เครื่องซักผ้า หนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักของทุกบ้านที่ให้ประโยชน์เรื่องความสะดวกสบาย ช่วยทุ่นแรง และประหยัดเวลาในการซักผ้า โดยไม่ต้องใช้มือซัก รวมถึงช่วยให้เสื้อผ้าที่สวมใส่สะอาด และใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน แต่ปัญหาหลัก ๆ ของเครื่องซักผ้าคือ คุณแม่บ้าน และคุณพ่อบ้านไม่รู้จะเลือกซื้อ เครื่องซักผ้ายี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดี หรือจะใช้ เครื่องซักผ้าฝาหน้า หรือฝาบนดีกว่ากัน คำถามเหล่านี้ยังคงเป็นปัญหาหลัก ๆ ที่คุณแม่บ้านและคุณพ่อบ้านสงสัย เมื่อต้องการซื้อหรือเปลี่ยนเครื่องซักผ้าใหม่ที่บ้าน เพราะปัจจุบันเครื่องซักผ้า มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน ซึ่งฟังก์ชันในการใช้งานบางครั้งก็แทบจะคล้ายคลึงกัน อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยในเรื่องของเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบันมากขึ้น วันนี้ HomeGuru มีเทคนิคในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าใหม่อย่างไรให้คุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งาน และเหมาะสมกับความต้องการหรือไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัวมาฝากทุก ๆ บ้านครับ

ประเภทของ เครื่องซักผ้า

---

1. เครื่องซักผ้าฝาหน้า (Front-Loading Washing Machine)
ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้ของหลาย ๆ บ้านโดยเฉพาะครอบครัวที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมครับ อาจเป็นเพราะ ถูกจัดสรรพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าประเภทนี้ไว้อยู่แล้ว โดยลักษณะของ เครื่องซักผ้าฝาหน้า ตัวเครื่องจะมีฝาเปิด และปิดอยู่บริเวณด้านหน้าตัวเครื่องเพื่อใส่เสื้อผ้าที่ต้องการซัก ทำงานโดยระบบอัตโนมัติ มีระบบควบคุมการทำงานให้เลือกตามความต้องการ เช่น สามารถตั้งอุณหภูมิน้ำ เพื่อช่วยให้ละลายผงซักฟอกได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งโดยเฉลี่ยจะใช้เวลาในการซักประมาณ 120 นาทีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปริมาณความจุของตัวถังซัก

ข้อดีของ เครื่องซักผ้าฝาหน้า คือ ความสะอาดของผ้า เพราะสามารถตั้งอุณหภูมิของน้ำ เพื่อช่วยละลายผงซักฟอกได้ดี จึงทำให้ผ้าสะอาดมากขึ้น หรือการตั้งอุณหภูมิการอบแห้ง เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการตากผ้าระหว่างวัน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการใช้งานให้เลือกใช้อย่างสะดวก และง่าย เพียงกดปุ่มเดียว การซักผ้าก็เสร็จสมบูรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องแยกผ้าสำหรับ ซัก และปั่นหมาด ช่วยให้ประหยัดน้ำ และประหยัดเวลาตลอดการซักผ้าครับ

ข้อเสียของ เครื่องซักผ้าฝาหน้า คือ ราคาค่อนข้างสูง ยิ่งหากต้องการปริมาณความจุของตัวถังซักที่มากขึ้น ราคาก็ยิ่งสูงตามไปด้วยครับ ประกอบกับการติดตั้งที่อาจจะยุ่งยากกว่าเครื่องซักผ้าประเภทอื่น ๆ ซึ่งต้องอาศัยช่างผู้เชี่ยวชาญในการช่วยเหลือสำหรับการติดตั้ง
.

2. เครื่องซักผ้าฝาบน แบบถังเดียว (Top-Loading Washing Machine)
เครื่องซักผ้าประเภทนี้เป็นที่นิยมใช้ของหลาย ๆ บ้าน แต่จะไม่นิยมวางตั้งไว้ที่คอนโดมิเนียม เพราะด้วยพื้นที่อันจำกัด ซึ่งเครื่องซักผ้าประเภทนี้มีให้เลือกหลากหลายมากครับ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น และขนาดความจุของถังซัก ลักษณะของเครื่องซักผ้าคือ มีฝาเปิด และปิดสำหรับใส่เสื้อผ้าอยู่บริเวณด้านบน ทำงานด้วยระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ มีฟังก์ชันในการใช้งานให้เลือกหลากหลาย เช่นเดียวกับ เครื่องซักผ้าฝาหน้า แต่ความสะอาดในการซักอาจจะไม่เทียบเท่า เครื่องซักผ้าฝาหน้า จึงเหมาะกับการซักผ้าที่ไม่ได้เลอะ และสกปรกมากนัก

ข้อดีของ เครื่องซักผ้าฝาบน คือ ความรวดเร็วในการซัก โดยเฉลี่ยแล้วแล้วจะอยู่ที่ 30-90 นาที ขึ้นอยู่กับโปรแกรมการซักอัตโนมัติที่เลือก ซึ่งช่วยให้การซักผ้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ส่วนในแง่ฟังก์ชันการใช้งานสามารถซักผ้าในปริมาณที่เยอะได้ โดยทั่วไปจะสามารถซักผ้าได้สูงสุด 24 กิโลกรัมภายในถังเดียว

ข้อเสียของ เครื่องซักผ้าฝาบน คือ ความสะอาดในการซักไม่มากเท่าที่ควรหากเปรียบเทียบกับ เครื่องซักผ้าฝาหน้า แม้จะมีฟังก์ชันในการใช้งานคล้ายคลึงกันก็ตามครับ ส่วนการติดตั้งหากไม่ชำนาญเรื่องระบบน้ำ ระบบไฟแนะนำให้ใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งเช่นกัน
.

3. เครื่องซักผ้าฝาบน แบบ 2 ถัง หรือถังคู่
เครื่องซักผ้าฝาบน แบบสองถัง ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมใช้แล้ว และแทบจะไม่ค่อยเห็นในท้องตลาด เพราะด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย และประหยัดเวลา เครื่องซักผ้าฝาบนแบบสองถัง จึงกลายเป็นทางเลือกอันดับสุดท้ายก็ว่าได้ครับ ซึ่งลักษณะของเครื่องซักผ้าฝาบนแบบสองถัง จะแบ่งเป็นถังซัก และถังปั่น แยกกันอย่างชัดเจน โดยทั้งสองถังจะมีฝาปิดอยู่ด้านบน เครื่องซักผ้า ประเภทนี้เหมาะสำหรับคุณแม่บ้านที่มีเวลาในการซัก เพราะต้องคอยย้ายเสื้อผ้าจากถังซักไปถังปั่น และที่บ้านต้องมีพื้นที่ในการจัดวางที่กว้างขวางอีกด้วย

ข้อดีของ เครื่องซักผ้าฝาบน แบบสองถัง คือ ความสะอาดของผ้า เพราะตัวถังซักและถังปั่น แยกออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้มองเห็นเศษผม หรือสิ่งตกค้างต่าง ๆ ได้ดี ทำให้ง่ายต่อการล้างทำความสะอาด อีกทั้งราคายังย่อมเยาว์กว่าเครื่องซักผ้าประเภทอื่น ๆ และสามารถติดตั้งได้ด้วยตนเองอีกด้วยครับ

ข้อเสียของ เครื่องซักผ้าฝาบน แบบสองถัง คือ เสียเวลาในการซักผ้าแต่ละครั้ง เพราะนอกจากจะต้องคอยย้ายถังซักแล้ว ยังต้องคอยดูแลเรื่องน้ำขณะเปิดใช้งานไม่ให้ล้น ประกอบกับฟังก์ชันในการใช้งานค่อนข้างน้อย และขณะที่เครื่องทำงานจะมีเสียงดังรบกวน
.

ความจุของ เครื่องซักผ้า

---

ปริมาณความจุของเครื่องซักผ้า เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าเลยนะครับ เพราะจะมีความสัมพันธ์กับขนาดของเครื่อง พื้นที่ในการจัดวางหรือติดตั้ง และปริมาณของเสื้อผ้าที่ต้องการซักในแต่ละครั้ง เพราะหากต้องการซักเสื้อผ้าในปริมาณที่มากเท่าไหร่ ความจุของเครื่องก็ควรมีขนาดใหญ่ตามไปด้วยครับ เช่น เครื่องซักผ้าที่มีความจุ 11 กิโลขึ้นไป จะสามารถซักเสื้อผ้าได้ประมาณ 56 ชิ้นขึ้นไป ส่วนเครื่องซักผ้าที่มีความจุขนาดเล็ก 5-7 กิโล จะสามารถซักเสื้อผ้าในแต่ละครั้งได้ 25-30 ชิ้น และเครื่องซักผ้าขนาดความจุก 7-9 กิโล จะสามารถซักเสื้อผ้าได้ 36-45 ชิ้นโดยประมาณครับ
.

รอบปั่นหมาดของ เครื่องซักผ้า หรือ จำนวนรอบในการหมุนของเครื่องซักผ้า (RPM)

---

รอบปั่นหมาดของเครื่องซักผ้า ไม่ว่าจะเป็น เครื่องซักผ้าฝาบน หรือ เครื่องซักผ้าฝาหน้า หากรอบปั่นหมาดยิ่งสูง ก็จะช่วยให้ผ้าแห้งไว แต่ทั้งนี้คุณแม่บ้านต้องระมัดระวังเรื่องเนื้อผ้าที่ต้องปั่นหมาดด้วยนะครับ เพราะหากใช้รอบปั่นหมาดที่สูงกับเนื้อผ้าที่บาง ก็อาจจะทำให้ผ้าขาดได้ ส่วนใหญ่แล้วรอบปั่นหมาดที่ดีจะอยู่ที่ 400-700 รอบต่อนาทีสำหรับผ้าเนื้อบาง แต่หากผ้าที่ซักเป็นผ้ายีนส์ ผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ ก็อาจจะใช้รอบปั่นหมาดที่ 1,000 รอบต่อนาทีครับ แต่ทั้งนี้หากเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่มีรอบปั่นหมาดสูง ข้อเสียคือ เสียงของเครื่องจะดัง และกินไฟกว่าปกติครับ



อย่าลืมเทียบฟังก์ชันการใช้งานของเครื่องซักผ้าแต่ละรุ่น

---

ฟังก์ชันการใช้งานของเครื่องซักผ้าจะช่วยให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น ซึ่งแต่ละแบรนด์นอกจากจะมีฟังก์ชันการทำงานโดยทั่วไปแล้ว ก็มักจะมีฟังก์ชันเสริมเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการซักผ้าอยู่เสมอครับ เช่นฟังก์ชันการทำงานทั่ว ๆ ไปอย่าง โปรแกรมแช่ผ้าก่อนซัก (Soak) โปรแกรมหน่วงเวลาการซัก Delay End โปรแกรมช่วยล้างถังซักโดยอัตโนมัติ โปรแกรม Auto dose ที่ช่วยปล่อยน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มโดยอัตโนมัติ หรืออย่างปัจจุบันที่สามารถควบคุมการทำงานของเครื่องซักผ้าผ่านโปรแกรม Connectivity เชื่อมต่อควบคุมการทำงานผ่าน Application เพื่อให้การใช้งานง่ายและสะดวกสบายขึ้น



ตำแหน่งการวางตั้ง เครื่องซักผ้า ภายในบ้าน

---

เมื่อได้เครื่องซักผ้าที่ต้องการแล้ว อย่าลืมคำนึงถึงพื้นที่ตั้งของเครื่องซักผ้าภายในบ้านด้วยนะครับ ส่วนใหญ่แล้วหลาย ๆ บ้าน จะวางเครื่องซักผ้าไว้บริเวณมุมซักล้าง หรือมุมห้องครัวบริเวณเคาน์เตอร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมมากของคอนโดมิเนียม เช่น พื้นที่ประมาณ 60 เซนติเมตร จะเหมาะกับ เครื่องซักผ้าฝาหน้า หรือพื้นที่ขนาด 45 เซนติเมตร จะเหมาะกับ เครื่องซักผ้าฝาบน และสำหรับบ้านที่มีพื้นที่สำหรับการเคลื่อนย้าย เครื่องซักผ้าแบบฝาบน และเครื่องซักผ้าฝาบนสองถังก็ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ ดังนั้นก่อนการเลือกซื้ออย่าลืมวัดขนาดพื้นที่ จุดติดตั้งระบบน้ำประปา และระบบไฟภายในบ้านด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความยุ่งยากในการติดตั้งตามมาภายหลังได้



วัสดุของ เครื่องซักผ้า

---

ไม่เพียงแต่มองหาฟังก์ชันดี ๆ ภายในเครื่องซักผ้าเท่านั้นนะครับ การเลือกวัสดุของเครื่องซักผ้าก็เป็นเรื่องที่จำเป็นมากเช่นกัน เพราะในปัจจุบันเครื่องซักผ้าถูกออกแบบ และดีไซน์ขึ้นจากวัสดุที่หลากหลายซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น เครื่องซักผ้าที่ผลิตขึ้นจากเรซิ่น และไฟเบอร์ จะโดดเด่นในการวางตั้งไว้ในบริเวณที่มีความชื้นสูงได้โดยไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการผุกร่อน ส่วนแสตนเลส และเหล็กเคลือบกันสนิม จะมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่อับชื้น และไม่เป็นสนิม หรือใครที่ชอบแบบน้ำหนักเบา ควรเลือกเครื่องซักผ้าที่ผลิตจากโพลิเมอร์ หรือพลาสติก และใครที่อยากลดการสั่นสะเทือน เก็บเสียงระหว่างการทำงาน และช่วยประหยัดพลังงานควรเลือกเครื่องซักผ้าที่ผลิตจากโพลีน็อกซ์ครับ

การเลือกซื้อ เครื่องซักผ้า ตามที่ HomeGuru กล่าวไว้ข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ทุกบ้านเลือกใช้เครื่องซักผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้นนะครับ เพราะยังคงมีปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ควรพิจารณาอีกมากมายเช่น เครื่องซักผ้า ราคา เท่าไหร่จึงจะเหมาะสม และคุ้มค่า บริการหลังการขาย ประกันหลังการซื้อในระยะยาวทั้งในเรื่องอะไหล่ และศูนย์บริการ รวมถึงนวัตกรรมการใช้งานใหม่ ๆ ของ เครื่องซักผ้าฝาหน้า และฝาบน โดยเฉพาะระบบประหยัดพลังงานที่จะช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวครับ

---

HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE