นัดสุดท้ายไทยลีค เชียร์โขทัยให้อยู่รอด แต่นั่งดูตลอดเกมส์ เห็นเลยว่าสุพรรณใจมันได้มาก ๆ เล่นไม่หวือหวา ไม่แน่นอน สมแล้วต้องมาหนีตกชั้น แต่วันนี้ที่เห็นมี 3 สิ่งที่ทำให้สุพรรณรอด คือ
1.) กองเชียร์ เกือบ 7,500 คน ที่พกความมั่นใจมา แล้วส่งเสียงเชียร์กดดันได้ดีมาก ๆ
2.) ใจสู้ แบบเลือดสุพรรณ! ครึ่งแรกเล่นไม่ดี เกมส์ตัน ๆ ต่อบอลกันไม่ได้ ตัวต่างชาติโดนปิดตาย ครึ่งหลังมาก็พยายามวิ่ง พยายามหาวิธีโยนใส่เข้าไป เอาจนได้ ละคือเล่นไม่ใช้อารมณ์เลย (อันนี้แปลกมากทั้งที่เกมส์นี้เดิมพันสูง อาจหลุดง่าย ๆ ได้ด้วย ผมว่าบอลไทยพัฒนาเรื่องความเป็นมืออาชีพขึ้นนะ) นอกจากไม่ใช้อารมณ์ แล้วยังมีอารมณ์ขัน ยอกย้อน ตอนเสมอผู้รักษาประตูสุโขทัยถ่วง ดึง นักใช่ไหม พอนำแล้วเดโต้เอาบ้าง ทีเองข้าไม่ว่า ทีข้าอย่ามาโวย
คือข้อนี้ผมรู้สึกว่า ถ้าจะพัฒนาต้องปรับที่กุนซืออ่ะ เอาตรง ๆ ผู้เล่นหลายคนของสุพรรณเคยเป็นตัวที่ถูกคาดหวังว่าจะถูกดันไปติดทีมชาติด้วยซ้ำ ตัวต่างชาติ 3 ตัว (ไม่รวม แบ ซิน ยอง) นี่ยกระดับทีมได้ดีเลย ทั้งหมดทั้งมวลติดตรงที่ “โค้ช” โค้ชห่วยทั้งคู่ แต่สุโขทัยห่วยแตกกว่า จึงเป็นที่มาของปัจจัยเเห่งชัยชนะข้อ 3
3.) แท็กติกโบราณ ฝันว่าตื่นมาละจะจบเกมส์
โดยส่วนตัวอย่างที่บอก วันนี้เชียร์สุโขทัย ครึ่งแรกใครเห็นก็ว่าเล่นไม่ขี้เหร่ มีการครองบอล ทำเกมส์บุก มีลูกสวนตามจังหวะ แต่พอครึ่งหลังเหมือนผีเข้า ฝั่งสุพรรณเขาทดลองแผนใหม่ ๆ สุโขทัยไม่แยแส
กูจะตั้งป้อมรับอย่างเดียว ทิ้งบาจโจ้ไว้ข้างหน้า ถอยอิ๊บสันลงมาแพ็คงง ๆ ตรงกลาง ทั้งที่เจ้าตัวจะอันตรายถ้าอยู่ใกล้กรอบเขตโทษ (คือไม่กล้าเปลี่ยนออก เพื่อปรับเเท็คติก เพราะรู้ว่ามีประโยชน์ แต่คือก็เอามาใช้ผิดประโยชน์)
จะเห็นได้ว่า ค้างคาวไฟ กลายเป็นค้างคาวหงอ ๆ ตั้งแต่นาที 51 สาดยาวไม่สนใจ ไม่เอาบอลไว้กับตัว พอมานาที 55 ขึ้นไป ทั้งที่เหลือเวลาอีกบาน ก็ดันเล่นแบบภาษาบ้านเราคือ “รอโดน” มั่นหน้ามั่นโหนกในเกมส์รับมากทั้งที่ทีมตัวเองไม่ตกชั้นตั้งแต่ไก่โห่เนี่ย ต้องยอมรับว่าได้เกมส์รุกที่ดีมาตั้งแต่เลกแรกนะ
จังหวะเสียประตูน่าจะเป็นการปล่อยให้คู่แข่งครอสจากด้านข้างมาเป็นครั้งที่ 5-6 แล้วแหละ คือเห็นปัญหา แต่ฉันเชื่อว่า “เอาอยู่” สุดท้ายพัง แล้วพยายามเปลี่ยนตัวรุกลงมาก็ทำได้ไม่ดี ไม่เหลือเวลา จนกลายเป็น “พังพินาศ”
ดังนั้น แม้จะบอกคนล้มอย่าข้าม แต่ขอเถอะนัดนี้เห็นแล้วคือ บอกคำเดียว “สมน้ำหน้ามาก” คือทีมไม่จำเป็นต้องเล่นฝืนธรรมชาติตัวเองขนาดนี้ หรือต่อให้ผลผลออกมาดีรูปเกมส์แบบนี้ก็น่าโดนด่า กลับไปตั้งหลัก T2 ถ้ารั้งสองคู่หน้าไม่ได้ เชื่อว่าหลุดยาว ทำทีมแบบ “รอโดนหาม” สุดท้ายก็ได้ลงไปนอนในเปลแบบนี้แหละ
ไทยลีคปีนี้มีอะไรให้พูดถึงเยอะดี สุดท้ายยินดีกับสุพรรณ รอดมาได้ตลอดเหมือนกันนะเราน่ะ ส่วนโขทัย ลงไปตั้งสติแล้วหาทางกลับมาใหม่เลยฮ่ะ
สุพรรณใจมันได้มาก ! แต่ขอสมน้ำหน้าโขทัยหน่อยนะ เล่นไม่เอา 5 เอา 6 เพิ่งเข้าใจคำว่ามั่นหน้ามั่นโหนกก็วันนี้
1.) กองเชียร์ เกือบ 7,500 คน ที่พกความมั่นใจมา แล้วส่งเสียงเชียร์กดดันได้ดีมาก ๆ
2.) ใจสู้ แบบเลือดสุพรรณ! ครึ่งแรกเล่นไม่ดี เกมส์ตัน ๆ ต่อบอลกันไม่ได้ ตัวต่างชาติโดนปิดตาย ครึ่งหลังมาก็พยายามวิ่ง พยายามหาวิธีโยนใส่เข้าไป เอาจนได้ ละคือเล่นไม่ใช้อารมณ์เลย (อันนี้แปลกมากทั้งที่เกมส์นี้เดิมพันสูง อาจหลุดง่าย ๆ ได้ด้วย ผมว่าบอลไทยพัฒนาเรื่องความเป็นมืออาชีพขึ้นนะ) นอกจากไม่ใช้อารมณ์ แล้วยังมีอารมณ์ขัน ยอกย้อน ตอนเสมอผู้รักษาประตูสุโขทัยถ่วง ดึง นักใช่ไหม พอนำแล้วเดโต้เอาบ้าง ทีเองข้าไม่ว่า ทีข้าอย่ามาโวย
คือข้อนี้ผมรู้สึกว่า ถ้าจะพัฒนาต้องปรับที่กุนซืออ่ะ เอาตรง ๆ ผู้เล่นหลายคนของสุพรรณเคยเป็นตัวที่ถูกคาดหวังว่าจะถูกดันไปติดทีมชาติด้วยซ้ำ ตัวต่างชาติ 3 ตัว (ไม่รวม แบ ซิน ยอง) นี่ยกระดับทีมได้ดีเลย ทั้งหมดทั้งมวลติดตรงที่ “โค้ช” โค้ชห่วยทั้งคู่ แต่สุโขทัยห่วยแตกกว่า จึงเป็นที่มาของปัจจัยเเห่งชัยชนะข้อ 3
3.) แท็กติกโบราณ ฝันว่าตื่นมาละจะจบเกมส์
โดยส่วนตัวอย่างที่บอก วันนี้เชียร์สุโขทัย ครึ่งแรกใครเห็นก็ว่าเล่นไม่ขี้เหร่ มีการครองบอล ทำเกมส์บุก มีลูกสวนตามจังหวะ แต่พอครึ่งหลังเหมือนผีเข้า ฝั่งสุพรรณเขาทดลองแผนใหม่ ๆ สุโขทัยไม่แยแส
กูจะตั้งป้อมรับอย่างเดียว ทิ้งบาจโจ้ไว้ข้างหน้า ถอยอิ๊บสันลงมาแพ็คงง ๆ ตรงกลาง ทั้งที่เจ้าตัวจะอันตรายถ้าอยู่ใกล้กรอบเขตโทษ (คือไม่กล้าเปลี่ยนออก เพื่อปรับเเท็คติก เพราะรู้ว่ามีประโยชน์ แต่คือก็เอามาใช้ผิดประโยชน์)
จะเห็นได้ว่า ค้างคาวไฟ กลายเป็นค้างคาวหงอ ๆ ตั้งแต่นาที 51 สาดยาวไม่สนใจ ไม่เอาบอลไว้กับตัว พอมานาที 55 ขึ้นไป ทั้งที่เหลือเวลาอีกบาน ก็ดันเล่นแบบภาษาบ้านเราคือ “รอโดน” มั่นหน้ามั่นโหนกในเกมส์รับมากทั้งที่ทีมตัวเองไม่ตกชั้นตั้งแต่ไก่โห่เนี่ย ต้องยอมรับว่าได้เกมส์รุกที่ดีมาตั้งแต่เลกแรกนะ
จังหวะเสียประตูน่าจะเป็นการปล่อยให้คู่แข่งครอสจากด้านข้างมาเป็นครั้งที่ 5-6 แล้วแหละ คือเห็นปัญหา แต่ฉันเชื่อว่า “เอาอยู่” สุดท้ายพัง แล้วพยายามเปลี่ยนตัวรุกลงมาก็ทำได้ไม่ดี ไม่เหลือเวลา จนกลายเป็น “พังพินาศ”
ดังนั้น แม้จะบอกคนล้มอย่าข้าม แต่ขอเถอะนัดนี้เห็นแล้วคือ บอกคำเดียว “สมน้ำหน้ามาก” คือทีมไม่จำเป็นต้องเล่นฝืนธรรมชาติตัวเองขนาดนี้ หรือต่อให้ผลผลออกมาดีรูปเกมส์แบบนี้ก็น่าโดนด่า กลับไปตั้งหลัก T2 ถ้ารั้งสองคู่หน้าไม่ได้ เชื่อว่าหลุดยาว ทำทีมแบบ “รอโดนหาม” สุดท้ายก็ได้ลงไปนอนในเปลแบบนี้แหละ
ไทยลีคปีนี้มีอะไรให้พูดถึงเยอะดี สุดท้ายยินดีกับสุพรรณ รอดมาได้ตลอดเหมือนกันนะเราน่ะ ส่วนโขทัย ลงไปตั้งสติแล้วหาทางกลับมาใหม่เลยฮ่ะ