พระเอกหนุ่ม พอร์ช ศรัณย์ ที่ล่าสุดเจ้าตัวตัดสินใจออกมาเป็นนักแสดงอิสระ และวันนี้ เจ้าตัวจะมาเผยสาเหตุที่ไม่ต่อสัญญากับทางต้นสังกัดเดิม

จนเกิดดราม่า จบไม่สวย จริงหรือเปล่า ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร

พร้อมเปิดใจฉายา พระเอกเสือผู้หญิง ขึ้นแท่นเจ้าชู้ตัวพ่อของวงการ แถมยอมรับแบบแมนๆ ว่าเป็นหนุ่มสายเปย์ เคยทุ่มเงินให้ผู้หญิงหมดเงินนับล้านบาท

พอร์ช : ถูกต้องครับ คือ ด้วยความที่เราอยู่มาหลายปีแล้ว น่าจะประมาณ 12 ปี เราก็อยากไปเจออะไรใหม่ๆ บ้าง อยากไปทำงานที่ใหม่ๆ เจอคนใหม่ๆ

แล้วด้วยความที่อายุเรา 30 แล้ว บางทีเราก็อยากทำธุรกิจอะไรอย่างนี้ ถ้าเป็นฟรีแลนซ์มันจะโปรโมทสินค้าของเราได้ง่ายกว่า

 

พอร์ช : ไม่มีครับ

พอร์ช : ยินดีมากกลับ ตอนคุยผมก็บอกไว้แล้ว ผมบอกว่าถ้าอยากให้ไปเล่น ยินดีมากๆ ครับ

พอร์ช : ก็นิดนึงครับ จริงๆ เราเกิดมาจากช่องนี้ แล้วก็รักมากๆ ผมว่าเรื่องเนรคุณมันอยู่ที่ความคิดคนมากกว่า

ผมก็ยังรักช่องเหมือนเดิม ยังสามารถกลับไปทำงานได้เหมือนเดิมครับ

พอร์ช : จริงๆ ก็รู้สึกไม่ดี เดี๋ยวนี้ช่องมันก็เยอะ เราก็อยากไปเจออะไรใหม่ๆ บ้าง

พอร์ช : ไม่เกี่ยวๆ เลย จริงๆ ด้วยเหตุผลส่วนตัวมากกว่า อยากทำธุรกิจ อยากไปเจอที่ทำงานใหม่ๆ อันนี้ประเด็นสำคัญ

พอร์ช : จริงๆ พี่ธงนี่อาจารย์ผม ละครเรื่องแรกก็เล่นกับพี่ธง แล้วเล่นกับพี่ธงมาตลอด แล้วเขาเป็นคนสอนแอคติ้งผมในการเล่นละครอะไรต่างๆ รวมไปถึงการใช้ชีวิตต่างๆ ก็จะปรึกษาพี่ธง

พอร์ช : ตอนนั้นไม่ได้ปรึกษาเลย ตัดสินใจกับผู้จัดการ แบบเผื่อทำธุรกิจอย่างนู่น อย่างนี้นะ

พอร์ช : มีครับ แต่ยังไม่รู้ว่าเขาให้บอกหรือยัง แต่ตอนนี้มีอยู่ 2 เรื่องที่น่าจะเฟิร์ม น่าจะเปิดกล้องปลายปีครับ

พอร์ช : จริงๆ แล้ว ก่อนที่เราเกิดอุบัติเหตุ เราก็ไม่ค่อยได้ไหว้พระ ทำบุญ แต่ช่วงหลังๆ มานี่บ่อยมาก ไปต่างจังหวัด มีให้ไปเปลี่ยนเลขบัตรประชาชน

พอร์ช : มอเตอร์ไซค์คว่ำ เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นขี่ไปทริปกับแก๊งดาราด้วยกันนี่แหละ

ถนนลื่น แล้วด้วยความที่เรายังเด็กอาจจะห้าวด้วย ขี่ไม่ระวัง แล้วก็คว่ำ พอคว่ำปุ๊บ จำอะไรไม่ได้เลยนะ ตื่นมางงมากที่นี่ที่ไหน

พอร์ช : ICU ประมาณ 4 วัน หนักมาก ซี่โครงหัก 4 ปอดทะลุ กระดูกสันหลังบิ่น สะบักร้าว เลิกซ่าเลยครับ

พอร์ช : จริงๆ เดินได้ครับ แต่ยืนนานไม่ได้ ตอนนั้นออกมาก็ถ่ายละครเลยนะ ก็ต้องมีเก้าอี้รอไว้ เกิน 3-4 นาทีเจ็บหลัง

แล้วเราก็หยุดออกกำลังกายมาหลายปี เพราะว่ามันออกกำลังกายหนักไม่ได้เลย วิ่งไม่ค่อยได้

พอร์ช : เอ็นขาดครับ ผ่าเย็บเอ็น อันนี้ซวยมาก กินข้าวที่ร้านคุณพ่อลื่นทับแก้ว

แล้วแผลเล็กมาก แผลไม่ถึงครึ่งเซนที่ปักลงไป แต่มันดันไปโดนเอ็นนิ้วกลางพอดีขาด อันนี้ลำบาก นี่เป็นสิ่งที่นอยด์มากๆ กว่าการมอเตอร์ไซค์ล้มอีก

พอร์ช : ประมาน 1 ปีครับ แต่ว่าเราไม่สามารถเล่นดนตรีได้เหมือนเดิม ก็ต้องกายภาพ เล่นกีต้าร์ก็ลำบาก บางคอร์สจะจับไม่ได้

พอร์ช : เครียด

พอร์ช : มีครับ อันนี้คุณย่าบอกเรา อิติปิโส ภะคะวา ย่าตายามดี อังคารชัยศรี สวัสดีรามโพธิ์ นะโม พุทธายะ

เป็นคาถาป้องกันภัยในแต่ละวันที่เราออกไปทำงาน เวลารู้สึกว่าตัวเองขับรถเร็วผมก็เริ่มท่องตลอด ขับรถทีนึงท่อง 20 กว่ารอบ

พอร์ช : ผมว่ามันดีอย่างนึงคือจิตใจเรา รู้สึกว่าจิตใจเราสงบขึ้น เมื่อก่อนเด็กๆ ใจร้อน ห้าวๆ หน่อย

แต่พอเรามีอะไรเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเรามันก็ทำให้เรามีสติมากขึ้น

พอร์ช : เคยเจออยู่ครั้งนึง ปกติไม่เคยตื่นมากลางดึก มีอยู่วันนึงตื่นมาตี 4 ครึ่ง ตี5 ลืมตาขึ้นมา เห็นคนตัวใหญ่ๆ สูงๆ เลยอยู่ที่ปลายเท้า

เหมือนคนช็อก อ้าปากค้าง คลุมโปงอยู่เป็นชั่วโมงสวดมนต์

พอร์ช : ล่าสุดก็ทำ เพื่อนบอกมีวิญญาณตามติดตัวเปล่า ลองทำบุญให้เขาดู

พอร์ช : อันนี้เจอนานแล้ว แต่บางทีก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีคนอยู่ด้วย แต่ล่าสุดไปทำบุญ เพื่อนบอกให้ไปไหว้ เจ้ากรรมนายเวร ไหว้ผีติดตามตัว

มีพระเคยทักว่าคนที่ตามอยู่เขาดีมากเลย ทำบุญให้เขาบ้าง

พอร์ช : ไม่ได้ขี่แล้ว

พอร์ช : ผมว่าอยู่ที่คนมองมากกว่า เวลาผมคุยกับใครจริงจัง ผมก็คุยแค่คนเดียว มันก็ถือเป็นการให้เกียรติคนที่เราคุยด้วย

พอร์ช : จริงๆ แล้ว ผมเป็นคนเฟรนลี่ด้วยแหละ บางทีเราไม่ได้คิดอะไร

แต่บางทีคนภายนอกมองพอร์ชเอาอีกแล้วนะ สนิทกับผู้หญิงอีกแล้วนะ แต่จริงๆ เราไม่ได้คิดอะไรเลย

พอร์ช : พี่ชายผม เขาชอบ ผมก็เลยไปแกล้งเขา เพื่อให้พี่ชายผมหึง ว่าพอร์ชรู้จักได้ยังไง แค่นั้นเอง ไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย ไม่ได้รู้จัก

ยังงงเลยว่าเป็นข่าวได้ยังไง เราก็ไม่ได้ตั้งใจ ตอนแรก ผมสมน้ำหน้ารุ่นพี่นะ เป็นไงล่ะ สุดท้ายเจอข่าว สมน้ำหน้า เป็นไงไอพอร์ช

พอร์ช : ผมชอบผู้หญิงแบบเนื้อ นม ไข่ แต่สุดท้าย มันก็ย้อนกลับมาว่ามันอยู่ที่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตว่ามันเข้ากันได้หรือเปล่า

พอร์ช : ขอโทษครับผม พี่ไม่ได้จีบนะ ขอโทษแฟนคลับน้องด้วย อย่าเอาผมไปเกี่ยวเลย แค่นี้ผมก็โดนด่าแล้ว

พอร์ช : ก็ไม่ได้ทุ่มถึงขนาดนั้น บางทีเราก็ไปสืบว่าเขาชอบอะไร

พอร์ช : ใช่ก็เคยมี ก็ไม่ได้ทุ่ม เราไม่ได้ให้ตอนจีบ ให้ตอนเป็นแฟนแล้ว อะไรที่แฟนเราชอบ รัก เราก็อยากจะทำให้

พอร์ช : ไม่ ให้แล้วให้เลย ไม่เคยทวง ทุกอย่างเราถือว่าเราให้ด้วยความรัก สุดท้ายแล้วเขามีความสุขในชีวิตของเขามันก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา

พอร์ช : มันไม่ได้ถึงขนาดนั้น มันแค่รวมๆ กันหลายอย่าง ส่วนมากผู้หญิงเขาชอบอะไรละ นาฬิกาก็มีบ้าง

พอร์ช : แฟนจริงๆ มีไม่กี่คน ไม่เกิน 5-6 คนหรอก  เพราะว่าเรามีแฟนคบนาน คบแบบ 4-5 ปี นานสุดคือประมาณ 5 ปี

พอร์ช : มันก็หลายอย่าง มันเป็นเรื่องของคนสองคน สุดท้ายมันไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์ และแย่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เหตุผลส่วนใหญ่ก็คือเข้ากันไมได้ ไลฟ์สไตล์ชีวิตไม่เหมือนกัน พอมันเริ่มมาจากเรื่องนี้ ต้อไปมันจะทะเลาะเรื่องอื่นมากขึ้น แต่เหตุผลสำคัญก็น่าจะเป็นเรื่องนี้

พอร์ช : ผมว่า สมัยก่อนเราอาจจะไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง บางทีเราก็อยากเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนที่เรารัก แต่ว่าพอมาตอนนี้เรารู้แล้ว ก็คนละครึ่งอะ

ถ้าเกิดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมันมากเกินไปมันก็เกิน