อย่าเพิ่งเริ่มธุรกิจ ถ้าคุณยังไม่รู้ 2 สิ่งนี้ | วิธีหาเงินและทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
อยากทำธุรกิจส่วนตัว แต่กลัวเจ๊ง เชื่อว่าคงเป็นปัญหาของใครหลาย ๆ คนใช่ไหม?! ยิ่งถ้าเทรนด์ธุรกิจเปลี่ยนแปลงเหมือนคลื่นทะเลไม่หยุดแบบนี้ ยิ่งยากที่จะเริ่มต้นในการทำธุรกิจจนหลายคนตั้งคำถามว่าจะทำธุรกิจอะไรดีที่มั่นคง หรือแท้จริงแล้วยังมีอะไรที่ผู้ประกอบการยังไม่รู้ถึงการเริ่มต้นทำธุรกิจ บทความนี้มีคำตอบครับ…
เมื่อเหล่ามนุษย์เงินเดือนหรือวัยรุ่นที่เพิ่งจบใหม่ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ต่างก็อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง ซึ่งก็น่าจะเลือกทำธุรกิจที่แต่ละคนนั้นมีความถนัดและยิ่งถ้าเราไม่ใช่สายเทคโนโลยีล่ะก็ ธุรกิจ SMEs คือคำตอบสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ให้มีโอกาสที่เริ่มต้นทำธุรกิจในแบบของเราเอง แต่!! ใครจะรู้ว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจนั้นมันไม่ได้ง่าย เพราะดูอะไร ๆ ก็ต้องเรียนรู้ไปหมดไม่ว่าจะเป็น วิธีหาสินค้า การทำบัญชี งานบุคคล การถ่ายวิดีโอ การทำแพ็กเกจ การตกแต่งร้านค้าไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ และอีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมายังไม่ใช่หัวใจหลักในการทำธุรกิจในช่วงเริ่ม
ทว่าตัวอย่างที่ผมได้ยกมาข้างต้นนั้น ในเริ่มแรกมันยังไม่สามารถที่จะทำให้เงินเข้ามาในธุรกิจของคุณได้ เช่นว่า คุณหาสินค้ามาคุณมีคนซื้อแล้วหรือยัง?! คุณทำบัญชีคุณมีคนซื้อแล้วหรือยัง?! หรือแม้แต่การทำงานฝ่ายบุคคลคุณมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากพอในการเพิ่มแรงงานลูกจ้างแล้วหรือยัง?! ซึ่งบางครั้งการที่คุณตีความว่าต้องมีหน้าที่ให้ครบก่อนนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากในการเริ่มทำธุรกิจ แต่กลับกลายเป็นว่าที่จริงแล้วคุณคิดไปเองว่า “เดี๋ยวก็มีคนซื้อหรือมีรายได้เข้ามา” ซึ่งมันอาจไม่ใช่กับทุกธุรกิจฉะนั้น 2 สิ่งที่คุณควรจะรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจ เพื่อเป็นการเช็คฟอร์มและเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้น ที่สำคัญ 2 สิ่งนี้ยังสามารถทำรายได้ให้กับธุรกิจของคุณได้เลยในช่วงแรก นั่นก็คือ …
1. การตลาด : กิจกรรมบริษัทเพื่อส่งเสริมการซื้อขายของสินค้าและบริการของธุรกิจ รวมไปถึงการทำโฆษณา เพื่อให้คนได้รู้จักสินค้าและบริการของคุณจนสามารถปิดการขายได้
2. การขาย : ซึ่งเป็นกระบวนการประสานงานโดยใช้วิธีการสื่อสารทุกรูปแบบ เพื่อเป็นการเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ณ เวลานั้น แล้วทำให้เกิดแรงจูงใจให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณ
ทีนี้เราจะมาดูว่า การตลาดและการขายมีความแตกต่างกันอย่างไร ถ้าจะเปรียบเทียบให้คุณสามารถมองเห็นได้ชัดเจน นั่นก็คือ การตลาดจะเป็นการขยายฐานลูกค้าโดยใช้สื่อโฆษณาหรือการขยายฐานลูกค้าแบบวงกว้าง ซึ่งตรงข้ามกับการขายที่สามารถนำเสนอสินค้าและบริการให้ลูกค้าได้รู้ได้ทีละคนหรือเรียกว่าการขยายฐานลูกค้าแบบวงแคบนั่นเอง
ดังนั้น 2 สิ่งนี้ไม่ว่าจะเป็น การตลาดหรือการขาย จึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้ก่อน เพื่อที่จะได้หาเงินให้กับบริษัทของคุณทั้งในช่วงแรกและในทุก ๆ ช่วง ซึ่งผมไม่ได้หมายความว่าหน้าที่อื่น ๆ จะไม่สำคัญ เพียงแค่อยากจะบอกว่า การเริ่มทำธุรกิจคุณไม่ควรที่จะรีบลงทุนทั้งที่คุณไม่รู้เลยว่ากลุ่มลูกค้าคุณมีความสนใจในสินค้าและบริการมากน้อยแค่ไหน และถึงแม้ว่าการทำการตลาดอาจจะยังไม่สามารถให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าทำทันที แต่คุณสามารถให้เขากดติดตามร้านค้าหรือธุรกิจของคุณได้ ซึ่งผมเชื่อว่าไม่ช้าไม่เร็วหากคุณพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการกับลูกค้าอย่างไรคุณก็ต้องขายได้อย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ 2 สิ่ง ที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจ เพราะถ้าหากคุณสามารถเรียนรู้ทักษะทั้ง 2 สิ่งนี้ได้แล้ว โอกาสที่คุณจะเสียเงินในการลงทุนก็อาจจะน้อยลง มิหนำซ้ำความเสี่ยงที่ธุรกิจของคุณจะเจ๊งก็ยิ่งห่างไกลคุณได้ด้วย หรือคุณคิดว่าอย่างไรสามารถแสดงความคิดเห็นมาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ
===================================================================
สำหรับใครที่อยากได้รับอรรถรสเพิ่มมากขึ้น สามารถคลิกวีดีโอได้ตามด้านล่างนี้นะครับ
อย่าเพิ่งเริ่มธุรกิจ ถ้าคุณยังไม่รู้ 2 สิ่งนี้ | วิธีหาเงินและทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
ทว่าตัวอย่างที่ผมได้ยกมาข้างต้นนั้น ในเริ่มแรกมันยังไม่สามารถที่จะทำให้เงินเข้ามาในธุรกิจของคุณได้ เช่นว่า คุณหาสินค้ามาคุณมีคนซื้อแล้วหรือยัง?! คุณทำบัญชีคุณมีคนซื้อแล้วหรือยัง?! หรือแม้แต่การทำงานฝ่ายบุคคลคุณมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากพอในการเพิ่มแรงงานลูกจ้างแล้วหรือยัง?! ซึ่งบางครั้งการที่คุณตีความว่าต้องมีหน้าที่ให้ครบก่อนนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากในการเริ่มทำธุรกิจ แต่กลับกลายเป็นว่าที่จริงแล้วคุณคิดไปเองว่า “เดี๋ยวก็มีคนซื้อหรือมีรายได้เข้ามา” ซึ่งมันอาจไม่ใช่กับทุกธุรกิจฉะนั้น 2 สิ่งที่คุณควรจะรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจ เพื่อเป็นการเช็คฟอร์มและเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้น ที่สำคัญ 2 สิ่งนี้ยังสามารถทำรายได้ให้กับธุรกิจของคุณได้เลยในช่วงแรก นั่นก็คือ …
1. การตลาด : กิจกรรมบริษัทเพื่อส่งเสริมการซื้อขายของสินค้าและบริการของธุรกิจ รวมไปถึงการทำโฆษณา เพื่อให้คนได้รู้จักสินค้าและบริการของคุณจนสามารถปิดการขายได้
2. การขาย : ซึ่งเป็นกระบวนการประสานงานโดยใช้วิธีการสื่อสารทุกรูปแบบ เพื่อเป็นการเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ณ เวลานั้น แล้วทำให้เกิดแรงจูงใจให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณ
ทีนี้เราจะมาดูว่า การตลาดและการขายมีความแตกต่างกันอย่างไร ถ้าจะเปรียบเทียบให้คุณสามารถมองเห็นได้ชัดเจน นั่นก็คือ การตลาดจะเป็นการขยายฐานลูกค้าโดยใช้สื่อโฆษณาหรือการขยายฐานลูกค้าแบบวงกว้าง ซึ่งตรงข้ามกับการขายที่สามารถนำเสนอสินค้าและบริการให้ลูกค้าได้รู้ได้ทีละคนหรือเรียกว่าการขยายฐานลูกค้าแบบวงแคบนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ 2 สิ่ง ที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจ เพราะถ้าหากคุณสามารถเรียนรู้ทักษะทั้ง 2 สิ่งนี้ได้แล้ว โอกาสที่คุณจะเสียเงินในการลงทุนก็อาจจะน้อยลง มิหนำซ้ำความเสี่ยงที่ธุรกิจของคุณจะเจ๊งก็ยิ่งห่างไกลคุณได้ด้วย หรือคุณคิดว่าอย่างไรสามารถแสดงความคิดเห็นมาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ