เกิดมาเป็นคนปากแห้งมันน่าสยองแค่ไหนใครจะรู้ อย่างเราเนี่ยเหมือนโดนสาปให้ปากแห้งสุดไรสุด เกาทีเป็นสะเก็ด หนังปากลอกเป็นแผ่นๆ ต้องดึงออกประจำ พอดึงออกปุ๊ปเลือดกระฉูดอีก ใครไม่ได้ปากแห้งดิชั้นอยากให้ลองจินตนาการภาพดูนะ เวลาที่ดึงหนังปากแล้วเลือดออกเนี่ย แค่คิดก็สะพรึงแล้ว
ความสยองยังไม่จบแค่นี้ ยกตัวอย่างเวลาทาลิปสติกที ก็คือน่าเกลียดมากเพราะมันเป็นคราบตกร่องตัลหลอดจร้า ไหนจะเวลาสวีทวิ้ดวิ้วกับบอยเฟรนด์ ก็ต้องเสียอารมณ์เวลาจะจูจุ๊บกับแฟนอีก คิดสิว่าโมเม้นกำลังได้ สบตาปิ๊งๆแบบพระนางในหนังฮอลลีวู้ด แต่พอจุ๊บปุ๊ป หนังปากตัวเองติดปากแฟน!!! โอ๊ย จากโรแมนติกเปลี่ยนเป็นเฮอร์เรอร์ขนหัวลุก ยังกับหนังสยองขวัญเอเลี่ยนลอกคราบ อับอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้วพส
เหมือนจะตลกแต่เจอจริงไม่ตลกเลยนะเธอ ทั้งหมดนี่แหละที่ส่งให้สาวน้อยอย่างดิชั้นหมกมุ่นกับปากตัวเองมาก ทุกคืนต้องมานั่งโป๊ะสารพัดตัวบำรุงปาก ยิ่งช่วงหน้าหนาวเนี่ยยิ่งน่ากลัวเลยจ้าพส. อะไรที่บำรุงได้ก็ต้องขนมาบำรุงไว้ก่อนล่ะ
ไหนๆก็เห็นรีวิวคนผิวแห้งหน้าแห้งกับบรรดาครีมโลชั่นอะไรต่างๆกันเยอะแยะแล้ว เลยขอสวมวิญญาณบิ้วตี้บล็อกเกอร์เป็นตัวแทนสาวปากแห้งขอรีวิวลิปบาล์มกับสครับที่ตัวเองเคยใช้บ้าง แน่นอนว่าทั้งสองอย่างนี้จัดเป็นไอเทมที่สาวปากแห้งขาดไม่ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะคนปากแห้งเหมือนนาขาดน้ำอย่างดิชั้น บางตัวนอกจากให้ความชุ่มชื้นแล้วยังเคลมเรื่องความอมชมพูด้วยเด้อ แต่จะใช้แล้วแจ่มจริงไหมยังไงเดี๋ยวมาฝอยในกระทู้นี้แหละ
มาจ๊ะ ว่าแล้วก็โดดขึ้นรถมาเลยสาวๆ
get in loser we're gonna read รีวิวนี้ and going shopping ด่วนๆจ้า //ทำหน้าแบบเรจิน่า
__________________
หมวด1 : ลิปบาล์ม
ผู้เข้าชิงได้แก่
1. Deesay Lip Repair Serum
2. Himalaya Lip Balm
3. Carmex Cherry Lip Balm SPF15
4. IRA eco tube Natural Lip Balm
__________________
Deesay Lip Repair Serum
วิธีใช้ : ทาลิปบาล์มลงบนริมฝีปากโดยตรงเพิ่มความชุ่มชื้น หรือทาเคลือบลิปสติกเพิ่มความแวววาว
ลิปบาล์มดีเซย์สเปเชี่ยลตรงที่ว่านางเป็นลิปแบบรีแพร์เซรั่ม ที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูริมฝีปากได้ดีกว่าลิปบาล์มทั่วไป มีส่วนผสมเด่นๆทั้งจาก Collagen ช่วยให้ริมฝีปากไม่แห้งแตก,Pentavitin ช่วยเติมความชุ่มชื้นยาวนาน24ชั่วโมง,Vitamin E ต่อต้านอนุมูลอิสระ ให้ปากเนียนนุ่ม และที่พิเศษสุดคือสารสกัด Aole Vera ออแกนิกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ขีดเส้นใต้เน้นตัวหนาตรงที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากสถาบันEcoCertมาแล้วนะจ๊ะ ซึ่ง AoleVera เนี่ยช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ ช่วยสมานแผล คือดีเวอร์ ถูกใจสายซาดิสชอบแกะหนังปากจนเป็นแผลแบบดิชั้นมาก
เนื้อลิปไม่ได้ใสแจ๋วนะ มีสีชมพูบางๆอยู่ด้วย ให้ฟีลแบบทิ้นต์ผสมลิปบาล์ม ซึ่งขอบอกเลยว่าสีนางติดทนมากเด้อตอนใช้ ถึงขั้นมีชื่อเล่นว่า #ลิปสักปาก เพราะทาแล้วสีมันจะระเรื่อๆอมชมพูแบบเป็นธรรมชาติเหมือนไปสักปากมาเลย และด้วยความที่นางเป็นลิปเซรั่ม เนื้อจะไม่หนักเท่าลิปบาล์มปกติ บอกไม่ถูก มันจะชุ่มฉ่ำแต่บางเบา และเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยในเรื่องความนุ่มและเรื่องปากแห้ง ทาแล้วปากดูอิ่ม ไม่แตกเป็นสะเก็ด ช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมาก็ได้ตัวนี้แหละช่วยชีวิตไว้ เห็นว่าทาบ่อยๆแล้วปากชมพูขึ้นด้วย แต่นี่ยังใช้ไม่นานมากเลยบอกไม่ได้ แต่ที่บอกได้แน่นอนคือสีลิปสวยธรรมชาติติดทนจริง ทาตัวนี้เพียวๆออกจากบ้านก็ไม่น่าเกลียดอ่ะ งานเกาหลีใสแบ๊วเมคอัพโนเมคอัพต้องมา นี่ซื้อมาช่วงโปรโมชั่นลดราคาแค่ 290 บาทเอง ถือว่าคุ้มมากนะจากที่ใช้มา
Himalaya Lip Balm
วิธีใช้ : ทาลงบนริมฝีปากแบบเดี่ยวๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แนะนำให้ทาก่อนนอน
หลายคนคงคุ้นชื่อกับ Himalaya อยู่แล้วเนอะ สำหรับลิปบาล์มตัวนี้ก็เคลมเรื่องส่วนผสมธรรมชาติแนวสมุนไพรใดๆ เน้นพวก Oil เป็นพิเศษ ทั้ง Wheat germ Oil,Carrot seed Oil,Castor Oil,Coconut Oil ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและจัดการกับปากแห้งแตกโดยตรง และยังมี Vitamin E ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมทับด้วยคุณสมบัติในการป้องกันปากจากรังสี UV อีก ป้องกัน+ลดความดำคล้ำของริมฝีปากได้นะจ๊ะ
แม้จะมีส่วนผสมของสารกันแดดก็ตาม แต่ดิชั้นขอเตือน!!! ว่าให้ทาก่อนนอนดีกว่า เนื่องจากลิปบาล์มตัวนี้เป็นเนื้อเจลที่มีความเข้มข้นสูงงงงงง เนื้อสัมผัสจะเหนอะๆ ได้อารมณ์คนพึ่งกินข้าวมันไก่มา ปากมันแผล็บเลยทีเดียว บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่พอดีว่าดิชั้นปากแห้งอยู่แล้วไง เลยใช้ได้ชิลล์ๆไม่มีปัญหา 555 ตัวนี้เป็นลิปไม่มีสีนะคะ ส่วนกลิ่นก็หอมอ่อนๆเบาๆสบายจมูก เรื่องความชุ่มชื้นให้เต็มสิบไปเลย เพราะเนื้อเข้มข้นอยู่แล้ว ทาลงปากไม่กลัวเลยว่าปากจะแห้ง ยิ่งโบกตอนกลางคืน ตื่นเช้ามาล้างออกแล้วปากนุ่มเลยเด้อ แต่ว่าตัวนี้ไม่ได้ช่วยลดความดำของปากแต่อย่างใด ก็เหมือนเดิมอ่ะ
และอีกอย่างที่ควรระวังคืออย่าให้นางโดนแดดนานเด็ดขาด!!! ไม่งั้นคือเหลวเป็นน้ำเลย T-T แต่ด้วยราคาที่ไม่แพง 150 บาทเอง ถือว่าโอเคแหละ
Carmex Moisturizing Lip Balm Cherry Jar SPF15
วิธีใช้ : ทาลงบนริมฝีปากเพิ่มความชุ่มชื้น หรือใช้รองพื้นปาก กับเคลือบสีลิปสติกก็ได้
ข้อมูลของนางไม่ค่อยเยอะเท่าไร เท่าที่ค้นมาคือนางเป็นลิปบาล์มเชอร์รี่ตัวดังที่มีความพิเศษตรงมีสารป้องกันแดด SPF15 ไม่ทำให้ปากคล้ำ มีส่วนผสมของการบูรกับเมนทอลที่ช่วยให้ความรู้สึกเย็นสบายปากเวลาทา และก็มีมอยเจอร์ไรซ์เซอร์ช่วยรักษาและบรรเทาอาการปากแห้งแตกเป็นขุย แถมยังให้กลิ่นและรสสัมผัสที่หอมแบบเชอร์รี่อีกด้วย
ลิปบาล์มตัวนี้ออกแนวคล้ายๆสีผึ้งทาปาก ทาแล้วไม่มีสี จะทาเดี่ยว ทารองพื้นก่อนทาลิป หรือทาเคลือบสีลิปก็ได้หมด สิ่งที่ชอบของยี่ห้อนี่คือกลิ่นหอมมากกกกกพส เปิดฝาจากหน้าหมู่บ้านแต่ได้กลิ่นมายันท้ายหมู่บ้านอ่ะประมาณนั้นเลย หอมแรงหอมอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้(ใครแพ้น้ำหอมเลี่ยงตัวนี้ไปได้เลยจ้า) ส่วนเนื้อลิปบาล์มแน่นๆดี แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำเวลาทาเท่าไร มันจะเนียนๆแห้งๆ คิดว่าเหมาะกับคนปากทั่วไปที่อยากทาลิปบาล์มมากกว่าคนปากแห้ง ส่วนที่เคลมว่าให้รสแบบเชอร์รี่ อันนี้คอนเฟิร์มไม่ได้เหมือนกันเพราะดิชั้นไม่กินลิปจ้า 555 ใครอยากรู้ก็ต้องลองเองนะ ส่วนเรื่องลดความคล้ำก็พอเห็นผลอยู่ ดูจากสารกันแดดที่ใส่มาด้วย แต่ไม่ได้ทำให้ปากชมพูขึ้นนะ ถามว่าชอบไหมคงต้องตอบว่าเฉยๆ ราคาก็กรุบๆที่ 135 บาทจ้า
IRA eco tube Natural Lip Balm #Peach
วิธีใช้ : ทาลงบนริมฝีปากเพิ่มความชุ่มชื้น หรือใช้เคลือบสีลิป แนะนำให้ทาตอนกลางวัน
แบรนด์สำหรับสายรักธรรมชาติ รักน้ำ ปลา ซากุระ ตั้งแต่แพคเกจก็เป็นกระดาษทั้งแท่ง ส่วนผสมก็ธรรมชาติหมดโนสารเคมีใดๆ ที่เรามีเป็นสูตรพีชนะ ส่วนในเรื่องส่วนผสมก็มีทั้ง Shea Butter, Beeswax, Macadamia Nut Oil, Carnauba Wax ที่จะให้เนื้อสัมผัสมันวาว ให้ความชุ่มชื้น และช่วยฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้งแตกและคล้ำค่ะ
เนื้อลิปเป็นสีขาวแบบไร้สี มีกลิ่นพีชอ่อนๆไม่แรง ทาควบคู่กับลิปสติกแบบสีๆได้เลยค่ะ เพราะไม่ให้สีปากดูแมตต์แห้งเกิน ตัวนี้เขาเน้นมาว่าเหมาะไว้ทาตอนกลางคืน เพราะเนื้อเข้มข้น แต่จากที่ทาก็เฉยๆนะ ไม่ได้เข้มข้นไรมาก เนื้อลิปบางเบาสบายปาก ลื่นๆมีความวาวเวลาทาครั้งแรก แต่ทิ้งไว้สักพักจะวาวน้อยลง และไม่ได้ให้ความรู้สึกฉ่ำเท่าไร เราว่ามันคล้ายๆCarmexอ่ะ ให้ความชุ่มชื้นแบบกลางๆไม่มาก ไม่สะใจคนปากแห้งแบบดิชั้นเลย
แต่น่าจะถูกใจคนไม่ชอบอะไรมันๆแน่นอน ตัวนี้นางบอกว่าใช้บ่อยๆปากคล้ำน้อยลงนะ ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ได้หยิบมาใช้บ่อยเท่าไรเพราะแพคเกจใช้ยากมาก ต้องดันทางตูดเพราะหมุนไม่ได้ ใช้ทีก็ดันทีละนิดๆ ลำบากลำบนแท้ ใดๆก็ตามราคาจัดว่าแรงนิดหนึ่งที่ 198 บาท เพราะตัวหลอดมันเล็กมาก มินิแบบขนาดพกพา ถ้าทาบ่อยๆแปปๆก็หมดแล้ว
__________________
[CR] แห้งแค่ไหนก็เอาอยู่ ขนลิปบาล์ม+สครับตัวดีมารีวิวเพื่อสาวปากแห้งจ้า
เหมือนจะตลกแต่เจอจริงไม่ตลกเลยนะเธอ ทั้งหมดนี่แหละที่ส่งให้สาวน้อยอย่างดิชั้นหมกมุ่นกับปากตัวเองมาก ทุกคืนต้องมานั่งโป๊ะสารพัดตัวบำรุงปาก ยิ่งช่วงหน้าหนาวเนี่ยยิ่งน่ากลัวเลยจ้าพส. อะไรที่บำรุงได้ก็ต้องขนมาบำรุงไว้ก่อนล่ะ
ไหนๆก็เห็นรีวิวคนผิวแห้งหน้าแห้งกับบรรดาครีมโลชั่นอะไรต่างๆกันเยอะแยะแล้ว เลยขอสวมวิญญาณบิ้วตี้บล็อกเกอร์เป็นตัวแทนสาวปากแห้งขอรีวิวลิปบาล์มกับสครับที่ตัวเองเคยใช้บ้าง แน่นอนว่าทั้งสองอย่างนี้จัดเป็นไอเทมที่สาวปากแห้งขาดไม่ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะคนปากแห้งเหมือนนาขาดน้ำอย่างดิชั้น บางตัวนอกจากให้ความชุ่มชื้นแล้วยังเคลมเรื่องความอมชมพูด้วยเด้อ แต่จะใช้แล้วแจ่มจริงไหมยังไงเดี๋ยวมาฝอยในกระทู้นี้แหละ
get in loser we're gonna read รีวิวนี้ and going shopping ด่วนๆจ้า //ทำหน้าแบบเรจิน่า
2. Himalaya Lip Balm
3. Carmex Cherry Lip Balm SPF15
4. IRA eco tube Natural Lip Balm
วิธีใช้ : ทาลิปบาล์มลงบนริมฝีปากโดยตรงเพิ่มความชุ่มชื้น หรือทาเคลือบลิปสติกเพิ่มความแวววาว
ลิปบาล์มดีเซย์สเปเชี่ยลตรงที่ว่านางเป็นลิปแบบรีแพร์เซรั่ม ที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูริมฝีปากได้ดีกว่าลิปบาล์มทั่วไป มีส่วนผสมเด่นๆทั้งจาก Collagen ช่วยให้ริมฝีปากไม่แห้งแตก,Pentavitin ช่วยเติมความชุ่มชื้นยาวนาน24ชั่วโมง,Vitamin E ต่อต้านอนุมูลอิสระ ให้ปากเนียนนุ่ม และที่พิเศษสุดคือสารสกัด Aole Vera ออแกนิกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ขีดเส้นใต้เน้นตัวหนาตรงที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากสถาบันEcoCertมาแล้วนะจ๊ะ ซึ่ง AoleVera เนี่ยช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ ช่วยสมานแผล คือดีเวอร์ ถูกใจสายซาดิสชอบแกะหนังปากจนเป็นแผลแบบดิชั้นมาก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้