ผมทำประกันภัยชั้น 1 ไว้ กับรถยุโรป เบี้ยประกันภัยต่อปี 65xxx บาท ซ่อมศูนย์ จะหมดประกันประมาณเดือน สค.
ทีนี้เอารถไปวิ่งเยอะหน่อย เจอทางลูกรัง ทางหิน มาดูรถวันนี้ รอยสะเก็ดหิน รอยข่วนเยอะแยะไปหมด ไปสอบถามศูนย์ แจ้งว่าเคลมได้ทิ้งรถไว้ที่ศูนย์ประมาณ 7-10 วัน เพราะต้องถอดมาทำทุกชิ้นที่มีรอย (น่าจะประมาณ 10+ ชิ้น) เพราะมีรอยทุกจุดจริงๆ
สอบถามทางประกันภัย แจ้งว่า สามารถนำรถเข้าศูนย์ได้เลย ไม่ต้องให้ จนท. จากประกันภัยมาประเมิน (คือให้ จนท.ที่ศูนย์เปิดบิลทำเรื่องเคลมได้เลย) ไม่มีค่า excess
ทีนี้อยากสอบถามว่า ค่าเคลมเหล่านี้คุ้มหรือไม่ ที่จะรีบทำ (เพื่อความสวยงาม) เพราะรถเพิ่งไปเคลือบเซรามิกมาด้วย ถ้าทำสี ก็คือต้องไปเคลือบใหม่ อีกประเด็นคือ จะเสียประวัติดีไป ปีต่อๆไปจะไม่ได้ส่วนลดประกัน
แต่คำแนะนำของ จนท.ศูนย์คือ รอยเหล่านี้ไม่ได้ลึกถึงชั้นเนื้อจริงๆไม่ทำให้เกิดสนิม เพราะรถยุโรปมีเคลือบไว้ถึง 3 ชั้น ที่ถลอกไปแค่ชั้นนอก และรอยไม่ได้ชัดเจน เอาไว้รอยเยอะจริงๆค่อยมาเคลมทีเดียวดีกว่า จะได้ไม่เสียประวัติ
อยากสอบถามความเห็นครับ
การที่เราเสียเบี้ยประกันไปเกินครึ่งแสน แต่ต้องลังเลใจกับการไปเคลมสีรอบคัน แบบนี้คิดว่ายังไงดีครับ
ขอบคุณครับ
ประกันชั้น 1 รถยุโรป คุ้มมั้ยที่จะไปเคลมทำสีรอบคัน ก่อนหมดประกันครับ
ทีนี้เอารถไปวิ่งเยอะหน่อย เจอทางลูกรัง ทางหิน มาดูรถวันนี้ รอยสะเก็ดหิน รอยข่วนเยอะแยะไปหมด ไปสอบถามศูนย์ แจ้งว่าเคลมได้ทิ้งรถไว้ที่ศูนย์ประมาณ 7-10 วัน เพราะต้องถอดมาทำทุกชิ้นที่มีรอย (น่าจะประมาณ 10+ ชิ้น) เพราะมีรอยทุกจุดจริงๆ
สอบถามทางประกันภัย แจ้งว่า สามารถนำรถเข้าศูนย์ได้เลย ไม่ต้องให้ จนท. จากประกันภัยมาประเมิน (คือให้ จนท.ที่ศูนย์เปิดบิลทำเรื่องเคลมได้เลย) ไม่มีค่า excess
ทีนี้อยากสอบถามว่า ค่าเคลมเหล่านี้คุ้มหรือไม่ ที่จะรีบทำ (เพื่อความสวยงาม) เพราะรถเพิ่งไปเคลือบเซรามิกมาด้วย ถ้าทำสี ก็คือต้องไปเคลือบใหม่ อีกประเด็นคือ จะเสียประวัติดีไป ปีต่อๆไปจะไม่ได้ส่วนลดประกัน
แต่คำแนะนำของ จนท.ศูนย์คือ รอยเหล่านี้ไม่ได้ลึกถึงชั้นเนื้อจริงๆไม่ทำให้เกิดสนิม เพราะรถยุโรปมีเคลือบไว้ถึง 3 ชั้น ที่ถลอกไปแค่ชั้นนอก และรอยไม่ได้ชัดเจน เอาไว้รอยเยอะจริงๆค่อยมาเคลมทีเดียวดีกว่า จะได้ไม่เสียประวัติ
อยากสอบถามความเห็นครับ
การที่เราเสียเบี้ยประกันไปเกินครึ่งแสน แต่ต้องลังเลใจกับการไปเคลมสีรอบคัน แบบนี้คิดว่ายังไงดีครับ
ขอบคุณครับ