สวัสดีครับ ผมตรัยโศก
วันนี้ผมก็มีเรื่องเล่า เอามารบกวนสายตาของทุกท่านอีกเช่นเคย
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับรุ่นน้องของผมคนหนึ่ง เขาและผองเพื่อนได้ไปลองล่าท้าผีกัน หวังตามรอยเหล่ายูทูปเบอร์ชื่อดังหลายๆท่าน และในการล่าท้าผีของพวกเขาในครั้งนี้ จะประสบผลสำเร็จหรือไม่
ผมนำเรื่องนี้มาเขียน เพราะเห็นว่ามันก็ฟังดูหลอนๆดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะสร้างความน่ากลัวให้ทุกท่านได้บ้างหรือไม่ก็ไม่ทราบนะครับ
ลองมาอ่านกันดูนะครับ
วันนี้ผมหยุดงาน 1 วันเนื่องจากเครื่องจักรที่ใช้เกิดชำรุด ต้องมีการซ่อมบำรุงกันยกใหญ่ สบายผมเลยทีนี้ เพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์อีกหวานสิครับงานนี้
เนื่องจากเป็นวันหยุด ผมก็จะกลับมานอนที่ห้อง(เช่าไว้ใช้หลับนอนช่วงวันหยุด ส่วนวันปกติจะนอนที่ห้องพักพนักงาน)
พอมาถึงห้องพัก ความฝันที่ว่าจะนอนแบบซ้อมตาย ยิงยาวตั้งแต่เช้าจนค่ำก็พังทลายลง เพราะผมต้องเคลียร์งานซ่อม(คอมฯ)ที่รับค้างไว้ตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์เป็น 10 จ๊อบ
หลังจากซัดโฮกกาแฟร้อนๆบวกขนมปังที่เลยวันหมดอายุมา 1 วัน(ยังอร่อยอยู่นะ) ผมก็ลงมือเคลียร์งานทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก... เสียงเคาะประตูหน้าห้องผมดังขึ้น ผมก็ไม่ได้สนใจว่าใครมาเคาะเพราะส่วนใหญ่คนที่มาหาผมจะรู้อยู่แล้วว่าผมไม่เคร่งเรื่องมารยาท
ถ้าหากผมอยู่ห้องก็สามารถเปิดประตูเข้ามาได้เลย จะเคาะรึไม่เคาะก็ได้
"โห...พี่ ดองงานแบบนี้วันนี้จะเสร็จป๊ะเนี่ย"
กบ(นามสมมุติ) รุ่นน้องในสายงานเดียวกันที่มักจะหางานมาให้ผม
เมื่อเครียร์เสร็จก็จะแบ่งกัน 60 40
และวันนี้ก็เช่นกัน มันหอบโน๊ตบุ๊คมาอีก 3 เครื่อง
"เออ น่าจะเสร็จแหละ แล้วนี่บอกลูกค้าไว้ยังว่ารับได้อาทิตย์หน้าน่ะ"
ผมบอกไปพลางพยักเพยิดหน้าไปที่
โน๊ตบุ๊คที่มันถืออยู่
"บอกแล้ว น้องเค้าไม่มีปัญหา คราวนี้ของเด็ก BC ซะด้วย"
(BC เป็นอักษรย่อมาจาก business computer สาขางานที่ผมเรียนจบมา)
"เออๆ ก็คงปัญหาเดิมๆแหละ
มืงแก้ได้ไม่แก้วะ จะได้ไม่ต้องมาหารเงินกะพี่ รับคนเดียวเต็มๆ"
ผมถามกลับไป มือก็ยังง่วนกับการทำงาน
"หึ ไม่เอาอ่ะ หางานมาให้พี่ รอรับตังค์แค่นั้นพอละ มันเป็นจรรยาบรรณของนายหน้า"
ในขณะที่ผมกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงาน แกะนั่น ใส่นี่ ไอ้กบที่นอนเล่นเกมส์อยู่ที่โซฟาก็เอ่ยขึ้นลอยๆ
"พี่ง่วง ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังว่ะ"
(ง่วงเป็นฉายาที่พวกเพื่อนๆกับรุ่นน้องตั้งให้ เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน หน้าตาผมก็จะแสดงออกแบบเดียว เปลือกตาจะปรือลงนิดหน่อยคล้ายคนง่วงจัดตลอดเวลา
"อืม เล่ามาดิ" ผมตอบไปส่งๆแบบไม่สนใจเท่าใดนัก เพราะส่วนใหญ่เรื่องที่มันจะเล่า เป็นเรื่องเกมส์ รึไม่เพื่อนของมัน
ที่ผมไม่ค่อยรู้จัก จึงไม่ค่อยสนใจ
"เมื่ออาทิตย์ก่อน ผมไปล่าท้าผีมาว่ะ คราวนี้เจอเต็มๆ" กบบอกผม มือก็ยังกดเกมส์ยิกๆ
เรื่องมีอยู่ว่า
กบกับกลุ่มเพื่อนที่เป็นนักล่าท้าผีฝึกหัดอีก 4 5 คน ได้นัดกันว่าจะลองไปบุกพิสูจน์บ้านผี ที่เค้าว่ากันว่าเฮี้ยนนัก
ใครไปก็ต้องเจอกันทุกราย
บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เจ้าของปลูกทิ้งไว้กลางสวนผลไม้ ตัวบ้านเป็นปูนชั้นเดียว แต่ด้วยหลังที่ค่อนข้างใหญ่ จึงสามารถแบ่งเป็นห้องได้หลายห้อง
หลังจากปลูกบ้านเสร็จไม่นาน ทั้งเจ้าของและภรรยาก็หนีไปอยู่ที่อื่นเพราะต้องหลบหน้าเจ้าหนี้ทั้งนอกและในระบบ
บ้านหลังนั้นจึงถูกทิ้งร้างไว้ ไม่มีใครเข้าไปปัดกวาดเช็ดถู
วัยรุ่นที่ติดยาก็มักใช้เป็นแหล่งมั่วสุม
แต่ก็ไม่เคยได้ยินข่าวว่ามีใครตายที่นั่นเลยสักครั้ง
"เออบ้านหลังนี้พี่เคยเห็นอยู่
แต่มันแค่ร้างนิ ไม่ได้มีคนตาย จะไปมีผีได้ไงวะ สายข่าวมืงมั่วแล้ว"
ผมเอ่ยขึ้น
"โด่...พี่ พี่ไม่รู้อะไร เมื่อเดือนก่อนมีคนไปฆ่าตัวตายที่นั่น เห็นว่าเป็นสาวนักเรียนม.ปลาย น้อยใจพ่อแม่ให้เลิกกับแฟน
รึอะไรนี่แหละ เลยคิดสั้น
ซัดเผาไหม้ซะเกลี้ยงกระปุก ดับอนาจครับ"
กบวางมือจากโทรศัพท์บอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง
"แล้วพี่ไม่เห็นได้ยินข่าวเรื่องนี้วะ มืงขี้จุ๊กูป๊ะเนี่ย"
ผมหันไปมองหน้ามันแล้วเอ่ยถาม
"แล้วพี่ได้กลับบ้านมั่งมั๊ยล่ะ จะเป็นปีละมั๊ง ไม่แปลกที่จะไม่รู้เรื่อง"
นั่น โดนมันแขวะอีก แต่ก็จริงของมันครับ
มาต่อกันที่เรื่องล่าท้าผีกันครับ
คืนนั้น ที่ออกไปล่าท้าผีมี 5 คน
คือกบ(ตัวคนเล่า) แม็ก(นามสมมุติ) โอ๊ต(นามสมมุติ) โต(นามสมมุติ)
และแต้ว(นามสมมุติอีกเช่นกัน)แฟนของโต
ทั้งหมดนัดเจอกันที่หอของกบ เอารถยนต์ไปกัน เมื่อเตรียมตัวทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกเดินทาง
ใช้เวลาจากหอพักจนถึงที่หมายก็ 1ชั่วโมงพอดิบพอดีไม่มีขาดเกิน
เวลานั้น 5 ทุ่มกว่าแล้ว ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงัดเพราะอยู่ในสวนผลไม้ ไม่มีแสงไฟจากเสาไฟฟ้าให้ความสว่างเพราะอยู่ห่างจากตัวถนนเกือบ 2 กิโล
ทั้งหมดพากันเดินไปยืนจังก้าท่าลมอยู่หน้าบ้าน
ตัวบ้านมืดสนิท ดูอึมครึมรับกับรรยากาศ
"คราวนี้จะทดสอบแบบไหนวะ ผีถ้วยแก้วไม่เอานะ เชย ช้า จืดชืด" แม็กเอ่ยขึ้น
"ยังไม่รู้เลยว่ะ ในเป้กูก็มีแต่กระดานผีถ้วยแก้วแค่นั้น ถ้าจะลองวิธีอื่น กูไม่มีความเห็น"
โอ๊ดเอ่ยตอบพลางส่องไฟฉายไปรอบๆบริเวณ
"งั้นก็เดินเข้าไปแบบโต้งๆ นี่แหละ จุดธูปท้าเอา สดดี" กบเอ่ย
"ห๊า..นี่พวกมืงใช้วิธีลูกทุ่งแบบนั้นเลยเนี่ยนะ แล้วผีมันจะออกมาให้มืงเจอเร้อ?"
ผมเอ่ยขัดจังหวะขึ้น
"พี่ก็ฟังก่อนดิ" ไอ้กบบอกทำหน้าเซ็งจิต
หลังจากที่ตกลงวิธีการกันเรียบร้อย กบ โอ๊ต และแม็ก ก็ทำการจุดธูปแล้วเอ่ยท้าทายขึ้นเสียงดัง
"น้อง น้องที่ตายอยู่ที่นี่อ่ะ ออกมาหาพวกพี่หน่อย พี่อยากเจอ พี่อยากโดน
ถ้าน้องน่ารักพี่จะขอไลน์ไว้คุยกัน ออกมาหน่อย" โอ๊ตตะโกนขึ้นเสียงดัง เงียบสนิทไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ถ้าน้องไม่ว่าง ผีตัวอื่นก็ได้ ออกมาหลอกพวกเราหน่อยเด้อ" กบเอ่ยสมทบ
พลางพากันหัวเราะคิกคักสะใจในความห่ามของตน
ในขณะที่ทั้งสามกำลังท้าทายผีสางนางไม้อย่างสนุกปาก โตก็เดินเข้ามาสมทบ พลางบ่นด้วยความอารมณ์เสีย
"แม่ม จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ น่าเบื่อ"
ทั้งสาม หันไปหาโต ทุกคนรู้กันเพราะโตกับแฟนมักทะเลาะกันประจำ
ด้วยความที่โตเป็นคนหน้าตาดีแถมยังเจ้าชู้ ส่วนแฟนก็ขี้หึงเข้าขั้น
"อ้าวแล้วแฟนมืงอ่ะ
ไม่เข้าไปด้วยกันเหรอ" แม็กเอ่ยถาม
"ไม่ไป บอกว่ากลัว กูเลยทิ้งไว้ในรถนั่นแหละ กลัวแล้วจะมาทำไมวะ
กูก็ไม่เข้าใจ" โตบ่น
"เอาน่า ช่างมันเราก็ไปกันแค่นี้แหละ เผื่อเจอผีน้องม.ปลาย มืงก็จีบเลยเอาไว้เป็นกิ๊ก"
กบพูดพลางหัวเราะชอบใจ
"เออถ้าเจอนะ กูจะพากลับบ้านด้วยเลย จะเอาขึ้นหิ้งเป็นแฟนดูแลอย่างดี
พอใจมืงยัง"
โต ตอบประชดประชัน
จากนั้นทั้งหมดก็พากันเดินสำรวจ
โดยเริ่มจากบริเวณภายนอกรอบๆบ้านก่อน เดินวนกันจนมาถึงประตูหน้าบ้านอีกครั้งทั้งหมดก็ต้องแปลกใจ เพราะเห็นว่าแต้วมายืนรออยู่ที่หน้าบ้านก่อนแล้ว
โตเมื่อเห็นดังนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา
"เห๊อะ สุดท้ายก็ต้องง้อกู"
จากนั้นก็เดินไปจูงมือแต้ว แล้วพากันไปสำรวจด้านในบ้าน
ภายในบ้านเมื่อเข้าไปจะเป็นโถงกว้างพอสมควร พื้นบ้านเต็มไปด้วยฝุ่นและรอยเท้ามากมาย แสดงให้เห็นว่ามีคนเคยเข้ามา กบส่องไฟฉายดูรอบๆโถงบ้าน เห็นว่าหน้าต่างทั้งสองฝั่งถูกติดตั้งให้หันหน้าตรงกันเป๊ะ ทุกบาน
"พี่ว่ามันเหมือนอะไร" กบเอ่ยถามผม
ซึ่งวางมือจากงานมานั่งฟังมันอย่างตั้งใจตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ตัว
"ไม่รู้ว่ะ หน้าต่างก็คือหน้าต่าง
จะไปเหมือนอะไรได้วะ" ผมตอบ
"มันเหมือนหน้าต่างเมรุเผาศพพี่
โบราณเค้าบอกว่าจะประตูหรือว่าหน้าต่าง เค้าไม่ให้วางในตำแหน่งที่ตรงกัน มันต้องเยื้องๆกันนิดนึง"
กบอธิบายให้ผมฟัง
พอสำรวจตรงโถงเสร็จ ก็ทะยอยเดินเข้าไปดูทีละห้อง บางห้องมีที่นอน เสื่อเก่าๆ ขวดน้ำจานข้าว
และอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกฝุ่นจับหนาเตอะ
เดินสำรวจกันจนมาถึงห้องสุดท้าย
พอเปิดเข้าไปก็มีกลิ่นเหม็นอับที่รุนแรง
กว่าทุกห้อง แถมยังมีกลิ่นเหม็นเหมือนพวกยาฆ่าหญ้าฆ่าแมลงที่รุนแรงมาก
แต่ที่เป็นที่สะดุดตาของทั้งหมด
คือสะตวง(กระทงสี่เหลี่ยมทำจากกาบกล้วย ใส่อาหารคาวหวานลงไป) ที่วางอยูตรงมุมห้อง ข้างๆกันมีชุดนักเรียนที่ถูกพับไว้ กับพวกเครื่องสำอางไว้วางอยู่
ในแก้วมีธูปปักอยู่หลายดอก
บางดอกก็เหลือแต่ก้านแดงๆ
บางดอกก็ดับทั้งที่มีเหลืออีกครึ่งก้าน
"กูว่าห้องนี้แหละ ที่น้องเค้าตาย ดูดิของไหว้ยังกองอยู่ตรงนั้นเลย"
กบพูดพลางชี้มือไปที่มุมห้อง
"แล้วเอาไงต่อวะ" โอ๊ตเอ่ย
"ในเมื่อมาถึงแล้ว ก็ต้องลองดิวะ ไอ้โอ๊ตเอา กระดานหรรษามาดิ๊" กบเอ่ย
"ผีถ้วยแก้วอีละ กี่รอบๆก็ไม่เคยได้ผล มันน่าเบื่อ" แม็กบ่นอุบอิบ
"เออน่า เผื่อครั้งนี้ฟลุก" กบบอก
"เห้ยพวกมืง จุดทงจุดเทียนเตรียมของกันไปก่อนนะ เดี๋ยวกูมา" โตเอ่ยขึ้น
"มืงจะไปไหนวะ" โอ๊ตถาม
โตไม่ตอบ แต่ชี้มือไปที่แต้วแฟนสาว
ที่ตอนนี้ทำท่าดึงแขนเจ้าตัวให้เดินตามออกไป
"ไอ้นี่ อย่านานนักนะโว้ย มามีอารมณ์อะไรกันตอนนี้วะ" กบสบทขึ้น
พรรณาภาษาผี กับ" ตรัยโศก" เรื่อง ล่าท้าผี
วันนี้ผมก็มีเรื่องเล่า เอามารบกวนสายตาของทุกท่านอีกเช่นเคย
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับรุ่นน้องของผมคนหนึ่ง เขาและผองเพื่อนได้ไปลองล่าท้าผีกัน หวังตามรอยเหล่ายูทูปเบอร์ชื่อดังหลายๆท่าน และในการล่าท้าผีของพวกเขาในครั้งนี้ จะประสบผลสำเร็จหรือไม่
ผมนำเรื่องนี้มาเขียน เพราะเห็นว่ามันก็ฟังดูหลอนๆดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะสร้างความน่ากลัวให้ทุกท่านได้บ้างหรือไม่ก็ไม่ทราบนะครับ
ลองมาอ่านกันดูนะครับ
วันนี้ผมหยุดงาน 1 วันเนื่องจากเครื่องจักรที่ใช้เกิดชำรุด ต้องมีการซ่อมบำรุงกันยกใหญ่ สบายผมเลยทีนี้ เพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์อีกหวานสิครับงานนี้
เนื่องจากเป็นวันหยุด ผมก็จะกลับมานอนที่ห้อง(เช่าไว้ใช้หลับนอนช่วงวันหยุด ส่วนวันปกติจะนอนที่ห้องพักพนักงาน)
พอมาถึงห้องพัก ความฝันที่ว่าจะนอนแบบซ้อมตาย ยิงยาวตั้งแต่เช้าจนค่ำก็พังทลายลง เพราะผมต้องเคลียร์งานซ่อม(คอมฯ)ที่รับค้างไว้ตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์เป็น 10 จ๊อบ
หลังจากซัดโฮกกาแฟร้อนๆบวกขนมปังที่เลยวันหมดอายุมา 1 วัน(ยังอร่อยอยู่นะ) ผมก็ลงมือเคลียร์งานทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก... เสียงเคาะประตูหน้าห้องผมดังขึ้น ผมก็ไม่ได้สนใจว่าใครมาเคาะเพราะส่วนใหญ่คนที่มาหาผมจะรู้อยู่แล้วว่าผมไม่เคร่งเรื่องมารยาท
ถ้าหากผมอยู่ห้องก็สามารถเปิดประตูเข้ามาได้เลย จะเคาะรึไม่เคาะก็ได้
"โห...พี่ ดองงานแบบนี้วันนี้จะเสร็จป๊ะเนี่ย"
กบ(นามสมมุติ) รุ่นน้องในสายงานเดียวกันที่มักจะหางานมาให้ผม
เมื่อเครียร์เสร็จก็จะแบ่งกัน 60 40
และวันนี้ก็เช่นกัน มันหอบโน๊ตบุ๊คมาอีก 3 เครื่อง
"เออ น่าจะเสร็จแหละ แล้วนี่บอกลูกค้าไว้ยังว่ารับได้อาทิตย์หน้าน่ะ"
ผมบอกไปพลางพยักเพยิดหน้าไปที่
โน๊ตบุ๊คที่มันถืออยู่
"บอกแล้ว น้องเค้าไม่มีปัญหา คราวนี้ของเด็ก BC ซะด้วย"
(BC เป็นอักษรย่อมาจาก business computer สาขางานที่ผมเรียนจบมา)
"เออๆ ก็คงปัญหาเดิมๆแหละ
มืงแก้ได้ไม่แก้วะ จะได้ไม่ต้องมาหารเงินกะพี่ รับคนเดียวเต็มๆ"
ผมถามกลับไป มือก็ยังง่วนกับการทำงาน
"หึ ไม่เอาอ่ะ หางานมาให้พี่ รอรับตังค์แค่นั้นพอละ มันเป็นจรรยาบรรณของนายหน้า"
ในขณะที่ผมกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงาน แกะนั่น ใส่นี่ ไอ้กบที่นอนเล่นเกมส์อยู่ที่โซฟาก็เอ่ยขึ้นลอยๆ
"พี่ง่วง ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังว่ะ"
(ง่วงเป็นฉายาที่พวกเพื่อนๆกับรุ่นน้องตั้งให้ เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน หน้าตาผมก็จะแสดงออกแบบเดียว เปลือกตาจะปรือลงนิดหน่อยคล้ายคนง่วงจัดตลอดเวลา
"อืม เล่ามาดิ" ผมตอบไปส่งๆแบบไม่สนใจเท่าใดนัก เพราะส่วนใหญ่เรื่องที่มันจะเล่า เป็นเรื่องเกมส์ รึไม่เพื่อนของมัน
ที่ผมไม่ค่อยรู้จัก จึงไม่ค่อยสนใจ
"เมื่ออาทิตย์ก่อน ผมไปล่าท้าผีมาว่ะ คราวนี้เจอเต็มๆ" กบบอกผม มือก็ยังกดเกมส์ยิกๆ
เรื่องมีอยู่ว่า
กบกับกลุ่มเพื่อนที่เป็นนักล่าท้าผีฝึกหัดอีก 4 5 คน ได้นัดกันว่าจะลองไปบุกพิสูจน์บ้านผี ที่เค้าว่ากันว่าเฮี้ยนนัก
ใครไปก็ต้องเจอกันทุกราย
บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เจ้าของปลูกทิ้งไว้กลางสวนผลไม้ ตัวบ้านเป็นปูนชั้นเดียว แต่ด้วยหลังที่ค่อนข้างใหญ่ จึงสามารถแบ่งเป็นห้องได้หลายห้อง
หลังจากปลูกบ้านเสร็จไม่นาน ทั้งเจ้าของและภรรยาก็หนีไปอยู่ที่อื่นเพราะต้องหลบหน้าเจ้าหนี้ทั้งนอกและในระบบ
บ้านหลังนั้นจึงถูกทิ้งร้างไว้ ไม่มีใครเข้าไปปัดกวาดเช็ดถู
วัยรุ่นที่ติดยาก็มักใช้เป็นแหล่งมั่วสุม
แต่ก็ไม่เคยได้ยินข่าวว่ามีใครตายที่นั่นเลยสักครั้ง
"เออบ้านหลังนี้พี่เคยเห็นอยู่
แต่มันแค่ร้างนิ ไม่ได้มีคนตาย จะไปมีผีได้ไงวะ สายข่าวมืงมั่วแล้ว"
ผมเอ่ยขึ้น
"โด่...พี่ พี่ไม่รู้อะไร เมื่อเดือนก่อนมีคนไปฆ่าตัวตายที่นั่น เห็นว่าเป็นสาวนักเรียนม.ปลาย น้อยใจพ่อแม่ให้เลิกกับแฟน
รึอะไรนี่แหละ เลยคิดสั้น
ซัดเผาไหม้ซะเกลี้ยงกระปุก ดับอนาจครับ"
กบวางมือจากโทรศัพท์บอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง
"แล้วพี่ไม่เห็นได้ยินข่าวเรื่องนี้วะ มืงขี้จุ๊กูป๊ะเนี่ย"
ผมหันไปมองหน้ามันแล้วเอ่ยถาม
"แล้วพี่ได้กลับบ้านมั่งมั๊ยล่ะ จะเป็นปีละมั๊ง ไม่แปลกที่จะไม่รู้เรื่อง"
นั่น โดนมันแขวะอีก แต่ก็จริงของมันครับ
มาต่อกันที่เรื่องล่าท้าผีกันครับ
คืนนั้น ที่ออกไปล่าท้าผีมี 5 คน
คือกบ(ตัวคนเล่า) แม็ก(นามสมมุติ) โอ๊ต(นามสมมุติ) โต(นามสมมุติ)
และแต้ว(นามสมมุติอีกเช่นกัน)แฟนของโต
ทั้งหมดนัดเจอกันที่หอของกบ เอารถยนต์ไปกัน เมื่อเตรียมตัวทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกเดินทาง
ใช้เวลาจากหอพักจนถึงที่หมายก็ 1ชั่วโมงพอดิบพอดีไม่มีขาดเกิน
เวลานั้น 5 ทุ่มกว่าแล้ว ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงัดเพราะอยู่ในสวนผลไม้ ไม่มีแสงไฟจากเสาไฟฟ้าให้ความสว่างเพราะอยู่ห่างจากตัวถนนเกือบ 2 กิโล
ทั้งหมดพากันเดินไปยืนจังก้าท่าลมอยู่หน้าบ้าน
ตัวบ้านมืดสนิท ดูอึมครึมรับกับรรยากาศ
"คราวนี้จะทดสอบแบบไหนวะ ผีถ้วยแก้วไม่เอานะ เชย ช้า จืดชืด" แม็กเอ่ยขึ้น
"ยังไม่รู้เลยว่ะ ในเป้กูก็มีแต่กระดานผีถ้วยแก้วแค่นั้น ถ้าจะลองวิธีอื่น กูไม่มีความเห็น"
โอ๊ดเอ่ยตอบพลางส่องไฟฉายไปรอบๆบริเวณ
"งั้นก็เดินเข้าไปแบบโต้งๆ นี่แหละ จุดธูปท้าเอา สดดี" กบเอ่ย
"ห๊า..นี่พวกมืงใช้วิธีลูกทุ่งแบบนั้นเลยเนี่ยนะ แล้วผีมันจะออกมาให้มืงเจอเร้อ?"
ผมเอ่ยขัดจังหวะขึ้น
"พี่ก็ฟังก่อนดิ" ไอ้กบบอกทำหน้าเซ็งจิต
หลังจากที่ตกลงวิธีการกันเรียบร้อย กบ โอ๊ต และแม็ก ก็ทำการจุดธูปแล้วเอ่ยท้าทายขึ้นเสียงดัง
"น้อง น้องที่ตายอยู่ที่นี่อ่ะ ออกมาหาพวกพี่หน่อย พี่อยากเจอ พี่อยากโดน
ถ้าน้องน่ารักพี่จะขอไลน์ไว้คุยกัน ออกมาหน่อย" โอ๊ตตะโกนขึ้นเสียงดัง เงียบสนิทไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ถ้าน้องไม่ว่าง ผีตัวอื่นก็ได้ ออกมาหลอกพวกเราหน่อยเด้อ" กบเอ่ยสมทบ
พลางพากันหัวเราะคิกคักสะใจในความห่ามของตน
ในขณะที่ทั้งสามกำลังท้าทายผีสางนางไม้อย่างสนุกปาก โตก็เดินเข้ามาสมทบ พลางบ่นด้วยความอารมณ์เสีย
"แม่ม จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ น่าเบื่อ"
ทั้งสาม หันไปหาโต ทุกคนรู้กันเพราะโตกับแฟนมักทะเลาะกันประจำ
ด้วยความที่โตเป็นคนหน้าตาดีแถมยังเจ้าชู้ ส่วนแฟนก็ขี้หึงเข้าขั้น
"อ้าวแล้วแฟนมืงอ่ะ
ไม่เข้าไปด้วยกันเหรอ" แม็กเอ่ยถาม
"ไม่ไป บอกว่ากลัว กูเลยทิ้งไว้ในรถนั่นแหละ กลัวแล้วจะมาทำไมวะ
กูก็ไม่เข้าใจ" โตบ่น
"เอาน่า ช่างมันเราก็ไปกันแค่นี้แหละ เผื่อเจอผีน้องม.ปลาย มืงก็จีบเลยเอาไว้เป็นกิ๊ก"
กบพูดพลางหัวเราะชอบใจ
"เออถ้าเจอนะ กูจะพากลับบ้านด้วยเลย จะเอาขึ้นหิ้งเป็นแฟนดูแลอย่างดี
พอใจมืงยัง"
โต ตอบประชดประชัน
จากนั้นทั้งหมดก็พากันเดินสำรวจ
โดยเริ่มจากบริเวณภายนอกรอบๆบ้านก่อน เดินวนกันจนมาถึงประตูหน้าบ้านอีกครั้งทั้งหมดก็ต้องแปลกใจ เพราะเห็นว่าแต้วมายืนรออยู่ที่หน้าบ้านก่อนแล้ว
โตเมื่อเห็นดังนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา
"เห๊อะ สุดท้ายก็ต้องง้อกู"
จากนั้นก็เดินไปจูงมือแต้ว แล้วพากันไปสำรวจด้านในบ้าน
ภายในบ้านเมื่อเข้าไปจะเป็นโถงกว้างพอสมควร พื้นบ้านเต็มไปด้วยฝุ่นและรอยเท้ามากมาย แสดงให้เห็นว่ามีคนเคยเข้ามา กบส่องไฟฉายดูรอบๆโถงบ้าน เห็นว่าหน้าต่างทั้งสองฝั่งถูกติดตั้งให้หันหน้าตรงกันเป๊ะ ทุกบาน
"พี่ว่ามันเหมือนอะไร" กบเอ่ยถามผม
ซึ่งวางมือจากงานมานั่งฟังมันอย่างตั้งใจตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ตัว
"ไม่รู้ว่ะ หน้าต่างก็คือหน้าต่าง
จะไปเหมือนอะไรได้วะ" ผมตอบ
"มันเหมือนหน้าต่างเมรุเผาศพพี่
โบราณเค้าบอกว่าจะประตูหรือว่าหน้าต่าง เค้าไม่ให้วางในตำแหน่งที่ตรงกัน มันต้องเยื้องๆกันนิดนึง"
กบอธิบายให้ผมฟัง
พอสำรวจตรงโถงเสร็จ ก็ทะยอยเดินเข้าไปดูทีละห้อง บางห้องมีที่นอน เสื่อเก่าๆ ขวดน้ำจานข้าว
และอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกฝุ่นจับหนาเตอะ
เดินสำรวจกันจนมาถึงห้องสุดท้าย
พอเปิดเข้าไปก็มีกลิ่นเหม็นอับที่รุนแรง
กว่าทุกห้อง แถมยังมีกลิ่นเหม็นเหมือนพวกยาฆ่าหญ้าฆ่าแมลงที่รุนแรงมาก
แต่ที่เป็นที่สะดุดตาของทั้งหมด
คือสะตวง(กระทงสี่เหลี่ยมทำจากกาบกล้วย ใส่อาหารคาวหวานลงไป) ที่วางอยูตรงมุมห้อง ข้างๆกันมีชุดนักเรียนที่ถูกพับไว้ กับพวกเครื่องสำอางไว้วางอยู่
ในแก้วมีธูปปักอยู่หลายดอก
บางดอกก็เหลือแต่ก้านแดงๆ
บางดอกก็ดับทั้งที่มีเหลืออีกครึ่งก้าน
"กูว่าห้องนี้แหละ ที่น้องเค้าตาย ดูดิของไหว้ยังกองอยู่ตรงนั้นเลย"
กบพูดพลางชี้มือไปที่มุมห้อง
"แล้วเอาไงต่อวะ" โอ๊ตเอ่ย
"ในเมื่อมาถึงแล้ว ก็ต้องลองดิวะ ไอ้โอ๊ตเอา กระดานหรรษามาดิ๊" กบเอ่ย
"ผีถ้วยแก้วอีละ กี่รอบๆก็ไม่เคยได้ผล มันน่าเบื่อ" แม็กบ่นอุบอิบ
"เออน่า เผื่อครั้งนี้ฟลุก" กบบอก
"เห้ยพวกมืง จุดทงจุดเทียนเตรียมของกันไปก่อนนะ เดี๋ยวกูมา" โตเอ่ยขึ้น
"มืงจะไปไหนวะ" โอ๊ตถาม
โตไม่ตอบ แต่ชี้มือไปที่แต้วแฟนสาว
ที่ตอนนี้ทำท่าดึงแขนเจ้าตัวให้เดินตามออกไป
"ไอ้นี่ อย่านานนักนะโว้ย มามีอารมณ์อะไรกันตอนนี้วะ" กบสบทขึ้น