สวัสดีค่ะ
เรามีประสบการ์จากการที่หมอเพิ่งนัดไปเลเซอร์ตาเพราะเป็นวุ้นในตาเสื่อมแล้วจอตาเป็นแผลมาเมื่อวันจันทร์ที่ 8 มีนาคมผ่านมา จะมาเล่าให้ฟังว่ามีอาการ/ผลข้างเคียง/ความคืบหน้า เป็นยังไงบ้างสำหรับคนที่มีอาการใกล้เคียงกัน หรือเป็นโรคนี้กันนะคะ
คือต้องเท้าความก่อนอาการวุ้นในตาเสื่อมเนี่ย มันเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เพราะมันเป็นการเสื่อมของอวัยวะในร่างกายที่เราควบคุมไม่ได้ จะเกิดขึ้นในคนอายุ 40 ขึ้นไปเปนส่วนมาก (เราอายุ 30+) แต่อย่างในเคสเรา เปนเพราะสายตาสั้นมาก (เราสั้น 1300+เอียงด้วย) ใช้สายตาค่อนข้างหนัก ้พราะทำงานหน้าคอมฯ เล่นมือถือหนักก็มีส่วน มันก็จะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าวัยที่ควรจะเสื่อม เด็กกว่าเราก็เป็นได้ ยิ่งเป็นคนสายตาสั้นก็ยิ่งเสี่ยงมากขึ้นค่ะ
เราเริ่มมีอาการวุ้นในตาเสื่อมช่วงเมื่อต้นปี 2021 นี้ เริ่มเลยก็คือเห็นเป็นคล้ายๆเส้นหยากไย่ลอยไปลอยมาอยู่ในตาขวา ซึ่งเราเคยเป็นแบบนี้มาก่อน ช่วงใช้สายตาหนัก ๆ แล้วก็ค่อย ๆ หายไปเอง แต่คราวนี้มันต่างจากทุกครั้งค่ะ เพราะจากที่เห็นเป็นเส้นหยากไย่จาง ๆ คราวนี้หนักขึ้นแบบเห็นเป็นวงกลมลักษณะแบบวงแหวนสีดำในตาขวาแบบชัดมาก มองอะไรก็เห็นวงกลม ๆ สีดำนี่ลอยอยู่ในตาตลอด ตามัวบีอยขึ้นมาก จนรู้สึกว่าไม่ปกติละ
เราก็ลองเสิร์ชดูในอินเตอร์เน็ต ถามรุ่นพี่ที่รู้จักกันแล้วมีอาการนี้ เอาล่ะ ผลออกมาก็คือเป็นอาการวุ้นตาเสื่อมค่อนข้างแน่ ก็เลยไปหาหมอ แต่โชคร้ายมากที่ตอนนั้นช่วงกลางเดือนมกราเป็นช่วงติดโควิด จังหวัดที่เราอยู่คือจังหวัดต้นๆที่โควิดพีคหนักเลยค่ะ หมอก็ไม่ตรวจให้ แต่บอกเราไว้อย่างละเอียดว่าให้ดูแลสังเกตอาการตัวเองดี ๆ ถ้าเปนมากขึ้นหรือมีแสงแว่บในตาคล้ายฟ้าผ่าให้มาหาหมอทันที เราก็อะ โอเคค่ะหมอ ก็เข้าใจว่ายังไม่เร่งด่วน ก็กลับบ้านมาดูแลตัวเอง
ช่วงหลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติ แต่พยายามมากๆที่จะใช้สายตาแบบถนอมขึ้น ปิดไฟเล่นมือถือนี่เลิกเด็ดขาด แต่พอสักกลางเดือนกุมภาที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นแสงแว้บๆในตาขวา เวลากะพริบตา เวลาอยู่ในที่มืด จะวาบขึ้นมาเป็นพักๆละหายไป ก็รู้สึกว่าชักไม่ได้เรื่องละ ต้องไปหาหมอด่วน บอกตรงๆว่ากลัวตาบอดมาก ก็หาเวลา เคลียร์งาน ว่างไปหาหมอได้วันที่ 2 มีนา
ก่อนวันไปหาหมอนี่คือประสาทเสียมากค่ะ ร้องไห้ไปหลายรอบกลัวมองไม่เห็น เพราะเสิร์ชดูมันมีเคสที่มีคนเปนวุ้นในตาเสื่อมแล้วจอประสาทตาฉีกกลัวจะมองไม่เห็นกลัวจะต้องรักษานาน ต้องนอนโรงพยาบาลมั้ย กังวลไปหมดเลยค่ะ แต่ก็ไปหาหมอ ได้คิวตรวจวันนั้นเลย ก็วัดความดันตา เช็คค่าสายตา ขยายม่านตา รอหมอตั้งแต่ 9 โมง ได้ตรวจบ่ายครึ่ง โรงพยาบาลรัฐอะเนอะ ต้องเข้าใจ
พอเจอหมอปุ๊บหมอทักคำแรกเลย คนไข้สายตาสั้นมากเลยนะคะ เราก็ได้แต่แหะๆ 5555 หมอก็ซักประวัติ เช็คโน่นนี่ ซักพักก็เงียบไป เราก็แบบ เอาละ ชักท่าทางไม่ดีละ ห้องหมอแอร์เย็นมาก แต่เหงื่อแตกจ้า พอตรวจเครื่องเสร็จสักพัก แล้วหมอก็บอก วุ้นตาเราเสื่อมนะ แล้วทีนี้เราสายตาสั้นมาก กระจกตาก็จะบางกว่าคนปกติอยู่แล้ว ตาซ้ายอะเป็นวุ้นตาเสื่อม แต่ยังไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ข่างขวามีปัญหา เราก็เริ่มสติแตกละตอนนั้น หมอก็บอกเนี่ย จอประสาทตาเราเปนแผลนะ จากวุ้นในตาที่เสื่อมนี่แหละ ถ้าหมอนัดมาเลเซอร์ด่วนเลยวันจันทร์นี้ได้มั้ย คือตอนนั้นแบบ หูอื้ออะค่ะ หมอบอกมันไม่ได้ร้ายแรง แล้วทำไมต้องด่วนขนาดนี้ งานเราจะทำยังไง ต้องพักนานแค่ไหน แต่เพราะว่ากลัวตาบอดมากกว่าห่วงงาน ก็ต้องมาเพราะหมอบอกรักษาเร็วก็บล็อคไม่ให้ลามไปกว่านี้นะ
ก็กลับมาจากโรงบาลวันนั้นก็จัดการ ลางาน เคลียร์งาน พยายามไม่เล่นมือถือมาก นั่นนี่ หาข้อมูลว่าต้องเตรียมตัวยังไงก่อนไปเลเซอร์กับหลังวันเลเซอร์ พยายามใจเย็นมีสติ แต่ถามว่ากลัวมากไหม ตอบเลยว่ามากกกกกก 5555 แต่ก็อในที่สุดก็วันจันทร์ที่ 8 หมอนัดแปดโมง ก็ไปแต่เช้า วัดความดันเลือด เช็คค่าสายตา เช็คความดันตา ซักประวัติ เซ็นใบยินยอมให้ทำการรักษา แล้วรอคิวเข้าห้องหัตถการ หยอดยาขยายม่านตาไปสองรอบ ซึ่งอีการหยอดยาขยายม่านตาเนี่ย ทรมานเรามากกกก เพราะมันจะทำให้แสบตา ตามัว มองไม่ชัด สู้แสงไม่ได้ไป 6-8 ชั่วโมง แค่เราถอดแว่นก็ลำบากมองไม่เห็นแล้ว นี่ใส่แว่นก็ยังตามัวอีก
แล้ววันนั้นคนไข้เยอะมากค่ะ เฉพาะคิวนัดเลเซอร์คือ 20+ คน เราเปนคนสุดท้าย หมอนัด 8 โมง แต่ได้เข้าห้องเลเซอร์ตอนเที่ยงครึ่ง ข้าวก็หิว แต่กินไม่ลงจริงๆ ตอบแชตใครก็ไม่ได้เพราะตามัว แต่สุดท้ายก็ถึงคิว ก็เข้าไปในห้องเลเซอร์ เจอหมอเจ้าของไข้ วันนี้หมอไม่ใส่หน้ากาก ก็เลยเห็นว่าหมอสวยค่ะ 55555 ไปถึงหมอก็ให้นั่งหน้าเครื่อง พยาบาลมาหยอดยาชา หมอก็ชวนคุย เพราะคงรู้ว่ากลัว หมอเสียงก็เพราะ ใจดีอีก อยากมองหมอ แต่พยาบาลก็ล็อคเข้าเครื่องแล้ว เอาคางวาง หน้าผากชิด ใช้เชือกมัดหัวกันดิ้นด้วย ตอนนั้นคือแบบมือเย็นมากค่ะ ต้องมัดด้วยเหรอหม๊อ! หมอก็บอก ปวดตานิดนึงนะ นิดเดียว เราก็เชื่อไง หมอบอกว่านิดเดียวอ่ะ คนสวยไม่โกหกหรอก (ใช่มั้ย 555)
หมอก็เอาท่ออะไรไม่รู้มาล็อคตาขวาไว้ ที่ไม่ให้กะพริบตาอะค้ะ แล้วก็ให้มองจอที่จะยิงเลเซอร์ กลอกตาซ้ายขวาบนล่าง หาจุดที่จะยิง กลอกอยู่สักห้านาทีได้ โอเค ได้ละ หมอก็บอกมองตรงมานะคะ ปวดนิดนึง แล้วก็ยิงเลเซอร์ มันจะเปนแสงๆ อธิบายสีไม่ถูก มันจะสว่างวาบ มืดๆ แล้วก็เปนวิ้งๆสีๆ อยู่ในตา สลับๆกันอยู่แบบนี้ ประมาณ 20 นาที หมอบอกตลอดเลย ปวดนิดนึง ทนนิดนึงนะคะ ปวดหน่อยนะ แต่แบบ ใจเราคือแบบ หม๊อออออออ!!!!! มันปวด! คือมันไม่ได้แค่ปวดในตานะ มันจี้ดขึ้นสมองจากตาขวา ขึ้นไปขมับ ขึ้นไปทางกระโหลกขวาอะค่ะ มันเจ่บทั้งในสมอง ทั้งปวดในตาแบบ อยากตะโกน อยากดิ้นว่าไม่ไหวแล้วหมอ แต่โดนล็อคหัวอยู่
หมอก็ยิงเลเซอร์พักนึง แล้วก็หยุดแป๊บนึงยิงต่อ คือมันแป๊บเดียวนะคะ แต่ในความรู้สึกเราคือเหมือนนานมากอะ ปวดตา จี้ดในสมองแบบ จะตายมั้ยๆ หมอก็บอก เดี๋ยวหมอดูจุดอื่นด้วยนะ เผื่อยังไงจะยิงกันไว้เลย เรานี่อยากตะโกนแบบ เอาไว้ก่อนได้มั้ยย หนูเจ๊บ แต่ทำไม่ได้ไง ㅠㅡㅠ สักพักก็อะ โอเค เสร็จ พยาบาลมาเอาเชือกออก ตอนขยับหัวออกมาจากเครื่องคือเหมือนโดนใครเอาหนังยางมาดีดตาอ่ะค่ะ มันปวดตามากกกกกก คือไม่มากขนาดทนไม่ได้นะ แต่มันปวด คำว่าปวดนิดเดียวของหมอคือหลอกลวงมาก แล้วแบบ ตาขวาพร่าไปหมดแบบมองไรไม่เห็นเลย โลกเหมือนย้อมด้วยสีม่วงอ่ะ เห็นทุกอย่างเปนสีม่วงหมด พยาบาลก็มาหยอดตาซ้ำอีกรอบ
ก็คุยกับหมอว่าต้องทำไงต่อ หมอบอกกลับบ้านทำตามปกติได้เลย แต่ห้ามเด็ดขาดคือขยี้ตา ตลอดชีวิตนี้ห้ามขยี้ตา ระวังไม่ให้ตากระทบกระเทือน แล้วก็ห้ามหันศีรษะแบบแรงๆเร็วๆ เคยหันขวับงี้ก็ต้องค่อยๆ เบือนหน้าไปมองเพราะการเคลื่อนไหวเร็วๆแรงๆมันส่งผลต่อวุ้นในตาที่เสื่อมกับจอตาได้
หมอนัดไปตามอาการที่เลเซอร์ไปอีกทีวันที่ 19 เดือนเมษา แล้วก็เช็คตาซ้ายวันนั้นด้วยว่าต้องเลเซอร์ด้วยมั้ย เพราะตาซ้ายก็เสี่ยงที่จะเป็นแผลเหมือนกัน แล้วก็ให้ออกไปรอใบนัด ใบรับรองแพทย์ รอรับยา ซึ่งอิตอนออกมาเนี่ย เราต้องไต่ผนังออกมา ค่อยๆเกาะออกมา เพราะมองไม่เห็น แต่ยังดีที่มีคนมาด้วยค่ะ
หลักๆก็มีแค่นี้ แต่ผลการรักษาหลังผ่านไป 4 วันจากวันไปเลเซอร์ก็คือหยากไย่สีดำๆเป็นวงๆ ที่ลอยอยู่ในตามันไม่ได้หายไปนะ มันยังอยู่ แต่เหมือนมันจะจางลงเล็กน้อย สัก 30% คือไม่เห็นชัดจนบังการมองเห็นเหมือนก่อนเลเซอร์ แต่มันจะไม่หายไปไหน มันจะอยู่กับเราตลอดไปอย่างน่ารำคาญมาก แต่อาการแสงวาบในตาไม่มีแล้ว
หลังจากนี้ไปที่ดูแลตัวเองได้ก็คือใช้สายตาอย่างถนอม หยอดน้ำตาเทียม ของเราหมอสั่งให้หยอดวันละ 4 รอบ กินอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา ย้ำมากๆคือห้ามขยี้ตาเด็ดขาด หาหมอตามนัด แต่อาการวุ้นตาเสื่อมจะอยู่กับเราไปตลอด ดังนั้น ใครสายตาสั้นอยู่ แล้วมีอาการแปลกๆ ก็ไปตรวจตากันบ้างนะคะ รักษาสุขภาพตากันนะทุกคน ❤️
แชร์ประสบการณ์โรควุ้นในตาเสื่อมและการรักษาด้วยเลเซอร์
เรามีประสบการ์จากการที่หมอเพิ่งนัดไปเลเซอร์ตาเพราะเป็นวุ้นในตาเสื่อมแล้วจอตาเป็นแผลมาเมื่อวันจันทร์ที่ 8 มีนาคมผ่านมา จะมาเล่าให้ฟังว่ามีอาการ/ผลข้างเคียง/ความคืบหน้า เป็นยังไงบ้างสำหรับคนที่มีอาการใกล้เคียงกัน หรือเป็นโรคนี้กันนะคะ
คือต้องเท้าความก่อนอาการวุ้นในตาเสื่อมเนี่ย มันเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เพราะมันเป็นการเสื่อมของอวัยวะในร่างกายที่เราควบคุมไม่ได้ จะเกิดขึ้นในคนอายุ 40 ขึ้นไปเปนส่วนมาก (เราอายุ 30+) แต่อย่างในเคสเรา เปนเพราะสายตาสั้นมาก (เราสั้น 1300+เอียงด้วย) ใช้สายตาค่อนข้างหนัก ้พราะทำงานหน้าคอมฯ เล่นมือถือหนักก็มีส่วน มันก็จะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าวัยที่ควรจะเสื่อม เด็กกว่าเราก็เป็นได้ ยิ่งเป็นคนสายตาสั้นก็ยิ่งเสี่ยงมากขึ้นค่ะ
เราเริ่มมีอาการวุ้นในตาเสื่อมช่วงเมื่อต้นปี 2021 นี้ เริ่มเลยก็คือเห็นเป็นคล้ายๆเส้นหยากไย่ลอยไปลอยมาอยู่ในตาขวา ซึ่งเราเคยเป็นแบบนี้มาก่อน ช่วงใช้สายตาหนัก ๆ แล้วก็ค่อย ๆ หายไปเอง แต่คราวนี้มันต่างจากทุกครั้งค่ะ เพราะจากที่เห็นเป็นเส้นหยากไย่จาง ๆ คราวนี้หนักขึ้นแบบเห็นเป็นวงกลมลักษณะแบบวงแหวนสีดำในตาขวาแบบชัดมาก มองอะไรก็เห็นวงกลม ๆ สีดำนี่ลอยอยู่ในตาตลอด ตามัวบีอยขึ้นมาก จนรู้สึกว่าไม่ปกติละ
เราก็ลองเสิร์ชดูในอินเตอร์เน็ต ถามรุ่นพี่ที่รู้จักกันแล้วมีอาการนี้ เอาล่ะ ผลออกมาก็คือเป็นอาการวุ้นตาเสื่อมค่อนข้างแน่ ก็เลยไปหาหมอ แต่โชคร้ายมากที่ตอนนั้นช่วงกลางเดือนมกราเป็นช่วงติดโควิด จังหวัดที่เราอยู่คือจังหวัดต้นๆที่โควิดพีคหนักเลยค่ะ หมอก็ไม่ตรวจให้ แต่บอกเราไว้อย่างละเอียดว่าให้ดูแลสังเกตอาการตัวเองดี ๆ ถ้าเปนมากขึ้นหรือมีแสงแว่บในตาคล้ายฟ้าผ่าให้มาหาหมอทันที เราก็อะ โอเคค่ะหมอ ก็เข้าใจว่ายังไม่เร่งด่วน ก็กลับบ้านมาดูแลตัวเอง
ช่วงหลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติ แต่พยายามมากๆที่จะใช้สายตาแบบถนอมขึ้น ปิดไฟเล่นมือถือนี่เลิกเด็ดขาด แต่พอสักกลางเดือนกุมภาที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นแสงแว้บๆในตาขวา เวลากะพริบตา เวลาอยู่ในที่มืด จะวาบขึ้นมาเป็นพักๆละหายไป ก็รู้สึกว่าชักไม่ได้เรื่องละ ต้องไปหาหมอด่วน บอกตรงๆว่ากลัวตาบอดมาก ก็หาเวลา เคลียร์งาน ว่างไปหาหมอได้วันที่ 2 มีนา
ก่อนวันไปหาหมอนี่คือประสาทเสียมากค่ะ ร้องไห้ไปหลายรอบกลัวมองไม่เห็น เพราะเสิร์ชดูมันมีเคสที่มีคนเปนวุ้นในตาเสื่อมแล้วจอประสาทตาฉีกกลัวจะมองไม่เห็นกลัวจะต้องรักษานาน ต้องนอนโรงพยาบาลมั้ย กังวลไปหมดเลยค่ะ แต่ก็ไปหาหมอ ได้คิวตรวจวันนั้นเลย ก็วัดความดันตา เช็คค่าสายตา ขยายม่านตา รอหมอตั้งแต่ 9 โมง ได้ตรวจบ่ายครึ่ง โรงพยาบาลรัฐอะเนอะ ต้องเข้าใจ
พอเจอหมอปุ๊บหมอทักคำแรกเลย คนไข้สายตาสั้นมากเลยนะคะ เราก็ได้แต่แหะๆ 5555 หมอก็ซักประวัติ เช็คโน่นนี่ ซักพักก็เงียบไป เราก็แบบ เอาละ ชักท่าทางไม่ดีละ ห้องหมอแอร์เย็นมาก แต่เหงื่อแตกจ้า พอตรวจเครื่องเสร็จสักพัก แล้วหมอก็บอก วุ้นตาเราเสื่อมนะ แล้วทีนี้เราสายตาสั้นมาก กระจกตาก็จะบางกว่าคนปกติอยู่แล้ว ตาซ้ายอะเป็นวุ้นตาเสื่อม แต่ยังไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ข่างขวามีปัญหา เราก็เริ่มสติแตกละตอนนั้น หมอก็บอกเนี่ย จอประสาทตาเราเปนแผลนะ จากวุ้นในตาที่เสื่อมนี่แหละ ถ้าหมอนัดมาเลเซอร์ด่วนเลยวันจันทร์นี้ได้มั้ย คือตอนนั้นแบบ หูอื้ออะค่ะ หมอบอกมันไม่ได้ร้ายแรง แล้วทำไมต้องด่วนขนาดนี้ งานเราจะทำยังไง ต้องพักนานแค่ไหน แต่เพราะว่ากลัวตาบอดมากกว่าห่วงงาน ก็ต้องมาเพราะหมอบอกรักษาเร็วก็บล็อคไม่ให้ลามไปกว่านี้นะ
ก็กลับมาจากโรงบาลวันนั้นก็จัดการ ลางาน เคลียร์งาน พยายามไม่เล่นมือถือมาก นั่นนี่ หาข้อมูลว่าต้องเตรียมตัวยังไงก่อนไปเลเซอร์กับหลังวันเลเซอร์ พยายามใจเย็นมีสติ แต่ถามว่ากลัวมากไหม ตอบเลยว่ามากกกกกก 5555 แต่ก็อในที่สุดก็วันจันทร์ที่ 8 หมอนัดแปดโมง ก็ไปแต่เช้า วัดความดันเลือด เช็คค่าสายตา เช็คความดันตา ซักประวัติ เซ็นใบยินยอมให้ทำการรักษา แล้วรอคิวเข้าห้องหัตถการ หยอดยาขยายม่านตาไปสองรอบ ซึ่งอีการหยอดยาขยายม่านตาเนี่ย ทรมานเรามากกกก เพราะมันจะทำให้แสบตา ตามัว มองไม่ชัด สู้แสงไม่ได้ไป 6-8 ชั่วโมง แค่เราถอดแว่นก็ลำบากมองไม่เห็นแล้ว นี่ใส่แว่นก็ยังตามัวอีก
แล้ววันนั้นคนไข้เยอะมากค่ะ เฉพาะคิวนัดเลเซอร์คือ 20+ คน เราเปนคนสุดท้าย หมอนัด 8 โมง แต่ได้เข้าห้องเลเซอร์ตอนเที่ยงครึ่ง ข้าวก็หิว แต่กินไม่ลงจริงๆ ตอบแชตใครก็ไม่ได้เพราะตามัว แต่สุดท้ายก็ถึงคิว ก็เข้าไปในห้องเลเซอร์ เจอหมอเจ้าของไข้ วันนี้หมอไม่ใส่หน้ากาก ก็เลยเห็นว่าหมอสวยค่ะ 55555 ไปถึงหมอก็ให้นั่งหน้าเครื่อง พยาบาลมาหยอดยาชา หมอก็ชวนคุย เพราะคงรู้ว่ากลัว หมอเสียงก็เพราะ ใจดีอีก อยากมองหมอ แต่พยาบาลก็ล็อคเข้าเครื่องแล้ว เอาคางวาง หน้าผากชิด ใช้เชือกมัดหัวกันดิ้นด้วย ตอนนั้นคือแบบมือเย็นมากค่ะ ต้องมัดด้วยเหรอหม๊อ! หมอก็บอก ปวดตานิดนึงนะ นิดเดียว เราก็เชื่อไง หมอบอกว่านิดเดียวอ่ะ คนสวยไม่โกหกหรอก (ใช่มั้ย 555)
หมอก็เอาท่ออะไรไม่รู้มาล็อคตาขวาไว้ ที่ไม่ให้กะพริบตาอะค้ะ แล้วก็ให้มองจอที่จะยิงเลเซอร์ กลอกตาซ้ายขวาบนล่าง หาจุดที่จะยิง กลอกอยู่สักห้านาทีได้ โอเค ได้ละ หมอก็บอกมองตรงมานะคะ ปวดนิดนึง แล้วก็ยิงเลเซอร์ มันจะเปนแสงๆ อธิบายสีไม่ถูก มันจะสว่างวาบ มืดๆ แล้วก็เปนวิ้งๆสีๆ อยู่ในตา สลับๆกันอยู่แบบนี้ ประมาณ 20 นาที หมอบอกตลอดเลย ปวดนิดนึง ทนนิดนึงนะคะ ปวดหน่อยนะ แต่แบบ ใจเราคือแบบ หม๊อออออออ!!!!! มันปวด! คือมันไม่ได้แค่ปวดในตานะ มันจี้ดขึ้นสมองจากตาขวา ขึ้นไปขมับ ขึ้นไปทางกระโหลกขวาอะค่ะ มันเจ่บทั้งในสมอง ทั้งปวดในตาแบบ อยากตะโกน อยากดิ้นว่าไม่ไหวแล้วหมอ แต่โดนล็อคหัวอยู่
หมอก็ยิงเลเซอร์พักนึง แล้วก็หยุดแป๊บนึงยิงต่อ คือมันแป๊บเดียวนะคะ แต่ในความรู้สึกเราคือเหมือนนานมากอะ ปวดตา จี้ดในสมองแบบ จะตายมั้ยๆ หมอก็บอก เดี๋ยวหมอดูจุดอื่นด้วยนะ เผื่อยังไงจะยิงกันไว้เลย เรานี่อยากตะโกนแบบ เอาไว้ก่อนได้มั้ยย หนูเจ๊บ แต่ทำไม่ได้ไง ㅠㅡㅠ สักพักก็อะ โอเค เสร็จ พยาบาลมาเอาเชือกออก ตอนขยับหัวออกมาจากเครื่องคือเหมือนโดนใครเอาหนังยางมาดีดตาอ่ะค่ะ มันปวดตามากกกกกก คือไม่มากขนาดทนไม่ได้นะ แต่มันปวด คำว่าปวดนิดเดียวของหมอคือหลอกลวงมาก แล้วแบบ ตาขวาพร่าไปหมดแบบมองไรไม่เห็นเลย โลกเหมือนย้อมด้วยสีม่วงอ่ะ เห็นทุกอย่างเปนสีม่วงหมด พยาบาลก็มาหยอดตาซ้ำอีกรอบ
ก็คุยกับหมอว่าต้องทำไงต่อ หมอบอกกลับบ้านทำตามปกติได้เลย แต่ห้ามเด็ดขาดคือขยี้ตา ตลอดชีวิตนี้ห้ามขยี้ตา ระวังไม่ให้ตากระทบกระเทือน แล้วก็ห้ามหันศีรษะแบบแรงๆเร็วๆ เคยหันขวับงี้ก็ต้องค่อยๆ เบือนหน้าไปมองเพราะการเคลื่อนไหวเร็วๆแรงๆมันส่งผลต่อวุ้นในตาที่เสื่อมกับจอตาได้
หมอนัดไปตามอาการที่เลเซอร์ไปอีกทีวันที่ 19 เดือนเมษา แล้วก็เช็คตาซ้ายวันนั้นด้วยว่าต้องเลเซอร์ด้วยมั้ย เพราะตาซ้ายก็เสี่ยงที่จะเป็นแผลเหมือนกัน แล้วก็ให้ออกไปรอใบนัด ใบรับรองแพทย์ รอรับยา ซึ่งอิตอนออกมาเนี่ย เราต้องไต่ผนังออกมา ค่อยๆเกาะออกมา เพราะมองไม่เห็น แต่ยังดีที่มีคนมาด้วยค่ะ
หลักๆก็มีแค่นี้ แต่ผลการรักษาหลังผ่านไป 4 วันจากวันไปเลเซอร์ก็คือหยากไย่สีดำๆเป็นวงๆ ที่ลอยอยู่ในตามันไม่ได้หายไปนะ มันยังอยู่ แต่เหมือนมันจะจางลงเล็กน้อย สัก 30% คือไม่เห็นชัดจนบังการมองเห็นเหมือนก่อนเลเซอร์ แต่มันจะไม่หายไปไหน มันจะอยู่กับเราตลอดไปอย่างน่ารำคาญมาก แต่อาการแสงวาบในตาไม่มีแล้ว
หลังจากนี้ไปที่ดูแลตัวเองได้ก็คือใช้สายตาอย่างถนอม หยอดน้ำตาเทียม ของเราหมอสั่งให้หยอดวันละ 4 รอบ กินอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา ย้ำมากๆคือห้ามขยี้ตาเด็ดขาด หาหมอตามนัด แต่อาการวุ้นตาเสื่อมจะอยู่กับเราไปตลอด ดังนั้น ใครสายตาสั้นอยู่ แล้วมีอาการแปลกๆ ก็ไปตรวจตากันบ้างนะคะ รักษาสุขภาพตากันนะทุกคน ❤️