......เริ่มต้นเรามีแฟนคนแรกตอนอายุ20ปี ถ้าย้อนเวลากลับไปในช่วงเวลานั้น เราเป็นเด็กที่มาจากต่างจังหวัด ที่เรียนจบ ม.6 เพื่อหวังจะมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ จากเด็กน้อยหน้าตาใสซื่อที่ไม่เคยมีแฟน พอมาเจอแสง สี เสียงในกรุง ทำให้เรารู้ไม่เท่าทันคน ใครที่เข้ามาจีบคือชอบเขาไปหมด และได้เสียท่าให้กับแฟนคนแรก และพลาดท้องในวัย21 ปี และทำให้เราทิ้งการเรียนไปโดยปริยาย เพื่อมาสร้างครอบครัวกับแฟน พออยู่กับแฟนไปนานๆทำให้เรารู้สึกว่าไม่โอเค เพราะเขาทำร้ายร่างกายเรา และค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัวมีแต่เราที่เป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด เราเลยตัดสินใจหอบลูกหนี ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังจากที่ใช้ชีวิตร่วมกัน7 ปี (แฟนคนแรกที่เราเห็น เขาจะมีไฝและขี้แมลงวันที่อวัยวะเพศของเขา ส่วนตัวเราเองก็มีขี้แมลงวันที่ของลับเช่นกัน)
......หลังจากที่เราได้ตัดสินใจพาลูกหนีไปจากแฟนคนแรก ทำให้เรากลับไปเริ่มต้นเรียนใหม่ เราทั้งทำงานด้วยเรียนด้วย และในระหว่างที่ไปเรียนนั้นก็ได้บังเอิญเจอแฟนคนที่2 ซึ่งได้พูดคุยกันในขณะที่ไปรอสอบวิชาเดียวกัน หลังจากสอบเสร็จ ก็ได้ติดต่อกันเรื่อยมา จนถึงขั้นเป็นแฟนกัน เรารู้สึกดีนะคนที่เข้ามาเขายอมรับอดีตที่ผ่านมาของเราได้ และไม่รังเกียจ ในระหว่างที่เรากลับไปเรียนนั้น เราเรียนรามคำแหง เราเรียนจบก่อนแฟน เราใช้เวลาเรียน 2 ปี (ที่จบไวเพราะเราเทียบโอนหน่วยกิตเก่าที่เคยเรียนไว้ตั้งแต่ก่อนมีแฟนคนแรก)หลังจากได้ใบปริญญามาแล้ว เราก็ไปลงเรียนเพิ่มคณะเดียวกันกับแฟน เพื่อให้เขารู้สึกว่ายังมีเราเรียนเป็นเพื่อนเขาอยู่ ....สรุปเราได้ใบปริญญามา 2 ใบ หลังจากที่แฟนเรียนจบในวันที่เขารับปริญญา เป็นครั้งแรกที่เราได้เจอพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ฝ่ายแฟน นับได้ว่าเป็นการเปิดตัวครั้งแรกก็ว่าได้ หลังจากที่เราคบกันได้ 3 ปี เพิ่งได้เจอครอบครัวเขา และในวันนั้นเองก็มีผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่าย ทั้งฝ่ายเรา และฝ่ายแฟนได้คุยกัน พ่อ แม่ ของแฟนยอมรับเราได้ที่เรามีลูกแล้ว และวันนั้นก็พูดคุยกันเรื่องเรากับแฟนคือฝ่ายแฟนสู่ขอเราในวันนั้นเลย หลังจากนั้นเรากับแฟนก็ทำงาน แฟนสัญญาว่าจะไปแต่งให้ถูกต้องตามที่ตกลงกันไว้ เงินเดือนที่แฟนทำงานได้เราก็ไม่เคยขอเขา คิดว่าให้เขาเก็บเงินเพื่อไปแต่งงาน ก็เลยไม่รบกวนแฟน ส่วนลูกเรา เราก็ส่งเสียเอง แฟนไม่ได้ช่วย เหมือนทุกอย่างจะราบรื่นไปได้ด้วยดี แต่สุดท้ายรักครั้งนี้ก็ล่มกลางทางเมื่อย่างเข้าสู่ปีที่7 เขามาบอกเราว่า “ไปด้วยกันไม่ได้แล้วนะ เพราะเขาไปทำผู้หญิงท้อง”เรานี้จุกเลย รักมาถึงทางตันอีกครั้ง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเราก็ต้องปล่อยเขาไป เพื่อไปรับผิดชอบอีกคน รักครั้งนี้ก็จบที่ 7ปี (แฟนคนที่ 2 ก็มีไฝที่ของลับเหมือนกัน)
.......เรากลับมาโสดอีกครั้ง ในวัย35 และหลังจากนั้นอีก2ปีต่อมา เพื่อนแนะนำแฟนคนล่าสุดให้รู้จัก เขายอมรับได้ที่มีลูก โอ เค เรายอมคบ แรกๆคุยกันยอมรับเขาดีหมดทุกอย่าง จากประสบการณ์2ครั้งที่ผ่านมา ทำให้เราฉุกคิดก่อนเลย ถ้าคนนี้มีไฝตรงที่ลับอีกละ เราจะทำไง? ถ้ามีเราจะได้เลิกกันอีกหรอ สุดท้ายแฟนคนล่าสุดก็มีไฝอีกเหมือนกัน เราก็พยายามทุกอย่างเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แต่สุดท้ายเขาก็ขอเลิกกับเราเพื่อไปเริ่มต้นใหม่กับผู้หญิงที่ไม่มีลูก หาเหตุผลทุกอย่างเพื่อมาขอเลิกครั้งนี้จบลงที่1ปี ซึ่งเราโดนเทในวัย 39 คืออะไรยังไง?เราเฝ้าถามตัวเองนะ ทำไมเราถึงไม่เจอรักดีๆบ้าง เราเองไม่อยากเริ่มต้นใหม่บ่อยๆ ไม่อยากใช้ผู้ชายเปลือง หรืออาจะเป็นเพราะอาถรรพ์ของไฝที่เคยได้ยินเขาล่ำลือกันหรือเพราะอะไรเราก็ยังงงกับชีวิต
#ผู้ชายที่เราเจอทั้ง 3 คน นี้ ล้วนบังเอิญมีไฝที่ลับหมดเลย และเราเองก็มีเช่นกัน คนแก่คนเฒ่าสมัยก่อนเคยพูดไว้ว่าผู้หญิงถ้ามีไฝตรงที่ลับ จะเป็นไฝกินผัว จากที่ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้ ทำให้เราเชื่อขึ้นมาทันทีต่อให้เราทำดีสักแค่ไหน...ซื่อสัตย์สักเท่าไหร่ คนที่เรารักก็ไปจากเราอยู่ดี😥😥😥
มีใคร?เชื่อเรื่องอาถรรพ์ไฝในที่ลับบ้าง
......หลังจากที่เราได้ตัดสินใจพาลูกหนีไปจากแฟนคนแรก ทำให้เรากลับไปเริ่มต้นเรียนใหม่ เราทั้งทำงานด้วยเรียนด้วย และในระหว่างที่ไปเรียนนั้นก็ได้บังเอิญเจอแฟนคนที่2 ซึ่งได้พูดคุยกันในขณะที่ไปรอสอบวิชาเดียวกัน หลังจากสอบเสร็จ ก็ได้ติดต่อกันเรื่อยมา จนถึงขั้นเป็นแฟนกัน เรารู้สึกดีนะคนที่เข้ามาเขายอมรับอดีตที่ผ่านมาของเราได้ และไม่รังเกียจ ในระหว่างที่เรากลับไปเรียนนั้น เราเรียนรามคำแหง เราเรียนจบก่อนแฟน เราใช้เวลาเรียน 2 ปี (ที่จบไวเพราะเราเทียบโอนหน่วยกิตเก่าที่เคยเรียนไว้ตั้งแต่ก่อนมีแฟนคนแรก)หลังจากได้ใบปริญญามาแล้ว เราก็ไปลงเรียนเพิ่มคณะเดียวกันกับแฟน เพื่อให้เขารู้สึกว่ายังมีเราเรียนเป็นเพื่อนเขาอยู่ ....สรุปเราได้ใบปริญญามา 2 ใบ หลังจากที่แฟนเรียนจบในวันที่เขารับปริญญา เป็นครั้งแรกที่เราได้เจอพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ฝ่ายแฟน นับได้ว่าเป็นการเปิดตัวครั้งแรกก็ว่าได้ หลังจากที่เราคบกันได้ 3 ปี เพิ่งได้เจอครอบครัวเขา และในวันนั้นเองก็มีผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่าย ทั้งฝ่ายเรา และฝ่ายแฟนได้คุยกัน พ่อ แม่ ของแฟนยอมรับเราได้ที่เรามีลูกแล้ว และวันนั้นก็พูดคุยกันเรื่องเรากับแฟนคือฝ่ายแฟนสู่ขอเราในวันนั้นเลย หลังจากนั้นเรากับแฟนก็ทำงาน แฟนสัญญาว่าจะไปแต่งให้ถูกต้องตามที่ตกลงกันไว้ เงินเดือนที่แฟนทำงานได้เราก็ไม่เคยขอเขา คิดว่าให้เขาเก็บเงินเพื่อไปแต่งงาน ก็เลยไม่รบกวนแฟน ส่วนลูกเรา เราก็ส่งเสียเอง แฟนไม่ได้ช่วย เหมือนทุกอย่างจะราบรื่นไปได้ด้วยดี แต่สุดท้ายรักครั้งนี้ก็ล่มกลางทางเมื่อย่างเข้าสู่ปีที่7 เขามาบอกเราว่า “ไปด้วยกันไม่ได้แล้วนะ เพราะเขาไปทำผู้หญิงท้อง”เรานี้จุกเลย รักมาถึงทางตันอีกครั้ง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเราก็ต้องปล่อยเขาไป เพื่อไปรับผิดชอบอีกคน รักครั้งนี้ก็จบที่ 7ปี (แฟนคนที่ 2 ก็มีไฝที่ของลับเหมือนกัน)
.......เรากลับมาโสดอีกครั้ง ในวัย35 และหลังจากนั้นอีก2ปีต่อมา เพื่อนแนะนำแฟนคนล่าสุดให้รู้จัก เขายอมรับได้ที่มีลูก โอ เค เรายอมคบ แรกๆคุยกันยอมรับเขาดีหมดทุกอย่าง จากประสบการณ์2ครั้งที่ผ่านมา ทำให้เราฉุกคิดก่อนเลย ถ้าคนนี้มีไฝตรงที่ลับอีกละ เราจะทำไง? ถ้ามีเราจะได้เลิกกันอีกหรอ สุดท้ายแฟนคนล่าสุดก็มีไฝอีกเหมือนกัน เราก็พยายามทุกอย่างเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แต่สุดท้ายเขาก็ขอเลิกกับเราเพื่อไปเริ่มต้นใหม่กับผู้หญิงที่ไม่มีลูก หาเหตุผลทุกอย่างเพื่อมาขอเลิกครั้งนี้จบลงที่1ปี ซึ่งเราโดนเทในวัย 39 คืออะไรยังไง?เราเฝ้าถามตัวเองนะ ทำไมเราถึงไม่เจอรักดีๆบ้าง เราเองไม่อยากเริ่มต้นใหม่บ่อยๆ ไม่อยากใช้ผู้ชายเปลือง หรืออาจะเป็นเพราะอาถรรพ์ของไฝที่เคยได้ยินเขาล่ำลือกันหรือเพราะอะไรเราก็ยังงงกับชีวิต
#ผู้ชายที่เราเจอทั้ง 3 คน นี้ ล้วนบังเอิญมีไฝที่ลับหมดเลย และเราเองก็มีเช่นกัน คนแก่คนเฒ่าสมัยก่อนเคยพูดไว้ว่าผู้หญิงถ้ามีไฝตรงที่ลับ จะเป็นไฝกินผัว จากที่ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้ ทำให้เราเชื่อขึ้นมาทันทีต่อให้เราทำดีสักแค่ไหน...ซื่อสัตย์สักเท่าไหร่ คนที่เรารักก็ไปจากเราอยู่ดี😥😥😥