Infinix Note 8 มาพร้อมกับจุดเด่นชิปทรงพลัง MediaTek Helio G80 เป็นชิปประมวลผลที่ออกแบบมาเพื่อ Gaming Smartphone โดยเฉพาะ เล่นเกมได้ไหลลื่นในราคาเข้าถึงได้ง่าย หน่วยความจำ RAM 6 GB / ROM 128 GB ถ้ายังไม่พอสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้อีกถึง 256GB เล่นเกมสบายตากับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.95 นิ้ว ความละเอียด HD+
ด้านการถ่ายภาพ กล้องหน้ามาแบบเลนส์คู่ความละเอียด 16MP+Portrait Lens และกล้องหลัง 4 เลนส์ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล ใช้งานได้ยาวนานกับแบตเตอรี่ 5200mAh รองรับชาร์จเร็วแบบ DualEngine 18W ทั้งหมดที่กล่าวมาแลกกับค่าตัวเพียง 4,590 บาท เดี๋ยวเราไปดูการใช้งานจริงพร้อมๆกันได้เลยครับว่าจะคุ้มค่ามากน้อยขนาดไหน
SPEC Infinix Note 8
หน้าจอแบบ Dual Punch hole พาแนลจอ IPS LCD ขนาด 6.95 นิ้ว ความละเอียด HD+ 720 x 1640 พิกเซล
ชิปประมวลผล CPU MediaTek Helio G80
GPU Mali-G52 MC2
RAM 6 GB
ROM 128 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256 GB
รองรับ 4G LTE 850/900/1900/2100/2600
ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย XOS (Dolphin 7.1)
กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 64+2+2+2 ล้านพิกเซล
ลำโพงคู่ Dual Speakers พร้อมระบบเสียง DTS
ระบบสแกนนิ้วด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคหน้าจอ
WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
แบตเตอรี่ 5200mAh รองรับชาร์จเร็วแบบ DualEngine 18W
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องให้มาครบมาก แทบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม ทั้งหมดจะมีดังนี้
ตัวเครื่อง Infinix Note 8
Adapter รองรับ Fast Charging 18W
สาย USB-C
หูฟัง
เคสใสและฟิมล์ป้องกันหน้าจอ
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
Infinix Note 8 มากับหน้าจอแบบ Dual Punch hole พาแนลจอ IPS LCD ขนาด 6.95 นิ้ว ความละเอียด HD+ 720 x 1640 พิกเซล สัดส่วนหน้าจอ 20.5:9 ค่าความสว่าง 480nit ค่าความคมชัดที่ 1500:1 กระจกแบบ 2.5D หน้าจอถือว่าแสดงผลได้สวยงามดีครับ และมีขนาดใหญ่เหมาะสำหรับการชมคอนเท็นต่างๆ จะดูหนังหรือเล่นเกมนี่เหมาะเลย และหน้าจอจะมีโหมดถนอมสายตามมาให้ ช่วยกรองแสงสีฟ้าลงและมีโหมดกลางคืนมาให้พร้อม
กล้องหน้าคู่เจาะรูบนหน้าจอความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและเลนส์ AI ถัดขอบจอด้านบนจะมีเว็นเซอร์วัดแสง และลำโพงสนทนาและใช้เป็นลำโพงตัวเครื่องเช่นกัน เพราะรุ่นนี้มากับลำโพงคู่ Dual Speakers นั้นเอง
ด้านล่างจะมีไมค์สนทนา / ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. / พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวเครื่อง
ฝั่งขวาจะเป็นตำแหน่งของปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power / ตรงปุ่ม power ใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สามารถปลดล็อคได้ภายในเวลา 0.25 วินาที
ด้านบนจะไม่มีอะไรปล่อยโล่ง
ฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของถาดซิมการ์ด
ถาดซิมแบบ 3 สล็อต ใช้งานได้แบบอิสระ รองรับ 2nanoSIM + 1 MicroSD Card
ฝาหลังวัสดุเป็นพลาสติกเคลือบผิวเงาเพิ่มลูกเล่นของลายนิดหน่อย ดีไซน์แบบ Gem Cut มีความโค้งขอบด้านข้างและบางเพื่อการหยิบจับใช้งานง่าย ด้านหลังจะมีกล้องหลัง 4 เลนส์และไฟแฟลชวางในกรอบสี่เหลี่ยมเดียวกัน
ขนาดตัวเครื่อง 175.30 x 78.80 x 9.00 มม.เมื่อถือในมือ
ระบบปฎิบัติการ
Infinix Note 8 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย XOS (Dolphin 7.1) ทำงานไหลลื่นดีครับ รองรับการใช้งานแอพคู่หรือโคลนแอพด้วย สามารถปรับตั้งค่าปุ่มนำทางจะให้แสดงหรือซ่อนออกจากหน้าจอก็ทำได้ และมี Smart Panel เป็นการเรียกใช้งานด่วนจากขอบจอ แต่ขอแอบบ่นนิดนึง แอปที่ไม่จำเป็นทางผลิตไม่ควรใส่เข้ามาเยอะเลยครับ เช่นเกมเด็กๆที่ใส่มาให้เยอะเกินไปถ้าแก้ไขจุดนี้ได้ถือว่าดีมากๆครับ สำหรับคนขี้เบื่อง่ายเขายังมีธีมสวยๆไว้ให้สับเปลี่ยนด้วยนะครับ
*** ตอนนี้ยังลงแอพ netflix ไม่ได้นะครับ รอการอัพเดทเพิ่มเติม
ประสิทธิภาพการทำงาน
Infinix Note 8 มากับชิปประมวลผล CPU MediaTek Helio G80 / GPU Mali-G52 MC2 ชิปประมวลผลชุดนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะในค่าตัวที่ไม่สูงมากนักแต่ให้ประสิทธิภาพดี
หน่วยความจำ RAM 6 GB / ROM 128 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256 GB
สำหรับการเล่นเกมจะมีโหมดเกมมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขณะเล่นเกมให้ และสำหรับผู้ปกครองนะครับ รุ่นนี้สามารถตั้งค่าระยะเวลาการเล่นเกมได้ด้วยเผื่อต้องการควบคุมเวลาสำหรับน้องๆขณะเล่นเกมครับ น้องๆจะได้รู้จักวินัยในการจัดตารางของเวลา
ทดสอบการเล่นเกมส์ PUBG เล่นได้ไหลลื่นดีเกินราคา แต่ ROV ปรับได้ที่ 30FPS นะครับ
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้าคู่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและอีกเลนส์เป็นเลนส์สำหรับ Portrait Lens โหมดการถ่ายภาพจะมี AI CAM / โหมดบิวตี้ / ถ่ายบุคคล / ถ่าย AR และมีโหมดการถ่ายวีดีโอแบบสั้นมาให้ด้วยนะครับสำหรับการอัพขึ้นโซลเชียลต่างๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า Infinix Note 8
กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera แบ่งการทำงานได้ดังนี้
เลนส์หลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F1.79
เลนส์ macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
เลนส์ depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
เลนส์ AI ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
โหมดการถ่ายภาพหลักๆจะมี AI เข้ามาช่วย และมีโหมดบิวตี้สำหรับการถ่ายบุคคลสามารถถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้ โหมดมาโครระยะการถ่ายที่ 4 ซม. พร้อมโหมดกลางคืน
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด มาโคร จากกล้องหลัง Infinix Note 8
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดบุคคลปรับหน้าสวย (ภาพออกมาค่อนข้างอมแดงพอสมควร)
ภาพถ่ายโหมด AUTO เปิด AI จากกล้องหลัง Infinix Note 8
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดกลางคืน
คุณสมบัติพิเศษ
- ลำโพงคู่ พร้อมระบบเสียง DTS คุณภาพเสียงและความดังของลำโพงถือว่าดีมาก ปรับการทำงานได้ทั้งหมด 4 โหมดคือ สมาร์ท / เพลง / วิดีโอ และเกม ส่วน EQ สามารถปรับเองได้อิสระ
- ระบบ GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วและแม่นยำ
แบตเตอรี่
Infinix Note 8 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 5200mAh เทคโนโลยี Power Marathon Tech Embedded ที่ช่วยให้ระยะการใช้งานของแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น รองรับการชาร์จเร็ว 18W เทคโนโลยี Dual Engine ที่จะช่วยลดอุณหภูมิลงขณะชาร์จแบต
สรุป
Infinix Note 8 ให้สเปคมาถือว่าดีมากๆแทบจะทุกๆด้านในงบค่าตัวเพียง 4,590 บาท ได้ขนาดจอที่ใหญ่ดูเต็มตาสะใจมาก ไม่ว่าจะดูหนัง ท่องโซลเชียลหรือแม้แต่เล่นเกม รุ่นนี้ตอบโจทน์ได้ดีเลยครับ กล้องหน้าและกล้องหลังไว้ใจได้ ไปเที่ยวกลับมาพร้อมได้ภาพสวยๆแน่นอน ระยะใช้งานของแบตเตอรี่ก็ยาวนานหมดกังวลเมื่อนำออกไปใช้งานนอกบ้านทั้งวัน
สำหรับคนงบจำกัด อยากได้สเปคดีๆ เน้นความคุ้มค่าตัวนี้เลยครับไม่ผิดหวัง
[SR] รีวิว Infinix Note 8 สเปคจัดเต็ม จอใหญ่ 6.95" ลำโพงคู่ พร้อมแบต 5200mAh ราคาเพียง 4,590 บาท
ชิปประมวลผล CPU MediaTek Helio G80
GPU Mali-G52 MC2
RAM 6 GB
ROM 128 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256 GB
รองรับ 4G LTE 850/900/1900/2100/2600
ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย XOS (Dolphin 7.1)
กล้องหน้าคู่ ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 64+2+2+2 ล้านพิกเซล
ลำโพงคู่ Dual Speakers พร้อมระบบเสียง DTS
ระบบสแกนนิ้วด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคหน้าจอ
WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
แบตเตอรี่ 5200mAh รองรับชาร์จเร็วแบบ DualEngine 18W
อุปกรณ์ภายในกล่องให้มาครบมาก แทบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม ทั้งหมดจะมีดังนี้
ตัวเครื่อง Infinix Note 8
Adapter รองรับ Fast Charging 18W
สาย USB-C
หูฟัง
เคสใสและฟิมล์ป้องกันหน้าจอ
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
Infinix Note 8 มากับหน้าจอแบบ Dual Punch hole พาแนลจอ IPS LCD ขนาด 6.95 นิ้ว ความละเอียด HD+ 720 x 1640 พิกเซล สัดส่วนหน้าจอ 20.5:9 ค่าความสว่าง 480nit ค่าความคมชัดที่ 1500:1 กระจกแบบ 2.5D หน้าจอถือว่าแสดงผลได้สวยงามดีครับ และมีขนาดใหญ่เหมาะสำหรับการชมคอนเท็นต่างๆ จะดูหนังหรือเล่นเกมนี่เหมาะเลย และหน้าจอจะมีโหมดถนอมสายตามมาให้ ช่วยกรองแสงสีฟ้าลงและมีโหมดกลางคืนมาให้พร้อม
กล้องหน้าคู่เจาะรูบนหน้าจอความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและเลนส์ AI ถัดขอบจอด้านบนจะมีเว็นเซอร์วัดแสง และลำโพงสนทนาและใช้เป็นลำโพงตัวเครื่องเช่นกัน เพราะรุ่นนี้มากับลำโพงคู่ Dual Speakers นั้นเอง
ด้านล่างจะมีไมค์สนทนา / ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. / พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวเครื่อง
ฝั่งขวาจะเป็นตำแหน่งของปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม power / ตรงปุ่ม power ใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สามารถปลดล็อคได้ภายในเวลา 0.25 วินาที
ด้านบนจะไม่มีอะไรปล่อยโล่ง
ฝั่งซ้ายจะเป็นตำแหน่งของถาดซิมการ์ด
ถาดซิมแบบ 3 สล็อต ใช้งานได้แบบอิสระ รองรับ 2nanoSIM + 1 MicroSD Card
ฝาหลังวัสดุเป็นพลาสติกเคลือบผิวเงาเพิ่มลูกเล่นของลายนิดหน่อย ดีไซน์แบบ Gem Cut มีความโค้งขอบด้านข้างและบางเพื่อการหยิบจับใช้งานง่าย ด้านหลังจะมีกล้องหลัง 4 เลนส์และไฟแฟลชวางในกรอบสี่เหลี่ยมเดียวกัน
ขนาดตัวเครื่อง 175.30 x 78.80 x 9.00 มม.เมื่อถือในมือ
ระบบปฎิบัติการ
Infinix Note 8 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย XOS (Dolphin 7.1) ทำงานไหลลื่นดีครับ รองรับการใช้งานแอพคู่หรือโคลนแอพด้วย สามารถปรับตั้งค่าปุ่มนำทางจะให้แสดงหรือซ่อนออกจากหน้าจอก็ทำได้ และมี Smart Panel เป็นการเรียกใช้งานด่วนจากขอบจอ แต่ขอแอบบ่นนิดนึง แอปที่ไม่จำเป็นทางผลิตไม่ควรใส่เข้ามาเยอะเลยครับ เช่นเกมเด็กๆที่ใส่มาให้เยอะเกินไปถ้าแก้ไขจุดนี้ได้ถือว่าดีมากๆครับ สำหรับคนขี้เบื่อง่ายเขายังมีธีมสวยๆไว้ให้สับเปลี่ยนด้วยนะครับ
*** ตอนนี้ยังลงแอพ netflix ไม่ได้นะครับ รอการอัพเดทเพิ่มเติม
ประสิทธิภาพการทำงาน
Infinix Note 8 มากับชิปประมวลผล CPU MediaTek Helio G80 / GPU Mali-G52 MC2 ชิปประมวลผลชุดนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะในค่าตัวที่ไม่สูงมากนักแต่ให้ประสิทธิภาพดี
หน่วยความจำ RAM 6 GB / ROM 128 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256 GB
สำหรับการเล่นเกมจะมีโหมดเกมมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขณะเล่นเกมให้ และสำหรับผู้ปกครองนะครับ รุ่นนี้สามารถตั้งค่าระยะเวลาการเล่นเกมได้ด้วยเผื่อต้องการควบคุมเวลาสำหรับน้องๆขณะเล่นเกมครับ น้องๆจะได้รู้จักวินัยในการจัดตารางของเวลา
ทดสอบการเล่นเกมส์ PUBG เล่นได้ไหลลื่นดีเกินราคา แต่ ROV ปรับได้ที่ 30FPS นะครับ
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้าคู่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและอีกเลนส์เป็นเลนส์สำหรับ Portrait Lens โหมดการถ่ายภาพจะมี AI CAM / โหมดบิวตี้ / ถ่ายบุคคล / ถ่าย AR และมีโหมดการถ่ายวีดีโอแบบสั้นมาให้ด้วยนะครับสำหรับการอัพขึ้นโซลเชียลต่างๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า Infinix Note 8
กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera แบ่งการทำงานได้ดังนี้
เลนส์หลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F1.79
เลนส์ macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
เลนส์ depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
เลนส์ AI ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
โหมดการถ่ายภาพหลักๆจะมี AI เข้ามาช่วย และมีโหมดบิวตี้สำหรับการถ่ายบุคคลสามารถถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้ โหมดมาโครระยะการถ่ายที่ 4 ซม. พร้อมโหมดกลางคืน
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด มาโคร จากกล้องหลัง Infinix Note 8
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดบุคคลปรับหน้าสวย (ภาพออกมาค่อนข้างอมแดงพอสมควร)
ภาพถ่ายโหมด AUTO เปิด AI จากกล้องหลัง Infinix Note 8
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดกลางคืน
คุณสมบัติพิเศษ
- ลำโพงคู่ พร้อมระบบเสียง DTS คุณภาพเสียงและความดังของลำโพงถือว่าดีมาก ปรับการทำงานได้ทั้งหมด 4 โหมดคือ สมาร์ท / เพลง / วิดีโอ และเกม ส่วน EQ สามารถปรับเองได้อิสระ
- ระบบ GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วและแม่นยำ
แบตเตอรี่
Infinix Note 8 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 5200mAh เทคโนโลยี Power Marathon Tech Embedded ที่ช่วยให้ระยะการใช้งานของแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น รองรับการชาร์จเร็ว 18W เทคโนโลยี Dual Engine ที่จะช่วยลดอุณหภูมิลงขณะชาร์จแบต
สรุป
Infinix Note 8 ให้สเปคมาถือว่าดีมากๆแทบจะทุกๆด้านในงบค่าตัวเพียง 4,590 บาท ได้ขนาดจอที่ใหญ่ดูเต็มตาสะใจมาก ไม่ว่าจะดูหนัง ท่องโซลเชียลหรือแม้แต่เล่นเกม รุ่นนี้ตอบโจทน์ได้ดีเลยครับ กล้องหน้าและกล้องหลังไว้ใจได้ ไปเที่ยวกลับมาพร้อมได้ภาพสวยๆแน่นอน ระยะใช้งานของแบตเตอรี่ก็ยาวนานหมดกังวลเมื่อนำออกไปใช้งานนอกบ้านทั้งวัน
สำหรับคนงบจำกัด อยากได้สเปคดีๆ เน้นความคุ้มค่าตัวนี้เลยครับไม่ผิดหวัง
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้