สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ขอแย้งนิดนึงนะครับ เท่าที่อ่านตัวเต็มมา เดกุไม่ได้บอกว่า “จะช่วยชิการาคิให้ได้ ต่อให้ต้องเสี่ยงมีคนล้มตายมากจากการกระทำของชิการาคิ” (รอคอนเฟิร์มตอนฉบับลิขสิทธิ์ออกอีกทีละกันนะครับ)
แต่เดกุบอกว่า “จริงอยู่ที่มีคนล้มตายไปมาก คนที่เดกุรักหลายคนก็ต้องมาบาดเจ็บ แต่ท้ายที่สุดแล้ว OFA ก็ยังเป็นพลังที่มีไว้สำหรับช่วยเหลือผู้คน ไม่ใช่พลังที่มีไว้เข่นฆ่าผู้คน” ซึ่งเป็นสิ่งที่ออลไมท์เคยสอนเดกุไว้
แถมเดกุยังบอกอีกว่า “ออลไมท์ และทุกๆ รุ่น ล้วนแต่มีความดีความชอบในการที่ผู้คนนับไม่ถ้วนได้ถูกช่วยเหลือไว้จนถึงปัจจุบัน เพราะการบ่มเพาะพลังที่ผ่านมาของทุกรุ่น... เดิมทีพลัง OFA อาจมีเป้าหมายเพียงเพื่อกำจัด AFO แต่การที่ทุกรุ่นยังคงเก็บรักษาพลังนี้ และส่งต่อมาเรื่อยๆ เป้าหมายของ OFA ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาที่ผ่านมา”
(ช็อตนี้เงาร่างของออลไมท์ก็ได้น้ำตาร่วงไปเรียบร้อยแล้ว 😂)
และสิ่งที่เดกุทิ้งท้ายคือ “มันก็เป็นไปได้ ที่อาจจะไม่มีหนทางอื่นในการหยุดชิการาคิ นอกจากการจบชีวิตของเขา ซึ่งผมเองก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าตัวเองจะลงมือได้รึป่าว... แต่อย่างน้อยให้ผมได้ลองพยายามช่วยเด็กที่กำลังร้องไห้คนนี้ดูก่อนเถอะครับ”
คำพูดนี้เนี่ยแหละ ที่ทำให้นานะถึงกับน้ำตาแตก และคิดกับตัวเองว่า สิ่งที่ตัวเองตัดสินใจไปในอดีตนั้น เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปแล้ว
รุ่นที่ 1 ถึงกับพูดออกมาว่า “ใช่แล้ว!! เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนที่นี่จะช่วยนำทางให้เธอเอง... ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่เธอกลับเป็นผู้ที่ได้รับสืบทอด OFA ตัวผมดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยแหละ”
และคำพูดประโยคสุดท้ายของรุ่นที่ 1 ทำให้ผมคิดว่าสองคนที่หันหน้าเข้ากำแพง คงไม่ใช่บาคุโก กับคิริชิมะ ตามที่มีคนตั้งทฤษฎีกันเอาไว้หรอก แต่คงเป็นผู้สืบทอดที่ออลไมท์เคยพูดถึงว่า ในบรรดาผู้สืบทอดบางคนนั้นมีพวกที่โหยหาพลังอำนาจอยู่ด้วย หรือไม่ก็อาจจะเป็นพวกที่ยังไม่ยอมรับในตัวเดกุ
เพราะรุ่นที่ 1 หันไปพูดกับสองคนนั้นว่า “แล้วพวกนายสองคนจะหันกลับมาพูดคุย และช่วยเหลือพวกเราได้รึยัง? เดกุเขาจะได้รู้ว่าเขาสามารถคาดหวังอะไรกับอัตลักษณ์ที่เหลือของพวกนายได้บ้าง”
สำหรับตัวผม ตอนที่ 305 ของ Boku no Hero Academia เป็นตอนที่ผมชอบมากที่สุดในขณะนี้แล้ว เป็นตอนแรกของการ์ตูนเรื่องนี้ที่ทำให้ผมน้ำตาไหลเพราะอินไปกับคำตอบของเดกุ...
คือบอกตรงๆ ว่าก่อนหน้านี้หลายๆ ครั้งก็รู้สึกเลี่ยนกับความคิดของเดกุที่ว่า “สายตาของนายมันกำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่!” 🙄 เฮลโลลล่!! หยุดเอาตัวเองเป็นที่ตั้งของทุกอย่างก่อน...
แต่ในตอนนี้มันกลับต่างออกไป คำตอบของเดกุแสดงให้เห็นว่า ตัวเอกของเรามีพัฒานาการ ความคิดเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นแล้ว ไม่ได้เอาแต่รั้นหัวชนฝาว่าจะช่วยให้ได้อย่างเดียว แต่เลือกแสดงความเห็นตอบโต้อย่างมีเหตุผลว่าวิธีการที่นานะเสนอมา สุดท้ายอาจจะเป็นหนทางเดียวจริงๆ ก็ได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา และตัวเองก็ยังไม่พร้อมที่จะทำแบบนั้น อย่างน้อยตอนนี้ขอให้ได้ลองวิธีที่ตัวเองคิดว่าน่าจะเหมาะสมให้เต็มที่ดูก่อนละกัน
นี่สิ!! ฮีโร่ตัวจริงที่แม้แต่สเตนยังยอมรับ แถมคอนเซปต์ก็ไม่ใช่ว่าจะสไตล์พระเอกโชเน็นจ๋าๆ ขนาดนั้น ที่ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมฆ่าศัตรู แต่อันนี้คือถึงจะไม่อยาก แต่ถ้าจำเป็นก็คงต้องทำ(แต่ขอทำใจก่อน 5555) สมแล้วที่เป็นการ์ตูนความหวังเรื่องใหม่ของจั๊มพ์ เสียดายอย่างเดียว ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องมันยังเหลืออีกเยอะมั้ย หรือว่าใกล้เข้าบทจบแล้ว😢
แต่เดกุบอกว่า “จริงอยู่ที่มีคนล้มตายไปมาก คนที่เดกุรักหลายคนก็ต้องมาบาดเจ็บ แต่ท้ายที่สุดแล้ว OFA ก็ยังเป็นพลังที่มีไว้สำหรับช่วยเหลือผู้คน ไม่ใช่พลังที่มีไว้เข่นฆ่าผู้คน” ซึ่งเป็นสิ่งที่ออลไมท์เคยสอนเดกุไว้
แถมเดกุยังบอกอีกว่า “ออลไมท์ และทุกๆ รุ่น ล้วนแต่มีความดีความชอบในการที่ผู้คนนับไม่ถ้วนได้ถูกช่วยเหลือไว้จนถึงปัจจุบัน เพราะการบ่มเพาะพลังที่ผ่านมาของทุกรุ่น... เดิมทีพลัง OFA อาจมีเป้าหมายเพียงเพื่อกำจัด AFO แต่การที่ทุกรุ่นยังคงเก็บรักษาพลังนี้ และส่งต่อมาเรื่อยๆ เป้าหมายของ OFA ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาที่ผ่านมา”
(ช็อตนี้เงาร่างของออลไมท์ก็ได้น้ำตาร่วงไปเรียบร้อยแล้ว 😂)
และสิ่งที่เดกุทิ้งท้ายคือ “มันก็เป็นไปได้ ที่อาจจะไม่มีหนทางอื่นในการหยุดชิการาคิ นอกจากการจบชีวิตของเขา ซึ่งผมเองก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าตัวเองจะลงมือได้รึป่าว... แต่อย่างน้อยให้ผมได้ลองพยายามช่วยเด็กที่กำลังร้องไห้คนนี้ดูก่อนเถอะครับ”
คำพูดนี้เนี่ยแหละ ที่ทำให้นานะถึงกับน้ำตาแตก และคิดกับตัวเองว่า สิ่งที่ตัวเองตัดสินใจไปในอดีตนั้น เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปแล้ว
รุ่นที่ 1 ถึงกับพูดออกมาว่า “ใช่แล้ว!! เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนที่นี่จะช่วยนำทางให้เธอเอง... ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่เธอกลับเป็นผู้ที่ได้รับสืบทอด OFA ตัวผมดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยแหละ”
และคำพูดประโยคสุดท้ายของรุ่นที่ 1 ทำให้ผมคิดว่าสองคนที่หันหน้าเข้ากำแพง คงไม่ใช่บาคุโก กับคิริชิมะ ตามที่มีคนตั้งทฤษฎีกันเอาไว้หรอก แต่คงเป็นผู้สืบทอดที่ออลไมท์เคยพูดถึงว่า ในบรรดาผู้สืบทอดบางคนนั้นมีพวกที่โหยหาพลังอำนาจอยู่ด้วย หรือไม่ก็อาจจะเป็นพวกที่ยังไม่ยอมรับในตัวเดกุ
เพราะรุ่นที่ 1 หันไปพูดกับสองคนนั้นว่า “แล้วพวกนายสองคนจะหันกลับมาพูดคุย และช่วยเหลือพวกเราได้รึยัง? เดกุเขาจะได้รู้ว่าเขาสามารถคาดหวังอะไรกับอัตลักษณ์ที่เหลือของพวกนายได้บ้าง”
สำหรับตัวผม ตอนที่ 305 ของ Boku no Hero Academia เป็นตอนที่ผมชอบมากที่สุดในขณะนี้แล้ว เป็นตอนแรกของการ์ตูนเรื่องนี้ที่ทำให้ผมน้ำตาไหลเพราะอินไปกับคำตอบของเดกุ...
คือบอกตรงๆ ว่าก่อนหน้านี้หลายๆ ครั้งก็รู้สึกเลี่ยนกับความคิดของเดกุที่ว่า “สายตาของนายมันกำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่!” 🙄 เฮลโลลล่!! หยุดเอาตัวเองเป็นที่ตั้งของทุกอย่างก่อน...
แต่ในตอนนี้มันกลับต่างออกไป คำตอบของเดกุแสดงให้เห็นว่า ตัวเอกของเรามีพัฒานาการ ความคิดเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นแล้ว ไม่ได้เอาแต่รั้นหัวชนฝาว่าจะช่วยให้ได้อย่างเดียว แต่เลือกแสดงความเห็นตอบโต้อย่างมีเหตุผลว่าวิธีการที่นานะเสนอมา สุดท้ายอาจจะเป็นหนทางเดียวจริงๆ ก็ได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา และตัวเองก็ยังไม่พร้อมที่จะทำแบบนั้น อย่างน้อยตอนนี้ขอให้ได้ลองวิธีที่ตัวเองคิดว่าน่าจะเหมาะสมให้เต็มที่ดูก่อนละกัน
นี่สิ!! ฮีโร่ตัวจริงที่แม้แต่สเตนยังยอมรับ แถมคอนเซปต์ก็ไม่ใช่ว่าจะสไตล์พระเอกโชเน็นจ๋าๆ ขนาดนั้น ที่ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมฆ่าศัตรู แต่อันนี้คือถึงจะไม่อยาก แต่ถ้าจำเป็นก็คงต้องทำ(แต่ขอทำใจก่อน 5555) สมแล้วที่เป็นการ์ตูนความหวังเรื่องใหม่ของจั๊มพ์ เสียดายอย่างเดียว ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องมันยังเหลืออีกเยอะมั้ย หรือว่าใกล้เข้าบทจบแล้ว😢
แสดงความคิดเห็น
boku no hero academia 305 คำตอบของมิโดริยะ