จริงๆ เราเป็นคนชอบอ่านชอบศึกษาเรื่องสุขภาพแนวธรรมชาติอยู่แล้วและได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับแพทย์แผนจีนมาเยอะมาก ขนาดหนังสือที่อ่านเป็นหมอฝรั่ง หมอญี่ปุ่นก็ยังพูดถึงว่าถ้าเอาข้อดีของทั้งแพทย์ตะวันตกและตะวันออกมาผสมผสานกันการรักษาจะยิ่งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แพทย์แผนตะวันตกเน้นรักษาไปที่โรคโดยตรงส่วนแพทย์ตะวันออกเน้นรักษาภาพรวมตามสภาพร่างกายของแต่ละคน 

แม้จะศึกษามานานแต่ก็ลีลาเพราะบางที่ก็ราคาสูงส่วนที่ที่มีแต่คนชมทั้งคุณภาพและราคาก็ ม.หัวเฉียวนู่น พอดีที่มีคนแนะนำว่าที่ราชภัฎจันทรเกษมเค้าก็มีคลีนิคแพทย์แผนจีนนะ เอ้าเพิ่งรู้และอยู่ใกล้ด้วยเลยพาแม่ไปลองกันทั้งคู่ แม่เราชอบบ่นขาไม่ค่อยมีแรง เหมือนนอนไม่พอรู้สึกว่าตื่นบ่อย ฯลฯ(แต่นาฬิกาจับว่านางหลับลึกเก่งมากคืนละ 3+ ชม.ได้) ทางร่างกายก็เดินขโยกเขยกเหมือนคนอายุ 80+ อ่ะ เจอคนแก่หลายคนแข็งแรงจนชนเราล้มอยู่เลย ไปหาหมอที่ รพ. ตรวจทุกอย่างก็ปกติ CT scan ก็ปกติ เลยได้โอกาสมาลองแผนจีนนี่แหล่ะค่ะ 

ไปครั้งแรกคุณหมอแมะนานมากกกกกก ละเอียดมากๆ หมอถามว่าแม่กินเนื้อสัตว์บ้างมั๊ยก็เลยบอกว่าเค้าคุมคอเลสตอรอลจนไม่ต้องกินยามา 2 ปีแล้วนางเลยจะขี้กลัวเวลาจะกินอะไรเพราะบ้านเราไม่ชอบกินยากัน หมอบอกว่าร่างกายไม่มีแรงเพราะขาดโปรตีนบางทีเราคิดว่าเรากินครบ กินเยอะ กินถั่วกินนมแล้ว แต่โปรตีนจากเนื้อสัตว์ก็สำคัญมากกับคนแก่เลยให้เพิ่มตรงนี้และเลี่ยงเนื้อมันๆ เอา และหมอก็จัดยาจีนให้มากิน เดี๋ยวนี้คือดีมากๆ เค้าต้มยาแพ็คใส่เป็นซองๆ ละแก้วให้เลยค่ะ เจ๋งมากๆ เพราะเคยซื้อยาจากเยาวราชมาต้มเองแทบไม่ได้กินเพราะกว่าจะเสร็จท้อแท้มาก 555555 คุยกับพยาบาลเค้าบอกใช้หม้อต้มเป็นระบบทุกอย่างทั้งคุมอุณหภูมิ สะอาดปลอดภัย บางทีเราไปซื้อมาต้มเองมันจะปนเปื้อนง่ายมากๆ ทั้งจากสมุนไพรและภาชนะที่ใช้ วิธีก็ง่ายๆ เลย เอายาแช่เย็นไว้ หยิบมาฉีกอุ่นเวฟกินทีละถุง ถ้าต้องพกไปข้างนอกก็เอาถุงแช่น้ำอุ่นได้ เพอเฟคสำหรับชีวิต 4.0 มาก 

ที่พีคคือหมอแมะแล้วรู้ด้วยอ่ะว่าแม่เป็นริดสีดวง ซึ่งเป็นมานานมากกกหลายสิบปีแล้วตั้งแต่คลอดลูกแล้วแม่บอกมันแห้งหายไปเองเลยลืมไปแล้ว ตอนหมอถามก็บอกไม่เป็นนะ หมอก็ถามย้ำๆๆๆ จนแม่นึกได้ว่าเคยเป็นแต่หายแล้ว หมอเลยถามว่าแต่ไม่ได้ผ่าตัดหรือรักษาให้หายขาดใช่มั๊ย แม่บอกใช่เพราะมันหายเอง... หมอเลยบอกว่ามันไม่ได้หายไปไหนเพราะหมอยังตรวจเจอ แต่ถ้าดูแลไม่ให้ท้องผูกบ่อยๆ มันก็ไม่มีผลอะไรกับเราหรอกแค่บอกไว้เฉยๆ จะได้ระวัง แล้วหมอก็ฝังเข็มช่วยเรื่องการนอนหลับให้แม่ ตื่นเต้นกันสุดๆ แต่ได้ผลดีจนน่าตกใจถ้าเทียบกับความกังวลมานานหลายปี 

ส่วนของเราหมอให้ยาบำรุงเลือดเพราะอาการมันฟ้อง ช่วงหลังๆ เราหน้ามืดบ่อยเวลาลุกเร็วๆ หรือล้อมตัวนอนแรงๆเร็วๆ บวกกับอ่านหนังสือ+ดูซีรีย์หนักมากบางครั้งนอนหงายอยู่ดูหนังกำลังมันพลิกตัวมานอนคว่ำหน้ามืดซะงั้นเป็นซัก 5-10 วิก็หาย และบางครั้งอยู่ๆ หูอื้อเองเหมือนตอนขึ้นเครื่องแป๊บๆ ก็หาย อาการอื่นหมอให้ยาคือเห็นผลตั้งแต่อาทิตย์แรกเลยอ่ะ 

ส่วนฝังเข็มหมอบอกรักษาอาการที่อยู่ๆ หูอื้อ นั่นง่ะฝังเข็มครั้งแรกเจอฝังที่แก้มข้างๆหูไหลลงคอ และอีกหลายๆ ที่ เลยอยากเล่าประสบการณ์เท่าที่สัมผัสได้เนี่ย หมอมือไวมากๆค่ะ เค้าจะเอานิ้วจิ้มๆนิดนึงทาแอลฯเร็วๆ แล้วปักเลย เร็วจนบางจุดก็ไม่รู้สึกเลยบอกละเอียดไม่ได้ว่าเค้าปักตรงไหนบ้าง 5555 บางที่ที่เนื้อบางรู้สึกจะจิ๊ดๆ เจ็บน้อยกว่าลองเอาเข็มทิ่มตัวเอง จะมีบางจุดหลังฝังเข็มเสร็จมันจะปวดหน่วงๆ เบาๆ ไปตามเส้นเรารู้สึกแบบนี้แค่ที่แขนอยู่พักนึงก็หายเลย แต่ที่ งง คือไม่รู้หมอปักไปโดนจุดไหนวันนั้นปวดๆ หัวอยู่ระหว่างปักเข็มมันหายเฉยเลย 5555 กับตอนฝังเข็มเสร็จเรียบร้อยกลับมาบ้าน โอโห้ง่วงสุดๆๆๆๆๆ ง่วงแบบสามารถหลับกลางอากาศได้เลย สรุปวันนี้นอนตั้งแต่ 2 ทุ่มยันเช้า แม่บอกสงสัยเลือดลมเดินดีมั๊ง 

นี่แหล่ะค่ะประสบการณ์ครั้งแรกเลยอยากมาเล่า อีกอย่างตอนกินยาจีนนี่จะรู้สึกอุ่นทั้งร่างตลอดเลยรู้สึกดีอ่ะหน้าแดงนิดเหมือนกรึ่มๆตอนจิบกับเพื่อนฝูงซะงั้น 555555 ส่วนรูปประกอบนี่เดินถ่ายระหว่างรอต้มยาค่ะ (รอประมาณ 1 ชม.แล้วแต่คิววันนั้นด้วย)
และขอปิดท้ายด้วยข้าวแกงกะหรี่อร่อยมากกกก ร้านอยู่หลังคลีนิคเลยอยู่ในจันทรเกษมข้างๆป้อมยาม เรื่องกินเรื่องใหญ่ค่ะ 🤣🤣🤣