หุ้นสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันขยับลง ส่วนทองคำแตะค่าสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 15 มี.ค. 2564 ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 174.82 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 32,953.46 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น 25.60 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 3,968.94 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก พุ่งขึ้น 139.84 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 13,459.71 จุด
วอลล์สตรีทปรับตัวสูงขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มสายการบิน โดยได้แรงหนุนจากการกระจายวัคซีนในสหรัฐฯ และการอนุมัติแพ็กเกจกระตุ้นเยียวยาโควิดของสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น ธนาคาร, พลังงาน และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพิ่มสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะประชุมนโยบาย 2 วันในวันอังคารกับวันพุธนี้ โดยคาดหวังว่า เฟดจะทำนายให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตเร็วที่สุดในรอบหลายสิบปีในปี 2564 นี้ และคงนโยบายสายพิราบต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้
ด้านราคาน้ำมันดิบ ลดลงในวันจันทร์ เนื่องจากผู้ค้ากำลังชั่งน้ำหนักระหว่างแนวโน้มความต้องการพลังงาน ในขณะที่ชาติยุโรปเริ่มรายานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น และข่าวที่หลายประเทศระงับใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา แต่ข้อมูลจากประเทศจีนที่ชี้ว่า ผลิตอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกในประเทศเพิ่มสูงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ จำกัดไม่ให้ราคาลดลงมากนัก
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 0.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.3% ไปอยู่ที่ 65.39 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 0.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.65% ปิดที่ 69.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์สู่ค่าสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะ 10 ปี ลดลงเล็กน้อย แต่ทองเพิ่มไม่มากนัก เพราะเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,729.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มากที่สุดนับตั้งแต่ 2 มี.ค.
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2050932
ดาวโจนส์นิวไฮ น้ำมันลง-ทองสูงสุดรอบ 2 วีค
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 15 มี.ค. 2564 ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 174.82 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 32,953.46 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น 25.60 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 3,968.94 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก พุ่งขึ้น 139.84 จุด หรือ 1.05% ปิดที่ 13,459.71 จุด
วอลล์สตรีทปรับตัวสูงขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มสายการบิน โดยได้แรงหนุนจากการกระจายวัคซีนในสหรัฐฯ และการอนุมัติแพ็กเกจกระตุ้นเยียวยาโควิดของสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น ธนาคาร, พลังงาน และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพิ่มสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะประชุมนโยบาย 2 วันในวันอังคารกับวันพุธนี้ โดยคาดหวังว่า เฟดจะทำนายให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตเร็วที่สุดในรอบหลายสิบปีในปี 2564 นี้ และคงนโยบายสายพิราบต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้
ด้านราคาน้ำมันดิบ ลดลงในวันจันทร์ เนื่องจากผู้ค้ากำลังชั่งน้ำหนักระหว่างแนวโน้มความต้องการพลังงาน ในขณะที่ชาติยุโรปเริ่มรายานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น และข่าวที่หลายประเทศระงับใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา แต่ข้อมูลจากประเทศจีนที่ชี้ว่า ผลิตอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกในประเทศเพิ่มสูงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ จำกัดไม่ให้ราคาลดลงมากนัก
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 0.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.3% ไปอยู่ที่ 65.39 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 0.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.65% ปิดที่ 69.63 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์สู่ค่าสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะ 10 ปี ลดลงเล็กน้อย แต่ทองเพิ่มไม่มากนัก เพราะเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,729.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มากที่สุดนับตั้งแต่ 2 มี.ค.
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2050932