หลง(รัก)น่าน

สวัสดีค่ะ 
วันนี้เราคงไม่ได้เขียนเรื่องเต็นท์แล้ว
เพราะเราจะเขียนตอนที่เราไปเที่ยวน่านกัน

เราไปช่วง วันที่ 14 - 17 พ.ย. 2563
เป็นช่วงที่ใครๆก็ฮิตไปน่าน
ตามจริงเราเคยไปเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา
ตอนนั้นยังไม่ได้ฮิตขนาดตอนนี้
แต่ธรรมชาติยังสวยเหมือนเดิมแหละ
ว่าแล้วเดินทางกันเลยดีกว่า




รูปปีกเครื่องบินต้องมาเนอะ
แบบให้รู้ว่าเรานั่งเครื่องไปเฟ่ย 555
ป่าวหรอก ภาพบนท้องฟ้ามันสวย

เราเดินทางโดยเครื่องบิน
ไทยสไมล์มีโปรโมชั่น +กับเราเที่ยวด้วยกัน
มันดีมาก ลดไปได้หลายบาทเลย
ได้เงินคืนทั้งค่าโรงแรม ค่าเครื่อง แถมค่ากินด้วย
ใช้คนละครึ่งไปอีก มันก็ดีนะ

เราเดินทางเช้าวันเสาร์ที่ 14 พ.ย. 2563
ถึงน่านประมาณ 11 โมงกว่า
เราเช่ารถ Toyota Fortuner 
(Search หาร้านเช่ารถใน Google นี่แหละ)
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศที่เราจะไป
อีกอย่าง เพราะมีผู้ใหญ่ 5 เด็ก 2
จะได้ไปคันเดียวกันเลย
ขอบอกว่ารถใหม่มากๆเลยค่ะ

ภาพภายในสนามบิน
รู้สึกดีที่สุด ได้ช่วยให้การท่องเที่ยวคึกคักอีกครั้ง



รถเช่าของเราสวยมั้ยคะ
แวววับเลย ใหม่มาก


เอาของใส่ท้ายรถ คนพร้อม ออกเดินทาง
เราถึงน่านเกือบๆเที่ยงเนอะ ก็เลยแวะหาอะไรกินในเมือง
รองท้องกันไปก่อน เพราะวันนี้เราจะขึ้นเขาไปนอน ดอยสกาด
ระยะทางระหว่าง ตัวเมืองน่านถึงดอยสกาด ประมาณ 80 กิโลเมตร
แต่ควรเผื่อเวลา และไม่ขึ้นดอยตอนกลางคืนจะดีกว่าค่ะ

ภาพระหว่างทางไปดอยสกาด 
ทางแคบพอดีรถสวนกัน 2 คัน อาจจะมีช่วงที่ชันบ้าง
แต่เพราะเราใช้รถยนต์ Toyota Fortuner ก็เลยขับง่าย
แต่ถ้ารถเก๋งเครื่อง 1500cc ก็ขึ้นได้ค่ะ


วิวสวยและดีมาก
อากาศกำลังเย็นๆ
มองวิวก็มีความสุขแล้วค่ะ

คืนนี้เราพักกันที่บ้านฟ้างามดอยสกาด
ที่พักบนดอยสกาด ต้องโทรจองล่วงหน้านะคะ
เพราะที่พักอาจจะมีไม่เยอะ เราไปช่วงไฮซีซั่น
โทรจองหลายที่เลยค่ะ จนมาได้ที่นี่

ภาพนี้มองลงมาจากที่พัก
เป็นโฮมสเตย์ไม้ 2 ชั้น มีห้องพัก 4 ห้องด้านบน
อยู่ในหมู่บ้าน ดอยสกาด อากาศเย็นสบาย
วิวดีค่ะ แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปตัวบ้านไว้เลย
ลองพิมพ์ใน FB ก็ได้ค่ะ "บ้านฟ้างามดอยสกาด"



หลังจากเข้าที่พัก เก็บของแล้ว
เราก็ออกไปซื้อของ ที่ร้านขายของชำใกล้ๆค่ะ ชื่อร้าน 7Bent
เจอหมาน้อยที่ร้านเด็กๆเล่นกับหมาใหญ่เลย





ซื้อของเสร็จเดินกลับมาที่บ้านพัก
นั่งดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า



มื้อดึกวันนี้ เรามีหมูกระทะ
รวมอยู่ในค่าห้องแล้วค่ะ
คนละ 700 บาท รวมอาหารเย็น *เด็กไม่คิด
2 ชุดใหญ่ๆ เยอะมาก แทบจะกินไม่หมดเลย


หลังจากกินหมูกระทะเสร็จ
ก็มานั่งล้อมวงคุย พร้อมดูดาว


จบไป 1 วัน แบบไม่ต้องมีกิจกรรมอะไรมาก
ใช้ชีวิตแบบเรื่อยๆ Slowlife ของจริง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันแรกผ่านไปแล้ว มาต่อวันที่ 2 กันเลยค่ะ
วันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย. 2563
วันนี้เราจะไปแวะเที่ยวปัว แล้วขึ้นไปนอนกันที่สะปันค่ะ
ตื่นเช้าจิบกาแฟกันก่อน

ถ่ายรูปไว้แค่ชุดกาแฟ
อาหารเช้าเยอะมากๆ มีข้าวต้มกุ้งที่กุ้งตัวใหญ่
ที่นี่ดีมากค่ะ เจ้าของใจดี มีอาหารให้กินแบบไม่อั้น
ตอนกลางวันเราขอให้เค้าทอดไข่เจียวให้เด็ก ก็ไม่คิดเงิน
น่ารักมากจริงๆ แนะนำค่ะ บ้านฟ้างามดอนสกาด

หลังจากท้องอิ่มก็ออกเดินทาง
ระหว่างทางลงมา เรากะจะแวะร้านกาแฟ สกาด กม.8
แต่ร้านยังไม่เปิดค่ะ ลงมาเช้าไป
เพราะที่นี่เป้นที่พักด้วย เค้าจึงต้องให้ลูกค้าที่พัก
ทานอาหารเช้าให้เสร็จก่อน อดเลย


เราเลยคิดว่าจะไปแวะร้านกาแฟแถว อ.ปัว กันดีกว่า
ไปเจอร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ร้านกว้างใหญ่มาก คนเยอะมาก
เราเลยแวะกินทั้งกาแฟ กินข้าวด้วยเลย ถ่ายรูป
เอาเป็นว่าอยู่ที่นี่หลายชั่วโมง



เราเลือกกินขนมจีนน้ำเงี้ยว
อยากลอง แต่ไม่ถนัดจริงๆ
ข้าวมันไก่อร่อยกว่า แนะนำเลย


กินอิ่มแล้ว เราไปวัดภูเก็ตกันต่อ
ไหนๆมาถึงนี่ ต้องแวะกันหน่อย


นาข้าวสีเขียวๆไม่มีหรอก เค้าเกี่ยวกันไปหมดแล้ว
อยากเห็นต้นข้าวต้องมาหน้าฝนนะจ๊ะ


หลังจากไหว้พระแล้ว
เราก็ต้องออกเดินทางไกล 
ไป อ.สะปันกันแล้ว
ทางขึ้นก็โหดบ้าง ชันบ้าง คดเคี้ยวบ้าง
ขับช้าๆ ยังไงก็ปลอดภัยค่ะ
ระยะทางจาก อ.ปัว ไปหมู่บ้านสะปัน ประมาณ 40 กิโลเมตรค่ะ


ทางคดเดี้ยวบ้าง
เราผ่านอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เลยแวะปั้มตราอุทยานซักหน่อย


ถึงจุดชมวิว ผ่านแล้วก็แวะนิดนึง


ทางเริ่มดีขึ้น ใกล้ถึงแล้วแน่ๆ


สะปันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ของ อ.บ่อเกลือ อยู่กลางหุบเขาเลย
วิถีชีวิตผู้คนยังเรียบง่าย อยู่ อ.บ่อเกลือ ก็ต้องมีเกลือสิเนอะ
ที่นี่เป็นแหล่งผลิต เกลือสินเธาว์
ธรรมชาติยังอยู่ครบ สีเขียวสดชื่น
เหมาะแก่การมาใช้ชีวิต Slowlife

วันนี้เราพักกันที่ ไทรวารี รีสอร์ท
เอาจริงๆว่าที่พักดีมาก เราโทรหาที่ดังๆ คนนิยมพัก
เต็มทุกที่เลย แต่มาได้ที่นี่ รู้สึกดีมาก
เพราะตอนเข้ามาที่พัก เราผ่านรีสอร์ท ดังๆหลายที่นะ
แต่พอดูๆแล้ว ก็แบบ ไม่เสียใจนะที่ที่พักเต็ม
ที่นี่ก็วิวดี อาหารอร่อย 




แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว
อากาศเย็นๆ สบายมากๆ
ติดแม่น้ำ เด็กๆลงไปเล่นน้ำกันสบายใจ



มุมถ่ายรูปเยอะมากๆ
หลังจากพักผ่อนเดินเล่น ถ่ายรูป
เราเลยออกไปในตัวหมู่บ้าน ใกล้ๆ
ไปหาซื้อขนมมากินแก้หิวตอนเย็น
ของกินเยอะมากๆ จัดชุดใหญ่เลย


หลังกลับมาจากซื้อของกิน
เราก็รอกินอาหารเย็นที่ที่พัก
อาหารเย็นหลากหลาย และปริมาณเยอะ
เติมได้ตลอดค่ะ เป็นแบบบุฟเฟ่
แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย
พอดีมีเด็กๆด้วย วุ่นวายหน่อย

ปิดท้ายด้วยภาพดาวเหมือนเดิม
ภาพอาจจะไม่ได้สวยเท่าไหร่
แต่พอเห็นแล้วก็ทำให้นึกถึงความสุขตอนนั้นได้


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เช้าวันจันทร์ที่ 16 พ.ย. 5263
เราตื่นแต่เช้า จะมาดูหมอก
แล้วก็สมใจค่ะ หมอกลงหนาเลย
เพราะรีสอร์ทเราอยู่ในหุบเขา



วันนี้เราออกเดินทางกลับไปนอนในตัวเมืองน่านกันค่ะ
อาหารเช้าก็อร่อยเหมือนเดิม 
ไว้เล่าต่อใน Comment ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่