สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ขอมองแบบผู้ปกครองนะคะ ถ้าเราเป็นฝ่ายชาย เราสบายใจเพราะลูกจะได้ไม่ไปเตร็ดเตร่เกเรนอกบ้าน (น่าจะ)รู้อยู่มากขึ้นและที่สำคัญฝ่ายหญิงก็เต็มใจมาอยู่มากินเอง พ่อแม่ฝ่ายชายไม่ได้เสียอะไรเลย อยู่กันได้อยากแต่งจริงๆจังๆก็ค่อยคิดใหม่ แต่ถ้าอยู่กันไม่ยืดก็โล่งใจว่า เขาตกลงกันเอง
ถ้าเป็นผู้ปกครองฝ่ายหญิง เลี้ยงลูกถนอมมาจนเป็นสาว อยากให้ได้คู่ครองที่เหมาะสม หอบผ้าตามเขาไปมันช่างไร้ศักดิ์ศรี เจอคนรักจริงอยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรก็ดีไป เจอพวกเบื่อแล้วทิ้ง ลูกเราจะเอาหน้าไปไว้ไหน
ถ้าเป็นผู้ปกครองฝ่ายหญิง เลี้ยงลูกถนอมมาจนเป็นสาว อยากให้ได้คู่ครองที่เหมาะสม หอบผ้าตามเขาไปมันช่างไร้ศักดิ์ศรี เจอคนรักจริงอยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรก็ดีไป เจอพวกเบื่อแล้วทิ้ง ลูกเราจะเอาหน้าไปไว้ไหน
ความคิดเห็นที่ 29
เราตอบนับครั้งไม่ถ้วนว่า ..... ยังไงผู้หญิงก็เสียเปรียบ
ไม่ใช่เพราะการเสียซิง การเสียหน้า การดูแลตัวเองได้หรือไม่ เงิน งาน การศึกษา เสน่ห์
แต่เพราะสรีระ และจิตวิทยาความสัมพันธ์
1)สรีระ .... ผู้หญิงเป็นฝ่ายที่ต้องท้องถ้าพลาด และเป็นผู้เสียอนาคตมากกว่า และต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลลัพธ์มากกว่า
เมื่อคุณท้อง คุณเป็นคนที่ต้องออกจากเรียน/งาน มาคลอดมาเลี้ยงลูก และถ้าแยกกัน ฝ่ายหญิงมักเป็นผู้สละเวลาเลี้ยงลูก นั่นคือลดโอกาสความก้าวหน้าอนาคต
... และเรื่องเชื้อโรค ส่วนใหญ่ไม่เกิดอาการในผู้ชาย แต่สร้างปัญหามากในผู้หญิง เช่นแบคทีเรียกามทำให้เห็นหมี แต่จู่ไม่เหม็น / เชื้อราทำให้คันแสบ แต่จู๋เฉย / ไวรัสHPVทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งช่องปาก แต่ผู้ชายสบายๆ
2)จิตวิทยาความสัมพันธ์ .... จิตใจผู้หญิงต่างจากผุ้ชาย ผู้ชายรัก100%แล้วลดลงสู่0% ความรักมักอยู่ในโซนPASSION
.. แต่ผู้หญิงตรงข้าม เริ่มรักที่0% และเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆด้วยสัมผัสและความผูกพัน ความรักอยู่ในโซนCommitment
เมื่อผู้ชายพิชิตPassion จนพอใจ แถมด้วยการอยู่กินกันจนหมดความเร้าใจ ... ขณะที่หญิงเต็มไปด้วยความผูกพันธนาการ
... ทำไมฝ่ายชายต้องเสียเงินแต่งงานซื้อบ้าน เมื่อเค้าได้ทุกอย่างแล้ว ...ขณะที่หญิงเต็มไปด้วยความกลัวของวัยที่ล่อแหลมคานทอง
ชายหญิงมาจากดาวคนละดวง!
--------------------
ทั้งนี้ จะเห็นว่า เรามิได้พูดว่า ผู้หญิงหาเลี้ยงตัวได้, ห ฉันอย่าเจือก , ค่านิยมโบราณ .. ซึ่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ตามยุคสมัย
แต่เราพูดถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ตลอดกาล ... คือ ร่างกายและจิตใจของผู้หญิง มีจุดอ่อนมากมาย !!!
ผู้หญิง .. จงฉลาดใช้ชีวิต! เพราะคนที่รับผลคือตัวคุณเอง
++ บ้านดอกชวนชมสารพัดสี ++
ไม่ใช่เพราะการเสียซิง การเสียหน้า การดูแลตัวเองได้หรือไม่ เงิน งาน การศึกษา เสน่ห์
แต่เพราะสรีระ และจิตวิทยาความสัมพันธ์
1)สรีระ .... ผู้หญิงเป็นฝ่ายที่ต้องท้องถ้าพลาด และเป็นผู้เสียอนาคตมากกว่า และต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลลัพธ์มากกว่า
เมื่อคุณท้อง คุณเป็นคนที่ต้องออกจากเรียน/งาน มาคลอดมาเลี้ยงลูก และถ้าแยกกัน ฝ่ายหญิงมักเป็นผู้สละเวลาเลี้ยงลูก นั่นคือลดโอกาสความก้าวหน้าอนาคต
... และเรื่องเชื้อโรค ส่วนใหญ่ไม่เกิดอาการในผู้ชาย แต่สร้างปัญหามากในผู้หญิง เช่นแบคทีเรียกามทำให้เห็นหมี แต่จู่ไม่เหม็น / เชื้อราทำให้คันแสบ แต่จู๋เฉย / ไวรัสHPVทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งช่องปาก แต่ผู้ชายสบายๆ
2)จิตวิทยาความสัมพันธ์ .... จิตใจผู้หญิงต่างจากผุ้ชาย ผู้ชายรัก100%แล้วลดลงสู่0% ความรักมักอยู่ในโซนPASSION
.. แต่ผู้หญิงตรงข้าม เริ่มรักที่0% และเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆด้วยสัมผัสและความผูกพัน ความรักอยู่ในโซนCommitment
เมื่อผู้ชายพิชิตPassion จนพอใจ แถมด้วยการอยู่กินกันจนหมดความเร้าใจ ... ขณะที่หญิงเต็มไปด้วยความผูกพันธนาการ
... ทำไมฝ่ายชายต้องเสียเงินแต่งงานซื้อบ้าน เมื่อเค้าได้ทุกอย่างแล้ว ...ขณะที่หญิงเต็มไปด้วยความกลัวของวัยที่ล่อแหลมคานทอง
ชายหญิงมาจากดาวคนละดวง!
--------------------
ทั้งนี้ จะเห็นว่า เรามิได้พูดว่า ผู้หญิงหาเลี้ยงตัวได้, ห ฉันอย่าเจือก , ค่านิยมโบราณ .. ซึ่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ตามยุคสมัย
แต่เราพูดถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ตลอดกาล ... คือ ร่างกายและจิตใจของผู้หญิง มีจุดอ่อนมากมาย !!!
ผู้หญิง .. จงฉลาดใช้ชีวิต! เพราะคนที่รับผลคือตัวคุณเอง
++ บ้านดอกชวนชมสารพัดสี ++
ความคิดเห็นที่ 39
ถามว่าผิดไหม เราว่าไม่ผิด แต่ส่วนตัวเราว่าผู้หญิงยังไงก็เสียเปรียบ ไม่เกี่ยวกับค่านิยมรักนวลสงวนตัวอะไรนะ แต่เราว่าผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะต้องรับผิดชอบอะไรหลายอย่าง เช่นในกรณีที่เกิดพลาดท้องก่อนแต่ง แล้วเจอคนไม่รับผิดชอบ สุดท้ายต้องกลายเป็น single mom กันไป ผู้ชายลอยตัว เห็นมาเยอะมากๆ เลย เพราะฉะนั้น แต่ถ้าคิดว่ารับผิดชอบต่อความเสี่ยงได้ มีวุฒิภาวะ มีความรับผิดชอบมากพอ ไม่ผิดค่ะ แต่ถ้าเรามีลูกสาว เราไม่อนุญาตค่ะ มีอะไรก่อนแต่งเป็นครั้งคราวไม่ว่า เพราะถือว่าชีวิตของลูก แต่ถ้าให้ลูกสาวไปอยู่กับแฟนก่อนแต่ง เราไม่โอเค
ความคิดเห็นที่ 40
แล้วคุณให้คำจำกัดความของการแต่งงานว่าอะไรล่ะ
เราคิดว่าแต่งงานก็เพื่อมาอยู่ด้วยกัน อยู่เป็นคู่ชีวิตกัน ส่วนพิธีการนั้นเพื่อเป็นหน้าตาของพ่อแม่ ใบทะเบียนสมรสเป็นเรื่องของกฎหมาย
ทีนี้การอยู่ก่อนแต่ง มันก็คือเหมือนการแต่งงานนั่นแหล่ะ แต่เอา commitment คู่ชีวิตออกไป เอาพิธีการออกไป เอากฎหมายออกไป
แล้วทำไมจึงเอาออกไป? เพราะแค่อยากอยู่ด้วยกัน อยากซั่มเมื่อไรก็ได้ แต่ไม่อยากมีในส่วนประกอบอื่นๆ ทั้งๆที่มนุษย์ก็ต่างจากสัตว์ตรงแค่ความยับยั้งชั่งใจ แต่เลือกที่จะไม่ทำตามขั้นตอน
สมมติว่าเราไม่พูดถึงเรื่องท้อง และการที่ผญ.ผ่านพสพ. ในระดับเหมือนคนแต่งงานแล้ว การอยู่ด้วยกันก็คือการใช้ชีวิตเล่นๆเท่านั้นเอง เพราะ 90% คุณไม่ได้ลงเอยด้วยการแต่งงานกันกับคนที่คุณไปอยู่ด้วย
ในเมื่อฝ่ายชายได้คุณไปอยู่แล้ว ทำไมจึงต้องทำพิธีการ ทำตามกฎหมายอะไรให้ยุ่งยาก เค้าก็สบายตัว ส่วนฝ่ายหญิงก็ไม่พอใจ อยู่ไปแบบสงสัยๆ ถามเมื่อไรอีกฝ่ายก็เฉไฉ จบลงที่เลิกราต่อกัน หรืออยู่กันต่อไปแบบไม่มีพิธีการเป็นเรื่องเป็นราว และก็ได้ตระหนักเอาทีหลังว่า วันที่ก้าวขามาอยู่ด้วยกันนั่นแหล่ะคือวันแต่งงานของคุณ
เราคิดว่าแต่งงานก็เพื่อมาอยู่ด้วยกัน อยู่เป็นคู่ชีวิตกัน ส่วนพิธีการนั้นเพื่อเป็นหน้าตาของพ่อแม่ ใบทะเบียนสมรสเป็นเรื่องของกฎหมาย
ทีนี้การอยู่ก่อนแต่ง มันก็คือเหมือนการแต่งงานนั่นแหล่ะ แต่เอา commitment คู่ชีวิตออกไป เอาพิธีการออกไป เอากฎหมายออกไป
แล้วทำไมจึงเอาออกไป? เพราะแค่อยากอยู่ด้วยกัน อยากซั่มเมื่อไรก็ได้ แต่ไม่อยากมีในส่วนประกอบอื่นๆ ทั้งๆที่มนุษย์ก็ต่างจากสัตว์ตรงแค่ความยับยั้งชั่งใจ แต่เลือกที่จะไม่ทำตามขั้นตอน
สมมติว่าเราไม่พูดถึงเรื่องท้อง และการที่ผญ.ผ่านพสพ. ในระดับเหมือนคนแต่งงานแล้ว การอยู่ด้วยกันก็คือการใช้ชีวิตเล่นๆเท่านั้นเอง เพราะ 90% คุณไม่ได้ลงเอยด้วยการแต่งงานกันกับคนที่คุณไปอยู่ด้วย
ในเมื่อฝ่ายชายได้คุณไปอยู่แล้ว ทำไมจึงต้องทำพิธีการ ทำตามกฎหมายอะไรให้ยุ่งยาก เค้าก็สบายตัว ส่วนฝ่ายหญิงก็ไม่พอใจ อยู่ไปแบบสงสัยๆ ถามเมื่อไรอีกฝ่ายก็เฉไฉ จบลงที่เลิกราต่อกัน หรืออยู่กันต่อไปแบบไม่มีพิธีการเป็นเรื่องเป็นราว และก็ได้ตระหนักเอาทีหลังว่า วันที่ก้าวขามาอยู่ด้วยกันนั่นแหล่ะคือวันแต่งงานของคุณ
แสดงความคิดเห็น
อยู่ก่อนแต่งผิดมากมั้ย?