฒนา 
ทางครอบครัวของเเฟนเเละตัวดิฉันได้ทำการยกเลิกบัตรเซ็นทรัลทั้งหมดเนื่องจากเซ็นทรัลไม่ได้ให้ความสำคัญกับลูกค้าเลย