อันนี้เป็นเรื่องของคุณแม่นะคะ พอดีท่านแก่แล้ว และเล่นเน็ตไม่เป็น เลยเข้ามาถามแทนให้
เรื่องของครอบครัวคุณแม่ค่อนข้างซับซ้อนนิดหน่อยดังนี้ค่ะ
คุณยายที่เสียชีวิตไปแล้ว มีลูกทั้งหมด 5 คน (คุณแม่เป็นคนสุดท้อง อายุห่างจากพี่ๆ เกือบจะเป็นลูกหลง)
คุณยายมีที่ดินผืนนึงอยู่ที่ต่างจังหวัดขนาดใหญ่พอสมควร
พอคุณยายเสียชีวิต โฉนดที่ดินนี้ก็ใช้ชื่อของลูกทั้ง 5 คน
พยายามประกาศขายมานาน แต่เนื่องจากเป็นที่ดินแปลงใหญ่ จึงยังขายไม่ออกมานานหลายปี
พอเวลาผ่านไป...ลูกแต่ละคนก็ทยอยแก่ตายไปทั้งหมด 3 คน
จนตอนนี้ เหลือแค่ 2 คน คือ คุณแม่ อายุ 70 กับ พี่สาว อายุ 85 (เป็นอัมพฤกษ์ เดินไม่ได้ และ หูตึง)
ปัญหาคือ 1 ในพี่ที่เสียชีวิตไป เป็นคุณลุง ที่เป็นหม้ายตั้งแต่หนุ่มๆและแยกตัวออกไปจากครอบครัว
แต่ท่านไม่ค่อยติดต่อพี่น้อง และไม่ค่อยมีใครทราบเรื่องชีวิตส่วนตัวของคุณลุงหลังจากนั้น
ว่าท่านไปมีภรรยาใหม่ จดทะเบียน หรือ มีลูกที่ไหน อย่างไร หรือไปมีหนี้บ้างหรือเปล่า
ทางครอบครัวทราบแค่ว่า คุณลุงมีฐานะร่ำรวย มีชีวิตสุขสบายพอสมควร มีอดีตเลขาดูแล (ไม่แน่ใจเรื่องความสัมพันธ์ลึกซึ้ง?)
ซึ่งช่วงงานศพของคุณลุง ก็มีบุคคลปริศนา โผล่มามากมาย ที่ทางครอบครัวไม่รู้จัก
มีหญิงแก่พาหญิงสาวคนหนึ่งมา อ้างตัวเป็นลูกสาว แต่ไม่มีเอกสารอะไรมายืนยัน
แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีขับไล่หรือเป็นปฏิปักษ์ ก็ให้มานั่งฟังสวดปกติ เพราะทางญาติๆก็ยังงงๆ ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
หลังจากพ้นงานศพ ทุกอย่างเงียบเชียบ
มีแปลกตรงที่ใบมรณะบัตรของคุณลุงลงสถานภาพสมรสว่า "สมรส" (คนแจ้งคืออดีตเลขา)
ปัญหาที่สองเริ่มเกิด เมื่อทายาทคนหนึ่ง ที่มีส่วนในมรดกที่ดินนี้ มีปัญหาหนี้สิน
ซึ่งอาจกระทบต่อการที่ ที่ดินทั้งผืนนี้ จะถูกอายัติทั้งผืน
ทางครอบครัวจึงมาคุยกันว่า ไหนๆผืนใหญ่ก็ขายไม่ออกมาหลายปีแล้ว
เราควรแบ่งที่ดินเป็น 5 ส่วนไปเลย ต่างคนต่างขาย บ้านไหนไม่อยากขายก็ไม่ต้องขาย
ซึ่งตัวแทนทุกครอบครัวก็โอเคหมด
เหลือแค่ที่ดินที่ส่วนที่เป็นชื่อของคุณลุงคนดังกล่าวข้างบน ซึ่งยังไม่สามารถทำอะไรได้ จนกว่าจะมีผู้แทนทางกฎหมาย
จึงนำไปสู่การปรึกษากันในครอบครัว โดยมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นทนายคนหนึ่งแนะนำว่า
โดยปกติแล้ว เวลายื่นเรื่องชื่อใครไป ศาลจะพิจารณาจากชั้นพี่น้องก่อน ซึ่ง ตอนนี้เหลือแค่ 2 คน คือ คุณแม่ กับ คุณป้า
ซึ่งถ้าเรียกไปสัมภาษณ์ จากสภาพคุณป้าแล้ว (อัมพฤกษ์ + หูตึง) แม่ก็คงจะดูเหมาะกว่า
แต่ปัญหาค่อนข้างกวนใจของเรามีดังนี้ค่ะ
1. เราไปอ่านมา ว่าหลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว จะต้องจัดทำบัญชีทรัพย์สินของผู้ตายให้เสร็จภายใน 1 เดือน (ซึ่งอาจขอขยายเวลาได้) แต่ในกรณีที่คุณแม่เราไม่รู้เรื่องทรัพย์สินอะไรของตุณลุงเลย นอกจากส่วนแบ่งในที่ดินผืนดังกล่าว ควรทำไงคะ?
2. เห็นว่า หน้าที่ของผู้จัดการมรดกจะสิ้นสุด ก็ต่อเมื่อ มีการจัดสรรแบ่งมรดกให้แก่ทายาท เสร็จสิ้นแล้ว และนับต่อไปอีกเป็นเวลา 5 ปี ถึงจะหมดอายุความ ซึ่งในกรณีนี้ เท่าที่ทราบ คุณลุงไม่มีทายาท (หญิงสาวที่อ้างตัวเป็นลูก คนที่โผล่มาในงานศพ หายไปเลย ไม่ติดต่อมาอีก และไม่เคยให้ช่องทางติดต่อไว้) อย่างนี้จะนับการเสร็จสิ้นการแบ่งมรดกเป็นวันไหนคะ?
รบกวนผู้รู้ทั้งหลายโปรดเมตตาด้วยนะคะ เราไม่มีความรู้พวกนี้เลยค่ะ
เลยกังวลมาก และเป็นเรื่องของคุณแม่ ที่เราต้องคอยช่วยเหลืออีก
กราบขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้านะคะ
ต้องเป็นผู้จัดการมรดกให้กับพี่ชายแท้ๆที่เสียชีวิต แต่ไม่รู้ข้อมูลทรัพย์สินและชีวิตส่วนตัวอื่นๆของพี่ชาย ทำไงดีคะ?
เรื่องของครอบครัวคุณแม่ค่อนข้างซับซ้อนนิดหน่อยดังนี้ค่ะ
คุณยายที่เสียชีวิตไปแล้ว มีลูกทั้งหมด 5 คน (คุณแม่เป็นคนสุดท้อง อายุห่างจากพี่ๆ เกือบจะเป็นลูกหลง)
คุณยายมีที่ดินผืนนึงอยู่ที่ต่างจังหวัดขนาดใหญ่พอสมควร
พอคุณยายเสียชีวิต โฉนดที่ดินนี้ก็ใช้ชื่อของลูกทั้ง 5 คน
พยายามประกาศขายมานาน แต่เนื่องจากเป็นที่ดินแปลงใหญ่ จึงยังขายไม่ออกมานานหลายปี
พอเวลาผ่านไป...ลูกแต่ละคนก็ทยอยแก่ตายไปทั้งหมด 3 คน
จนตอนนี้ เหลือแค่ 2 คน คือ คุณแม่ อายุ 70 กับ พี่สาว อายุ 85 (เป็นอัมพฤกษ์ เดินไม่ได้ และ หูตึง)
ปัญหาคือ 1 ในพี่ที่เสียชีวิตไป เป็นคุณลุง ที่เป็นหม้ายตั้งแต่หนุ่มๆและแยกตัวออกไปจากครอบครัว
แต่ท่านไม่ค่อยติดต่อพี่น้อง และไม่ค่อยมีใครทราบเรื่องชีวิตส่วนตัวของคุณลุงหลังจากนั้น
ว่าท่านไปมีภรรยาใหม่ จดทะเบียน หรือ มีลูกที่ไหน อย่างไร หรือไปมีหนี้บ้างหรือเปล่า
ทางครอบครัวทราบแค่ว่า คุณลุงมีฐานะร่ำรวย มีชีวิตสุขสบายพอสมควร มีอดีตเลขาดูแล (ไม่แน่ใจเรื่องความสัมพันธ์ลึกซึ้ง?)
ซึ่งช่วงงานศพของคุณลุง ก็มีบุคคลปริศนา โผล่มามากมาย ที่ทางครอบครัวไม่รู้จัก
มีหญิงแก่พาหญิงสาวคนหนึ่งมา อ้างตัวเป็นลูกสาว แต่ไม่มีเอกสารอะไรมายืนยัน
แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีขับไล่หรือเป็นปฏิปักษ์ ก็ให้มานั่งฟังสวดปกติ เพราะทางญาติๆก็ยังงงๆ ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
หลังจากพ้นงานศพ ทุกอย่างเงียบเชียบ
มีแปลกตรงที่ใบมรณะบัตรของคุณลุงลงสถานภาพสมรสว่า "สมรส" (คนแจ้งคืออดีตเลขา)
ปัญหาที่สองเริ่มเกิด เมื่อทายาทคนหนึ่ง ที่มีส่วนในมรดกที่ดินนี้ มีปัญหาหนี้สิน
ซึ่งอาจกระทบต่อการที่ ที่ดินทั้งผืนนี้ จะถูกอายัติทั้งผืน
ทางครอบครัวจึงมาคุยกันว่า ไหนๆผืนใหญ่ก็ขายไม่ออกมาหลายปีแล้ว
เราควรแบ่งที่ดินเป็น 5 ส่วนไปเลย ต่างคนต่างขาย บ้านไหนไม่อยากขายก็ไม่ต้องขาย
ซึ่งตัวแทนทุกครอบครัวก็โอเคหมด
เหลือแค่ที่ดินที่ส่วนที่เป็นชื่อของคุณลุงคนดังกล่าวข้างบน ซึ่งยังไม่สามารถทำอะไรได้ จนกว่าจะมีผู้แทนทางกฎหมาย
จึงนำไปสู่การปรึกษากันในครอบครัว โดยมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นทนายคนหนึ่งแนะนำว่า
โดยปกติแล้ว เวลายื่นเรื่องชื่อใครไป ศาลจะพิจารณาจากชั้นพี่น้องก่อน ซึ่ง ตอนนี้เหลือแค่ 2 คน คือ คุณแม่ กับ คุณป้า
ซึ่งถ้าเรียกไปสัมภาษณ์ จากสภาพคุณป้าแล้ว (อัมพฤกษ์ + หูตึง) แม่ก็คงจะดูเหมาะกว่า
แต่ปัญหาค่อนข้างกวนใจของเรามีดังนี้ค่ะ
1. เราไปอ่านมา ว่าหลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว จะต้องจัดทำบัญชีทรัพย์สินของผู้ตายให้เสร็จภายใน 1 เดือน (ซึ่งอาจขอขยายเวลาได้) แต่ในกรณีที่คุณแม่เราไม่รู้เรื่องทรัพย์สินอะไรของตุณลุงเลย นอกจากส่วนแบ่งในที่ดินผืนดังกล่าว ควรทำไงคะ?
2. เห็นว่า หน้าที่ของผู้จัดการมรดกจะสิ้นสุด ก็ต่อเมื่อ มีการจัดสรรแบ่งมรดกให้แก่ทายาท เสร็จสิ้นแล้ว และนับต่อไปอีกเป็นเวลา 5 ปี ถึงจะหมดอายุความ ซึ่งในกรณีนี้ เท่าที่ทราบ คุณลุงไม่มีทายาท (หญิงสาวที่อ้างตัวเป็นลูก คนที่โผล่มาในงานศพ หายไปเลย ไม่ติดต่อมาอีก และไม่เคยให้ช่องทางติดต่อไว้) อย่างนี้จะนับการเสร็จสิ้นการแบ่งมรดกเป็นวันไหนคะ?
รบกวนผู้รู้ทั้งหลายโปรดเมตตาด้วยนะคะ เราไม่มีความรู้พวกนี้เลยค่ะ
เลยกังวลมาก และเป็นเรื่องของคุณแม่ ที่เราต้องคอยช่วยเหลืออีก
กราบขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้านะคะ