สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ญี่ปุ่นช้าเรื่องวัคซีน ก็คงเป็นเพราะรัฐบาลไม่ได้ทุ่มเงินสนับสนุนฟรีๆ ให้ เหมือนกับสหรัฐ รัสเซีย จีน ครับ
แต่บางประเทศ ไม่ได้เงินจากรัฐบาลก็ผลิตวัคซีนระดับโลกได้ก่อนใครๆ คือ เยอรมัน Byontech ที่ร่วมมือกับ Pfizzer ที่สหรัฐให้เงินอุดหนุน ใช้เทคใหม่ mRMA ได้ผล 95% ได้รับการรับรองอันดับแรกของโลกจากอังกฤษ สหรัฐ และยุโรป และอื่นๆ ทั่วโลก และเป็นวัคซีนที่ฉีดมากที่สุดในโลกเวลานี้ครับ
แต่บางประเทศ ไม่ได้เงินจากรัฐบาลก็ผลิตวัคซีนระดับโลกได้ก่อนใครๆ คือ เยอรมัน Byontech ที่ร่วมมือกับ Pfizzer ที่สหรัฐให้เงินอุดหนุน ใช้เทคใหม่ mRMA ได้ผล 95% ได้รับการรับรองอันดับแรกของโลกจากอังกฤษ สหรัฐ และยุโรป และอื่นๆ ทั่วโลก และเป็นวัคซีนที่ฉีดมากที่สุดในโลกเวลานี้ครับ
ความคิดเห็นที่ 7
1 อุตสาหกรรมวัคซีนของญี่ปุ่นอ่อนแอมาก เมื่อเทียบกับสหรัฐและยุโรป ที่แต่ละปีใช้งบลงทุนวิจัยและพัฒนาหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้งยังมีความเชื่ออยู่ลึก ๆ ด้วยว่า อุตสาหกรรมวัคซีนของญีปุ่นนั้นไม่มีทางแข่งขันกับผู้ผลิตรายใหญ่จากชาติตะวันตกได้
2 ขณะนี้ในจำนวน 10 บริษัของญี่ปุ่นที่วิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 นั้น มีเพียงบริษัทเดียวคือ AnGes Inc เท่านั้น ที่ก้าวหน้าที่สุด โดยเทคโนโลยีที่ใช้คือ plasmid DN A นอกจากนั้นก็มีบริษัท Shionogi & Co ใช้เทคโนโลยี recombinant protein เพิ่งจะมีทำการวิจัยเฟสต้น ๆ
3 กำแพงในการเข้าสู่ตลาดวัคซีนโลกในปัจจุบันนั้นมีอยู่สูงมาก ใช้ต้นทุนสูงมากในการทำการทดลองขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ทำให้จำเป็นต้องทำตลาดในระดับโลกเพื่อให้ได้ทุนคืน
4 นอกจากนี้ การดำเนินคดีทางกฎหมายจากผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากกรณีของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ส่งผลทำให้ผู้พัฒนาวัคซีนสองจิตสองใจที่จะพัฒนาวัคซีน เพราะหากถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย เงินทุนที่ลงไปเพื่อพัฒนาวัคซีนก็สูญเปล่า
วิกฤตโควิด-19 แสดงให้เห็นถึงการขาดความเป็นผู้นำของญี่ปุ่นในเรื่องวัคซีนอันเนื่องมาจาก ภาคอุตสาหกรรมวัคซีนมีทรัพยากรน้อย รัฐบาลญี่ปุ่นนั้นรู้อยู่แล้วว่าภาคอุตสาหกรรมวัคซีนของญี่ปุ่นนั้น อยู่ในภาวะวิกฤตมาหลายปีแล้ว จากวิกฤตครั้งนี้ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนการที่จะสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมวัคซีนในประเทศ เพื่อเตรียมรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคต
จากการที่ขนาดอุตสาหกรรมวัคซีนของญีปุ่นมีขนาดเล็ก ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างและต้องมีการลงทุนระยะยาว การแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ด้วยการสั่งซื้อวัคซีนจากต่างประเทศจึงเป็นทางเลือกที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
2 ขณะนี้ในจำนวน 10 บริษัของญี่ปุ่นที่วิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 นั้น มีเพียงบริษัทเดียวคือ AnGes Inc เท่านั้น ที่ก้าวหน้าที่สุด โดยเทคโนโลยีที่ใช้คือ plasmid DN A นอกจากนั้นก็มีบริษัท Shionogi & Co ใช้เทคโนโลยี recombinant protein เพิ่งจะมีทำการวิจัยเฟสต้น ๆ
3 กำแพงในการเข้าสู่ตลาดวัคซีนโลกในปัจจุบันนั้นมีอยู่สูงมาก ใช้ต้นทุนสูงมากในการทำการทดลองขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ทำให้จำเป็นต้องทำตลาดในระดับโลกเพื่อให้ได้ทุนคืน
4 นอกจากนี้ การดำเนินคดีทางกฎหมายจากผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากกรณีของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ส่งผลทำให้ผู้พัฒนาวัคซีนสองจิตสองใจที่จะพัฒนาวัคซีน เพราะหากถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย เงินทุนที่ลงไปเพื่อพัฒนาวัคซีนก็สูญเปล่า
วิกฤตโควิด-19 แสดงให้เห็นถึงการขาดความเป็นผู้นำของญี่ปุ่นในเรื่องวัคซีนอันเนื่องมาจาก ภาคอุตสาหกรรมวัคซีนมีทรัพยากรน้อย รัฐบาลญี่ปุ่นนั้นรู้อยู่แล้วว่าภาคอุตสาหกรรมวัคซีนของญี่ปุ่นนั้น อยู่ในภาวะวิกฤตมาหลายปีแล้ว จากวิกฤตครั้งนี้ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนการที่จะสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมวัคซีนในประเทศ เพื่อเตรียมรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคต
จากการที่ขนาดอุตสาหกรรมวัคซีนของญีปุ่นมีขนาดเล็ก ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างและต้องมีการลงทุนระยะยาว การแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ด้วยการสั่งซื้อวัคซีนจากต่างประเทศจึงเป็นทางเลือกที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
แสดงความคิดเห็น
แปลกใจ ญี่ปุ่น ด้านการแพทย์ระดับต้นๆ ของโลก ทำไมเรื่องการผลิตวัคซีนยังตามหลังจีน รัสเซีย อีก ?
ขอบคุณครับ