คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เราเข้าใจ ความขยะแขยง โกรธมัน / เกลียดตัวเอง และเห็นใจแฟน ที่คุณรู้สึกอยู่ตอนนี้นะคะ
เราขอให้กำลังใจคุณ และแนวคิดเพื่อเพิ่มพูนความเข้มแข็งให้ใจ เบื้องต้น ดังนี้ ...
1. ยุคนี้ การแสดงความคิดเห็นเปิดกว้าง คุณอาจจะพบสุภาพชน หรือ ทรชนได้ง่ายดาย เพียงแค่อ่านจากหน้าจอ
บางความเห็น คนเขียน เขียนไว้แบบไม่รับผิดชอบต่อสังคม เขียนในแบบที่หากตัวเองโดนบ้างก็จุก
เขียนเอามันส์ / เขียนสนองอัตตา หรืออวยพวกพ้องแบบไม่ต้องมีเหตุผลรองรับ
เด็กในยุคนี้ ต้องมีภูมิต้านทานในใจที่สูง (เพราะการอบรมสั่งสอนให้รู้จักผิดชอบชั่วดี อาจจะไม่ทันสื่อออนไลน์)
ต้องดูแลตัวเอง แยกแยะด้วยตัวเอง ว่าจะเสพสิ่งใด จะอยู่ฝ่ายไหน ดีหรือชั่ว
ความมั่นคงทางใจต้องหมั่นฝึกฝน ถูกผิด ต้องหมั่นแยกแยะ ไตร่ตรอง
ในวัย 14 ณ ตอนนั้น คุณยังเด็กมาก คุณไม่ชอบ แต่รู้สึกว่าถูกความเห็นของคนส่วนใหญ่ในสังคมที่คุณพบเจอขณะนั้น
บีบคั้นให้ต้องยอม คุณสงสัยตัวเอง จึงยอมกลับไปคบ แต่คบแล้วไม่มีความสุข คุณก็ไม่กล้าออกมา
เพราะกลัวการ แปลกแยก ไม่เป็นที่ยอมรับ กลัวการรู้สึกว่า ตัวเองผิดปกติ เมื่อทนไปเรื่อยๆ ความเกลียดตัวเอง จึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
วิธีเยียวยา ความชิงชัง ความคับข้องใจ ที่ให้ผลชะงัดคือ คุณต้องเข้าใจตัวเอง และอ่อนโยนกับตัวเองกว่านี้ค่ะ
เมตตา ให้ เด็กอ่อนเดียงสาคนหนึ่ง ที่ถูกกระทำตามลมปากคน ที่ตัดสินใจเองไม่ได้ จนเกิดแผลในใจลามมาถึงทุกวันนี้
“อภัยให้ตัวเองเถิดนะคะ” บาดแผล เจ็บแล้วหายได้ค่ะ ความรวดเร็วในการฟื้นฟูขึ้นอยู่กับการวางใจล้วนๆเลย
หากความคิดเดิมๆผุดขึ้นมา ให้มองในแง่ว่า
นั่นแหละ บทเรียนของฉัน ความเจ็บทำให้ฉันเติบโตและเรียนรู้ที่จะปกป้องสิทธิของตนเอง
จะไม่ยอมถูกใครย่ำยี ตามที่สังคมส่วนใหญ่ว่าดีอีกเด็ดขาด ฉันจะมีความมั่นใจตัวเอง ฉันรักตัวเองในทางถูก และจะยืนอยู่ข้างความถูกต้องเสมอ
ทำบ่อยๆค่ะ เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่คิดปุ๊บแล้วจะหายปั๊บ เบนมุมมองตัวเอง มาในทางบวก ทางเยือกเย็นให้ใจบ่อยๆ
ยามที่เผลอร้อนรุ่ม ก็มีสติ รู้ให้เท่าทันว่า ถ้าคุณไม่ไปปรุงแต่งต่อ จากความฟุ้งซ่านปัจจุบัน (เพราะอดีตมันจบไปนานแล้ว)
คุณจะไม่เจ็บมากเท่าเดิม แต่ถ้าเผลอคิดเผลอโกรธและเกลียด ความเจ็บจะดูเหมือนมันลุกลามใหญ่โตขึ้นมาอีก
หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ผ่อนคลายตัวเองให้เป็น เวลาที่หัวใจทุกข์ร้อน
เมื่อใจสงบลง เริ่มอภัยให้ตนเองได้แล้ว ค่อยอ่านในสปอย ต่อนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. เรื่องแฟน คุณโชคดี ที่มีแฟนดี และเข้าใจคุณ
คุณอย่าเผลอไปกดดันตัวเอง เพราะเรื่องนี้ค่ะ ยิ่งกดดัน คุณจะยิ่งรังเกียจ อยากยอม แต่เพราะใจไม่ยอมเอง ยิ่งเพิ่มความสับสนในตน
และเมื่อผิดหวังในตัวเองบ่อยๆ กอปรกับ กลัวแฟนผิดหวังในคุณ มันจะซ้ำเติมบาดแผลเกลียดตัวเองของคุณให้ประทุขึ้นมาอีกค่ะ
อย่าไปเชื่อสังคมส่วนใหญ่ ที่เขาบอกว่าเซ็กส์ สำคัญ (ใช่ค่ะ สำคัญและ อาจจะเหมาะกับคนเหล่านั้น)
อย่าเอา มาตรฐานของคนอื่น มาวัดตัวเองในเรื่องนี้โดยเด็ดขาดค่ะ
ท่ามกลางกระแสฟรีเซกส์ / อยู่ก่อนแต่ง / ผิดกามออกสื่อ / ความวิตถารทางเพศนานาประการ / ขายตัวอย่างมีเกียรติ ฯ
คนที่อยู่ ในสังคมแบบนั้น เขาอาจจะโพสต์ หรือแสดงความเห็น ในแบบที่เขามองว่าปกติ
สำหรับคุณ ความปกติคือ ต้องค่อยเป็นค่อยไป .. ให้ความรักนำทาง ให้ความอ่อนโยน และอ่อนละมุนของเขารักษาหัวใจคุณ
“ไม่ต้องรีบร้อน ... ไม่ต้องเร่งเร้า” ยิ่งรีบจะยิ่งช้าค่ะ
คุณอายุยังน้อยเวลายังมีเยอะ ที่จะค่อยๆเยียวยาบาดแผลทางใจนี้ เราเชื่อว่าคุณจะหายดี
และจะมีชีวิตครอบครัวที่ผาสุกค่ะ
เราขอให้กำลังใจคุณ และแนวคิดเพื่อเพิ่มพูนความเข้มแข็งให้ใจ เบื้องต้น ดังนี้ ...
1. ยุคนี้ การแสดงความคิดเห็นเปิดกว้าง คุณอาจจะพบสุภาพชน หรือ ทรชนได้ง่ายดาย เพียงแค่อ่านจากหน้าจอ
บางความเห็น คนเขียน เขียนไว้แบบไม่รับผิดชอบต่อสังคม เขียนในแบบที่หากตัวเองโดนบ้างก็จุก
เขียนเอามันส์ / เขียนสนองอัตตา หรืออวยพวกพ้องแบบไม่ต้องมีเหตุผลรองรับ
เด็กในยุคนี้ ต้องมีภูมิต้านทานในใจที่สูง (เพราะการอบรมสั่งสอนให้รู้จักผิดชอบชั่วดี อาจจะไม่ทันสื่อออนไลน์)
ต้องดูแลตัวเอง แยกแยะด้วยตัวเอง ว่าจะเสพสิ่งใด จะอยู่ฝ่ายไหน ดีหรือชั่ว
ความมั่นคงทางใจต้องหมั่นฝึกฝน ถูกผิด ต้องหมั่นแยกแยะ ไตร่ตรอง
ในวัย 14 ณ ตอนนั้น คุณยังเด็กมาก คุณไม่ชอบ แต่รู้สึกว่าถูกความเห็นของคนส่วนใหญ่ในสังคมที่คุณพบเจอขณะนั้น
บีบคั้นให้ต้องยอม คุณสงสัยตัวเอง จึงยอมกลับไปคบ แต่คบแล้วไม่มีความสุข คุณก็ไม่กล้าออกมา
เพราะกลัวการ แปลกแยก ไม่เป็นที่ยอมรับ กลัวการรู้สึกว่า ตัวเองผิดปกติ เมื่อทนไปเรื่อยๆ ความเกลียดตัวเอง จึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
วิธีเยียวยา ความชิงชัง ความคับข้องใจ ที่ให้ผลชะงัดคือ คุณต้องเข้าใจตัวเอง และอ่อนโยนกับตัวเองกว่านี้ค่ะ
เมตตา ให้ เด็กอ่อนเดียงสาคนหนึ่ง ที่ถูกกระทำตามลมปากคน ที่ตัดสินใจเองไม่ได้ จนเกิดแผลในใจลามมาถึงทุกวันนี้
“อภัยให้ตัวเองเถิดนะคะ” บาดแผล เจ็บแล้วหายได้ค่ะ ความรวดเร็วในการฟื้นฟูขึ้นอยู่กับการวางใจล้วนๆเลย
หากความคิดเดิมๆผุดขึ้นมา ให้มองในแง่ว่า
นั่นแหละ บทเรียนของฉัน ความเจ็บทำให้ฉันเติบโตและเรียนรู้ที่จะปกป้องสิทธิของตนเอง
จะไม่ยอมถูกใครย่ำยี ตามที่สังคมส่วนใหญ่ว่าดีอีกเด็ดขาด ฉันจะมีความมั่นใจตัวเอง ฉันรักตัวเองในทางถูก และจะยืนอยู่ข้างความถูกต้องเสมอ
ทำบ่อยๆค่ะ เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่คิดปุ๊บแล้วจะหายปั๊บ เบนมุมมองตัวเอง มาในทางบวก ทางเยือกเย็นให้ใจบ่อยๆ
ยามที่เผลอร้อนรุ่ม ก็มีสติ รู้ให้เท่าทันว่า ถ้าคุณไม่ไปปรุงแต่งต่อ จากความฟุ้งซ่านปัจจุบัน (เพราะอดีตมันจบไปนานแล้ว)
คุณจะไม่เจ็บมากเท่าเดิม แต่ถ้าเผลอคิดเผลอโกรธและเกลียด ความเจ็บจะดูเหมือนมันลุกลามใหญ่โตขึ้นมาอีก
หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ผ่อนคลายตัวเองให้เป็น เวลาที่หัวใจทุกข์ร้อน
เมื่อใจสงบลง เริ่มอภัยให้ตนเองได้แล้ว ค่อยอ่านในสปอย ต่อนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. เรื่องแฟน คุณโชคดี ที่มีแฟนดี และเข้าใจคุณ
คุณอย่าเผลอไปกดดันตัวเอง เพราะเรื่องนี้ค่ะ ยิ่งกดดัน คุณจะยิ่งรังเกียจ อยากยอม แต่เพราะใจไม่ยอมเอง ยิ่งเพิ่มความสับสนในตน
และเมื่อผิดหวังในตัวเองบ่อยๆ กอปรกับ กลัวแฟนผิดหวังในคุณ มันจะซ้ำเติมบาดแผลเกลียดตัวเองของคุณให้ประทุขึ้นมาอีกค่ะ
อย่าไปเชื่อสังคมส่วนใหญ่ ที่เขาบอกว่าเซ็กส์ สำคัญ (ใช่ค่ะ สำคัญและ อาจจะเหมาะกับคนเหล่านั้น)
อย่าเอา มาตรฐานของคนอื่น มาวัดตัวเองในเรื่องนี้โดยเด็ดขาดค่ะ
ท่ามกลางกระแสฟรีเซกส์ / อยู่ก่อนแต่ง / ผิดกามออกสื่อ / ความวิตถารทางเพศนานาประการ / ขายตัวอย่างมีเกียรติ ฯ
คนที่อยู่ ในสังคมแบบนั้น เขาอาจจะโพสต์ หรือแสดงความเห็น ในแบบที่เขามองว่าปกติ
สำหรับคุณ ความปกติคือ ต้องค่อยเป็นค่อยไป .. ให้ความรักนำทาง ให้ความอ่อนโยน และอ่อนละมุนของเขารักษาหัวใจคุณ
“ไม่ต้องรีบร้อน ... ไม่ต้องเร่งเร้า” ยิ่งรีบจะยิ่งช้าค่ะ
คุณอายุยังน้อยเวลายังมีเยอะ ที่จะค่อยๆเยียวยาบาดแผลทางใจนี้ เราเชื่อว่าคุณจะหายดี
และจะมีชีวิตครอบครัวที่ผาสุกค่ะ

แสดงความคิดเห็น
มีแผลใจในอดีตเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศค่ะ รู้สึกรังเกียจตัวเองมาก ขอวิธีคิดบวกหรือกำลังใจหน่อยได้ไหมคะ :’)
https://ppantip.com/topic/31794648
ปัจจุบันเราเลิกกับเขามา 6 ปีแล้วค่ะ แต่ด้วยความเครียด+เห็นข่าวข่มขืน, เรื่องเตือนภัยในอินเตอร์เน็ต อะไรหลายอย่าง มันทำให้เรารังเกียจตัวเอง
ขยะแขยง รู้สึกโง่ ไม่มีความรู้สึกทางเพศ ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กับแฟนคนปัจจุบันได้ รังเกียจการถูกสัมผัส (กอด, หอม,จูบ)
มันแย่ไปหมด ว่าทำไมเราปล่อยให้เค้าทำร้ายเรามาได้นานขนาดนี้เลยเหรอ
เรารู้เราเห็นทุกอย่าง ทุกการจินตนาการของเขาที่จินตนาการกับตัวเราเอง รุ่นน้อง เพื่อนในห้อง ไปจนถึงอาจารย์
เรารู้สึกโกรธ โมโหเลยไปบอกเลิกกับเขา แต่สิ่งที่เค้าทำก็คือเอาเราไปจั่วหัวด่ากับเพื่อนในเฟส แบบกึ่งด่ากึ่งตัดพ้ออะค่ะ
ว่าเค้าคงไม่ดีพอสำหรับเราบ้าง เรายุ่งมากเกินไปบ้าง ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวบ้าง จนตัวเราที่อ่านอยู่รู้สึกแย่มาก คิดว่าเราคงผิดเองรึเปล่า
ถ้าเราไม่เข้าไปสาระแนโลกของเขาเราก็คงไม่รู้หรอก (สมัยนั้นไม่รู้จักหรอกค่ะ sexual harassment ฮือออ)
เราเห็นเพื่อนเค้ามาแสดงความเห็นสนับสนุนเค้าจนเราคิดไปแล้วว่าราผิดเอง จนสุดท้ายเราก็กลับไปคบเขาค่ะ 🥲
กลับไปคบ ก็ไม่วายทำตัวเหมือนเดิม ทำเป็นเรื่องปกติ ซึ่งตรงนี้แหละค่ะที่เราว่ามันแย่แล้ว เพราะเราคิดว่ามันเป็น "เรื่องปกติ"
เรารู้ว่าการที่เค้าทำแบบนี้กับเรามันแย่ แต่เราก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะรู้สึกฝังใจที่เคยโดนด่า สับสนสิ่งที่เราเป็นอยู่
คบจนรู้สึกตัวแล้วว่าไม่ได้รักเขา ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แต่ก็ยังไม่เลิก ไม่รู้ว่าทำไม (เกลียดตัวเองตอนนี้มากค่ะ เกลียดที่รู้ว่าเขาเลวยังไง แต่ก็ยังโง่คบกับเขาอยู่)เราชินที่เค้าทำตัวคุกคามเรา เรามีต่อต้าน ปฎิเสธอยู่ตลอด แต่การที่เราไม่ได้ปฎิเสธหรือตัดขาดแบบเด็ดขาดนี่แหละค่ะ มันทำให้เขาทำตัวกับเราแบบนี้ไม่จบไม่สิ้นซักที ซึ่งขอยกตัวอย่างในสปอยนะคะ เนื้อหามันคาวมาก เราอยากจะลืม ๆ ไปว่ามันเคยมีคนคิดแบบนี้กับเรา แต่มันลืมไม่ลง + อยากระบายด้วยค่ะ 🥺
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากเลิกเขาก็ยังพูดจาคุกคามร่างกายเราในแชทอยู่ค่ะ ซึ่งมันทำให้เราตัดสินใจบล็อกตัดขาดทุกช่องทาง
แต่มันก็ไม่สามารถลบความคิดลบกับตัวเองไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เรารังเกียจตัวเองมากจนลามไป toxic คนรัก
เราปฎิเสธเค้าทุกอย่าง แค่กอดเราก็ไม่ให้กอด แอคชั่นเราแรงจนเค้ารู้สึกไม่ดี แต่เค้าดีมาก รู้ว่าเราไม่ชอบก็เข้าใจ อันนี้เราขอบคุณมากจริง ๆ
เราไม่ชอบตัวเองเลยค่ะ รู้ว่ามันเป็นเรื่องในอดีต ผ่านมานานแล้ว และตอนนี้เราก็ผ่านมันมาได้ ยิ่งคิดได้เรายิ่งเกลียดตัวเอง
ตอนนั้นเราเฉยทุกอย่าง เขาshเรา เราก็ยังเฉย เขาshคนอื่นให้เราฟัง เล่าถึงผู้หญิงที่นั่งติดกันบนรถตู้ก็เคย แต่เราก็ยังเฉย ไม่ได้ห้ามแต่ก็ไม่ได้ชอบ
ขออภัยถ้าเรียบเรียงไม่รู้เรื่องนะคะ พอดีว่าไม่ค่อยถนัดและไม่รู้จะเรียบเรียงอย่างไร
อยากสอบถามค่ะ ว่าเราจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองยังไงดีคะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ 🙇♀️