เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะอยากได้ Smartwatch แต่รุ่นบางๆเรียบๆ ที่เคยเห็นก็ดูไม่ค่อยถูกใจ เพราะมันบอบบางซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่แตกง่าย สายลุยๆอย่างเรา เหวี่ยงแขนทีเดียวอาจจะกระแทกแตกได้. ต้องเจอนี่เลย!
ในที่สุดก็ถึงเวลา เพราะแบรนด์คุณภาพอย่าง Amazfit ได้เห็นความต้องการของสายลุยอย่างคุณและเข็นรุ่น T-Rex Pro ที่ไม่ได้มาแค่ดีไซน์ที่จัดเต็ม พร้อมซัดพร้อมลุยทุกที่ แต่มันยังมาพร้อมสเปค ที่เอาอยู่!! ไม่ว่าจะเป็น ป่า ทะเลทราย. ยอดเขาหิมะ หรือใต้น้ำลึก 100 เมตร T-Rex Pro ไปได้หมด!!
ถึกทน ลงน้ำได้สบาย Scubar 100m ก็ได้ ใส่ไปทะเลทรายก็ไม่ต้องกลัวทรายเข้า เพราะมีมาตรฐาน 10ATM
Amazfit T-Rex Pro!!
อันนี้สายสี Desert Grey มินิมอลได้อยู่นะ
เปิดกล่องมาก็จะมี
– Amazfit T-Rex Pro
– สายชาร์จ
– คู่มือ
งานนี้บอกได้ว่า Amazfit เค้าจัดเต็มจริง เพราะมีการไปขอใบรับรองคุณภาพเกรดการทหาร MIL-STD-810G certified ถึง 15 ใบอีกด้วย กันอุณหภูมิติดลบได้ -40 องศาตกน้ำก็ไหล ตกไฟย่อมไหม้ หลอกกกกก
นอกจากนี้ Amazfit T-Rex Pro สมาทวอซท์ที่ออกแบบมาเพื่อขาลุยอย่างแท้จริงเพราะอัดฟังก์ชั่นมาเต็มเปี่ยม คร่าวๆตามนี้เลย. เดี๋ยวเราจะขยายประเด็นแบบละเอียดยิบอีกที!
- Sensor Blood-oxygen Saturation ที่มีความแม่นยำละเอียดยิบ
- วัด Heart rate ได้ตลอดวัน
- หน้าจอ AMOLED ที่ใหญ่จุใจถึง 1.3 นิ้ว มองยังไงก็ชัด. ดู Notification ได้สะดวก ไม่ต้องเพ่งตา
- Track กีฬาได้ถึง 100 ชนิด. รวมไปถึงกีฬาอย่าง แบดมินตัน, ฟิตเนส, ซุมบ้า อะไรจะปานนั้น!
- แบตอยู่ได้นานสูงสุด 18 วัน! (ใช้งานหนักหน่อยก็ 9 วันครับ)
- มี เข็มทิศ Altimeter และ Barometer ในตัว
- จับพิกัดแม่นยำสุดๆด้วยระบบ Muti-GNSS
- วัด VO2 Max
- ExerSense จับ pattern ของกีฬาได้เอง
- human PAI
พอได้มา ผมต้องบอกเลยว่า ตัวเครื่องดูสวยทนทานตั้งแต่ตาเห็นเลย
ก่อนไปถึงฟังก์ชั่น เรามาดูดีไซน์ก่อนเลยจ้าหน้าตาสวยลุยๆ
T-Rex Pro เท่จับใจ ยังไม่มีใคร จับจอง (เพราะมันเพิ่งออกใหม่)
หน้าปัด มีขอบโลหะ และปุ่มโลหะ งามจับใจ ใครๆก็อยากจับจอง
มี 3 สี Meteorite Black, Desert Grey, Steel Blue
ตัวที่ผมลองใส่เป็นสี Desert Grey ครับ
สวยจัด ใส่ลุยได้ทุกที่
ตัวเรือนออกแบบให้หนาหน่อยๆ ดูแข็งแรง แต่กลับมีน้ำหนักเบา ใส่ไป1 วันก็ชิน สามารถใส่ตอนนอนได้ โดยไม่รู้สึกติดขัด
ด้านหลังมี sensor 4ตัว พร้อมจุดชาร์จอีก 2จุด
หน้าปัดมีหลายลายให้เลือกเปลี่ยน และเราสามารถเอารูปที่เราชอบมาทำเป็นหน้าปัดได้ด้วยนะครับ
การเปลี่ยนหน้า watchface ให้เราเข้าไปที่ Zepp app > ดูมุมขวาล่างกด Profile > จากนั้นเลือก Amazfit T-Rex Pro > Store > เลือกหน้าที่โดนใจได้เลย
ถ้าอยากทำ Background ของตัวเอง ให้เลือก custom background (สังเกต ตัวเลขนาฬิกา มี5 ตำแหน่ง เลือกอันที่ชอบ แล้วเติมรูปเข้าไปได้เลย)
จอ AMOLED ที่ใหญ่จุใจ มองเห็นได้ชัดแม้อยู่กลางแดด
จอ 1.3นิ้ว ทำให้เราเห็นทุกอย่าง สั่งการด้วยการสัมผัสได้อย่างง่ายและแม่นยำ ที่สำคัญ แม้จะอยู่กลางแดดสว่าง ก็ยังสามารถเห็นได้ชัดอีกด้วยเพราะใจจอคุณภาพ
มาตรฐานความทนระดับทหารให้คุณลุยได้ทุกที่
ไม่ว่าจะขึ้นเขา หรือไปที่หนาวเย็น -40องศา ผมเอาไปลองลงน้ำ 2 เมตรมาแล้วด้วยนะ ตัวนี้จริงๆมีมาตรฐาน 10ATM ลงน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร ใส่ไปดำน้ำแบบ Scuba ได้สบาย
Exersense AI ที่จะประมวลผลกิจกรรมของเรา และเรียนรู้ว่า เราเล่นกีฬาอะไรอยู่!
ตัว AmazFit สามารถ Track กีฬาได้ถึง 100 ชนิด. รวมไปถึงกีฬาอย่าง แบดมินตัน, ฟิตเนส, ซุมบ้า อะไรจะปานนั้น!
Exersense นี่ น่าจะต้องใช้เวลาเรียนรู้กิจกรรมของเราพอสมควร และทางผู้จัดจำหน่าย ก็ยังไม่ได้มีโอกาสทดลองฟังก์ชั่นนี้นัก
แต่ที่ผมพบคือ ผมใส่ไปว่ายน้ำ มันรู้ว่าเราว่ายกี่รอบ ว่ายท่าอะไรบ้าง แยกแยะแต่ละท่าได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น กบ, ผีเสื้อ, ฟรีสไตล์, กรรเชียง โดยเราควรบันทึกการว่ายแต่ละท่าแยกกันครับ (พักแล้วกดใหม่)
แต่หากเราว่ายรวมๆแล้วพักทีเดียว Amazfit T-Rex Pro ก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่า มันเป็นท่าผสม (Medley)
ผมลงทุนไปว่ายน้ำตีแบตเพื่อเทสเลยแหละ ในรูปนี่แดดแรงมาก แสงอาทิตย์ตกส่องมาตรงๆ ใช้กล้องไอโฟน ถ่ายแทบมอบไม่เห็นหน้าจอนาฬิกา แต่จริงๆแล้ว เห็นชัดแจ๋วแม้มีแดดแรงนะครับ เรื่องนี้เอาคะแนนไปเต็ม 10 เลย จอแจ่มชัดจริง
สำหรับการว่ายน้ำ จะมีข้อมูลให้ดูละเอียดยิบตามนี้เลย
– ระยะทาง
– เวลาที่ว่าย
– สไตล์การว่าย
– จำนวนเที่ยว
– Pace ความเร็ว
– เบิร์นไปกี่แคล
– SWOLF
– จำนวน Stroke
– Avg. stroke rate
– Avg. Distance per stroke จ้วงหนึ่งที ไปได้กี่เมตร
เรียกได้ว่าเหมือนมีเทรนเนอร์อยู่ติดตัว ช่วยจับเวลาแบบเป๊ะ
การตีแบดก็ใช่ย่อย แต่ละกีฬา จะแสดงผลต่างกันตามความเหมาะสมนะครับ อันนี้ผมชอบมากๆ
– รู้ว่า เบิร์นกี่แคล
– heartrate เฉลี่ย
– Heartrate zone อันนี้ดูดีมาก แบ่งเลยว่าเราออกกำลังกายแบบไหน เป็นเวลากี่นาที สวยหรูอะ แค่เห็นก็มีกำลังใจออกกำลัง 555+
– VO2 max
– มีบอก Full recovery time ว่าเราควรพักการออกกำลังนานเท่าไหร่ค่อยออกกำลังใหม่ (ทำ recovery training เบาได้)
– Training load ทำให้เรารู้ว่าออกกำลังถึงจุดมั้ย มากหรือน้อยเกินไปหรือเปล่า
วัดค่าความเครียดในแต่ละวันได้ด้วย
ด้วยการประยุกต์เซนเซอร์หลายๆตัวเข้าด้วยกัน ทำให้ Amazfit สามารถรู้ระดับความเครียดของเราได้ ทีนี้ใครที่มีอาการเครียด ไม่รู้ตัวจะได้แก้ไขกันนะครับ งานเครียดย้ายงาน แฟนเครียดย้ายแฟน 😂
มั่นใจสุขภาพด้วยการวัด SpO2
Amazfit สามารถวัด SpO2 ได้ด้วย ทำให้เราได้รู้ผลการออกกำลังกายและสุขภาพต่างๆที่สำคัญของเราทั้ง VO2max, Stress, Recovery และ Training load ด้วย ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยเราทั้งการดูแลสุขภาพปกติ และการออกกำลังกายให้หนักถึงจุดที่ โดน! แต่ไม่หนักจนเสียสุขภาพ (จุดนี้สำคัญและมีเส้นบางๆกัน ซึ่ง Smartwatch ดีๆจะช่วยเราได้ตรงนี้ครับ)
Track การนอนละเอียดยิบ แนบสนิทยิ่งกว่าผ้าห่ม
ด้วย Sensor หลายตัว ทำให้ Amazfit T-Rex Pro track การนอนของคุณได้ละเอียดยิบ ไม่ว่าจะเป็น Heartrate และ ลักษณะการหายใจ
นอกจากนี้ตัวแอปยังทำได้ดี มีคำแนะนำด้านการนอน เช่นเราควรนอนให้ไวขึ้น แต่ทีเด็ดคือ เราสามารถบันทึก Mood Feeling หลังตื่นนอน และ กิจกรรมก่อนนอนได้ด้วย พอมาดูภาพรวม จะทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้นเยอะเลยครับ
นาฬิกาที่ดี ไม่กินแบต เปลืองแบต
สาเหตุหนึ่งที่คนตัดสินใจไม่ใช้ smart watch ก็เป็นเพราะมันต้องชาร์จบ่อย บางทีลืมชาร์จก็ใช้ไม่ได้ไปทั้งวัน ผ่านไปหลายๆที ก็กลายเป็นเลิกใช้ไปซะงั้น
Amazfit T-Rex Pro เข้าใจลักษณะการใช้งานของสายลุย ที่บางทีเราอาจจะใส่ไปขึ้นเขาได้หลายวัน (หรือแค่ไม่อยากชาร์จบ่อยๆ) จึงมีแบตที่ใช้งานได้สูงสุด 18 วัน! หรือประมาณ 9 วันหากใช้งานหนัก
โดยส่วนตัวผมเอง ตั้งให้แสกน Heartrate ค่อนข้างบ่อย และมี Notification เรื่อยๆทั้งวัน สามารถอยู่ได้เกือบ 10 วันครับ
หากเราใช้ Apple watch ที่ต้องชาร์จทุกวัน 1 เดือน เราต้องชาร์จถึง 30 ครั้ง ในขณะที่ Amazfit T-Rex Pro เราชาร์จแค่เดือนละ 3 ครั้งเท่านั้นเอง
จริงๆเรื่องนี้มันสำคัญกว่าความถี่ในการชาร์จ มันคือความสะดวกในการไปเที่ยวต่างๆ
แม้จะลง App และมีอิสระในการใช้น้อยกว่า Apple watch แต่เวลาไปเที่ยว เราอาจไม่อยากพกที่ชาร์จ Apple watch ไปด้วย และชาร์จทุกคืน
เช่นถ้าสายลุยอย่างเราๆจะไปดินเขาบนเขาช้างเผือกหรือขึ้นดอย นอนเต๊นท์ด้วย Apple watch ก็ดูจะเป็นไปได้ยากเลยทีเดียว มันน่าเศร้านิดหน่อย ที่อุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ Track ติดตามการออกกำลัง ไม่สามารถมีแบตที่อยู่รอดได้บนเขา (อะไรที่ขึ้นเขากับเรา ก็ควรถึกสิจริงมั้ย)
แต่ Amazfit มาพร้อมแบต ที่ให้เราอยู่ได้นานสบายจนจบทริป
เนี่ย เราจะขึ้นเขา1วัน นอนตื่นมา Smartwatch แบตหมดไม่ได้ ยังต้องจับระยะทางขากลับไว้ลง Social อีก จริงมั้ย 😂
การตั้งค่าเปิด Nofitication
การแจ้งเตือนต่างๆ เราต้องตั้งค่าก่อนนะครับ ซึ่งก็ทำได้ง่ายมาก
ให้เราเข้าไปที่ Zepp app > ดูมุมขวาล่างกด Profile > จากนั้นเลือก Amazfit T-Rex Pro > Notification and reminder > เลือกแอปที่ต้องการได้เลย
สรุปรีวิว ความรู้สึกจากการใช้งานจริง บอกเลยว่า ชอบม้ากกกกกกกกกกกกก
ตอนแรกคิดว่าเหมือน Smartwatch ทั่วไปที่เคยใช้ แต่ลองแล้วชอบมากๆ และเพราะมีเซนเซอร์เยอะ ทำให้ Track สุขภาพ ได้อย่างละเอียดจริงๆ ไม่ใช่แค่ Track ได้ข้อมูลหลายประเภทกว่า แต่ Amazfit ติดตามการนอนของเราได้ละเอียดมาก ทำให้รู้ว่าเรานอนเยอะน้อย นอนมีคุณภาพมั้ย รวมกับตัว Zepp app เราบันทึก mood หลังตื่นนอน และกิจกรรมก่อนนอนได้อีกตะหาก
สามารถติดตามอารมณ์ ความเครียดเราได้ทุกวัน และคอยเตือนกระตุ้นให้เราออกกำลังกาย
ที่สำคัญจอใหญ่และทน ให้ความรู้สึกว่าลุยที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องคอยกลัวเครื่องเป็นรอย
ตอนเปิดกล่องมาตกใจที่ตัวเรือนใหญ่มาก แต่พอใส่กลับรู้สึกว่าเบา คือมันได้ข้อมูลคุ้มค่า กว่ารุ่นอื่นๆ เกะกะ แต่ได้ข้อมูลออกมานิดเดียวและไม่ละเอียด
ที่ผ่านมานี่แค่เล่าถึงกรณีคนทั่วไปอะนะ ยิ่งถ้าเรารักการออกกำลังกาย ตัว Amazfit T-Rex Pro นี่ก็มีข้อมูลสุขภาพให้เราละเอียดขึ้นไปอีก เราจะรู้และเห็นชัดๆว่าเราออกกำลังกาย น้อยไปหรือมากไป ต้องพักนานเท่าไหร่ดี ยังกะมีเทรนเนอร์! สำหรับคนรักสุขภาพอย่างเราๆ บอกเลยว่า คุ้ม คุ้ม คุ้ม !!
จำไว้เลย Amazfit T-Rex Pro!
ปล.ขอบคุณที่อ่านรีวิวกันจนจบครับ กราบบ
[SR] รีวิวหมดเปลือก Amazfit T-Rex Pro – smartwatch ถึก เถื่อน ทน
เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะอยากได้ Smartwatch แต่รุ่นบางๆเรียบๆ ที่เคยเห็นก็ดูไม่ค่อยถูกใจ เพราะมันบอบบางซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่แตกง่าย สายลุยๆอย่างเรา เหวี่ยงแขนทีเดียวอาจจะกระแทกแตกได้. ต้องเจอนี่เลย!
ในที่สุดก็ถึงเวลา เพราะแบรนด์คุณภาพอย่าง Amazfit ได้เห็นความต้องการของสายลุยอย่างคุณและเข็นรุ่น T-Rex Pro ที่ไม่ได้มาแค่ดีไซน์ที่จัดเต็ม พร้อมซัดพร้อมลุยทุกที่ แต่มันยังมาพร้อมสเปค ที่เอาอยู่!! ไม่ว่าจะเป็น ป่า ทะเลทราย. ยอดเขาหิมะ หรือใต้น้ำลึก 100 เมตร T-Rex Pro ไปได้หมด!!
ถึกทน ลงน้ำได้สบาย Scubar 100m ก็ได้ ใส่ไปทะเลทรายก็ไม่ต้องกลัวทรายเข้า เพราะมีมาตรฐาน 10ATM
Amazfit T-Rex Pro!!
อันนี้สายสี Desert Grey มินิมอลได้อยู่นะ
เปิดกล่องมาก็จะมี
– Amazfit T-Rex Pro
– สายชาร์จ
– คู่มือ
งานนี้บอกได้ว่า Amazfit เค้าจัดเต็มจริง เพราะมีการไปขอใบรับรองคุณภาพเกรดการทหาร MIL-STD-810G certified ถึง 15 ใบอีกด้วย กันอุณหภูมิติดลบได้ -40 องศาตกน้ำก็ไหล ตกไฟย่อมไหม้ หลอกกกกก
นอกจากนี้ Amazfit T-Rex Pro สมาทวอซท์ที่ออกแบบมาเพื่อขาลุยอย่างแท้จริงเพราะอัดฟังก์ชั่นมาเต็มเปี่ยม คร่าวๆตามนี้เลย. เดี๋ยวเราจะขยายประเด็นแบบละเอียดยิบอีกที!
- Sensor Blood-oxygen Saturation ที่มีความแม่นยำละเอียดยิบ
- วัด Heart rate ได้ตลอดวัน
- หน้าจอ AMOLED ที่ใหญ่จุใจถึง 1.3 นิ้ว มองยังไงก็ชัด. ดู Notification ได้สะดวก ไม่ต้องเพ่งตา
- Track กีฬาได้ถึง 100 ชนิด. รวมไปถึงกีฬาอย่าง แบดมินตัน, ฟิตเนส, ซุมบ้า อะไรจะปานนั้น!
- แบตอยู่ได้นานสูงสุด 18 วัน! (ใช้งานหนักหน่อยก็ 9 วันครับ)
- มี เข็มทิศ Altimeter และ Barometer ในตัว
- จับพิกัดแม่นยำสุดๆด้วยระบบ Muti-GNSS
- วัด VO2 Max
- ExerSense จับ pattern ของกีฬาได้เอง
- human PAI
พอได้มา ผมต้องบอกเลยว่า ตัวเครื่องดูสวยทนทานตั้งแต่ตาเห็นเลย
ก่อนไปถึงฟังก์ชั่น เรามาดูดีไซน์ก่อนเลยจ้าหน้าตาสวยลุยๆ
T-Rex Pro เท่จับใจ ยังไม่มีใคร จับจอง (เพราะมันเพิ่งออกใหม่)
หน้าปัด มีขอบโลหะ และปุ่มโลหะ งามจับใจ ใครๆก็อยากจับจอง
มี 3 สี Meteorite Black, Desert Grey, Steel Blue
ตัวที่ผมลองใส่เป็นสี Desert Grey ครับ
สวยจัด ใส่ลุยได้ทุกที่
ตัวเรือนออกแบบให้หนาหน่อยๆ ดูแข็งแรง แต่กลับมีน้ำหนักเบา ใส่ไป1 วันก็ชิน สามารถใส่ตอนนอนได้ โดยไม่รู้สึกติดขัด
ด้านหลังมี sensor 4ตัว พร้อมจุดชาร์จอีก 2จุด
หน้าปัดมีหลายลายให้เลือกเปลี่ยน และเราสามารถเอารูปที่เราชอบมาทำเป็นหน้าปัดได้ด้วยนะครับ
การเปลี่ยนหน้า watchface ให้เราเข้าไปที่ Zepp app > ดูมุมขวาล่างกด Profile > จากนั้นเลือก Amazfit T-Rex Pro > Store > เลือกหน้าที่โดนใจได้เลย
ถ้าอยากทำ Background ของตัวเอง ให้เลือก custom background (สังเกต ตัวเลขนาฬิกา มี5 ตำแหน่ง เลือกอันที่ชอบ แล้วเติมรูปเข้าไปได้เลย)
จอ AMOLED ที่ใหญ่จุใจ มองเห็นได้ชัดแม้อยู่กลางแดด
จอ 1.3นิ้ว ทำให้เราเห็นทุกอย่าง สั่งการด้วยการสัมผัสได้อย่างง่ายและแม่นยำ ที่สำคัญ แม้จะอยู่กลางแดดสว่าง ก็ยังสามารถเห็นได้ชัดอีกด้วยเพราะใจจอคุณภาพ
มาตรฐานความทนระดับทหารให้คุณลุยได้ทุกที่
ไม่ว่าจะขึ้นเขา หรือไปที่หนาวเย็น -40องศา ผมเอาไปลองลงน้ำ 2 เมตรมาแล้วด้วยนะ ตัวนี้จริงๆมีมาตรฐาน 10ATM ลงน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร ใส่ไปดำน้ำแบบ Scuba ได้สบาย
Exersense AI ที่จะประมวลผลกิจกรรมของเรา และเรียนรู้ว่า เราเล่นกีฬาอะไรอยู่!
ตัว AmazFit สามารถ Track กีฬาได้ถึง 100 ชนิด. รวมไปถึงกีฬาอย่าง แบดมินตัน, ฟิตเนส, ซุมบ้า อะไรจะปานนั้น!
Exersense นี่ น่าจะต้องใช้เวลาเรียนรู้กิจกรรมของเราพอสมควร และทางผู้จัดจำหน่าย ก็ยังไม่ได้มีโอกาสทดลองฟังก์ชั่นนี้นัก
แต่ที่ผมพบคือ ผมใส่ไปว่ายน้ำ มันรู้ว่าเราว่ายกี่รอบ ว่ายท่าอะไรบ้าง แยกแยะแต่ละท่าได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น กบ, ผีเสื้อ, ฟรีสไตล์, กรรเชียง โดยเราควรบันทึกการว่ายแต่ละท่าแยกกันครับ (พักแล้วกดใหม่)
แต่หากเราว่ายรวมๆแล้วพักทีเดียว Amazfit T-Rex Pro ก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่า มันเป็นท่าผสม (Medley)
ผมลงทุนไปว่ายน้ำตีแบตเพื่อเทสเลยแหละ ในรูปนี่แดดแรงมาก แสงอาทิตย์ตกส่องมาตรงๆ ใช้กล้องไอโฟน ถ่ายแทบมอบไม่เห็นหน้าจอนาฬิกา แต่จริงๆแล้ว เห็นชัดแจ๋วแม้มีแดดแรงนะครับ เรื่องนี้เอาคะแนนไปเต็ม 10 เลย จอแจ่มชัดจริง
สำหรับการว่ายน้ำ จะมีข้อมูลให้ดูละเอียดยิบตามนี้เลย
– ระยะทาง
– เวลาที่ว่าย
– สไตล์การว่าย
– จำนวนเที่ยว
– Pace ความเร็ว
– เบิร์นไปกี่แคล
– SWOLF
– จำนวน Stroke
– Avg. stroke rate
– Avg. Distance per stroke จ้วงหนึ่งที ไปได้กี่เมตร
เรียกได้ว่าเหมือนมีเทรนเนอร์อยู่ติดตัว ช่วยจับเวลาแบบเป๊ะ
การตีแบดก็ใช่ย่อย แต่ละกีฬา จะแสดงผลต่างกันตามความเหมาะสมนะครับ อันนี้ผมชอบมากๆ
– รู้ว่า เบิร์นกี่แคล
– heartrate เฉลี่ย
– Heartrate zone อันนี้ดูดีมาก แบ่งเลยว่าเราออกกำลังกายแบบไหน เป็นเวลากี่นาที สวยหรูอะ แค่เห็นก็มีกำลังใจออกกำลัง 555+
– VO2 max
– มีบอก Full recovery time ว่าเราควรพักการออกกำลังนานเท่าไหร่ค่อยออกกำลังใหม่ (ทำ recovery training เบาได้)
– Training load ทำให้เรารู้ว่าออกกำลังถึงจุดมั้ย มากหรือน้อยเกินไปหรือเปล่า
วัดค่าความเครียดในแต่ละวันได้ด้วย
ด้วยการประยุกต์เซนเซอร์หลายๆตัวเข้าด้วยกัน ทำให้ Amazfit สามารถรู้ระดับความเครียดของเราได้ ทีนี้ใครที่มีอาการเครียด ไม่รู้ตัวจะได้แก้ไขกันนะครับ งานเครียดย้ายงาน แฟนเครียดย้ายแฟน 😂
มั่นใจสุขภาพด้วยการวัด SpO2
Amazfit สามารถวัด SpO2 ได้ด้วย ทำให้เราได้รู้ผลการออกกำลังกายและสุขภาพต่างๆที่สำคัญของเราทั้ง VO2max, Stress, Recovery และ Training load ด้วย ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยเราทั้งการดูแลสุขภาพปกติ และการออกกำลังกายให้หนักถึงจุดที่ โดน! แต่ไม่หนักจนเสียสุขภาพ (จุดนี้สำคัญและมีเส้นบางๆกัน ซึ่ง Smartwatch ดีๆจะช่วยเราได้ตรงนี้ครับ)
Track การนอนละเอียดยิบ แนบสนิทยิ่งกว่าผ้าห่ม
ด้วย Sensor หลายตัว ทำให้ Amazfit T-Rex Pro track การนอนของคุณได้ละเอียดยิบ ไม่ว่าจะเป็น Heartrate และ ลักษณะการหายใจ
นอกจากนี้ตัวแอปยังทำได้ดี มีคำแนะนำด้านการนอน เช่นเราควรนอนให้ไวขึ้น แต่ทีเด็ดคือ เราสามารถบันทึก Mood Feeling หลังตื่นนอน และ กิจกรรมก่อนนอนได้ด้วย พอมาดูภาพรวม จะทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้นเยอะเลยครับ
นาฬิกาที่ดี ไม่กินแบต เปลืองแบต
สาเหตุหนึ่งที่คนตัดสินใจไม่ใช้ smart watch ก็เป็นเพราะมันต้องชาร์จบ่อย บางทีลืมชาร์จก็ใช้ไม่ได้ไปทั้งวัน ผ่านไปหลายๆที ก็กลายเป็นเลิกใช้ไปซะงั้น
Amazfit T-Rex Pro เข้าใจลักษณะการใช้งานของสายลุย ที่บางทีเราอาจจะใส่ไปขึ้นเขาได้หลายวัน (หรือแค่ไม่อยากชาร์จบ่อยๆ) จึงมีแบตที่ใช้งานได้สูงสุด 18 วัน! หรือประมาณ 9 วันหากใช้งานหนัก
โดยส่วนตัวผมเอง ตั้งให้แสกน Heartrate ค่อนข้างบ่อย และมี Notification เรื่อยๆทั้งวัน สามารถอยู่ได้เกือบ 10 วันครับ
หากเราใช้ Apple watch ที่ต้องชาร์จทุกวัน 1 เดือน เราต้องชาร์จถึง 30 ครั้ง ในขณะที่ Amazfit T-Rex Pro เราชาร์จแค่เดือนละ 3 ครั้งเท่านั้นเอง
จริงๆเรื่องนี้มันสำคัญกว่าความถี่ในการชาร์จ มันคือความสะดวกในการไปเที่ยวต่างๆ
แม้จะลง App และมีอิสระในการใช้น้อยกว่า Apple watch แต่เวลาไปเที่ยว เราอาจไม่อยากพกที่ชาร์จ Apple watch ไปด้วย และชาร์จทุกคืน
เช่นถ้าสายลุยอย่างเราๆจะไปดินเขาบนเขาช้างเผือกหรือขึ้นดอย นอนเต๊นท์ด้วย Apple watch ก็ดูจะเป็นไปได้ยากเลยทีเดียว มันน่าเศร้านิดหน่อย ที่อุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ Track ติดตามการออกกำลัง ไม่สามารถมีแบตที่อยู่รอดได้บนเขา (อะไรที่ขึ้นเขากับเรา ก็ควรถึกสิจริงมั้ย)
แต่ Amazfit มาพร้อมแบต ที่ให้เราอยู่ได้นานสบายจนจบทริป
เนี่ย เราจะขึ้นเขา1วัน นอนตื่นมา Smartwatch แบตหมดไม่ได้ ยังต้องจับระยะทางขากลับไว้ลง Social อีก จริงมั้ย 😂
การตั้งค่าเปิด Nofitication
การแจ้งเตือนต่างๆ เราต้องตั้งค่าก่อนนะครับ ซึ่งก็ทำได้ง่ายมาก
ให้เราเข้าไปที่ Zepp app > ดูมุมขวาล่างกด Profile > จากนั้นเลือก Amazfit T-Rex Pro > Notification and reminder > เลือกแอปที่ต้องการได้เลย
สรุปรีวิว ความรู้สึกจากการใช้งานจริง บอกเลยว่า ชอบม้ากกกกกกกกกกกกก
ตอนแรกคิดว่าเหมือน Smartwatch ทั่วไปที่เคยใช้ แต่ลองแล้วชอบมากๆ และเพราะมีเซนเซอร์เยอะ ทำให้ Track สุขภาพ ได้อย่างละเอียดจริงๆ ไม่ใช่แค่ Track ได้ข้อมูลหลายประเภทกว่า แต่ Amazfit ติดตามการนอนของเราได้ละเอียดมาก ทำให้รู้ว่าเรานอนเยอะน้อย นอนมีคุณภาพมั้ย รวมกับตัว Zepp app เราบันทึก mood หลังตื่นนอน และกิจกรรมก่อนนอนได้อีกตะหาก
สามารถติดตามอารมณ์ ความเครียดเราได้ทุกวัน และคอยเตือนกระตุ้นให้เราออกกำลังกาย
ที่สำคัญจอใหญ่และทน ให้ความรู้สึกว่าลุยที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องคอยกลัวเครื่องเป็นรอย
ตอนเปิดกล่องมาตกใจที่ตัวเรือนใหญ่มาก แต่พอใส่กลับรู้สึกว่าเบา คือมันได้ข้อมูลคุ้มค่า กว่ารุ่นอื่นๆ เกะกะ แต่ได้ข้อมูลออกมานิดเดียวและไม่ละเอียด
ที่ผ่านมานี่แค่เล่าถึงกรณีคนทั่วไปอะนะ ยิ่งถ้าเรารักการออกกำลังกาย ตัว Amazfit T-Rex Pro นี่ก็มีข้อมูลสุขภาพให้เราละเอียดขึ้นไปอีก เราจะรู้และเห็นชัดๆว่าเราออกกำลังกาย น้อยไปหรือมากไป ต้องพักนานเท่าไหร่ดี ยังกะมีเทรนเนอร์! สำหรับคนรักสุขภาพอย่างเราๆ บอกเลยว่า คุ้ม คุ้ม คุ้ม !!
จำไว้เลย Amazfit T-Rex Pro!
ปล.ขอบคุณที่อ่านรีวิวกันจนจบครับ กราบบ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม