ไหนบอกเท่าเทียม แค่โสดแล้วมีคู่นอน ผู้ชายดีๆทำไมรับไม่ได้หายตัว

แค่ตอนโสดมีคู่นอน ทำไมไม่มีผู้ชายรับเราได้ ไหนบอกเท่าเทียม
ผู้ชายบอกเองว่าสมัยนี้แล้ว คุณค่าไม่ได้อยู่ที่การผ่านมากี่คน ?
ยาวหน่อย อัดอั้นรู้สึกแย่

เราเป็นสาวหัวสมัยใหม่ ตัวของเรากายของเรา ไม่ได้ไม่เสียถ้าเราพอใจจะทำ ถ้าไม่เดือดร้อนใคร
เหมือนหิวก็กิน ง่วงก็นอน sex ก็เป็นธรรมชาติ ช่วงไหนเราไม่มีแฟน เปลี่ยวเราก็ออกไปหาคู่เดทเพื่อมีอะไรกัน
หรือคนไหนเคมีตรงกันก็กลับมากินกันต่อได้ ไม่มีพันธะผูกพันอะไร เราคิดว่าชายหญิงเท่าเทียมกัน วินวิน จุดมุ่งหมายเดียวกัน
ไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบและเราโสดเราไม่ผิด เราไม่ได้นอกใจใคร ไม่ได้เป็นชู้ใคร

บอกก่อนเราไม่ใช่สาวใจแตกหรือเด็กสก๊อยส์ เรา อายุยี่สิบปลายๆ จบจากมหาวิทยาลัยของรัฐ
ทำงานเอกชนเงินเดือนเหยียบ 30,000 ยังไม่รวม ot ชอบเข้าสังคม ชอบแต่งตัว เที่ยวกลางคืนทุกวันศุกร์
และพูดเปิดอกกับผู้ชายด้วยเรื่องแบบนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนรู้จัก รุ่นพี่รุ่นน้อง แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องด้วย

เคยไปดื่มกับเพื่อนผู้ชายแล้วเลยเถิดไปมีอะไรกันแต่ช่วงนั้นเราโสด ตอนเช้ากลับมาเราก็คุยกันเป็นปกติ
เพื่อนคนนั้นขอโทษ เราบอกไม่ถือสาหรอก ทุกวันนี้เจอหน้าก็ทักทายกัน โตกันแล้วและเป็นการยินยอมพร้อมใจ

ถ้ามีใครมาจีบเราก็เปิดอกกับทุกคนว่าเราเป็นแบบนี้ อยากให้รู้จักทุกแง่มุมของเราให้ดีจากปากเราเอง เราไม่ชอบโกหกใคร หรือสร้างภาพ
เราคิดว่าผู้ชายที่จะคบกับเราต้องเป็นคนใจกว้าง ไม่ชอบผู้ชายทัศนคติคับแคบ มาตีกรอบ ผู้หญิงต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ สงวนตัวผ้าพับไว้
เราว่าคนแบบนี้ทัศนคติแย่ ตีคุณค่าด้วยร่างกาย คือให้คุณค่ากับเรื่องภายนอกมากกว่าจิตใจ สมัยนี้มันเท่าเทียมกันหมด ผู้ชายที่คิดแบบนี้เหมือนพวกกดขี่ผู้หญิง

ทำไมผู้ชาย 80% คือรับไม่ได้ และค่อยๆห่างไป
มีบางคนที่เข้ามาจีบแล้วเราถูกใจเขาเหมือนกัน ตรงสเป็กหน้าที่การงานดีมีความคิดไกล คุยกันถูกคอมีรสนิยมคล้ายๆกัน แต่พอเปิดอกคุยเรื่องนี้เค้าก็เริ่มเฟดตัว จากที่เคยทักมาคุยกันทุกวันก็เริ่มไม่ทัก ไลน์หาแล้วไม่ค่อยตอบอ่านช้าหรือไม่เปิดอ่าน สุดท้ายเราก็มาถามตรงๆ ชอบเคลียไปเลยเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า เขาก็พูดชัดเจนว่า ใช่และขอโทษจริงๆ เราถูกใจเขามากรสนิยมก็คล้ายๆกับ คุยกันก็ถูกคอ แต่เค้ารับเรื่องนี้ของเราไม่ได้ พยายามเปิดใจแต่เขารู้สึกเหมือนมีกำแพงกั้นอยู่ เราฟังก็รู้สึกแย่หลายอารมณ์ปนๆกัน
1 ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนใจแคบ
2 เสียดายความรู้สึกดีๆที่มีให้
3 เค้าดูเป็นคนหัวสมัยใหม่แต่ไม่คิดว่าจะมายึดติดกับเรื่องไร้สาระแบบนี้
4 รู้สึกเสียเวลาที่ศึกษากันมา การคุยกับคนนึงทำให้เสียโอกาสที่จะคุยกับอีกหลายๆคน

คนที่มาจีบและเรารู้สึกดีด้วย เป็นแบบนี้กับเรามา 4-5 คนแล้ว มี 2 คนที่เราคุยเปิดอกเรื่องนี้ เขาเป็นคนพูดเองว่าถ้าเรื่องนี้เข้ากันไม่ได้ชีวิตคู่แต่งไปก็ลำบาก เราเข้าใจดีเลย เพราะเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และก็นัดเดทกันต่อแต่มีอะไรกันได้ 2-3 ครั้งเขาก็พอใจบอกเราดีเก่งเข้าขากันดีมาก แต่เขาก็เริ่มห่างๆออกไป เราเคยมีแฟนเวลาทะเลาะกันเค้าชอบยกเลิกนี้มาพูด ทำให้เราเสียความรู้สึกอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่ตอนแรกบอกรับได้สมัยนี้แล้วธรรมดา เขาก็เคยหาคู่เดทแบบเรามาก่อน โสดทำอะไรก็ไม่ผิด แต่เวลาทะเลาะกันชอบเรียกเราว่าผู้หญิงใจง่ายอย่างมุง Eร่-น ทำให้รู้สึกแย่มากๆ
**ผู้ชายที่เราคบหรือคุยมีหน้าที่การงานทุกคน อนาคตไกล ทันสมัย ไม่จบโทก็จบนอก

พอผิดหวังบ่อยครั้งแอบรู้สึกอยากจะมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ แต่ติดตรงที่ว่าสเปคคือชอบตี๋
คนไทยจะคุยถูกคอมากกว่า อาจจะเพราะกินเหมือนกันใช้ภาษาเดียวกัน

เคยบ่นกับเพื่อน มีเพื่อนผู้หญิงแนะนำให้เราลองไปคบกับชาวต่างชาติ เพราะชาวต่างชาติเปิดกว้าง แต่มายกตัวอย่างผู้หญิงขายบริการที่มีแฟนเป็นชาวต่างชาติ ถ้าเป็นผู้ชายไทยก็คงไม่มีใครรับได้  แต่ฝรั่งชอบคือชอบ ชายไทยส่วนมากยังติดกับเรื่องแบบนี้อยู่ เราเถียงนะว่าจะมาเทียบกับผู้หญิงขายบริการไม่ได้หรอก เขาทำเป็นอาชีพ ไม่สามารถเลือกคนที่ตัวเองต้องการได้ ของเราอยู่ที่ความพอใจล้วนๆ แล้วไม่มีใครมาบังคับเราได้ สำหรับเราผู้ชายไม่ได้เป็นฝ่ายเลือก แต่เราเป็นฝ่ายเลือกต่างหาก ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความพอใจของเรา ไม่มีการจ่ายเงินหรือแลกเปลี่ยนอะไร

ที่เพื่อนคนนี้พูดคิดว่าคนไทยยังเข้าใจผิดๆกับเรื่องคุณค่าในตัวเองอีกเยอะ
ใครที่มาบอกว่าเราไม่รักตัวเอง เราจะบอกเลย เรานี่แหละรักตัวเองเราให้สิ่งที่ตัวเองต้องการ และไม่ดูถูกตัวเราเอง

เพราะยุคนี้มันสมัยใหม่และสังคมก็เปลี่ยนไปแล้ว ผู้ชายรอบๆตัวเรา เพื่อนพี่น้อง เพื่อนที่ทำงาน ก็บอกเป็นเรื่องธรรมดา การจะคบใครเขามองหน้าที่การงานทัศนคติการใช้ชีวิตต่างหากว่าเข้ากันได้ไหม ไม่ได้วัดจากพรหมจรรย์ เราว่าใครก็ตามที่วัดคุณค่าของคนด้วยเรื่องแบบนี้เป็นคนกดขี่ทางเพศ ถ้าเป็นผู้หญิงก็คือกดขี่เพศเดียวกัน ดูถูกตัวเอง ไม่รู้จักให้คุณค่าของตัวเอง แต่กลับไปลดคุณค่าของตัวเองด้วยเรื่องนี้ ทั้งมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ปัจจัยสี่

หรือผู้ชายส่วนใหญ่ที่พูดว่าเป็นเรื่องธรรมดามองกันที่นิสัยใจคอทัศนคติหน้าที่การงานมันเป็นเรื่องโกหก เราไม่เห็นมีผู้ชายที่ไหนจะรับสิ่งที่เราทำได้ ทั้งที่เราไม่ได้โกหก เราจริงใจที่จะบอกทุกอย่าง เราเชื่อว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะผู้ชายที่เราคุยด้วยทุกคนเขาก็ยอมรับว่าเค้าเคยเที่ยวผู้หญิงกันทั้งนั้น ทั้งลงอ่างเที่ยวนวดกับปู๋ไปเลาจ์ ทำไมเค้าถึงได้ทำถ้าเค้ามองว่าเป็นสิ่งที่แย่ ?

หรือทัศนคติชายเป็นใหญ่ยังอยู่ ในสังคมไทยยังกดขี่เรื่องเพศ ?
คือผู้ชายสามารถทำได้เพราะเป็นผู้ชายแต่ผู้หญิงไม่สามารถทำได้
คำพูดที่บอกว่าเท่าเทียมกันแล้ว ผู้หญิงสามารถทำแบบที่ผู้ชายทำได้ ไม่วัดค่าของคนที่พรหมจรรย์จะเป็นเรื่องโกหก ??
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อ่านแล้วถึงกับต้อง ไปค้นหาคำว่า ความเท่าเทียมกันไหม่เลยทีเดียว
เหมือนมันยังย้อนแย้งมากไปสำหรับเจ้าของกระทู้รึเปล่า ลองหาอ่านหลายเวป
ความเท่าเทียมคือ ผู้หญิงมีอืสระทางความคิด มีสิทธิมนุษยชนเท่ากับผู้ชาย
มีสิทธ์ทำงาน มีตำแหน่งทางราชการ เท่าเทียมผู้ชาย มีเสรีทางความคิดรึคำพูดเท่าๆกัน
แต่เรื่องผู้ชายนอนกับผู้หญิงไม่เลือกหน้าได้ ผู้หญิงก็นอนกับผู้ชายไม่เลือกหน้าได้เหมือนกัน
เรื่องนี้ไม่แน่ใจว่าเกี่ยว กับความเท่าเทียมรึ ความพึงพอใจสะมากกว่า
ถ้าถามว่าทำใมผู้ชายส่วนไหญ่ทำใมรับไม่ได้ละ มันก็อยู่ที่ความพึงพอใจไงละ
ส่วนตัวก็ใจกว้างพอสมควรกับเรื่องนี้ แต่พออ่านเรื่องเจ้าของกระทู้ บอกตรงๆ ไม่ไหวนะ
การผ่านผู้ชายมา มันเป็นเรื่องปกติ ถ้ามีแฟน มีไรกัน อย่างน้อยมันเกิดจากความรัก
อัไรที่เกิดตอนนั้น มันสวยงามเสมอ แต่ถ้ามันเกิดแค่เพราะความอยากชั่วครั้งชั่วคราว
นอนกับใครไปทั่วแบบนั้น ยากที่ใครจะรับไหว เอาเป็นคู่นอนได้ครับ แต่ถ้าให้จริงจังไม่ไหว
ความคิดเห็นที่ 12
รำคาญที่จขกท.คิดว่าชั้นเป็นคนสมัยใหม่ ถ้าใครรับไม่ได้ที่ชั้นมีเซ็กส์ไปเรื่อยคือคนหัวโบราณ ทำไมถึงคิดว่าคนที่เขามีรสนิยมเรื่องเซ็กส์ต่างจากคุณถึงเป็นคนหัวโบราณ การมีไลฟสไตล์ มีรสนิยมการใช้ชีวิตเรื่องอื่นๆที่เหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่าจะมีรสนิยมที่ไปกันได้ในเรื่องเซ็กส์ และการที่เค้าเฟดตัวออกจากคุณเพราะเค้าไม่ได้ชอบผู้หญิงแบบคุณที่มีรสนิยมในเรื่องเซ็กส์แบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร

ลองเข้าสังคมผู้ชายที่มีรสนิยมเรื่องเซ็กส์เหมือนๆกัน เลิกเที่ยวไปตัดสินคนอื่นที่เขารับในสิ่งที่คุณเป็นไม่ได้ว่าเขาใจแคบ คุณมีสิทธิ์เลือก เขามีสิทธิ์เลือก
ความคิดเห็นที่ 8
เราคิดว่าไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเท่าเทียมหรือไม่เท่าเทียม  แต่เป็นเรื่องไลฟ์สไตล์และทัศนคติแตกต่างกันมากกว่า

บอกตามตรง ถ้าสลับเพศกัน สมมติมีผู้ชายคนนึงมาจีบเราซึ่งเขามีไลฟ์สไตล์คล้ายๆเจ้าของกระทู้  แบบโสดแล้วมีอะไรกับใครที่ไม่ใช่แฟน หรือ FWB, ONS  ถ้าเรารู้ด้านนี้ของเขา เราก็ถอยเหมือนกันค่ะ  กรณีนี้รวมถึงผู้ชายที่ซื้อกิน ไม่ว่าจะลงอ่างอบนวดหรือไซด์ไลน์ด้วย  เราไม่ไปต่อแน่นอน

เราไม่ใช่คนหัวโบราณ ถ้าผู้ชายมีอะไรกับแฟนมาก่อน เราโอเครับได้นะ   เราเคยคิดหาเหตุผลเหมือนกันว่ามันแตกต่างกันยังไง จนได้ข้อสรุปที่ว่า เรารับได้ถ้ามันเป็น make love คือเป็นเพศสัมพันธ์ที่มีความรักร่วมด้วย(แบบแฟนหรือสามีภรรยา ไม่รวมที่เป็นชู้)    

เรื่องนี้สำหรับเราก็เป็นสเปคอย่างนึงที่ตั้งเอาไว้ในการเลือกคบ  เหมือนกับที่เราไม่ชอบผู้ชายสูบบุหรี่  ไม่ชอบคนโมโหร้าย  ถามว่าพวกเขาผิดไหม? ก็ไม่ผิดอะไร   หรือจะมองว่าเราใจแคบ?  อันนี้ก็แล้วแต่คนจะมอง เราไม่เก็บมาใส่ใจ  ชีวิตเรา เรามีสิทธิตัดสินใจ

*แก้คำผิด
ความคิดเห็นที่ 22
มันเกี่ยวอะไรกับความเท่าเทียม?
ถ้าคุณไม่ชอบผู้ชายที่หลอกฟันไปเรื่อย เที่ยวไซด์ไลน์อาทิตย์ละ4ครั้ง หรือเดทกับผู้หญิงเพื่อมีเซ็กส์ไปวันๆ คุณจะคบกับเค้ามั้ยอ่ะ? แล้วคุณจำเป็นต้องคบหรอ?
อย่าคิดว่าแค่ไลฟสไตล์ตรงกัน แล้วต้องคบกันสิ บางคนแต่งงานกันเพราะไลฟสไตล์ตรงกันแต่เลิกกันเพราะรสนิยมเรื่องเซ็กส์ไม่เหมือนกันก็มีอยู่ถมเถ ไม่ต้องมาเคลมว่าตัวเองเป็นคนสมัยใหม่ คุณก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบรักสนุกมีเซ็กส์ไปเรื่อยแล้วอ้างว่าผู้ชายทำได้ฉันก็ทำได้แค่นั้น แต่ร่างกายของคุณ ในเมื่อคุณมองว่าเซ็กส์มันเป็นเหมือนกิจวัตรประจำวัน เช่นการทานอาหารหิวก็กิน ปวดฉี่ก็ฉี่ คุณจะไปเป็นตัวบำเรอความสุขให้ผู้ชายอาทิตย์ละกี่คนก็เรื่องของคุณ ไม่ต้องเที่ยวมาพรีเซ้นให้ชาวบ้านรับรู้ก็ได้ ก็มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอ?

กลับมากันที่ตรรกะป่วยๆที่ว่าโดนผู้ชายเทเพราะตัวเองเยไปทั่ว
จริงๆลองคิดกลับกันก็ได้ ถ้าผู้ชายที่คุณคบอยู่ด้วยเค้าเป็นคนประเภทที่คุยกับใครถูกคอก็เย ไปเดทกับใครก็เย มีเพื่อนผู้หญิงก็เย เมาก็เย คุณคิดว่าการที่ผู้ชายคนนึงสามารถเยกับใครง่ายๆขนาดนี้ เค้าจะเลิกเยกับคนอื่นตอนที่คบกับคุณหรอ เอาจริงๆถ้ามีผู้ชายมาพรีเซ้นตัวเองกับเราแบบนี้เราคงขอบาย โรคติดต่อทางเพศไม่ใช่เรื่องสนุก การมานั่งระแวงว่าแฟนตัวเองจะแอบไปเยกับคนอื่นไหมก็ไม่สนุกเช่นกัน เราเลือกที่จะตัดไฟแต่ต้นลมคือการไม่คบกับคนประเภทนี้ดีกว่า
ไม่ใช่เพราะเราใจแคบ แต่ถ้าคนคนนึงสามารถเยกับใครได้ง่ายๆขนาดนี้ นึกไม่ออกว่าอนาคตคบกันไปแล้วมันจะไปทางไหน

หลายๆความเห็นก็ตอบว่าคุณมีสิทธิ์เลือก ผู้ชายเค้าก็มีสิทธิ์เลือก
อย่าคิดว่าตัวเองถูกสุด ไปตัดสินคนอื่นว่าเขาตีค่าคนแค่ร่างกาย แต่ตัวเองก็ไปตีค่าเขาว่าใจแคบเพียงเพราะเขาไม่อยากได้ผู้หญิงแบบคุณ ตลกดี เขาก็มีสิทธิ์เลือกอะเนอะ เขาไม่เลือกคุณ ก็หาใหม่ ไม่ใช่มาโวยวายว่าเขาใจแคบ มันไร้สาระ

ประโยคที่บอกว่าผู้ชายที่คบที่คุย จบโท จบนอก ทันสมัย แล้วทำไมเขาถึงไม่คบกับคุณหรอคะ งง..
ความคิดเห็นที่ 4
ผู้ชายเขาก็มีสิทธิเลือกที่จะคบหรือไม่คบนี่ ไม่เกี่ยวกับความเท่าเทียมตรงไหนเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่