สวัสดีค่าทุกคน เราเชื่อว่าเรื่องขนๆ เป็นปัญหาหนักใจของสาวๆ หลายคน โดยเฉพาะขนจักแร้ ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหน ก็คงอยากจะกำจัดออกไปให้สิ้นซาก ก้อยเองก็ลองมาหลายวิธีแล้วตั้งแต่สมัยเริ่มแตกสาว ทั้งถอน ทั้งโกน ทั้ง Wax พอเรียนจบก็ลองหันมาพึ่งการเลเซอร์ ซึ่งเราชอบการเลเซอร์ที่สุดเลย เพราะเหมือนเป็นการกำจัดขนถึงรากถึงโคน ช่วงต้นปีที่แล้วเสียเงินลงคอร์สกำจัดขนเป็นหมื่น ยังไม่ทันจะทำจบคอร์สก็มาติดเรื่องโควิด ทำให้เราไม่ได้ไปทำเลเซอร์กำจัดขนต่อ เลยเป็นที่มาของการศึกษาหาข้อมูลเครื่องกำจัดขนที่เราใช้เองที่บ้านได้ เพราะทนไม่ไหวจริงจัง คลินิกปิด จะไปหาทำได้ยังไง ฮืออออ
และกลายเป็นว่าเราชอบใช้เครื่องกำจัดขนด้วยตัวเองมากเลยนะ คือถ้าไม่นับเรื่องความสบายที่มีคนมาเลเซอร์ให้ในคลินิกอ่ะ ส่วนตัวคิดว่ามีไว้ใช้เองคุ้มกว่ามาก เพราะเราสามารถหยิบมาเลเซอร์ขนได้ทุกส่วน!! ทั่วร่างกาย อยากจะทำเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องขับรถออกไปให้เหนื่อย ไม่ต้องจัดคิวหรือนัดคิวให้ยุ่งยาก คือไอเลิฟวิถีนี้มาก และเครื่องที่เราใช้อยู่ก็เวิร์คมากๆ ด้วย
เราใช้เครื่องกำจัดขนของ Braun IPL Silk Expert Pro 5 รุ่น IPL 5124 นางใช้งานง่ายมากกกกก เบิกเนตรเรามาก ว่าอันที่จริงเราเองก็กำจัดขนง่ายๆ ด้วยตัวเองแบบนี้ได้นี่น่า เพราะอุปกรณ์เค้าให้เรามาครบยันกระเป๋าเก็บอุปกรณ์ แล้วกระเป๋าก็คือสวย!! (ขอเสียงแบบน้องมิลลิ) สีสวย เนื้อสัมผัสดี วัสดุเรียบหรูดูแพง กว่าจะตัดสินใจสอยมาก็คิดคะนึงเยอะแหละ แต่เราว่ามันคุ้มค่าที่จะสอยมา
อุปกรณ์ที่เค้าให้มาก็จะประมาณนี้ อุปกรณ์ทุกอย่างสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าใบนี้ใบเดียวได้เลย ไม่ต้องมีกระเป๋าหรือถุงแยกอะไรให้วุ่นวาย คือสามารถพกพาไปที่อื่นๆ ได้ด้วย เผื่อวันไหนต้องไปตจว.นานๆ หรือเพื่อนจะยืมใช้อะไรแบบเนี่ย คือพกได้สบายๆ
อุปกรณ์ก็มี
1. เครื่อง IPL ที่เป็นหัวใจหลักของเรา มีแสงแฟลช 400,000 ช็อต
2. ใบมีดโกนและด้ามมือจับของ Gillette Venus (ซึ่งเรายังไม่ได้ใช้นะ ใช้มีดโกนง่อยๆ อยู่ แต่เราจะแกะใช้วันนี้แหละ เลยเอามาถ่ายรูปทำรีวิวให้สวยๆ ก่อน)
3. หัวครอบ 2 ขนาด ขนาดเล็ก สำหรับพื้นที่บริเวณเล็ก ขนาดใหญ่ สำหรับพื้นที่บริเวณกว้าง
4. กระเป๋าใส่อุปกรณ์
ข้อดีของเครื่อง IPL รุ่นนี้คือ เค้ามีระบบ SensoAdapt เมื่อเวลาที่เราแนบหัวครอบสนิทกับผิว ถ้าหัวเครื่องไม่แนบสนิทกับผิวดี เครื่องจะขึ้นเป็นแถบสีแดง และไม่สามารถกดยิงเลเซอร์ได้ แต่ถ้าเครื่องแนบสนิทกับผิว 100% เครื่องจะขึ้นไฟสีขาว โดยตัวเครื่องจะมีการปรับความเข้มข้นของแสง 10 ระดับให้เหมาะกับสีผิวของแต่ละบุคคลโดยอัตโนมัติ เราชอบเทคโนโลยีตรงนี้มาก เพราะเครื่องสามารถอ่านค่าสีผิวของเราในแต่ละจุดเพื่อปล่อยแสงแฟลชได้เหมาะกับการใช้งานในผิวส่วนต่างๆ ของเรา โดยที่เราไม่ต้องมานั่งกังวลว่าผิวเราจะไหม้รึเปล่า ผิวจะแดงหลังทำมั้ย ซึ่งบอกตามตรงว่า เราเคยทำเลเซอร์มาหลายๆ ที่ เคยเจอบางที่ทำผิวเราไหม้ ทำผิวเราแดงไปหลายวัน ก็แอบกังวลอยู่ว่าถ้าทำเองแล้วจะรอดมั้ย แต่พอได้รู้ว่ารุ่นนี้เค้ามีระบบอ่านค่าของแสงแฟลชเองได้แบบนี้ เราเลยแฮปปี้ รู้สึกปลอดภัยมาก ตามที่ข้างกล่องบอกไว้เลยว่าผ่านการทดสอบ clinical tested แล้วว่าปลอดภัยจริง
และวิธีใช้ก็ง่ายมาก ไม่ยุ่งยาก คล้ายๆ กับที่เราเคยไปทำที่คลินิกแหละ ขั้นแรกก็ให้เราโกนขนในส่วนที่เราจะทำการเลเซอร์ทิ้งให้หมดก่อน เพื่อให้แสง IPL ทำงานไปถึงรากถึงโคนของเส้นขน
จากนั้นก็เสียบสายแบนๆ อันนี้ต่อกับเครื่อง Power Supply และก็เสียบไฟบ้านได้ตามปกติเลย
กดค้างที่ปุ่มขนนกประมาณ 3-4 วินาที เครื่องจะเริ่มทำงาน โดยสังเกตได้จากตัวเครื่องจะมีไฟขึ้น 3 จุด มีแสงที่หัวเครื่อง และมีเสียงเป่าลมเบาๆ
เราสามารถปรับระดับความอ่อนโยนของแสงแฟลชได้ 3 ระดับนะ โดนกดที่ปุ่มขนนก กดแล้วปล่อย ไม่ต้องกดค้าง
ไฟ 3 จุด คือพลังงานระดับสูง เหมาะใช้กับบริเวณแขนหรือขา
ไฟ 2 จุด คือพลังงานระดับกลาง เหมาะใช้กับใต้วงแขน หรือผู้ที่เริ่มใช้งานใหม่ๆ
ไฟ 1 จุด คือพลังงานระดับต่ำ เหมาะสำหรับใช้ในจุดที่อ่อนโยนเป็นพิเศษ เช่นผิวหน้า บิกินี่โซน หรือคนที่มีผิวบาง หรือผิวบอบบางแพ้ง่าย
วันนี้เราเลเซอร์ขนแขนให้ดู เราเลยใช้หัวเลเซอร์ขนาดใหญ่ เพราะเหมาะกับบริเวณที่มีขนาดกว้าง และใช้ระบบยิงแบบกดแล้วปล่อยทีละครั้ง ซึ่งในเครื่องนี้เค้ามีระบบการยิงแบบต่อเนื่องด้วยนะ คือกดค้างแล้วปล่อยให้เลเซอร์ยิงอัตโนมัติ เราเพียงแค่ลากตัวเครื่องไปตามผิวของเรา แต่ก้อยแขนเล็กมาก เครื่องจะไม่แนบสนิทกับผิวแบบสม่ำเสมอ และใช้แบบลากไม่ถนัด เลยใช้แบบกดแล้วปล่อยจะง่ายกว่ามาก
กดบริเวณพื้นที่สีขาวตรงนี้นะ
ช่วงเลเซอร์แรกๆ ที่เราได้ใช้งานเครื่องนี้ บอกตามตรงว่าแอบสะดุ้งเล็กน้อย เหมือนมีใครใช้หนังยางมาดีดใส่เบาๆ และก็รู้สึกอุ่นๆ ได้กลิ่นไหม้เล็กๆจากการที่เราโกนขนไม่หมด (ใครจะทำต้องโกนขนให้หมดก่อนนะ) ทำไปเรื่อยๆ จะรู้สึกชิน และแอบรู้สึกสนุกดี 5555+ ใช้เวลาไม่นานเราก็เลเซอร์เสร็จทั้ง 2 แขน ให้ดูผิวหลังการเลเซอร์เสร็จ จะเห็นว่าผิวไม่ไหม้ ผิวไม่แดง แต่ผิวเราอาจจะแห้งหน่อย ตามปกติของเราเลเซอร์ที่ต้องใช้ความร้อน
แนะนำว่าเมื่อเลเซอร์เสร็จเรียบร้อย ให้เราใช้โลชั่นอโรเวลามาทาบางๆ ให้ผิวชุ่มชื้น เว้นการอาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น และงดสครับผิวในช่วง 2-3 วันนี้ คือจริงๆ เราก็จำมาจากคอร์สเลเซอร์ที่เราเคยไปทำมานั่นแหละ หลายๆ ที่แนะนำให้ทำแบบนี้เหมือนกัน เราก็นำมาปรับใช้ต่อเลย
(ก่อนทำ - หลังทำทันที)
สำหรับการ IPL ที่บ้านด้วยเครื่องนี้ ควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือนขึ้นไปก็จะเห็นผลชัดขึ้นว่าขนเกิดใหม่บางลงเรื่อยๆ
ถ้าใครกลัวลืมวันที่ครบรอบเลเซอร์ เค้ามี Application สำหรับเจ้าเครื่องนี้ด้วยนะ ชื่อ Braun silk expert pro โหลดใช้ได้ทั้ง IOS และ Android อย่างเราก็คือตั้งเตือนไว้ทุกอาทิตย์กันพลาด เพราะเป็นคนขี้ลืมมากจริงๆ บอกเลยว่าคุ้มค่าคุ้มกับสิ่งที่ได้จริงๆ จัดการขนได้ทั่วทั้งตัว อยากกำจัดขนตรงไหน ก็แค่หยิบมาเลเซอร์ผิวตรงนั้น ถ้าคิดราคาที่เราต้องเสียเงินในคลินิกต่างๆ แบบทำทั่วร่างกายเลยนะ ต่อให้เป็นโปรแบบบุฟเฟ่ต์ คิดแบบเร็วๆ ยังไงมีเครื่อง IPL ไว้เลเซอร์ขนด้วยตัวเองที่บ้านก็คุ้มค่ากว่ามากจริงๆ เครื่องนึงก็ใช้ได้เป็นสิบปีเลย ที่ชอบอีกอย่างคือ เค้ารับประกันตัวเครื่อง 2 ปี ถ้าเครื่องมีปัญหาเค้าจะเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ให้เลย ไม่มีการส่งซ่อม แค่ต้องเก็บใบรับประกันสินค้าไว้ เอาจริง ถึงแม้ว่าเราจะใช้แค่ 2 ปีก็รู้สึกว่าคุ้มราคาที่ซื้อมาแล้วนะ จริงๆ
[CR] กำจัดขนด้วยตัวเองที่บ้าน คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม | KoiOnusa
และกลายเป็นว่าเราชอบใช้เครื่องกำจัดขนด้วยตัวเองมากเลยนะ คือถ้าไม่นับเรื่องความสบายที่มีคนมาเลเซอร์ให้ในคลินิกอ่ะ ส่วนตัวคิดว่ามีไว้ใช้เองคุ้มกว่ามาก เพราะเราสามารถหยิบมาเลเซอร์ขนได้ทุกส่วน!! ทั่วร่างกาย อยากจะทำเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องขับรถออกไปให้เหนื่อย ไม่ต้องจัดคิวหรือนัดคิวให้ยุ่งยาก คือไอเลิฟวิถีนี้มาก และเครื่องที่เราใช้อยู่ก็เวิร์คมากๆ ด้วย
เราใช้เครื่องกำจัดขนของ Braun IPL Silk Expert Pro 5 รุ่น IPL 5124 นางใช้งานง่ายมากกกกก เบิกเนตรเรามาก ว่าอันที่จริงเราเองก็กำจัดขนง่ายๆ ด้วยตัวเองแบบนี้ได้นี่น่า เพราะอุปกรณ์เค้าให้เรามาครบยันกระเป๋าเก็บอุปกรณ์ แล้วกระเป๋าก็คือสวย!! (ขอเสียงแบบน้องมิลลิ) สีสวย เนื้อสัมผัสดี วัสดุเรียบหรูดูแพง กว่าจะตัดสินใจสอยมาก็คิดคะนึงเยอะแหละ แต่เราว่ามันคุ้มค่าที่จะสอยมา
อุปกรณ์ที่เค้าให้มาก็จะประมาณนี้ อุปกรณ์ทุกอย่างสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าใบนี้ใบเดียวได้เลย ไม่ต้องมีกระเป๋าหรือถุงแยกอะไรให้วุ่นวาย คือสามารถพกพาไปที่อื่นๆ ได้ด้วย เผื่อวันไหนต้องไปตจว.นานๆ หรือเพื่อนจะยืมใช้อะไรแบบเนี่ย คือพกได้สบายๆ
อุปกรณ์ก็มี
1. เครื่อง IPL ที่เป็นหัวใจหลักของเรา มีแสงแฟลช 400,000 ช็อต
2. ใบมีดโกนและด้ามมือจับของ Gillette Venus (ซึ่งเรายังไม่ได้ใช้นะ ใช้มีดโกนง่อยๆ อยู่ แต่เราจะแกะใช้วันนี้แหละ เลยเอามาถ่ายรูปทำรีวิวให้สวยๆ ก่อน)
3. หัวครอบ 2 ขนาด ขนาดเล็ก สำหรับพื้นที่บริเวณเล็ก ขนาดใหญ่ สำหรับพื้นที่บริเวณกว้าง
4. กระเป๋าใส่อุปกรณ์
ข้อดีของเครื่อง IPL รุ่นนี้คือ เค้ามีระบบ SensoAdapt เมื่อเวลาที่เราแนบหัวครอบสนิทกับผิว ถ้าหัวเครื่องไม่แนบสนิทกับผิวดี เครื่องจะขึ้นเป็นแถบสีแดง และไม่สามารถกดยิงเลเซอร์ได้ แต่ถ้าเครื่องแนบสนิทกับผิว 100% เครื่องจะขึ้นไฟสีขาว โดยตัวเครื่องจะมีการปรับความเข้มข้นของแสง 10 ระดับให้เหมาะกับสีผิวของแต่ละบุคคลโดยอัตโนมัติ เราชอบเทคโนโลยีตรงนี้มาก เพราะเครื่องสามารถอ่านค่าสีผิวของเราในแต่ละจุดเพื่อปล่อยแสงแฟลชได้เหมาะกับการใช้งานในผิวส่วนต่างๆ ของเรา โดยที่เราไม่ต้องมานั่งกังวลว่าผิวเราจะไหม้รึเปล่า ผิวจะแดงหลังทำมั้ย ซึ่งบอกตามตรงว่า เราเคยทำเลเซอร์มาหลายๆ ที่ เคยเจอบางที่ทำผิวเราไหม้ ทำผิวเราแดงไปหลายวัน ก็แอบกังวลอยู่ว่าถ้าทำเองแล้วจะรอดมั้ย แต่พอได้รู้ว่ารุ่นนี้เค้ามีระบบอ่านค่าของแสงแฟลชเองได้แบบนี้ เราเลยแฮปปี้ รู้สึกปลอดภัยมาก ตามที่ข้างกล่องบอกไว้เลยว่าผ่านการทดสอบ clinical tested แล้วว่าปลอดภัยจริง
และวิธีใช้ก็ง่ายมาก ไม่ยุ่งยาก คล้ายๆ กับที่เราเคยไปทำที่คลินิกแหละ ขั้นแรกก็ให้เราโกนขนในส่วนที่เราจะทำการเลเซอร์ทิ้งให้หมดก่อน เพื่อให้แสง IPL ทำงานไปถึงรากถึงโคนของเส้นขน
จากนั้นก็เสียบสายแบนๆ อันนี้ต่อกับเครื่อง Power Supply และก็เสียบไฟบ้านได้ตามปกติเลย
กดค้างที่ปุ่มขนนกประมาณ 3-4 วินาที เครื่องจะเริ่มทำงาน โดยสังเกตได้จากตัวเครื่องจะมีไฟขึ้น 3 จุด มีแสงที่หัวเครื่อง และมีเสียงเป่าลมเบาๆ
เราสามารถปรับระดับความอ่อนโยนของแสงแฟลชได้ 3 ระดับนะ โดนกดที่ปุ่มขนนก กดแล้วปล่อย ไม่ต้องกดค้าง
ไฟ 3 จุด คือพลังงานระดับสูง เหมาะใช้กับบริเวณแขนหรือขา
ไฟ 2 จุด คือพลังงานระดับกลาง เหมาะใช้กับใต้วงแขน หรือผู้ที่เริ่มใช้งานใหม่ๆ
ไฟ 1 จุด คือพลังงานระดับต่ำ เหมาะสำหรับใช้ในจุดที่อ่อนโยนเป็นพิเศษ เช่นผิวหน้า บิกินี่โซน หรือคนที่มีผิวบาง หรือผิวบอบบางแพ้ง่าย
วันนี้เราเลเซอร์ขนแขนให้ดู เราเลยใช้หัวเลเซอร์ขนาดใหญ่ เพราะเหมาะกับบริเวณที่มีขนาดกว้าง และใช้ระบบยิงแบบกดแล้วปล่อยทีละครั้ง ซึ่งในเครื่องนี้เค้ามีระบบการยิงแบบต่อเนื่องด้วยนะ คือกดค้างแล้วปล่อยให้เลเซอร์ยิงอัตโนมัติ เราเพียงแค่ลากตัวเครื่องไปตามผิวของเรา แต่ก้อยแขนเล็กมาก เครื่องจะไม่แนบสนิทกับผิวแบบสม่ำเสมอ และใช้แบบลากไม่ถนัด เลยใช้แบบกดแล้วปล่อยจะง่ายกว่ามาก
กดบริเวณพื้นที่สีขาวตรงนี้นะ
ช่วงเลเซอร์แรกๆ ที่เราได้ใช้งานเครื่องนี้ บอกตามตรงว่าแอบสะดุ้งเล็กน้อย เหมือนมีใครใช้หนังยางมาดีดใส่เบาๆ และก็รู้สึกอุ่นๆ ได้กลิ่นไหม้เล็กๆจากการที่เราโกนขนไม่หมด (ใครจะทำต้องโกนขนให้หมดก่อนนะ) ทำไปเรื่อยๆ จะรู้สึกชิน และแอบรู้สึกสนุกดี 5555+ ใช้เวลาไม่นานเราก็เลเซอร์เสร็จทั้ง 2 แขน ให้ดูผิวหลังการเลเซอร์เสร็จ จะเห็นว่าผิวไม่ไหม้ ผิวไม่แดง แต่ผิวเราอาจจะแห้งหน่อย ตามปกติของเราเลเซอร์ที่ต้องใช้ความร้อน
แนะนำว่าเมื่อเลเซอร์เสร็จเรียบร้อย ให้เราใช้โลชั่นอโรเวลามาทาบางๆ ให้ผิวชุ่มชื้น เว้นการอาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น และงดสครับผิวในช่วง 2-3 วันนี้ คือจริงๆ เราก็จำมาจากคอร์สเลเซอร์ที่เราเคยไปทำมานั่นแหละ หลายๆ ที่แนะนำให้ทำแบบนี้เหมือนกัน เราก็นำมาปรับใช้ต่อเลย
สำหรับการ IPL ที่บ้านด้วยเครื่องนี้ ควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือนขึ้นไปก็จะเห็นผลชัดขึ้นว่าขนเกิดใหม่บางลงเรื่อยๆ
ถ้าใครกลัวลืมวันที่ครบรอบเลเซอร์ เค้ามี Application สำหรับเจ้าเครื่องนี้ด้วยนะ ชื่อ Braun silk expert pro โหลดใช้ได้ทั้ง IOS และ Android อย่างเราก็คือตั้งเตือนไว้ทุกอาทิตย์กันพลาด เพราะเป็นคนขี้ลืมมากจริงๆ บอกเลยว่าคุ้มค่าคุ้มกับสิ่งที่ได้จริงๆ จัดการขนได้ทั่วทั้งตัว อยากกำจัดขนตรงไหน ก็แค่หยิบมาเลเซอร์ผิวตรงนั้น ถ้าคิดราคาที่เราต้องเสียเงินในคลินิกต่างๆ แบบทำทั่วร่างกายเลยนะ ต่อให้เป็นโปรแบบบุฟเฟ่ต์ คิดแบบเร็วๆ ยังไงมีเครื่อง IPL ไว้เลเซอร์ขนด้วยตัวเองที่บ้านก็คุ้มค่ากว่ามากจริงๆ เครื่องนึงก็ใช้ได้เป็นสิบปีเลย ที่ชอบอีกอย่างคือ เค้ารับประกันตัวเครื่อง 2 ปี ถ้าเครื่องมีปัญหาเค้าจะเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ให้เลย ไม่มีการส่งซ่อม แค่ต้องเก็บใบรับประกันสินค้าไว้ เอาจริง ถึงแม้ว่าเราจะใช้แค่ 2 ปีก็รู้สึกว่าคุ้มราคาที่ซื้อมาแล้วนะ จริงๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้