คือคบกันมา 7 ปีแล้ว แฟนหาเงินได้เดือนละ 5 หมื่น จ่ายนั่นนี่ภาระที่บ้านเขาก็เหลือหมื่นสองหมื่น แต่คือจะชอบทะเลาะกันเรื่องเงินตลอด เพราะ เขาเคยสัญญาว่าจะซื้อนาฬิกาให้ เพราะเห็นเราอยากได้ เรือนก็ตกพันกว่านิดๆ แต่ก็เกือบปี เขาก็จำได้ ก็จะบอกซ้ำๆเดี๋ยวเงินเหลือจะซื้อให้ เขาเป็นคนชอบดื่ม ชอบซื้อรองเท้าของแต่งตัว ระหว่างคบกัน เวลาเราอยากกินหมูกะทะหรือชาบูบ่อยๆแบบถ้าเดือนนึงประมาณ 2-3 ครั้ง เขาจะบอกว่าเขาไม่ไหว ให้เราช่วยออกคนละครึ่ง บางทีเวลากินอะไรก็ให้ช่วยออก เราบางทีก็ไม่คิดอะไร แต่คือบางทีเราเรียนอยู่ก็ไม่ได้ทำงานมีรายได้ ก็แอบคิดน้อยใจ เขาจะบอกเสมอว่า ถ้าเรียนจบให้เราหางานทำให้ได้สัก 15,000 ขึ้นไปจะได้มีรายได้ร่วมกันและช่วยอะไรเขาได้บ้าง 
    วันนี้ทะเลาะกัน เพราะเขาพูดเรื่องว่าเขาเงินเดือนเยอะกว่าอาชีพนั้นนี้ เราก็เลยพูดเล่นไปว่า ขอตังหน่อย ไหนบอกจะซื้อนาฬิกาให้ เขาก็พูดแบบหงุดหงิด ว่าเงินเขาหามาเขาก็ต้องใช้เอง ขนาดเขายังไม่ได้ซื้ออะไรที่ตัวเองอยากได้จนครบ (ประมาณว่าซื้อแค่รองเท้าประมาณพันสองพัน)จะให้เอามาซื้อของให้เราก่อนคงไม่ใช่ ตลอดเวลาที่ผ่านมามันหลายครั้งแล้วที่ต้องทะเลาะกันเรื่องนี้
       เรื่องเงินแบบนี้มันหลายครั้งมาก จนทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราเป็นภาระของเขา รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก ตอนนี้เริ่มคิดแล้วว่าที่เขาเคยพูดว่าเดี๋ยวเรียนจบจะขอเราแต่งงาน เราคงมีความไม่มั่นใจเริ่มชัดเจนขึ้นแล้ว ถ้าหากวันนึงเราเป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วเราหาเงินได้น้อย หรือวันนึงที่เรามีลูก แล้วอาจจะหาเงินเข้าบ้านไม่ได้ หรือถ้าลูกคลอดออกมา เราจะเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบคนเดียวรึเปล่า เพราะเขาพูดให้คิดเสมอ ไม่ว่าจะไม่ให้ยุ่งเรื่องเงินของเขา เราต้องมีรายได้เท่านั้นเท่านี้ เขาจะต้องตอบสนองความต้องการตัวเองก่อนเสมอ บางครั้งเรามีเงิน 100 ใช้ให้ถึงสิ้นเดือนเขายังให้เราจ่ายค่าข้าว (ที่ทำให้คิดเพราะ ตอนคบกันปีแรกๆที่เขายังเรียนอยู่ เขาเงินไม่พอแล้วไปยืมเพื่อน เราว่าเขาแล้วให้เขาเอาเงินเราไปเอง เราจะพูดเสมอว่า แบ่งกันใช้ไปก่อน และเขาก็จะพูดขอบคุณเรา และบอกว่ารอเขามีเงินทำงาน เขาจะไม่ให้เราต้องลำบาก จะพาไปกินของที่อยากกิน ) พอคิดถึงเรื่องนั้นทีไร ทำให้เราคิดมากทุกที ว่าเราคิดมากไป หรือว่าเขาที่รักตัวเองมากกว่า