เด็กชายคนหนึ่ง ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ปี 1993 ในครอบครัวฐานะปานกลาง เมือง daegu ประเทศเกาหลีใต้ เขาเรียนจบการศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนแทจุน และเข้าเรียนชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนอัพกูจอง ชื่อของเขาคือ มินยุนกิ (Min Yoon-gi) เขาเริ่มรักในเสียงเพลงหลังจากได้ฟังเพลง Reggae Muffin ของ Stony Skunk และอยากเป็นแร็ปเปอร์หลังจากได้ฟังเพลงของ Epik High เขาเริ่มเขียนเนื้อเพลงตั้งแต่ตอนอายุ 13 จากนั้นเขาเริ่มเรียนการใช้เครื่อง MIDI และตอนอายุ 17 ปี เขาได้งานพาร์ทไทม์ในสตูดิโออัดเพลงแถวบ้าน
การได้ทำงานที่นั่นทำให้เขาได้ฝึกฝนการแต่งเพลงและเรียบเรียงทำนอง เขายังได้พัฒนาทักษะการแร็ปของตัวเองขึ้นมาด้วย และจากนั้นได้เริ่มแร็ปใต้ดิน ในนาม
‘Gloss’ นอกจากนี้เขายังเคยเขียนเพลงเนื่องในโอกาสรำลึกเหตุการณ์จราจลในกวางจู
“518-062” ตอนที่เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มฮิปฮอป
D-Town เมื่อปี 2010
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ของเขาไม่สนับสนุนเรื่องที่เขาอยากเป็นนักดนตรี เมื่อพวกเขาเห็นยุนกิเขียนเนื้อเพลงในสมุด พวกเขาก็จะทิ้งสมุดนั้นและดุด่าเขา เช่นเดียวกับพ่อแม่ส่วนใหญ่ พวกเขาบอกให้ยุนกิตั้งใจเรียน ยุนกิขจัดความเครียดเรื่องนี้ด้วยการเริ่มเล่นบาสเกตบอล จนได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียน
ถึงแม้จะหันไปเล่นกีฬา แต่เขาก็ยังไม่ทิ้งเรื่องดนตรี เขาเริ่มขายงานของตัวเอง แต่ก็ถูกหลอกลวงหลายครั้ง เขาเคยไม่มีเงินจนถึงขั้นไม่มีเงินซื้อตั๋วรถบัส เขาต้องเดินกลับบ้านหรือไม่ก็ต้องอดอาหารเพื่อเสียค่ารถ
จนกระทั่งวันที่โชคชะตาเข้าข้างเขา เขาได้ออดิชั่นเข้าเป็นเด็กฝึกหัดค่าย
Big Hit Entertainment ด้วยทักษะด้านการแร็ปและความสามารถที่โดดเด่น เขาได้รับอันดับ 2 ในการออดิชั่น
บังชีฮยอก ได้เข้ามาหาเขาและบอกเขาว่าจะให้วงของเขาได้ทำเพลงและออกแบบท่าเต้น ถ้าเขายอมเข้าบริษัท มินยุนกิยอมเข้าบริษัทจากข้อเสนอดังกล่าว และได้เจอกับ
นัมจุน (Namjoon) หรือ
อาร์เอ็ม (RM) ที่เรารู้จัก ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและรูมเมท ระหว่างที่ทั้งคู่ฝึกไปเรื่อยๆ สมาชิกคนอื่นก็ถูกเพิ่มเข้ามาในวง
มินยุนกิ มีชื่อสเตจเนมว่า
ชูก้า (Suga)
ถึงแม้จะได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดแล้ว แต่ชีวิตของเขาก็ยังไม่สบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเงิน ถึงแม้จะได้รับเข้าบริษัท แต่พ่อแม่ยังคงไม่เห็นด้วยกับเส้นทางของเขา พวกเขาไม่เคยสนับสนุนด้านดนตรีของเขาเลย
ชูก้าทำงานพาร์ทไทม์ขณะที่อยู่ในโซล เขาถูกชนแล้วหนีขณะทำงานส่งของ ตอนนั้นเขาไม่ได้บอกครอบครัว และยังคงไปฝึกซ้อมอยู่ถึงแม้กระดูกจะหัก ส่งผลจนถึงปัจจุบันที่ชูก้าไม่สามารถขยับแขนได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้เขายังต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิต ถึงแม้จะกังวลและซึมเศร้าแต่เขาก็เลือกจะเดินต่อไป เขาสู้เพื่อความฝันในทุกวัน จนบังชีฮยอกทราบเรื่องและได้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับชูก้า และในที่สุด เขาก็ได้เดบิวต์ในปี 2013 กับ
BTS วงไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้น พวกเขาเริ่มต้นจากกลุ่มแฟนคลับไม่กี่คน และอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ห้องเดียว 2 ปีหลังจากเดบิวต์ พวกเขาชนะรางวัลในรายการ The Show ด้วยเพลง
I NEED U หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้รับรางวัลมากขึ้นและเริ่มเข้าร่วมเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติ และนั่นคือจุดเปลี่ยนของตัวเขาและ
BTS
ทุกวันนี้
มินยุนกิไม่ต้องเดินกลับบ้านและอดมื้อกินมื้อแล้ว เพราะเขาคือแร็ปเปอร์แห่งวง
BTS เขาเป็นคนเขียนเพลงให้กับวงและเป็นโปรดิวเซอร์ในรายชื่อสมาคมลิขสิทธิ์เพลงเกาหลี
มินยุนกิเพิ่งจะมีอัลบั้ม Mixtape
D-2 ในนาม
Agust D อัลบั้มใหม่ เนื้อเพลงของชูก้านั้นสามารถเข้าถึงอารมณ์ของคนฟังและถ่ายทอดความยากลำบากที่ทุกคนต้องเผชิญ ครั้งต่อไปหากคุณคิดจะยอมแพ้ ให้คิดถึงเรื่องราวของชูก้าเอาไว้ เขาเคยมีแค่ 2 ทางเลือกคือ เดินกลับบ้าน หรือไม่ก็อดอาหารเพื่อเป็นค่ารถ แต่ตอนนี้เขามีทางเลือกนับไม่ถ้วน หวังว่าเรื่องราวของชูก้าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้
#HappyBirthDaySUGA
[BTS] เรื่องราวของเด็กชายที่ต้องอดอาหารเพื่อประหยัดเงิน สู่สมาชิกวงไอดอลระดับโลก #HappyBirthDaySUGA
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ของเขาไม่สนับสนุนเรื่องที่เขาอยากเป็นนักดนตรี เมื่อพวกเขาเห็นยุนกิเขียนเนื้อเพลงในสมุด พวกเขาก็จะทิ้งสมุดนั้นและดุด่าเขา เช่นเดียวกับพ่อแม่ส่วนใหญ่ พวกเขาบอกให้ยุนกิตั้งใจเรียน ยุนกิขจัดความเครียดเรื่องนี้ด้วยการเริ่มเล่นบาสเกตบอล จนได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียน
ถึงแม้จะหันไปเล่นกีฬา แต่เขาก็ยังไม่ทิ้งเรื่องดนตรี เขาเริ่มขายงานของตัวเอง แต่ก็ถูกหลอกลวงหลายครั้ง เขาเคยไม่มีเงินจนถึงขั้นไม่มีเงินซื้อตั๋วรถบัส เขาต้องเดินกลับบ้านหรือไม่ก็ต้องอดอาหารเพื่อเสียค่ารถ
จนกระทั่งวันที่โชคชะตาเข้าข้างเขา เขาได้ออดิชั่นเข้าเป็นเด็กฝึกหัดค่าย Big Hit Entertainment ด้วยทักษะด้านการแร็ปและความสามารถที่โดดเด่น เขาได้รับอันดับ 2 ในการออดิชั่น บังชีฮยอก ได้เข้ามาหาเขาและบอกเขาว่าจะให้วงของเขาได้ทำเพลงและออกแบบท่าเต้น ถ้าเขายอมเข้าบริษัท มินยุนกิยอมเข้าบริษัทจากข้อเสนอดังกล่าว และได้เจอกับ นัมจุน (Namjoon) หรือ อาร์เอ็ม (RM) ที่เรารู้จัก ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและรูมเมท ระหว่างที่ทั้งคู่ฝึกไปเรื่อยๆ สมาชิกคนอื่นก็ถูกเพิ่มเข้ามาในวง
มินยุนกิ มีชื่อสเตจเนมว่า ชูก้า (Suga)
ถึงแม้จะได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดแล้ว แต่ชีวิตของเขาก็ยังไม่สบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเงิน ถึงแม้จะได้รับเข้าบริษัท แต่พ่อแม่ยังคงไม่เห็นด้วยกับเส้นทางของเขา พวกเขาไม่เคยสนับสนุนด้านดนตรีของเขาเลย
ชูก้าทำงานพาร์ทไทม์ขณะที่อยู่ในโซล เขาถูกชนแล้วหนีขณะทำงานส่งของ ตอนนั้นเขาไม่ได้บอกครอบครัว และยังคงไปฝึกซ้อมอยู่ถึงแม้กระดูกจะหัก ส่งผลจนถึงปัจจุบันที่ชูก้าไม่สามารถขยับแขนได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้เขายังต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิต ถึงแม้จะกังวลและซึมเศร้าแต่เขาก็เลือกจะเดินต่อไป เขาสู้เพื่อความฝันในทุกวัน จนบังชีฮยอกทราบเรื่องและได้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับชูก้า และในที่สุด เขาก็ได้เดบิวต์ในปี 2013 กับ BTS วงไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้น พวกเขาเริ่มต้นจากกลุ่มแฟนคลับไม่กี่คน และอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ห้องเดียว 2 ปีหลังจากเดบิวต์ พวกเขาชนะรางวัลในรายการ The Show ด้วยเพลง I NEED U หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้รับรางวัลมากขึ้นและเริ่มเข้าร่วมเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติ และนั่นคือจุดเปลี่ยนของตัวเขาและ BTS
ทุกวันนี้ มินยุนกิไม่ต้องเดินกลับบ้านและอดมื้อกินมื้อแล้ว เพราะเขาคือแร็ปเปอร์แห่งวง BTS เขาเป็นคนเขียนเพลงให้กับวงและเป็นโปรดิวเซอร์ในรายชื่อสมาคมลิขสิทธิ์เพลงเกาหลี
มินยุนกิเพิ่งจะมีอัลบั้ม Mixtape D-2 ในนาม Agust D อัลบั้มใหม่ เนื้อเพลงของชูก้านั้นสามารถเข้าถึงอารมณ์ของคนฟังและถ่ายทอดความยากลำบากที่ทุกคนต้องเผชิญ ครั้งต่อไปหากคุณคิดจะยอมแพ้ ให้คิดถึงเรื่องราวของชูก้าเอาไว้ เขาเคยมีแค่ 2 ทางเลือกคือ เดินกลับบ้าน หรือไม่ก็อดอาหารเพื่อเป็นค่ารถ แต่ตอนนี้เขามีทางเลือกนับไม่ถ้วน หวังว่าเรื่องราวของชูก้าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้