เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยโฉม “All New HAVAL H6 Hybrid SUV” เป็นครั้งแรกของโลก พร้อมตอกย้ำกลยุทธ์ xEV Leader ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าด้วยพาเหรดรถยนต์ xEV สุดไฮเทคมาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก นำทัพโดยรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat ORA Black Cat และรถกระบะไฟฟ้า POER EV รวมไปถึงรถยนต์ต้นแบบ Concept H มาจัดแสดงภายใต้แนวคิด “Innovation Builds Better Future” พร้อมด้วยกองทัพนวัตกรรมและเทคโนโลยีสุดล้ำ และโอกาสในการนั่งรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat แบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่บูธ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับ “All New HAVAL H6 Hybrid SUV” ที่เผยโฉมครั้งนี้ เป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา ระบบขับเคลื่อนสองล้อ
มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ ให้แรงม้าสูงสุด 179 กิโลวัตต์ หรือ 243 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร โดยมีมิติของตัวรถขนาดกว้างและยาว 1,886 x 4,653 มม. พร้อมความสูง 1,724 มม. มีระยะฐานล้อ 2,738 มม. และขนาดล้อ 19 นิ้ว ถือเป็นรถเอสยูวีที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบรถในคลาสเดียวกัน ให้พื้นที่จัดเก็บกว้างขวาง นั่งสบาย ครบครันสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว
“All New HAVAL H6 Hybrid SUV” พิเศษด้วย LIFE+ (LIFE PLUS) ระบบอัจฉริยะที่ตอบสนองความต้องการในทุกเส้นทางการขับขี่ ซึ่งประกอบไปด้วย
L: L2 ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 2 มาพร้อม 22 ฟังก์ชั่นอัจฉริยะที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อาทิ
1) ระบบช่วยจอดรถยนต์อัตโนมัติ 3 รูปแบบ หรือ Integration Auto Parking (IAP) ด้วยกล้อง 360 องศา และเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค สามารถค้นหาที่จอดรถ คำนวณพื้นที่สำหรับจอดรถได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถช่วยจอดได้ทั้งในรูปแบบการถอยเข้าช่องจอด การจอดขนานเส้นทางเดินรถ และการจอดตามแนวเฉียง
2) ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ หรือ Auto Reversing Assistance (ARA) โดยระบบจะสามารถจดจำเส้นทางเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถถอยหลังกลับตามเส้นทางเดิมได้ในระยะทางถึง 50 เมตร
3) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากทางด้านข้าง หรือ Wisdom Dodge System (WDS) ระบบที่ช่วยตรวจจับรถขนาดใหญ่ อาทิ รถบรรทุกในเลนติดกัน โดยรักษาระยะห่างขณะขับผ่านและเมื่อพ้นระยะแล้วสามารถกลับสู่กลางเลนตามปกติ ทำให้เร่งแซงได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งทั้ง 3 ระบบข้างต้น ถือเป็นระบบความปลอดภัยในรถยุโรประดับพรีเมียม นับได้ว่าเป็นครั้งแรกหรือ First in Class ในรถที่มีขนาดและระดับราคาเดียวกันในตลาดประเทศไทยในเวลานี้
I: Intelligence V3.5 ระบบอัจฉริยะที่ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบโต้ตอบด้วยเสียง (Voice Interaction) ระบบอินเทอร์เน็ตอัจฉริยะ (Intelligent Internet) รวมไปถึง ระบบหน้าจออัจฉริยะ ที่ช่วยให้เชื่อมต่อและค้นหาข้อมูลการเดินทางได้อย่างชาญฉลาด
F: FOTA ระบบการอัปเกรดโปรแกรมออนไลน์ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยการอัปเกรด Firmware ได้เองผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเอารถเข้าศูนย์บริการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ ระบบขับเคลื่อน และระบบส่งกำลัง
E: EYE Q4 ชิปอัจฉริยะที่ประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น สามารถประมวลผลภาพจากกล้องหลายตัวได้ในเวลาเดียวกัน และยังสามารถรักษาเสถียรภาพในการทำงานได้ดีหากมีการชนหรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
+ (Plus) ให้คุณ “มากกว่า” ด้วยเทคโนโลยีและการออกแบบอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น
ระบบ GWM LEMON Hybrid DHT ซึ่ง All New HAVAL H6 ใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON ที่เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีโมดูลาร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ความปลอดภัยสูง และน้ำหนักเบา มาพร้อมโหมดช่วยการขับขี่หลายรูปแบบ ตอบสนองการขับขี่ในหลากหลายสภาพถนน อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การออกแบบ ในส่วนของภายนอกที่ออกแบบตามหลักสุนทรียศาสตร์ โดยการใช้เส้นโค้งและลายเส้นที่เรียบง่าย แต่ประณีตและพรีเมียม ล้ำยุค และเหนือระดับ ภายใต้การนำทีมออกแบบโดย ฟิล ซิมมอนส์ (Phil Simmons) ผู้มีประสบการณ์ออกแบบรถยนต์แบรนด์ยุโรปชื่อดังมากมาย ภายในมีการออกแบบที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ด้วยวัสดุหนังหุ้มเบาะคุณภาพสูงที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ รวมไปถึงแผงหน้าปัดแบบลอยตัว พร้อมจอ Infotainment ขนาดใหญ่ และจอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ครบครันบนกระจก รวมไปถึงพวงมาลัยไฟฟ้า Multi-Function และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่
เสริมความปลอดภัย ด้วยตัวถังรถที่ประกอบด้วยเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษ กรอบประตูเหล็กแบบขึ้นรูป พร้อมคอพวงมาลัยที่ดูดซับแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และถุงลมนิรภัย6 จุด
ทั้งนี้ “All New HAVAL H6 Hybrid SUV” จะมีการเปิดตัวและเปิดจองรถในประเทศไทยภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และจะมีการทดสอบขับรถ รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ จาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด
ด้าน นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เผยว่า “ผมขอขอบคุณผู้บริโภคและแฟนๆ ชาวไทย ที่ให้การต้อนรับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ อย่างอบอุ่นและด้วยดีเสมอมา ณ งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่เรานำทัพรถยนต์มาจัดแสดงให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยรถยนต์ที่เรานำมาจัดแสดงในงานจะเป็นทัพรถยนต์ที่เป็นรถพลังงานไฟฟ้า (xEV) ทั้งสิ้น เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์ xEV Leader การเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยของเรา รวมถึงแสดงถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตและนวัตกรรมอันล้ำสมัยมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีโอกาสสัมผัส พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต
และส่งออกของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน”
โดยรถยนต์ยอดนิยมของเกรท วอลล์ มอเตอร์ที่นำมาจัดแสดงมีหลากหลายรุ่น อาทิ
รถยนต์ต้นแบบ Concept H เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่งาน Auto Car 2020 ที่ประเทศอินเดีย และประเทศไทยเป็นประเทศที่สอง ที่ได้นำรถยนต์คันนี้มาจัดแสดง ซึ่ง Concept H เป็นรถยนต์ต้นแบบที่ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาดตามสไตล์รถเอสยูวีของ HAVAL และยังโดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ เพิ่มความพรีเมียมด้วยไฟหน้า LED ดีไซน์พิเศษที่โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร พร้อมล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ 19 นิ้ว และไฟท้ายรูปตัวที (T) ภายในตัวรถเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบอินโฟเทนเมนต์ หน้าจอสัมผัสแบบ Free Standing และ Touch Pad ด้านหน้าและบริเวณประตูสำหรับการควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานและระบบความปลอดภัยต่างๆ อาทิ ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้าและระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ เป็นต้น และยังมาพร้อมดีไซน์สวยหรูด้วยแถบไฟ LED ที่วิ่งยาวตลอดคอนโซลด้านหน้า และหน้าจอสำหรับที่นั่งด้านข้างคนขับที่แสดงข้อมูลเนวิเกเตอร์แบบเรียลไทม์ พร้อมพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่
ORA Good Cat ที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยดีไซน์แบบ Retro Futuristic ไฟหน้าแบบ Intelligent Multi LED และพาโนรามิคซันรูฟ พร้อมล้ออัลลูมิเนียมอัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว บนแพลตฟอร์ม GWM LEMON และสามารถโลดแล่นได้ที่ระยะไกลสูงสุด 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ORA Good Cat ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง มีระบบการเชื่อมต่อและการสั่งงานอัจฉริยะ หรือ Intelligent Connectivity ไม่ว่าจะเป็นการสั่งการด้วยเสียง รวมไปถึงการควบคุมรถจากระยะไกล
ORA Black Cat รถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด สามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 300 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่น่ารัก สะกดทุกสายตา ผ่านเส้นสายที่เรียบง่ายตัดกับคู่สีสดใส ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์เป็นทรงกลมมน ส่วนดีไซน์ภายในผสมผสานการดีไซน์แบบ Classic Nostalgic และ Futuristic เข้าไว้ด้วยกัน ดูล้ำสมัยแต่อบอุ่นน่ารัก ตกแต่งด้วยสีทูโทน พร้อมห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเก็บได้อย่างยืดหยุ่นตอบสนองความต้องการของทุกคน พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบายทั้งหน้าจอมัลติมีเดีย ขนาด 9 นิ้ว เชื่อมต่อระบบการสั่งการด้วยเสียง รวมไปถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัยต่างๆ พร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุด
POER EV รถกระบะไฟฟ้าที่ออกแบบมาให้ดูโดดเด่น สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ทรงพลัง ดุดันด้วยกระจังหน้าแบบสปอร์ต ไฟท้ายที่โฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารที่กว้างขวางเหมือนรถเอสยูวี นอกจากนี้ ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย พร้อมกล้อง 360 องศา เซนเซอร์ด้านข้าง และถุงลมนิรภัย 6 จุด และให้กำลังรวม 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิด 300 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 375 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
All New HAVAL H6 Hybrid SUV เผยโฉมครั้งแรกของโลก แต่ยังไม่เคาะราคา
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยโฉม “All New HAVAL H6 Hybrid SUV” เป็นครั้งแรกของโลก พร้อมตอกย้ำกลยุทธ์ xEV Leader ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าด้วยพาเหรดรถยนต์ xEV สุดไฮเทคมาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก นำทัพโดยรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat ORA Black Cat และรถกระบะไฟฟ้า POER EV รวมไปถึงรถยนต์ต้นแบบ Concept H มาจัดแสดงภายใต้แนวคิด “Innovation Builds Better Future” พร้อมด้วยกองทัพนวัตกรรมและเทคโนโลยีสุดล้ำ และโอกาสในการนั่งรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat แบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่บูธ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับ “All New HAVAL H6 Hybrid SUV” ที่เผยโฉมครั้งนี้ เป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา ระบบขับเคลื่อนสองล้อ
มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ ให้แรงม้าสูงสุด 179 กิโลวัตต์ หรือ 243 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร โดยมีมิติของตัวรถขนาดกว้างและยาว 1,886 x 4,653 มม. พร้อมความสูง 1,724 มม. มีระยะฐานล้อ 2,738 มม. และขนาดล้อ 19 นิ้ว ถือเป็นรถเอสยูวีที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบรถในคลาสเดียวกัน ให้พื้นที่จัดเก็บกว้างขวาง นั่งสบาย ครบครันสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว
“All New HAVAL H6 Hybrid SUV” พิเศษด้วย LIFE+ (LIFE PLUS) ระบบอัจฉริยะที่ตอบสนองความต้องการในทุกเส้นทางการขับขี่ ซึ่งประกอบไปด้วย
L: L2 ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 2 มาพร้อม 22 ฟังก์ชั่นอัจฉริยะที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อาทิ
1) ระบบช่วยจอดรถยนต์อัตโนมัติ 3 รูปแบบ หรือ Integration Auto Parking (IAP) ด้วยกล้อง 360 องศา และเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค สามารถค้นหาที่จอดรถ คำนวณพื้นที่สำหรับจอดรถได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถช่วยจอดได้ทั้งในรูปแบบการถอยเข้าช่องจอด การจอดขนานเส้นทางเดินรถ และการจอดตามแนวเฉียง
2) ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ หรือ Auto Reversing Assistance (ARA) โดยระบบจะสามารถจดจำเส้นทางเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถถอยหลังกลับตามเส้นทางเดิมได้ในระยะทางถึง 50 เมตร
3) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากทางด้านข้าง หรือ Wisdom Dodge System (WDS) ระบบที่ช่วยตรวจจับรถขนาดใหญ่ อาทิ รถบรรทุกในเลนติดกัน โดยรักษาระยะห่างขณะขับผ่านและเมื่อพ้นระยะแล้วสามารถกลับสู่กลางเลนตามปกติ ทำให้เร่งแซงได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งทั้ง 3 ระบบข้างต้น ถือเป็นระบบความปลอดภัยในรถยุโรประดับพรีเมียม นับได้ว่าเป็นครั้งแรกหรือ First in Class ในรถที่มีขนาดและระดับราคาเดียวกันในตลาดประเทศไทยในเวลานี้
I: Intelligence V3.5 ระบบอัจฉริยะที่ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบโต้ตอบด้วยเสียง (Voice Interaction) ระบบอินเทอร์เน็ตอัจฉริยะ (Intelligent Internet) รวมไปถึง ระบบหน้าจออัจฉริยะ ที่ช่วยให้เชื่อมต่อและค้นหาข้อมูลการเดินทางได้อย่างชาญฉลาด
F: FOTA ระบบการอัปเกรดโปรแกรมออนไลน์ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยการอัปเกรด Firmware ได้เองผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเอารถเข้าศูนย์บริการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ ระบบขับเคลื่อน และระบบส่งกำลัง
E: EYE Q4 ชิปอัจฉริยะที่ประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น สามารถประมวลผลภาพจากกล้องหลายตัวได้ในเวลาเดียวกัน และยังสามารถรักษาเสถียรภาพในการทำงานได้ดีหากมีการชนหรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
+ (Plus) ให้คุณ “มากกว่า” ด้วยเทคโนโลยีและการออกแบบอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น
ระบบ GWM LEMON Hybrid DHT ซึ่ง All New HAVAL H6 ใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON ที่เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีโมดูลาร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ความปลอดภัยสูง และน้ำหนักเบา มาพร้อมโหมดช่วยการขับขี่หลายรูปแบบ ตอบสนองการขับขี่ในหลากหลายสภาพถนน อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การออกแบบ ในส่วนของภายนอกที่ออกแบบตามหลักสุนทรียศาสตร์ โดยการใช้เส้นโค้งและลายเส้นที่เรียบง่าย แต่ประณีตและพรีเมียม ล้ำยุค และเหนือระดับ ภายใต้การนำทีมออกแบบโดย ฟิล ซิมมอนส์ (Phil Simmons) ผู้มีประสบการณ์ออกแบบรถยนต์แบรนด์ยุโรปชื่อดังมากมาย ภายในมีการออกแบบที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ด้วยวัสดุหนังหุ้มเบาะคุณภาพสูงที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ รวมไปถึงแผงหน้าปัดแบบลอยตัว พร้อมจอ Infotainment ขนาดใหญ่ และจอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ครบครันบนกระจก รวมไปถึงพวงมาลัยไฟฟ้า Multi-Function และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่
เสริมความปลอดภัย ด้วยตัวถังรถที่ประกอบด้วยเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษ กรอบประตูเหล็กแบบขึ้นรูป พร้อมคอพวงมาลัยที่ดูดซับแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และถุงลมนิรภัย6 จุด
ทั้งนี้ “All New HAVAL H6 Hybrid SUV” จะมีการเปิดตัวและเปิดจองรถในประเทศไทยภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และจะมีการทดสอบขับรถ รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ จาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด
ด้าน นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เผยว่า “ผมขอขอบคุณผู้บริโภคและแฟนๆ ชาวไทย ที่ให้การต้อนรับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ อย่างอบอุ่นและด้วยดีเสมอมา ณ งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่เรานำทัพรถยนต์มาจัดแสดงให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยรถยนต์ที่เรานำมาจัดแสดงในงานจะเป็นทัพรถยนต์ที่เป็นรถพลังงานไฟฟ้า (xEV) ทั้งสิ้น เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์ xEV Leader การเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยของเรา รวมถึงแสดงถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตและนวัตกรรมอันล้ำสมัยมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีโอกาสสัมผัส พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต
และส่งออกของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน”
โดยรถยนต์ยอดนิยมของเกรท วอลล์ มอเตอร์ที่นำมาจัดแสดงมีหลากหลายรุ่น อาทิ
รถยนต์ต้นแบบ Concept H เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่งาน Auto Car 2020 ที่ประเทศอินเดีย และประเทศไทยเป็นประเทศที่สอง ที่ได้นำรถยนต์คันนี้มาจัดแสดง ซึ่ง Concept H เป็นรถยนต์ต้นแบบที่ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาดตามสไตล์รถเอสยูวีของ HAVAL และยังโดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ เพิ่มความพรีเมียมด้วยไฟหน้า LED ดีไซน์พิเศษที่โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร พร้อมล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ 19 นิ้ว และไฟท้ายรูปตัวที (T) ภายในตัวรถเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบอินโฟเทนเมนต์ หน้าจอสัมผัสแบบ Free Standing และ Touch Pad ด้านหน้าและบริเวณประตูสำหรับการควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานและระบบความปลอดภัยต่างๆ อาทิ ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้าและระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ เป็นต้น และยังมาพร้อมดีไซน์สวยหรูด้วยแถบไฟ LED ที่วิ่งยาวตลอดคอนโซลด้านหน้า และหน้าจอสำหรับที่นั่งด้านข้างคนขับที่แสดงข้อมูลเนวิเกเตอร์แบบเรียลไทม์ พร้อมพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่
ORA Good Cat ที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยดีไซน์แบบ Retro Futuristic ไฟหน้าแบบ Intelligent Multi LED และพาโนรามิคซันรูฟ พร้อมล้ออัลลูมิเนียมอัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว บนแพลตฟอร์ม GWM LEMON และสามารถโลดแล่นได้ที่ระยะไกลสูงสุด 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ORA Good Cat ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง มีระบบการเชื่อมต่อและการสั่งงานอัจฉริยะ หรือ Intelligent Connectivity ไม่ว่าจะเป็นการสั่งการด้วยเสียง รวมไปถึงการควบคุมรถจากระยะไกล
ORA Black Cat รถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด สามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 300 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่น่ารัก สะกดทุกสายตา ผ่านเส้นสายที่เรียบง่ายตัดกับคู่สีสดใส ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์เป็นทรงกลมมน ส่วนดีไซน์ภายในผสมผสานการดีไซน์แบบ Classic Nostalgic และ Futuristic เข้าไว้ด้วยกัน ดูล้ำสมัยแต่อบอุ่นน่ารัก ตกแต่งด้วยสีทูโทน พร้อมห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเก็บได้อย่างยืดหยุ่นตอบสนองความต้องการของทุกคน พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบายทั้งหน้าจอมัลติมีเดีย ขนาด 9 นิ้ว เชื่อมต่อระบบการสั่งการด้วยเสียง รวมไปถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัยต่างๆ พร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุด
POER EV รถกระบะไฟฟ้าที่ออกแบบมาให้ดูโดดเด่น สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ทรงพลัง ดุดันด้วยกระจังหน้าแบบสปอร์ต ไฟท้ายที่โฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารที่กว้างขวางเหมือนรถเอสยูวี นอกจากนี้ ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย พร้อมกล้อง 360 องศา เซนเซอร์ด้านข้าง และถุงลมนิรภัย 6 จุด และให้กำลังรวม 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิด 300 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 375 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง