เรามี ผช คนนึงวนเวียนอยู่ในชีวิตมานาน คบๆ เลิก ๆ หลายรอบมาก ห่างหายกันไปเป็น สองสามปี และกลับมาพบกันใหม่ คบกันได้สักพัก ทะเลาะ ผิดใจ หายกันไป อีกสองปี กลับมาเจอกันใหม่ เป็นแบบนี้อยู่สี่ห้ารอบ ผช คนนี้ ชื่อ ก เรารัก ก มาก และ ก ก็รักเรา แต่ด้วยทิฐิของทั้งคู่ ทำให้เมื่อผิดใจกัน หรือทะเลาะกันเมื่อไร ไม่มีใครยอมใคร ปล่อยเวลาผ่านไปจนลืมเหตุการณ์นั้นๆ จึงได้กลับมาคุยกันใหม่ พยายามทำเวลาที่อยู่ด้วยกันให้ดี ๆ แต่ก็ทะเลาะ ผิดใจ เคืองกัน จนหายจากกันไปอีก 

ในระหว่างที่ห่างหายจาก ก เราก็มี ผช คนใหม่ ชื่อ น เป็นคนที่รักเรามาก ทำดีทุกอย่างให้เรา ตามใจ เอาใจเรา แต่เราไม่ได้รักเขามากนัก ยังไม่ตรงกับสิ่งที่เราต้องการสักเท่าไร และมีเหตุปัจจัยที่เรากับเขาไม่สามารถลงเอยกันได้ แต่ยังคุยกัน ไปๆ มาๆ หากัน (ไม่ได้อยู่ด้วยกัน) เราไปบ้าน น ที่ต่างจังหวัดมาหลายครั้ง ได้พบคุณแม่ และเด็กเล็กๆ ที่คุณแม่ น เอามาเลี้ยง เพราะเด็กเป็นกำพร้า   เด็กๆ น่ารัก และเราก็รักเด็ก เราไปมาหาสู่แม่เขา และเด็ก ๆด้วยตัวเองโดยไม่มี น ไปด้วย หลายครั้ง พักอาศัยอยู่กับท่าน เป็นเดือนๆ จนสนิทสนมกับแม่ และเด็ก ๆ 

รอบนี้โคจรมาพบกับ ก อีกครั้ง พร้อมลูกติด ของ ก ที่ไปทำผู้หญิงท้อง แต่เขาหย่ากันแล้ว ก ได้แสดงใบหย่าให้เราดูเรียบร้อย ผญ ที่ ก ไปทำเขาท้อง ก็ไปท้องกับคนอื่น และทิ้งลูกอีกคนไว้ให้ ก เลี้ยงดูส่งเสีย โดยบอกใครต่อใครว่า เด็กคนที่สองคือลูก ก แต่ ก ยืนยันหนักแน่น ว่าไม่ใช่ลูกเขา มีหลักฐานชัดเจน จากการจับได้ และกับการกระทำของ ผญ คนนั้น ว่าไม่ใช่ลูก ก แน่ๆ  ก่อน ผญ คนนั้น จะติดคุก      และอีกสองปี น่าจะพ้นโทษ   ก บอกว่าไม่ได้คิดอะไรมากแล้วเรื่องเด็กคนนี้ คิดว่าเหมือนลูกอีกคน เพราะสงสารเด็ก และเด็กก็ขี้อ้อน น่ารัก ถ้าเราเห็นเราก็คงทนความน่ารักไม่ไหว เราก็ไม่ถือสาอะไร เพราะเด็กก็คือเด็ก เราเข้าใจดี  

ลูกของ ก อยู่กับแม่ยายที่ ต่างจังหวัด   ทุกๆ สิ้นเดือน ก จะไปหาลูกพร้อมซื้อของให้ และนอนค้างกับลูกหนึ่งคืน เราเข้าใจดีและไม่เคยมีปัญหากับเรื่องนี้ 

รอบนี้ที่กลับมาพบกันอีก เราคุยกับ ก ว่า อยากคบกันแบบจริงจังสักที เพราะอายุเยอะแล้ว เราโคจรมาเจอกันหลายต่อหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้อยากทำให้ดีที่สุดเพราะอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเสียที 

สองคนเปิดใจคุยกัน มีเรื่องที่เราสองคนต้องปรับความเข้าใจกัน เรื่องทีต้องให้รับรู้ตั้งแต่ต้น จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน และหนึ่งในเรื่องนั้น คือเรื่องเด็ก ๆ หลานของ น ที่เรารัก สนิทสนม 

เราบอก ก ว่า เราเลิกกับ น ได้ เราตัดเขาได้เลย เพราะต้องการมี ก แค่คนเดียว แต่เราขอที่จะติดต่อเด็ก ๆ และแม่ ของ น เหมือนญาติ ถามไถ่ทุกข์สุขกัน ถ้ามีเวลาและโอกาส ก็จะไปหา ไปเที่ยวบ้าน โดยไม่ต้องมี น และเราไม่คิดจะติดต่อ น อยู่แล้ว 

แต่ ก ไม่ยอม ก บอกว่า ไม่มีใครรับได้หรอก ที่เลิกกะแฟนแล้วแต่ยังขอติดต่อแม่แฟน หรือญาติแฟน เขาเลิกมากี่คนแล้วก็ไม่เคยติดต่อใครไปอีกเลย ถึงแม้พวกเขาจะดีแค่ไหนก็ตาม    ก บอกว่า ตรรกะเราป่วยมาก ไปถามใครต่อใครได้เลยว่าคนอื่นเขารับกันได้เหรอ ก ด่าเราแรงมาก ว่าไม่เชื่อหรอกถ้าติดต่อกับเด็กๆ แล้วจะแค่นั้น ก บอกว่า เราทำเพื่อรักษาที่ตรงนั้นเพื่อให้ยังคงมี น อยู่ในชีวิต ยังตัดกันไม่ขาด ก ไม่มีความเชื่อในตัวเรา และถ้าเราอยากจะทำแบบนั้น ก็ทำไป แต่บอกไว้เลยว่าเขาจะไม่สบายใจ และไม่ชอบใจ ถ้าคิดจะทำแบบนั้น เขาก็คงเป็นแฟนเราไม่ได้ และถามด้วยว่า เรารักเขาหรือเปล่า ถ้ารัก ถ้าแคร์เขา ทำไมถึงจะทำในสิ่งที่เขาไม่พอใจ 

เราให้เหตุผลและอธิบายว่า เรารักเด็กๆ พวกนั้น โดยไม่มี น มาเกี่ยวข้อง เด็กๆ ไม่ได้ผิดอะไร ที่เราจะต้องตัดเขาออกไปจากชีวิต แม่เขาก็เช่นก้น ถึงจะเลิกกะลูกเขาแล้ว แต่เราก็ยังคงเคารพนับถือ และคุยกับแม่เขาได้ แม่เขาก็รักเราเหมือนลูกหลาน 

ก ไม่ฟัง ไม่สนใจ อารมณ์ขึ้น เสียงดัง และบอกเราว่าจบการสนทนาแค่นี้เถอะ จบไม่สวยแล้ว

เราร้องไห้ น้ำตาไหล โดนบังคับให้เลิกติดต่อกับเด็กๆ ที่เรารักด้วยความบริสุทธิ์ใจ พูดไปสะอื้นไปกับ ก ว่า โอเค เราทำให้ได้ เราจะตัดเด็ก ๆ พวกนั้น ออกจากชีวิต เด็กๆ ที่เราอาบน้ำ พาไปโรงเรียน ที่เรานอนอ่านหนังสือให้ฟัง ที่เราทำกิจกรรมกับพวกเขา เด็กๆที่เรารัก ที่เราสงสาร เด็กๆ พวกนั้นไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเรา  ทำไมเราจะตัดไปไม่ได้  ทั้งหมดที่พูดมาคือประชด และอยากให้ ก ได้คิด 

เราไม่อยากเถียงกับเขา เพราะเราสะอื้นหนัก และพูดต่อไม่ได้ เราพูดแค่นั้นแล้วก็ตัดสายไป แล้วเราก็ปล่อยโฮ ออกมาคนเดียว  เขาส่งข้อความมาบอกว่า ขอบคุณนะ 

เราอยากเถียงกับเขาว่า เด็กอีกคนที่เธอกำลังเลี้ยงอยู่ ก็ไม่ใช่ลูกไม่ใช่เลือดเนื้อของเธอ  ทำไมเธอยังรัก ยังเอ็นดูได้ ยังเป็นห่วงได้ และนี่เด็กคนเล็กป่วย เขาก็กลับไปดูลูก อยู่ด้วยสองคืน 

เขากลับห้ามเราไม่ให้ติดต่อก้บเด็กๆ เหล่านั้น ทั้งๆที่เด็กไม่ได้ทำอะไรผิด และเราก็คิดว่า เราไม่ได้ทำอะไรผิดเช่นกัน เราติดต่อด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ และเราจะไม่เล่าให้เขาฟังก็ได้ แต่เราเลือกที่จะเล่า เพราะถ้าจะคบกันจริงๆ ไม่สมควรมีอะไรปิดบังกัน 

ในทางกลับกัน ถ้าเราคบกันไปสักวันหนึ่ง เราบอกเขาว่า เอามาแค่ลูกตัวเอง คนไหนไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ก็ไม่ต้องเอามา และไม่ต้องติดต่อไปด้วย เพราะเราไม่เชื่อว่า เขาจะไม่ติดต่อแม่เด็ก ถ้าติดต่อเด็ก แปลว่า ติดต่อแม่เด็กด้วย เหมือนอย่างที่เขาคิด เขาจะรู้สึกยังไง สงสารเด็กไหม เขาทำได้ไหม กับเด็กที่เลี้ยงคู่กันมากับลูกตัวเอง และก็เสมือนว่าเป็นลูกตัวเอง 

แต่สิ่งหนึ่งที่เสียงเขาฝังอยู่ในหัวเรา คือ เขาไม่เชื่อในตัวเรา ก็เลยมาคิดได้ว่า ต่อให้ทำดีสักแค่ไหน อธิบายสักเท่าไร ถ้าเขาไม่เชื่อในตัวเรา ก็คงไม่เชื่ออยู่อย่างนั้น และคงไม่ใช่แค่เรื่องนี้ คงมีเรื่องอื่นๆ ตามมาอีกมากมายที่เขาจะไม่เชื่อเรา

เขาสามารถบังคับเราให้ทำในสิ่งที่เราไม่เต็มใจ และคิดว่าไม่ได้ผิดอะไร เพื่อให้เค้ารู้สึกสบายใจ โดยนั่งมองเราน้ำตาไหล สะอื้นได้ แปลว่า เค้ารักเราเหรอ

เราบอก ก ว่า เราจะกลับมาคบกันแบบจริงจังในขณะที่ ก มีลูกติด และแม่ของลูกอีก เรามองเห็นปัญหาที่รออยู่ข้างหน้า  เราต้องมีแผนการจัดการกับปัญหานั้นๆ เราถาม ก ว่า เขาจะจัดการปัญหาอย่างไร เช่น เรื่องแม่ของลูกที่จะออกมาจากคุก เรื่องการต้องไปนอนค้างกับลูกและแม่ของลูก เราจะเชื่อเขาได้ไหม เชื่อได้อย่างไร เขาบอกว่า เชื่อได้ จะทำให้ดู ให้คอยดูต่อไป 
 
เขาบอกเราว่า อย่าทุกข์ล่วงหน้า อย่าคิดล่วงหน้า อะไรเกิดแล้วค่อยทุกข์ ค่อยคิด

คุณคิดว่า เราควรไปต่อ หรือ พอแค่นี้ กับ ก 

เพื่อน ๆคิดยังไงกับคำพูดเขาที่ว่า ไม่มีใครรับได้หรอกที่ยังติดต่อกับญาติแฟนเก่าอยู่ ไปถามใครได้เลย

ในความคิดของเรา เขาก็มีลูกเล็ก ๆ เด็กๆ ก็น่ารัก ทำไมเขาไม่มีความเอ็นดูเด็กๆ เลย ทำไมเอาเรื่องอื่นๆ มาปนกันให้เป็นปัญหา ทำไมไม่แยกให้ออก ระหว่างเรากับเด็ก ๆ และเรากับ น ซึ่งมันคนละเรื่องกัน 

เขาถามว่า ถ้าเขาติดต่อกับแม่แฟนเก่าเขาบ้าง เราจะโอเคไหม เราตอบไปว่า เราโอเค เพราะก็เหมือนญาติผู้ใหญ่ เหมือนคนรู้จักทั่วไป ที่ก็คุยกันถามไถ่ชีวิตกันได้ ถ้าไ่ม่มีอะไรกะลูกเขาแล้วไม่ได้หมายความว่าต้องเลิกคุยกับเขาแบบตัดขาด 

ก ไม่พอใจคำตอบ และไม่พอใจเรา ขึ้นเสียง ใส่อารมณ์ จนเราต้องพูดประชดด้วยน้ำตาและสะอื้นไปด้วย และเราตัดสายเอง

แค่คิดจะเริ่มต้น ก็มีปัญหาแล้ว

เราเอาไงดีคะ เราจะคบ ก และตัดขาดทุกอย่างตามที่เขาสั่ง หรือ เราจะเป็นตัวของตัวเอง ติดต่อพูดคุยกับเด็กๆ เหมือนเดิม (แต่เราไม่ติดต่อ น อยู่แล้วไม่ว่า จะคบกับ ก หรือไม่ก็ตาม เพราะเรากับ น ลงเอยกันไม่ได้) 

ตอนนี้รู้สึกเหมือน คนอกหัก 

อกหักจากเด็กๆ ที่เรารัก ถ้าเราเลือกจะคบกับ ก 

อกหัก จาก ก ที่เราก็รัก ถ้าเราเลือกที่จะติดต่อเด็กๆ ต่อไป

เราต้องทำให้ ก สบายใจ ทั้งๆที่เราเป็นทุกข์ ไม่มีความสุข อย่างนั้นหรือ

เศร้าค่ะ