แล้วก็มาถึงช่วงนี้ของปี เมื่อออสการ์ครั้งที่ 93 เพิ่งประกาศผู้เข้าชิงเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา เราจะชวนมาลองดูรายละเอียดของผู้เข้าชิงในแต่ละสาขา โดยจะเริ่มจากสาขาสมทบชายที่กระทู้นี้ก่อนครับ
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ:
https://www.facebook.com/TrustGuAndGoWatchIt
ซาช่า บารอน โคเฮน
"The Trial of the Chicago 7"
ตั้งแต่ Borat ภาคแรก ชื่อซาช่า บารอน โคเฮน ก็กลายเป็นดาวตลกชั้นนำของฮอลลีวู้ด เขาปรากฏตัวในฐานะคอเมเดียนทั้งบทนำและบทสมทบแย่งซีนในหนังหลายเรื่อง รวมถึง Borat ภาคสองที่ออกฉายในปี 2020 หลังจากภาคแรก 14 ปี ในปีเดียวกัน ซาช่าพลิกบทบาทในแบบที่เวทีรางวัลชื่นชอบ นั่นคือการผันตัวจากนักแสดงตลกมารับบทดราม่าซีเรียสจริงจังใน The Trial of the Chicago 7 (เวทีรางวัลชอบขนาดไหน ไม่เชื่อลองถามแมรี่ ไทเลอร์ มัวร์ ใน Ordinary People, ทอม แฮงค์ส ใน Philadelphia หรือเมลิสสา แมคคาร์ธี ใน Can You Ever Forgive Me?) หลังจากวนเวียนในวงการมานับสิบๆปี บท "แอ๊บบี้ ฮอฟฟ์แมน" ก็ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ
ทัพนักแสดงใน The Trial of the Chicago 7 เรียกได้ว่ารวมแต่หัวกะทิมาล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นดาราดีกรีออสการ์อย่างเอ๊ดดี้ เรดเมย์น หรือมาร์ค ไรแลนซ์ ไปจนถึงแฟรงค์ ลานเจลลา, อเล็กซ์ ชาร์ป และไมเคิล คีตัน เป็นต้น แต่สิ่งที่ทำให้ตัวละครแอ๊บบี้โดดเด่นขึ้นมาคือบทพูดยียวนกวนประสาทที่เขียนขึ้นมาโดยแอรอน ซอร์กิน ผนวกกับทักษะตลกที่ติดตัวซาช่ามาอยู่แล้ว
หนังสองเรื่องในปี 2020 ของซาช่า ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามี "สาร" ทางการเมืองชัดเจน ทั้ง Borat 2 และ The Trial of the Chicago 7 สารที่ว่านั้นชี้ชัดว่าเป็นการต่อต้านอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และฝ่ายขวาจัดในอเมริกาที่สนับสนุนเขา และการเล่นหนังที่เป็นที่พูดถึงทั้งสองเรื่อง นอกจากจะทำให้เขาเข้าชิงสมทบชายจากเรื่องหลังแล้ว หนังเรื่องแรกยังส่งให้เขาเข้าชิงบทดัดแปลงในปีนี้ด้วย
"ผมสนใจผู้คนที่ปรารถนาจะเป็นนักเคลื่อนไหวเสมอน่ะ ผมไม่ได้กล้าในระดับใกล้เคียง กับแอ๊บบี้ ฮอฟฟ์แมน เลย เขาไปประท้วงจนนับครั้งไม่ถ้วนเลยนะ" ซาช่ากล่าวถึงตัวละครที่เขารับบท แอ๊บบี้ ฮอฟฟ์แมน ตัวจริงลุกขึ้นมาประท้วงต่อความอยุติธรรมหลายเรื่องตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน จนกระทั่งลุกขึ้นมาต่อต้านสงครามเวียดนามในการนำพรรค "ยิปปี้" (Youth International Party - พรรคเยาวชนนานาชาติ)พร้อมกับฝีปากเสียดสีไฟแลบ "ผมแค่อยากตลกไปวันๆ แต่พวกนักเคลื่อนไหวเหล่านี้เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติ" ซาช่าว่า
ซาช่าเกิดในอังกฤษก็จริง แต่พื้นฐานครอบครัวชาวยิวของเขาโดยเฉพาะทางแม่ที่อพยพมาจากเยอรมนีทำให้เขาสนใจการเมืองอย่างเข้มข้น ยิ่งเห็นได้ชัดจากวิทยานิพนธ์สมัยปริญญาตรีที่เคมบริดจ์ของเขาที่ศึกษาเรื่องการเคลื่อนไหวทางสิทธิมนุษยชนในอเมริกา แต่ในขณะเดียวกันในสมัยมหาวิทยาลัย ซาช่าก็ร่วมแสดงละครเวทีอย่าง Fiddler on the Roof และ Cyrano de Bergerac ด้วย นี่เองคงเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาใช้การแสดง (โดยเฉพาการแสดงตลก) มาเป็นอาวุธทางการเมือง
"ผมคงจะโกหกถ้าไม่บอกว่ารู้สึกประหม่าที่ได้ร่วมงานกับแอรอน เพราะเขาน่ะเป็นมือเขียนบทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่" ซาช่าพูดตอนที่คุยกับเบน อัฟฟเฟลค ในสกู๊ป Actors on Actors ที่ Variety จัด "เขาน่ะเป็นเชคสเปียร์ของยุคเราเลยนะ" แต่ถึงแม้จะประหม่า การแสดงของซาช่าใน The Trial of the Chicago 7 ก็คือผลงานชั้นยอดของเขาเลยทีเดียว
นักแสดงสมทบชาย ออสการ์ครั้งที่ 93 [93rd Academy Awards]
ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ: https://www.facebook.com/TrustGuAndGoWatchIt
ซาช่า บารอน โคเฮน
"The Trial of the Chicago 7"
ตั้งแต่ Borat ภาคแรก ชื่อซาช่า บารอน โคเฮน ก็กลายเป็นดาวตลกชั้นนำของฮอลลีวู้ด เขาปรากฏตัวในฐานะคอเมเดียนทั้งบทนำและบทสมทบแย่งซีนในหนังหลายเรื่อง รวมถึง Borat ภาคสองที่ออกฉายในปี 2020 หลังจากภาคแรก 14 ปี ในปีเดียวกัน ซาช่าพลิกบทบาทในแบบที่เวทีรางวัลชื่นชอบ นั่นคือการผันตัวจากนักแสดงตลกมารับบทดราม่าซีเรียสจริงจังใน The Trial of the Chicago 7 (เวทีรางวัลชอบขนาดไหน ไม่เชื่อลองถามแมรี่ ไทเลอร์ มัวร์ ใน Ordinary People, ทอม แฮงค์ส ใน Philadelphia หรือเมลิสสา แมคคาร์ธี ใน Can You Ever Forgive Me?) หลังจากวนเวียนในวงการมานับสิบๆปี บท "แอ๊บบี้ ฮอฟฟ์แมน" ก็ส่งให้เขาเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ
ทัพนักแสดงใน The Trial of the Chicago 7 เรียกได้ว่ารวมแต่หัวกะทิมาล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นดาราดีกรีออสการ์อย่างเอ๊ดดี้ เรดเมย์น หรือมาร์ค ไรแลนซ์ ไปจนถึงแฟรงค์ ลานเจลลา, อเล็กซ์ ชาร์ป และไมเคิล คีตัน เป็นต้น แต่สิ่งที่ทำให้ตัวละครแอ๊บบี้โดดเด่นขึ้นมาคือบทพูดยียวนกวนประสาทที่เขียนขึ้นมาโดยแอรอน ซอร์กิน ผนวกกับทักษะตลกที่ติดตัวซาช่ามาอยู่แล้ว
หนังสองเรื่องในปี 2020 ของซาช่า ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามี "สาร" ทางการเมืองชัดเจน ทั้ง Borat 2 และ The Trial of the Chicago 7 สารที่ว่านั้นชี้ชัดว่าเป็นการต่อต้านอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และฝ่ายขวาจัดในอเมริกาที่สนับสนุนเขา และการเล่นหนังที่เป็นที่พูดถึงทั้งสองเรื่อง นอกจากจะทำให้เขาเข้าชิงสมทบชายจากเรื่องหลังแล้ว หนังเรื่องแรกยังส่งให้เขาเข้าชิงบทดัดแปลงในปีนี้ด้วย
"ผมสนใจผู้คนที่ปรารถนาจะเป็นนักเคลื่อนไหวเสมอน่ะ ผมไม่ได้กล้าในระดับใกล้เคียง กับแอ๊บบี้ ฮอฟฟ์แมน เลย เขาไปประท้วงจนนับครั้งไม่ถ้วนเลยนะ" ซาช่ากล่าวถึงตัวละครที่เขารับบท แอ๊บบี้ ฮอฟฟ์แมน ตัวจริงลุกขึ้นมาประท้วงต่อความอยุติธรรมหลายเรื่องตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน จนกระทั่งลุกขึ้นมาต่อต้านสงครามเวียดนามในการนำพรรค "ยิปปี้" (Youth International Party - พรรคเยาวชนนานาชาติ)พร้อมกับฝีปากเสียดสีไฟแลบ "ผมแค่อยากตลกไปวันๆ แต่พวกนักเคลื่อนไหวเหล่านี้เสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติ" ซาช่าว่า
ซาช่าเกิดในอังกฤษก็จริง แต่พื้นฐานครอบครัวชาวยิวของเขาโดยเฉพาะทางแม่ที่อพยพมาจากเยอรมนีทำให้เขาสนใจการเมืองอย่างเข้มข้น ยิ่งเห็นได้ชัดจากวิทยานิพนธ์สมัยปริญญาตรีที่เคมบริดจ์ของเขาที่ศึกษาเรื่องการเคลื่อนไหวทางสิทธิมนุษยชนในอเมริกา แต่ในขณะเดียวกันในสมัยมหาวิทยาลัย ซาช่าก็ร่วมแสดงละครเวทีอย่าง Fiddler on the Roof และ Cyrano de Bergerac ด้วย นี่เองคงเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาใช้การแสดง (โดยเฉพาการแสดงตลก) มาเป็นอาวุธทางการเมือง
"ผมคงจะโกหกถ้าไม่บอกว่ารู้สึกประหม่าที่ได้ร่วมงานกับแอรอน เพราะเขาน่ะเป็นมือเขียนบทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่" ซาช่าพูดตอนที่คุยกับเบน อัฟฟเฟลค ในสกู๊ป Actors on Actors ที่ Variety จัด "เขาน่ะเป็นเชคสเปียร์ของยุคเราเลยนะ" แต่ถึงแม้จะประหม่า การแสดงของซาช่าใน The Trial of the Chicago 7 ก็คือผลงานชั้นยอดของเขาเลยทีเดียว