‘ธนาธร’ ชวนใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาล 28 มี.ค.นี้ ปลุก ปชช.ให้ตระหนัก การเมืองคือเรื่องใกล้ตัว
https://www.matichon.co.th/politics/news_2643316
 
‘ธนาธร’ ชวนใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาล 28 มี.ค.นี้ ปลุก ปชช.ให้ตระหนัก การเมืองคือเรื่องใกล้ตัว ขอโอกาสพิสูจน์ทำเพื่อประเทศ
 
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่หาเสียงการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล ในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคมนี้ ว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงประชาชนก็มีความตื่นตัวไม่เท่ากัน และสนามการเลือกตั้งระดับเทศบาลมีขนาดเล็ก บางที่มีขนาด 40 ตารางกิโลเมตร แต่ตนคิดว่าคนตื่นตัวกันมาก และอาจจะมาใช้สิทธิมากกว่าการเลือกตั้งเทศบาลรอบก่อนหน้านี้
 
ส่วนการทำนโยบายครั้งนี้ก็สนุกกว่าช่วงการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพราะมีงบประมาณและพื้นที่ให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เช่น เทศบาลนครบางแห่งมีงบประมาณถึง 1 พันล้าน หมายความว่ามีช่องว่างทางการคลังในการออกแบบนโยบายใหม่ๆ ได้มาก ตนเชื่อมั่นว่า เทศบาลที่ดีกว่านี้ และเมืองที่สะอาดกว่านี้ สามารถเกิดขึ้นได้ ครั้งนี้คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครในตำแหน่งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล 200 แห่ง จากทั้งหมด 2,472 แห่ง เพราะมีเวลาการเตรียมตัวน้อย หากให้เวลาอีก 4 ปี ก็อาจจะส่งได้มากขึ้น
 
เมื่อถามว่า นายธนาธร และคณะลงพื้นที่หาเสียงอย่างสม่ำเสมอ สะท้อนว่าการเลือกตั้งเทศบาลมีความสำคัญต่อการเมืองไทยใช่หรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า แน่นอน และตนอยากให้คนกลับมาเข้าใจความสำคัญของการเมือง เพื่อจะเข้ามาตรวจสอบงบประมาณ และผู้สมัครด้วยตัวเอง พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า ทำไมถนนถึงไม่ดี ทำไมโรงเรียนของเทศบาลไม่ดี หรือทำไมแม่น้ำลำคลองจึงเน่าเหม็น
 
“ผมต้องการให้เซนส์ของการเมืองมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และกลับมาอยู่ที่ประชาชนคนไทยให้ได้ ที่ผ่านมาคนไทยหลงลืมเรื่องนี้นาน และคิดว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องของตัวเอง หรือคิดว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรก เลือกใครก็ได้เหมือนเดิม ที่คิดแบบนี้เพราะเขายังไม่เคยเจอผม ให้โอกาสผมสักรอบ เดี๋ยวผมทำให้ดู” นายธนาธรกล่าว
 
นายธนาธรกล่าวว่า เราต้องบอกกับประชาชนว่า ที่โรงเรียนไม่ดี ที่แม่น้ำลำคลองเน่าเหม็น เป็นเพราะคุณไม่สนใจการเมือง ไม่มีใครตระหนักถึงสิทธิ และอำนาจของตัวเอง ทั้งที่เรามีสิทธิ และอำนาจ ระบบราชการที่สร้างระบบอุปถัมภ์จากส่วนกลาง ทำให้คนร้องขอรอคอยความเมตตา และความช่วยเหลือโดยไม่ตระหนักว่าตัวเองเป็นเจ้าของสิทธิ อำนาจ และงบประมาณ
 
ดังนั้น เมื่อตนรณรงค์หาเสียงก็จะพูดตลอดว่า การเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัว ถ้าอยากให้โรงเรียนดี แม่นำ้ลำคลองใสสะอาด ต้องไปเลือกตั้ง ทั้งในระดับเทศบาล
อบจ. องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และ ส.ส. ทำให้ประชาชนตื่นตัวทางการเมืองให้ได้ เพราะจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น และส่งเสริมคุณภาพของประชาธิปไตยในระดับชาติ จึงอยากให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาลในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคมนี้
 

---

 
รายชื่อคนตายโผล่บัญชีเลือกตั้งเทศบาลนครรังสิตเพียบ บางรายเสียชีวิตเมื่อ 20 ปีก่อน
https://www.matichon.co.th/region/news_2643327
 
รายชื่อคนตายโผล่บัญชีเลือกตั้งเทศบาลนครรังสิตเพียบ บางรายเสียชีวิตเมื่อ 20 ปีก่อน
 
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 มีนาคม ที่บริเวณสวนสาธารณะซอยรังสิต – ปทุมธานี 8 หมู่ 2 ต.ประชาธิปัตย์ อ. ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งที่ 16 และโรงเรียนทองพูนอุทิศ ม.2 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หน่วยเลือกตั้งที่ 18 สถานที่ลงคะแนนผู้บริหารท้องถิ่น พบว่ามีรายชื่อคนตายปรากฏในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครรังสิตและสมาชิกสภาเทศบาลนครรังสิต ที่จะมีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564
 
จากการสอบถาม นางสุณี แก่นมณี อายุ 64 ปี ที่ อยู่ 362 หมู่ 2 ต.ประชาธิปัตย์ อ. ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กล่าวว่า นายสวง จุ้ยม่วงศรี เป็นพี่ชายของสามี เคยมีชื่ออยู่ในสำเนาทะเบียนบ้านของตนเอง ซึ่งได้เสียชีวิตไปนานแล้ว เมื่อวานนี้ตนได้ไปตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้ติดประกาศไว้ ที่โรงเรียนทองพูนอุทิศ ซึ่งมีชื่อของตนลำดับที่ 439 ของบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เทศบาลนครรังสิตได้ติดประกาศไว้ แต่พบมีชื่อของนายสวง จุ้ยม่วงศรี ที่เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว อยู่ลำดับที่ 438 ตนก็แปลกใจว่ามาได้อย่างไร
 
ส่วนนายสมฤทธิ์ จุ้ยม่วงศรี อายุ 72 ปี ที่อยู่ 318 หมู่ 2 ต.ประชาธิปัตย์ อ. ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ด.ช.ศิริชัย จุ้ยม่วงศรี ลูกชาย คนที่ 2 อายุเพียง 7 ขวบได้เสียชีวิตไปนานกว่า 20 ปีแล้ว จากการเล่นน้ำแล้วติดไวรัสขึ้นสมองจนเสียชีวิต โดยการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มาก็ไม่เคยมีกรณีเช่นนี้มาก่อน เพราะว่าเวลาที่ตนเองไปเลือกตั้งจะมีการไปดูรายชื่อพร้อมกับพิมพ์ลายนิ้วมือและเขียนชื่อ เมื่อวานนี้ได้ไปตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเพื่อเตรียมความพร้อม ก็พบว่าตนเองอยู่ลำดับที่ 343 แต่ครั้งนี้กลับพบว่ามีชื่อของลูกชายที่เสียชีวิตไปนานแล้ว ชื่อนายศิริชัย จุ้ยม่วงศรี อยู่ลำดับที่ 345 มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งได้ ก็ อยากให้หน่วยงานราชการตรวจสอบทำให้ถูกต้อง จะได้ไม่เป็นข้อครหาของสังคม ตนพร้อมไปลงคะแนนตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ส่วนใครจะได้หรือไม่ได้นั้นเป็นเรื่องของประชาชนที่ออกไปสิทธิกันในวันที่ 28 มีนาคม 2564