สวัสดีคะ
เมื่อ 4 ปี ที่แล้ว ทางบ้านมีปัญหาต้องใช้เงินหลักแสน เพราะ...เอาที่นาไปจำนอง ที่นากำลังจะโดนยึดค่ะ หนูทำงานรับจ้างในกรุงเทพฯเงินเดือประมาณนึงแต่ไม่มีเงินเก็บพอจะช่วยเหลือครอบครัวได้ในตอนนั้น
จะไปขอกู้สินเชื่อกับธนาคาร ก็มีประวัติแบล็คลิตส์ติดตัว เพราะเคยทำบัตรเครดิตให้ญาติใช้แล้วเขาไม่ส่งตั้งแต่อายุ 20 (ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ)กู้ยังไงก็ไม่ผ่าน เลยไปปรึกษากับพี่ที่รู้จัก (พี่ๆที่ทำงาน) ว่าพอมีหนทางไหม๊ พี่เขาถามว่ามีรถหรือทรัพย์สินอะไรที่เป็นชื่อตัวเองบ้างหรือเปล่า
บอกพี่เขาว่ามีรถกระบะอยู่ 1 คัน ซื้อให้พ่อแม่ใช้ เป็นชื่อตัวเอง ผ่อนหมดแล้ว พี่เขาเลยบอกว่า ทำไมไม่เอาไปรีไฟแนนซ์ล่ะ เอาจริงๆตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำ คำว่ารีไฟแนนซ์หมายถึงอะไร 555 พี่เขาบอกว่าไปติดต่อธนาคารไหนก็ได้ บอกว่าจะเอารถมารีไฟแนนซ์ พี่เขาถามว่าติดแบล็คลิต์หรือปล่าว ตอบทันทีว่า "ติดค่ะ" พี่เขาถามว่ารีบใช้เงินไหม๊ถ้ารีบใช้เงิน ไม่อยากเสียเวลาไปลองยื่นตามธนาคารเพราะกลัวไม่ผ่าน ให้ไปทำที่นี่เลย "ศรีสวัสดิ์" ไม่รอช้า วันต่อมาเดินทางกลับ ตจว.ไปเอาเล่มรถที่บ้าน ตจว. ไปยื่นที่สาขาในพื้นที่ใกล้ๆบ้าน คุณพระ!!!!! เขาไม่ถามสักคำว่าติดแบล็ตลิตส์ไหม๊ ขอแค่เอกสารทางการเงิน มีคนค้ำประกันมาเซนต์ จบ!!
เขาอนุมัติวงเงินมาที่ 260,000 บาท บอกเขาว่า ต้องการแค่ 150,000 บาท เอาแค่นั้นพอ ผ่อน 4ปี 48 งวด งวดละ 5,573 บาท
ยื่นเอกสาร 09.00 น. กว่าจะกรอกเอกสารถามนู้นนี่นั้น ตรวจสภาพรถกว่าจะเสร็จก็ 2-3 ชั่วโมงน่าจะได้ พอเสร็จก่อนกลับบ้าน พนักงานแจ้งว่าถ้าไม่มีติดปัญหาอะไร เงินจะเข้าบัญชีวันนี้เลย คุณพระ เข้าจริงๆด้วย วันนั้นเลยจำเวลาไม่ได้ มียอดเงิน 150,000 บาท เด้งเข้าบัญชี ดีใจสุดๆมอบเงินทั้งหมดให้ที่บ้านทันที แล้วเดินกลับกรุงเทพฯไปทำงานหาเงินใช้หนี้อย่างสบายใจ
แล้วก็ตัดภาพมาที่ 4 ปี กับการผ่อน บางเดือนก็มีจ่าย บางเดือนก็ไม่มีจ่าย ไม่ได้ระวังดอกเบี้ยหรือค่าอะไรๆที่เพิ่มมาเลย คือสมมุติ ค้าง 3 งวด เขาโทรตามก็จะหาเงินก้อน บวกค่านั้นนู้นนี่ตามที่เขาแจ้งมาปิดให้เป็นปัจจุบัน ผ่อนๆไปช็อตอีก ก็ค้างอีก 3 งวดก็หาเงินมาปิดให้เป็นปัจจุบันแบบนี้มาตลอด ก็คือผ่อนตามกำหนดเวลา 4 ปี ทุกครั้งที่จ่ายถามแค่พนักงานอย่างเดียวว่าหนูจ่ายไปกี่งวดแล้ว เหลือกี่งวดแล้ว และแล้ววันที่เราได้เห็นตัวเลข งวดที่46-48 ก็มาถึง จากการจ่ายๆ โป๊ะๆ ณ.วันนั้น เขาแจ้งว่ามียอดค่างวดคงเหลือ 10,770 บาท ดีใจมากโบนัสออกปิดเลยดีกว่า แต่มาสะดุจตรงที่เขาแจ้งว่ามีค่าเบี้ยปรับล่าช้า 27,xxx บาท (จำตัวเลขข้างหลังไม่ได้)
สรุปคือค่างวดคงเหลือ 10,770 + 27,xxx (่ค่าปรับล่าช้า) = 37,xxx บาท
เหมือนเดิมปรึกษารุ่นพี่ รุ่นพี่บอกว่าลองขอให้เขาลดให้ น่าจะได้ บัวก็ติดต่อไปที่สาขาที่ยื่นเรื่องกู้ว่าจะขอปิดบัญชี ขอส่วนลดปิดบัญชีได้ไหม
3 วัน ผ่านไป หลังจากขอส่วนลดไป พี่เขาติดต่อกลับมาว่า ยอดหลังลดให้แล้ว คงเหลือ 27,018 บาท ให้ได้เท่านี้
อยากปิดหนี้ โอนเงินให้ที่บ้านไปปิดบัญชีให้ 28,000 บาท เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าใครจะเอาเงินปิดก็ได้ พอที่บ้านเอาเงินไปปิดก็ให้เเขาถ่ายรูปส่งใบเสร็จมาให้ เจ้าหนี้แจ้งว่า รอ 30 วัน จะได้เล่มรถคืน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ถึง30 วัน และก็ยังไม่ได้เล่ม
ในใจลึกๆก็เสียดายเงินที่เสียไปคำนวนแล้ว ทั้งดอกเบี้ย ทั้งเบี้ยปรับ ทั้งค่าอะไรๆก็ไม่รู้ กู้ 150,000 คืนเขาเกือบ 300,000 หรืออาจจะเกิน ทำไมดอกเบี้ย เปี้ยปรับ มันมากมายอะไรขนาดนี้ เงินโบนัสปีนี้ไม่เหลือสักบาท ได้ปิดหนี้แบบหมดตัวและนั่งรอต่อไปว่าเมื่อไหล่จะได้เล่มรถ
เอามาเล่าเป็นประสบการณ์ตรงจากชีวิตจริงของ (ลูกหนี้อะไรก็ได้) เผื่อจะมีประโยนช์ในการตัดสินใจให้คนที่กำลังจะทำไม่มากก็น้อย ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก แล้วแต่วิจารณญาณในการวิเคาะห์ เพราะ ณ. จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่เขารีไฟแนนซ์กัน เขาเสียเท่านี้ น้อยกว่านี้ หรือมากกว่านี้กันหรือเปล่า
(ปิดหนี้ ณ. วันที่ 25 ก.พ. 64)
ขอบคุณค่ะ
ใบบัวบก
รีไฟแนนซ์รถยนต์กับศรีสวัสดิ์เพาเวอร์ "ปิดบัญชี" ต้องจ่ายค่าเบี้ยปรับเยอะขนาดนี้ไหม ?
เมื่อ 4 ปี ที่แล้ว ทางบ้านมีปัญหาต้องใช้เงินหลักแสน เพราะ...เอาที่นาไปจำนอง ที่นากำลังจะโดนยึดค่ะ หนูทำงานรับจ้างในกรุงเทพฯเงินเดือประมาณนึงแต่ไม่มีเงินเก็บพอจะช่วยเหลือครอบครัวได้ในตอนนั้น
จะไปขอกู้สินเชื่อกับธนาคาร ก็มีประวัติแบล็คลิตส์ติดตัว เพราะเคยทำบัตรเครดิตให้ญาติใช้แล้วเขาไม่ส่งตั้งแต่อายุ 20 (ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ)กู้ยังไงก็ไม่ผ่าน เลยไปปรึกษากับพี่ที่รู้จัก (พี่ๆที่ทำงาน) ว่าพอมีหนทางไหม๊ พี่เขาถามว่ามีรถหรือทรัพย์สินอะไรที่เป็นชื่อตัวเองบ้างหรือเปล่า
บอกพี่เขาว่ามีรถกระบะอยู่ 1 คัน ซื้อให้พ่อแม่ใช้ เป็นชื่อตัวเอง ผ่อนหมดแล้ว พี่เขาเลยบอกว่า ทำไมไม่เอาไปรีไฟแนนซ์ล่ะ เอาจริงๆตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำ คำว่ารีไฟแนนซ์หมายถึงอะไร 555 พี่เขาบอกว่าไปติดต่อธนาคารไหนก็ได้ บอกว่าจะเอารถมารีไฟแนนซ์ พี่เขาถามว่าติดแบล็คลิต์หรือปล่าว ตอบทันทีว่า "ติดค่ะ" พี่เขาถามว่ารีบใช้เงินไหม๊ถ้ารีบใช้เงิน ไม่อยากเสียเวลาไปลองยื่นตามธนาคารเพราะกลัวไม่ผ่าน ให้ไปทำที่นี่เลย "ศรีสวัสดิ์" ไม่รอช้า วันต่อมาเดินทางกลับ ตจว.ไปเอาเล่มรถที่บ้าน ตจว. ไปยื่นที่สาขาในพื้นที่ใกล้ๆบ้าน คุณพระ!!!!! เขาไม่ถามสักคำว่าติดแบล็ตลิตส์ไหม๊ ขอแค่เอกสารทางการเงิน มีคนค้ำประกันมาเซนต์ จบ!!
เขาอนุมัติวงเงินมาที่ 260,000 บาท บอกเขาว่า ต้องการแค่ 150,000 บาท เอาแค่นั้นพอ ผ่อน 4ปี 48 งวด งวดละ 5,573 บาท
ยื่นเอกสาร 09.00 น. กว่าจะกรอกเอกสารถามนู้นนี่นั้น ตรวจสภาพรถกว่าจะเสร็จก็ 2-3 ชั่วโมงน่าจะได้ พอเสร็จก่อนกลับบ้าน พนักงานแจ้งว่าถ้าไม่มีติดปัญหาอะไร เงินจะเข้าบัญชีวันนี้เลย คุณพระ เข้าจริงๆด้วย วันนั้นเลยจำเวลาไม่ได้ มียอดเงิน 150,000 บาท เด้งเข้าบัญชี ดีใจสุดๆมอบเงินทั้งหมดให้ที่บ้านทันที แล้วเดินกลับกรุงเทพฯไปทำงานหาเงินใช้หนี้อย่างสบายใจ
แล้วก็ตัดภาพมาที่ 4 ปี กับการผ่อน บางเดือนก็มีจ่าย บางเดือนก็ไม่มีจ่าย ไม่ได้ระวังดอกเบี้ยหรือค่าอะไรๆที่เพิ่มมาเลย คือสมมุติ ค้าง 3 งวด เขาโทรตามก็จะหาเงินก้อน บวกค่านั้นนู้นนี่ตามที่เขาแจ้งมาปิดให้เป็นปัจจุบัน ผ่อนๆไปช็อตอีก ก็ค้างอีก 3 งวดก็หาเงินมาปิดให้เป็นปัจจุบันแบบนี้มาตลอด ก็คือผ่อนตามกำหนดเวลา 4 ปี ทุกครั้งที่จ่ายถามแค่พนักงานอย่างเดียวว่าหนูจ่ายไปกี่งวดแล้ว เหลือกี่งวดแล้ว และแล้ววันที่เราได้เห็นตัวเลข งวดที่46-48 ก็มาถึง จากการจ่ายๆ โป๊ะๆ ณ.วันนั้น เขาแจ้งว่ามียอดค่างวดคงเหลือ 10,770 บาท ดีใจมากโบนัสออกปิดเลยดีกว่า แต่มาสะดุจตรงที่เขาแจ้งว่ามีค่าเบี้ยปรับล่าช้า 27,xxx บาท (จำตัวเลขข้างหลังไม่ได้)
สรุปคือค่างวดคงเหลือ 10,770 + 27,xxx (่ค่าปรับล่าช้า) = 37,xxx บาท
เหมือนเดิมปรึกษารุ่นพี่ รุ่นพี่บอกว่าลองขอให้เขาลดให้ น่าจะได้ บัวก็ติดต่อไปที่สาขาที่ยื่นเรื่องกู้ว่าจะขอปิดบัญชี ขอส่วนลดปิดบัญชีได้ไหม
3 วัน ผ่านไป หลังจากขอส่วนลดไป พี่เขาติดต่อกลับมาว่า ยอดหลังลดให้แล้ว คงเหลือ 27,018 บาท ให้ได้เท่านี้
อยากปิดหนี้ โอนเงินให้ที่บ้านไปปิดบัญชีให้ 28,000 บาท เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าใครจะเอาเงินปิดก็ได้ พอที่บ้านเอาเงินไปปิดก็ให้เเขาถ่ายรูปส่งใบเสร็จมาให้ เจ้าหนี้แจ้งว่า รอ 30 วัน จะได้เล่มรถคืน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ถึง30 วัน และก็ยังไม่ได้เล่ม
ในใจลึกๆก็เสียดายเงินที่เสียไปคำนวนแล้ว ทั้งดอกเบี้ย ทั้งเบี้ยปรับ ทั้งค่าอะไรๆก็ไม่รู้ กู้ 150,000 คืนเขาเกือบ 300,000 หรืออาจจะเกิน ทำไมดอกเบี้ย เปี้ยปรับ มันมากมายอะไรขนาดนี้ เงินโบนัสปีนี้ไม่เหลือสักบาท ได้ปิดหนี้แบบหมดตัวและนั่งรอต่อไปว่าเมื่อไหล่จะได้เล่มรถ
เอามาเล่าเป็นประสบการณ์ตรงจากชีวิตจริงของ (ลูกหนี้อะไรก็ได้) เผื่อจะมีประโยนช์ในการตัดสินใจให้คนที่กำลังจะทำไม่มากก็น้อย ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก แล้วแต่วิจารณญาณในการวิเคาะห์ เพราะ ณ. จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่เขารีไฟแนนซ์กัน เขาเสียเท่านี้ น้อยกว่านี้ หรือมากกว่านี้กันหรือเปล่า
(ปิดหนี้ ณ. วันที่ 25 ก.พ. 64)
ขอบคุณค่ะ
ใบบัวบก